BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Aug 2020
ตอบ: 687
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Jul 30, 2023 03:05
คุยกันเรื่อง Oppenheimer (ดูรอบที่สอง)
Oppenheimer : Father of Atomic⚛️ Bomb

หนังเรื่องนี้ทำให้ผมได้ตระหนักรู้ซึ้งถึงบทบาทความสำคัญของอาวุธนิวเคลียร์ เป็นตัวแปรสำคัญที่หยุดยั้งความบานปลายของสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นตัวแปรที่ทำให้ เกิดระเบียบโลกใหม่ ( World Order) เกิดการคานอำนาจของชาติมหาอำนาจบนโลก

ถ้าการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ทรินิตี้ที่ลอส อลามอส ของ Oppenheimer ไม่ประสบความสำเร็จ สงครามโลกครั้งที่สองคงจะบานปลาย ไม่มีทางที่จะจบง่ายๆ แถมอาจจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ในอีกไม่กี่ปีต่อมาแน่นอน

เพราะหลังจากปี 1945 ที่ Little Boy กับ Fat Man ได้ถูกทิ้งลงฮิโรชิม่า และนางาซากิ มนุษย์พอได้รับรู้ถึงอานุภาพของระเบิดนิวเคลียร์ ทำให้เป็นเวลาถึง 78 ปีแล้วที่ไม่มีประเทศไหนกล้าใช้ระเบิดนิวเคลียร์ในการทำศึกสงครามกันอีก สงครามโลกครั้งที่สามจึงไม่อุบัติขึ้น

และจากที่เคยเข้าใจผิดมาตั้งแต่เด็ก ว่าไอน์สไตน์เป็นคนคิดค้นระเบิดนิวเคลียร์ จริงๆแล้วมันไม่ใช่ !!!! ความจริงคือมีนักวิทยาศาสตร์ท่านอื่นไปต่อยอดจากทฤษฎีสัมพันธภาพที่แกคิดค้นสมการ E=mc^2

ฉากที่ไอน์สไตน์ปรากฏออกมาในหนัง ที่ฉากเต็มไปด้วยต้นไม้ร่มรื่นสูงใหญ่ สระน้ำเย็นๆ สื่อถึงความรักสันโดษ รักความสงบของแก แต่ในใจลึกๆแล้วตัวแกยังรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกกับทฤษฎีสัมพันธภาพที่ตัวเองได้คิดค้นขึ้นมา

สุดท้ายแล้ว ขอกราบคริสโตเฟอร์ โนแลน แบบเบญจางคประดิษฐ์สามที กล้าทำหนังสามชั่วโมงอัดเรื่องราวเนื้อหาตัวละครต่างๆนาๆ ตัดไปตัดมาชวนง่วงชวนงง ดูรอบแรกงงว่ะใครเป็นใคร ชื่อไรแล้วเนี่ย นักวิทยาศาสตร์ในเรื่องมีเป็น สิบๆคน ก่อนเข้าโรงรู้จักแต่พระเอก , ไอน์สไตน์ , นีลส์ โบห์ ดูรอบสองถึงจะเข้าใจกว่าเดิม

แนะนำให้ดูคลิปชีวประวัติของ Oppenheimer ช่อง The Watcher ในยูทูป ก่อนเข้าโรงดูหนังจะเก็ทสิ่งที่หนังจะสื่อ ดูไหลลื่นสนุกมากขึ้นครับ

ปล.ใส่ลิงค์หัวท้ายแล้วไม่ขึ้นเป็นป๊อปอัพยูทูปน่ะครับ ใครทำเป็นรบกวนสอนผมด้วยครับ จะได้แนบคลิปยูทูปมีหน้าปกคลิปสวยๆ
https://youtu.be/G5-7A7ZpA4g


Spoil
 


“พวกเขาจะไม่กลัวมัน ถ้าพวกเขาไม่เข้าใจมัน และพวกเขาจะไม่เข้าใจมันจนกว่าจะใช้มัน”
They won’t fear it until they understand it. And they won’t understand it until they’ve used it.
-Oppenheimer
แก้ไขล่าสุดโดย nannapat เมื่อ Sun Jul 30, 2023 03:12, ทั้งหมด 1 ครั้ง
8
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออนไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 833
ที่อยู่: Thailand
โพสเมื่อ: Sun Jul 30, 2023 06:24
Top Comment [RE]คุยกันเรื่อง Oppenheimer (ดูรอบที่สอง)
ขอเสริมนิดนึงครับ

1. ทฤษฎีสัมพัทธ์ภาพพิเศษ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับระเบิดนิวเคลียร์ แต่เป็นเรื่องของ "แสง" กับ "เวลา"
e=mc^2 แค่บอกว่า มวลเปลี่ยนเป็นพลังงานได้

หลักการของระเบิดใน manhattan project คือเปลี่ยนมวลให้เป็นพลังงานโดยใช้ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชั่น

2. สมการของไอน์สไตน์ ตีพิมพ์ในปี 1905 Manhattan Project เกิดขึ้นในปี1942 ผ่านไปเกือบๆ40ปั

3. มีข้อมูลว่าจริงๆ ญี่ปุ่นกำลังจะยอมแพ้แล้ว ดังนั้นการทิ้งระเบิดสองลูกไม่ได้เกี่ยวกับการหยุดสงคราม แต่แค่เป็นต้องการแสดงแสนยานุภาพของอเมริกา (Manhattan project ลงทุน3ปี 2000ล้านเหรียญ)

4. การทิ้งบอมบ์หยุดสงครามโลกครั้งที่2 แต่ก่อให้เกิดสงครามเย็นในเวลาต่อมา และกินเวลาหลายสิบปีกว่าจะยุติ

สรุปข้อความในหนังคือระเบิดไม่ได้ช่วยอะไร แต่สร้างปัญหาทิ้งไว้มากมายต่างหาก
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status: ก็แค่คนชอบดูหนัง
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2007
ตอบ: 4546
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Jul 30, 2023 04:00
[RE: คุยกันเรื่อง Oppenheimer (ดูรอบที่สอง)]
สวัสดีครับแอดมิน

ต้องใช้ Link เต็มแบบนี้ครับ

https://www.youtube.com/embed/G5-7A7ZpA4g

1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 833
ที่อยู่: Thailand
โพสเมื่อ: Sun Jul 30, 2023 06:24
[RE]คุยกันเรื่อง Oppenheimer (ดูรอบที่สอง)
ขอเสริมนิดนึงครับ

1. ทฤษฎีสัมพัทธ์ภาพพิเศษ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับระเบิดนิวเคลียร์ แต่เป็นเรื่องของ "แสง" กับ "เวลา"
e=mc^2 แค่บอกว่า มวลเปลี่ยนเป็นพลังงานได้

หลักการของระเบิดใน manhattan project คือเปลี่ยนมวลให้เป็นพลังงานโดยใช้ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชั่น

2. สมการของไอน์สไตน์ ตีพิมพ์ในปี 1905 Manhattan Project เกิดขึ้นในปี1942 ผ่านไปเกือบๆ40ปั

3. มีข้อมูลว่าจริงๆ ญี่ปุ่นกำลังจะยอมแพ้แล้ว ดังนั้นการทิ้งระเบิดสองลูกไม่ได้เกี่ยวกับการหยุดสงคราม แต่แค่เป็นต้องการแสดงแสนยานุภาพของอเมริกา (Manhattan project ลงทุน3ปี 2000ล้านเหรียญ)

4. การทิ้งบอมบ์หยุดสงครามโลกครั้งที่2 แต่ก่อให้เกิดสงครามเย็นในเวลาต่อมา และกินเวลาหลายสิบปีกว่าจะยุติ

สรุปข้อความในหนังคือระเบิดไม่ได้ช่วยอะไร แต่สร้างปัญหาทิ้งไว้มากมายต่างหาก
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Apr 2010
ตอบ: 5470
ที่อยู่: Stamford bridge
โพสเมื่อ: Sun Jul 30, 2023 07:31
[RE: คุยกันเรื่อง Oppenheimer (ดูรอบที่สอง)]
ลูกแรกอาจจะใช่ตามที่ท่านว่าละมั้ง แต่ลูกที่สองนี้ไม่ใช่แน่นอน สิ่งที่ผมเข้าใจมาตลอดคือญี่ปุ่นยังรั้นหลังจากโดนลูกแรกแต่จริงๆแล้วมันคือความโหดร้ายของทรูแมนต่างหาก
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Aug 2022
ตอบ: 3232
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Jul 30, 2023 09:04
[RE: คุยกันเรื่อง Oppenheimer (ดูรอบที่สอง)]
ผมเพิ่งดูไปเมื่อวานเลยขอสรุปด้วยความรู้สึกส่วนตัวว่า
1.เป็นหนังดี 100% คนที่ดูหนังเพื่อความรู้ ต่อยอดจินตนาการ เปิดไอเดียใหม่ๆ คือถูกใจสุดๆ
2.เป็นหนังที่ให้ความบันเทิงมั้ย?? ส่วนตัวรู้สึกเบื่อมากกว่าความบันเทิงที่หนังมีให้ การฟังคนพูดกันๆๆๆ สามชั่วโมงมันทรมานพอดู
3.ชอบอีตาโนแลนมากขึ้นไปอีกทั้งที่ตัวเองไม่เอนจอยกับเรื่องนี้เท่าไร เพราะแกใจมันได้ มีอะไรใหม่ๆที่น่าติดตามตลอดในหนังของแก
4.แนะนำให้ไปดูมั้ย?? คนที่ชอบเสพงานหนังห้ามพลาด ส่วนคนที่ดูหนังเพื่อความบันเทิงลองหาเรื่องอื่นดูน่าจะดีกลับเวลาที่ต้องแลกไปจังพโอเคกว่า

ประโยคที่ชอบที่สุดในเรื่องคือ ประโยคสุดท้ายในตอนจบ มันได้สรุปทุกๆอย่างไปหมดแล้ว
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Aug 2020
ตอบ: 687
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Jul 30, 2023 09:23
[RE]คุยกันเรื่อง Oppenheimer (ดูรอบที่สอง)
iamnumberfourteen พิมพ์ว่า:
ผมเพิ่งดูไปเมื่อวานเลยขอสรุปด้วยความรู้สึกส่วนตัวว่า
1.เป็นหนังดี 100% คนที่ดูหนังเพื่อความรู้ ต่อยอดจินตนาการ เปิดไอเดียใหม่ๆ คือถูกใจสุดๆ
2.เป็นหนังที่ให้ความบันเทิงมั้ย?? ส่วนตัวรู้สึกเบื่อมากกว่าความบันเทิงที่หนังมีให้ การฟังคนพูดกันๆๆๆ สามชั่วโมงมันทรมานพอดู
3.ชอบอีตาโนแลนมากขึ้นไปอีกทั้งที่ตัวเองไม่เอนจอยกับเรื่องนี้เท่าไร เพราะแกใจมันได้ มีอะไรใหม่ๆที่น่าติดตามตลอดในหนังของแก
4.แนะนำให้ไปดูมั้ย?? คนที่ชอบเสพงานหนังห้ามพลาด ส่วนคนที่ดูหนังเพื่อความบันเทิงลองหาเรื่องอื่นดูน่าจะดีกลับเวลาที่ต้องแลกไปจังพโอเคกว่า

ประโยคที่ชอบที่สุดในเรื่องคือ ประโยคสุดท้ายในตอนจบ มันได้สรุปทุกๆอย่างไปหมดแล้ว  
แกกล้าทำหนังสามชั่วโมงอัดเรื่องราวเนื้อหาตัวละครต่างๆนาๆอย่างเต็มพิกัด ตัดไปตัดมาชวนง่วงชวนงง ดูรอบแรกงงว่ะใครเป็นใคร ชื่อไรแล้วเนี่ย นักวิทยาศาสตร์ในเรื่องมีเป็น สิบๆคน ก่อนเข้าโรงรู้จักแต่พระเอก , ไอน์สไตน์ , นีลส์ โบห์ ดูรอบสองถึงจะเข้าใจกว่าเดิม

ตัวละครเดิม แต่เล่าม้วนไปม้วนมา ตัดสลับไปสลับมา เดี๋ยวย้อนอดีต เดี๋ยวกลับมาปัจจุบัน เดี๋ยวตัดไปคุยอะไรกันก็ไม่รู้ คือแทบไม่มีเวลาอธิบายอะไรทั้งนั้น ว่าซีนนี้ มีใครชื่ออะไรบ้าง ตำแหน่งหน้าที่การงานความสัมพันธ์คืออะไรยังไง แล้วพวกเค้ามาทำอะไรกัน ดูไม่ทันใช่มั้ย ไล่ให้หนังจบไปย้อนถามทวนกันเอาเอง หนังไม่ย้อนทบทวนซ้ำ ผ่านแล้วผ่านเลย

เหมือนตาโนแลนแกคิดว่า ทุกคนรู้ประวัติศาสตร์โลก รู้ที่มาตัวละครอยู่แล้ว ไม่อยากเล่าซ้ำอะไรประมาณนั้น คือแกไม่เอาคนดูหนังขาจรเลย เขี่ยทิ้งออกจากหนังหมด คนตายกลางทางกันเพียบตอนเข้าไปดูรอบแรก
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 671
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Jul 30, 2023 11:22
[RE: คุยกันเรื่อง Oppenheimer (ดูรอบที่สอง)]
ผมเคยอ่านพวกหนังสือแนววิทย์มาอยู่ ได้ยินชื่อของoppenheimerเหมือนกันแต่เอาตรงๆไม่ได้สนใจเท่าไหร่นัก
ก่อนที่จะไปดูก็ลองอ่านประวัติพี่แกจากwikipediaมา ก็พอจะเข้าใจว่าทำไมnolanถึงอยากทำหนังเกี่ยวกับเขา

ผมชอบcharacterของoppenheimerมากเลยนะ คือสุดโต่งแล้วมีความกระหายในความรู้มากๆ สิ่งที่แม่งโคตรทัชใจผมเลยก็คือเรียนภาษาdutch 6สัปดาห์เพื่อไปlectureนักเรียนในเรื่องquantum physics มีคนมาถามว่าทำต้องรีบร้อนขนาดนั้น พี่แกบอกแค่อยากจะท้าทายตัวเอง5555 อีกทั้งยังกล้าไปงัดข้อกับทรูแมนเรื่องH programจะมีใครแม่งบ้าขนาดนี้อีกไหม

เห็นหลายคนบอกว่าชอบประโยคสุดท้าย แต่ผมกลับชอบตอนแรกของเรื่องมากเลยที่เขาบอกว่าoppenheimerคือ American Prometheus เป็นฉายาที่อธิบายเรื่องราวชีวิตของ"ออปปี้"ได้หมดจดที่สุดแล้ว คำว่า"father of atomic bomb"มันดูมีความเป็นฮีโร่นะแต่ความจริงแล้วแม่ง"ไม่ใช่"เลย
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Apr 2021
ตอบ: 274
ที่อยู่: เชียงใหม่
โพสเมื่อ: Sun Jul 30, 2023 11:46
[RE: คุยกันเรื่อง Oppenheimer (ดูรอบที่สอง)]
iamnumberfourteen พิมพ์ว่า:
ผมเพิ่งดูไปเมื่อวานเลยขอสรุปด้วยความรู้สึกส่วนตัวว่า
1.เป็นหนังดี 100% คนที่ดูหนังเพื่อความรู้ ต่อยอดจินตนาการ เปิดไอเดียใหม่ๆ คือถูกใจสุดๆ
2.เป็นหนังที่ให้ความบันเทิงมั้ย?? ส่วนตัวรู้สึกเบื่อมากกว่าความบันเทิงที่หนังมีให้ การฟังคนพูดกันๆๆๆ สามชั่วโมงมันทรมานพอดู
3.ชอบอีตาโนแลนมากขึ้นไปอีกทั้งที่ตัวเองไม่เอนจอยกับเรื่องนี้เท่าไร เพราะแกใจมันได้ มีอะไรใหม่ๆที่น่าติดตามตลอดในหนังของแก
4.แนะนำให้ไปดูมั้ย?? คนที่ชอบเสพงานหนังห้ามพลาด ส่วนคนที่ดูหนังเพื่อความบันเทิงลองหาเรื่องอื่นดูน่าจะดีกลับเวลาที่ต้องแลกไปจังพโอเคกว่า

ประโยคที่ชอบที่สุดในเรื่องคือ ประโยคสุดท้ายในตอนจบ มันได้สรุปทุกๆอย่างไปหมดแล้ว  



ขอประโยคสุดท้ายอีกทีได้ไหมครับผมจำไม่ได้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Apr 2020
ตอบ: 2671
ที่อยู่: อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับตัง
โพสเมื่อ: Sun Jul 30, 2023 11:47
[RE: คุยกันเรื่อง Oppenheimer (ดูรอบที่สอง)]
ฟังๆมาว่าพูดทั้งเรื่อง กลัวจะเบื่อเหมือนกัน

พอดูจริงสนุกมากเกินคาดครับ คิดว่าจะสนุกยิ่งขึ้นถ้าคนรู้ประวัติศาสตร์

ผมเลยไม่ค่อยอินกับส่วนของตัวร้ายเท่าไร เพราะไม่รู้ใครเป็นใคร มีภูมิหลังอะไร

ส่วนที่ไม่ชอบก็มีคือภาพแฟนเก่าในห้องสอบสวน

ไม่น่าใส่มาเลย ใช้บทพูดการแสดงออกก็เพียงพอแล้วสำหรับผม

ใส่มาบิ๊วเหมือนหนังไทยแต่ก่อนที่กลัวบทมันง่อย เลยใส่ฉากแรงๆลงไปอะครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Nov 2014
ตอบ: 10068
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Jul 30, 2023 11:52
คุยกันเรื่อง Oppenheimer (ดูรอบที่สอง)
ระเบิดปรมาณูไม่ได้ช่วยให้เมกาชนะสงครามครับ แต่เป็นต้นเหตุของสงครามเย็นต่อมาต่างหาก
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status: sutatS
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 19 May 2011
ตอบ: 14268
ที่อยู่: บนโลกจ้า
โพสเมื่อ: Sun Jul 30, 2023 13:02
คุยกันเรื่อง Oppenheimer (ดูรอบที่สอง)
ตราบใดที่ญี่ปุ่นยังไม่ยอมแพ้ จะมีชาวอเมริกันต้องเสียชีวิตเพิ่มขึ้นทุกนาที

มันไม่เกี่ยวว่าผลพวงจะเป็นยังไง แต่การที่อเมริกาสามารถจบสงครามได้ สามารถดึงชีวิตชาวอเมริกันกลับมาหาครอบครัวได้มากที่สุด นั่นคือความสำเร็จของอเมริกา

คนจะชอบมองว่าสงครามมันใกล้จบแล้ว แต่ทหารอเมริกันก็ยังต้องเสียชีวิตไปเรื่อยๆ จนกว่ามันจะจบจริงๆ อเมริกาก็เลยถอดปลั๊กทิ้ง จบเลย

ทรูแมนเหมือนกระหายแสนยานุภาพ แต่ปฎิเสธไม่ได้ว่ามือเปื้อนเลือดคู่นั้นได้ดึงและโอบกอดครอบครัวของชาวอเมริกันมากมายเช่นกัน

เหมือนที่ทรูแทนพูด สิ่งแรกที่คนจะจดจำไม่ใช่ออพเพน แต่คือทรูแมนคนสั่งบอมบ์
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
แก้ไขล่าสุดโดย NothinGolF เมื่อ Sun Jul 30, 2023 13:03, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel