“รัฐบาลสหรัฐมีโครงการเก็บกู้ซาก UFO/UAP (และซากของสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์)ที่ถูกปิดเอาไว้เป็นความลับอย่างผิดกฎหมายจากสภาคองเกรส (และจากสาธารณะชน)”
โพสต์สรุปเนื้อหา Public Hearing ที่สภาคองเกรสจัดขึ้นเพื่อไต่สวนเรื่อง UFO เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา ฉบับสมบูรณ์
หลังจากที่ผมนั่งดู Live สดความยาว 2 ชั่วโมงครึ่งตั้งแต่ต้นจนจบ ระหว่างที่ดูก็มีการจด Note เอาไว้มากมาย และผมก็ทำการ research ข้อมุลทั้งก่อนหน้า และหลังการไต่สวนด้วย
ผมขอโพสต์สรุปแบบยาวๆเลยละกัน เพราะผมตั้งใจให้โพสต์นี้เป็น โพสต์สรุปเนื้อหาฉบับภาษาไทยของข่าวนี้ ที่มีความละเอียดถี่ถ้วน มีข้อมูลและ Context ที่มีความถูกต้องที่สุด และ มีความ Comprehensive ที่สุด และโพสต์นี้ไม่มีความเห็นของผมเอง มีแต่สิ่งที่พยานทั้ง 3 คนในการไต่สวนกล่าวเอาไว้กลางรัฐสภาเท่านั้น)
ผ่านกันไปแล้วสำหรับ Public Hearing เรื่อง UFO หรือ UAP ครั้งประวัติศาสตร์ที่สภาคองเกรสจัดไปเมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่ผ่านมา ที่อาคารรัฐสภา กลางวอชิงตัวดีซี
และที่ Public Hearing ครั้งนี้ที่ถือว่าเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ก็เพราะ Pubic Hearing เพื่อการไต่สวนเรื่อง UFO ครั้งนี้ ได้มีการเชิญบุคคลที่เป็น Whistleblower (ผู้แฉข้อมูลจากวงใน ) และนักบินระดับท๊อปของกองทัพเรือสหรัฐ 2 คน ที่เป็นผู้ที่เคยเผชิญหน้ากับปรากฏการณ์ UFO ด้วยตัวเองอย่างใกล้ชิด เข้ามาร่วมสาบาน และเป็นพยานในการไต่สวนครั้งนี้ด้วย เหตุกาณณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
*UFO และ UAP คือสิ่งเดียวกัน ดังนั้นโพสต์นี้ผมจะใช้แต่คำว่า UFO ทั้งโพสต์เลยนะ
Public hearing ครั้งนี้ได้สร้างแรง momentum เป็นวงกว้าง และได้รับความสนใจจากคนทั่วไปเป็นจำนวนมากด้วย ก่อนที่ Hearing ที่รัฐสภาจะเริ่มขึ้น ก็มีคนนอกมาต่อคิวยาวเหยียด รอเข้าร่วมสังเกตการณ์ จนที่นั่งไม่พอ (มีคนบินข้ามประเทศมาเลยก็มี)จนนักการเมืองสหรัฐหลายคนตะลึงเลย เพราะปกติแล้วประชาชนทั่วไปได้เคยสนใจ Public Hearing กันขนาดนี้
Whistleblower และพยานทั้ง 3 ที่มาร่วมสาบานและให้การคือ
1. ผบ. David Fravor อดีตนักบิน Top Gun อันดับต้นๆของกองทัพเรือสหรัฐ และเป็นผู้บัญชาการของฝูงบิน VFA-41 (Black Aces Squadron) ของกองทัพเรือสหรัฐ ที่เป็นคนขับเครื่องบิน F-18 ไล่ตาม UFO รูปทรง Tic-Tac ในเหตุการณ์การของเรือ USS Nimitz ในปี 2004 (ตอนนี้คลิป UFO เต็มๆความยาว 23 นาที ของเหตุการณ์นี้ ยังถูก Classified อยู่)
2. Ryan Graves อดีตนักบิน F-18 ของกองทัพเรือสหรัฐ ที่เคยขับเครื่องบิน F-18 ไล่ตาม UFO ในระยะใกล้ ในเหตุการณ์ UFO ของเรือ USS Enterprise ของกองทัพเรือสหรัฐในปี 2015 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็น ผอ. ของ American For Safe Aerospace
3. David Grusch (คนนี้คือ Highlight เด็ดที่ทุกคนรอคอย) จนท.หน่วยข่าวกรองระดับสูงมาก + ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดในรัฐบาลสหรัฐ ที่เคยทำงานในหน่วย UAP Task Force ของเพนตากอน และเป็นหนึ่งใน Whistleblower 30 กว่าคน ที่ออกมาแฉกับสภาคองเกรสว่า รัฐบาลมีโครงการเก็บกู้ซาก UFO ที่ปิดเอาไว้เป็นความลับไม่ให้สภาคองเกรสรู้อย่างผิดกฏหมาย และ มนุษย์เราไมได้เป็นคนสร้าง UFO พวกนี้ขึ้นขึ้นมา
ก่อนไปถึงช่วงเนื้อหาจริงๆ ผมต้องขอเกริ่นก่อนว่า
- Public Hearing ครั้งนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะสภาคองเกรสแง้มว่าจะจัด Public Hearing เรื่อง UFO ขึ้นตามมาอีกหลายครั้งภายในปีนี้ และจะมีการนำพยานคนใหม่ๆออกมาพูด โดยจุดประสงค์ก็เพื่อผลักดันรับบาล ให้เผยแพร่ข้อมูล Classified เรื่อง UFO ต่อสาธารณะชน
- สำหรับคนที่บ่นว่า”ทำไมการไต่สวนครั้งนี้มีแต่คำพูด แล้วหลักฐานละอยู่ไหน?” ความจริงแล้วก็คือ David Grusch เคยนำเอาหลักฐานและข้อมูล Classified เรื่อง UFO ไปให้กับผู้ตรวจการของสภาคองเกรสในการประชุมปิด/ Classified meeting เมื่อตั้งแต่ช่วงกลางปี 2022 แล้ว และหลังจากที่คองเกรสได้ตรวจสอบหลักฐานอย่างละเอียด สภาคองเกรสก็สรุปว่า เรื่องนี้มีความน่าเชื่อถือ สมควรแก่การสืบสวน เป็นเรื่องเร่งด่วน และมีผลต่อความมั่นคงของชาติ ทางสภาคองเกรสจึงอนุมัติให้ Public Hearing นี้เกิดขึ้นได้
(คดี Watergate ก็เริ่มขึ้นด้วย Witness Testimony จาก Whistleblower แบบเพรียวๆเหมือนกัน ไม่มีหลักฐาน)
- ทางคองเกรสอนุญาตให้พยานทั้ง 3 คน พูดถึงได้แค่ข้อมูลที่ไม่ Classified หรือ ไม่ Sensitive เท่านั้น ใครที่ต้องการจะพูดถึงข้อมุลลับที่ Classified ต้องรอให้ Public Hearing จบก่อน แล้วค่อยไปพูดถึงข้อมุลที่ Classified หรือ Sensitive ในห้องปิด หลักฐานทั้งหมดที่ David Grusch เอาไปให้สภาคองเกรสคือข้อมูล Classified เลยไม่สามารถพูดถึงข้อมูลลับแบบตรงๆกลาง Public Hearing ได้
- นี่คือรายการของหลักฐานที่ David Grusch ส่งให้กับผู้ตรวจการของสภาคองเกรส และบุคคลระดับสูงจำนวนมากจากสภาคองเกรส ในการประชุมปิด/ Classified Briefing หลายเดือนก่อนที่ Public Hearing จะเกิดขึ้น
สถานที่ที่เก็บซาก UFO
รายชื่อและรายละเอียดของบริษัท Private Aerospace Company ที่เกี่ยวข้องกับโครงการเก็บกู้ และวิศวกรรมย้อนกลับ UFO
รายชื่อของบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับโครงการ
รายชื่อ และข้อมูลของบุคคลที่ถูกรัฐบาลทำร้าย หรือสังหาร เพื่อปกปิดข้อมูลของโครงการจากสภาคองเกรส และสาธารณะ
เคสสำคัญอื่นๆที่เกี่ยวข้องในอดีต
เอกสารข้อมูล Classsified ต่างๆที่เกี่ยวข้อง
- David Grusch เป็นแค่ 1 ใน Whistleblower 30 กว่าคนที่ออกมาแฉข้อมูลเรื่องโครงการลับ UFOกับสภาคองเกรส ดังนั้น David Grusch จึงเป็น Whisteblower คนแรกที่ออกมาเปิดเผยตัวกับสาธารณะ
- David grusch ไม่ได้เป็นคนที่เห็นซากยาน หรือร่างของสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์ด้วยตาของตัวเอง แต่ David Grusch ได้ข้อมูลและหลักฐานมาจากคนวงในที่เป็นจนท.ระดับสูง หรือนักวิทยาศาสตร์ถึง 40 กว่าคน ที่เป็นบุคคลที่ทำงานในโครงการเก็บกู้ซากและวิศวกรรมย้อนกลับ UFO โดยตรง
- Public Hearing เรื่อง UFO ไมไ่ด้เกิดขึ้นมาแบบไม่ปี่ไม่มีขลุ่ย เราสามารถพูดได้ว่า ที่อีเว้นท์นี้เกิดขึ้นได้ เพราะผลจากการเคลื่อนไหวเรื่อง UAP Disclosure movement ของอดีตเจ้าหน้ารัฐบาลที่เริ่มออกมาเคลื่อนไหวเพื่อผลักดันเรื่องนี้มาตั้งแต่กลางปี 2017 (เรื่องปี 2017 เอาไว้ค่อยสรุปโพสต์หน้า)
- สมาชิกสภาคองเกรสหลายคนบอกกับสื่อว่า เพนตากอน กองทัพอากาศสหรัฐ และคนบางกลุ่มใน Intel community พยายามขัดขวางไม่ให้มี Public hearing ครั้งนี้เกิดขึ้น แต่ทำไม่สำเร้จ และมีการข่มขู่พยานไม่ให้มาพูดใน Public Hearing ด้วย ทำให้เหลือพยานแค่ 3 คน จากเดิมที่จะมีประมาณ 5-6 คน
- ก่อนการพูดเริ่มขึ้นมีการให้พยานทั้ง 3 คน ยกมือขวาขึ้นพร้อมกันเพื่อสาบานว่าสิ่งที่ตนเองพูดทุกอย่างคือความจริง และถ้ามีการจับได้ว่าสิ่งที่พูดคือข้อมูลเท็จ จะถูกดำเนินคดีอย่างร้ายแรงตามกฏหมาย
ต่อไปมาถึงช่วงสรุปเนื้อหาสำคัญของสิ่งที่พยานทั้ง 3 คน พูดเอาไว้ในการไต่สวนครั้งนี้
เริ่มกันที่คำให้การของ David Grusch ก่อน
รัฐบาลมีโครงการลับที่ทำการเก็บกู้ซาก UFO ที่ตก มีการพบร่างของนักบินของยานที่เป็น “สิ่งทรงภูมิปัญญาที่ไม่ใช่มนุษย์มนุษย์” (Non-Human Intelligence/ NHI) และมีการปิดเรื่องนี้เป็นความลับจากสภาคองเกรส"อย่างผิดกฏหมาย"มานานกว่าครึ่งศตวรรษ
ถึงสภาคองเกรสจะไม่รู้เรื่องโครงการลับนี้ แต่กลุ่มคนที่ทำงานในโครงการ UFO เหล่านี้ ก็สามารถหาเงินทุนมาใช้กับโครงการได้ โดยการโกหก IRAD (Internal Research & Development Program ตอนของบ เบื้องหน้าบอกจะเอางบไปใช้ในโครงการวิจัยทั่วไปของกองทัพ แต่ลับหลังแอบเอาเงินไปใช้ในโครงการเก็บกู้และวิศวกรรมย้อนกลับ UFO
ไม่ได้มีแค่ UFO ที่เป็นซากเท่านั้น แต่มียานที่อยู่ในสภาพครบถ้วนสมบูรณ์ด้วย (Intact Crafts) และอาจมี UFO ทั้งแบบที่ตก และแบบจงใจลงจอดยานทิ้งไว้ (either landed or crashed)
ซากของ UFO ถูกส่งไปให้บริษัท Aerospace Company ของเอกชนหลายบริษัท ที่มีสัญญาจ้างกับรัฐบาล เพื่อทำศึกษาและพยายามวิศวกรรมย้อนกลับ และ tactic แบบนี้ ทำให้สภาคองเกรสไม่สามารถตรวจสอบโครงการได้ด้วย
บุคคลที่มี Security Clearance ระดับสูงๆที่สามารถเข้าถึงโครงการเก็บกู้และวิศวกรรมย้อนกลับ UFO ได้ มีคนทั้งที่อยุ่ในรัฐบาล และคนที่อยู่นอกรัฐบาล (คนที่อยู่นอกรัฐบาล หมายถึงคนในบริษัท Private Aerospace Company ใหญ่ๆ ที่มีสัญญาจ้างกับรัฐบาล)
David Grusch เลี่ยงที่จะไม่เรียกสิ่งทรงภูมิปัญญาที่ไม่ใช่มนุษย์ที่มากับ UFO เหล่านี้ว่า “เอเลี่ยน” หรือ “Extraterrestrial” แต่เรียกว่า Non-Human Biologic หรือ Non-Human Intelligence (NHI) แทน เหตุผลก็เพราะว่า ยังไม่มีใครรู้ต้นกำเนิดที่แท้จริงของสิ่งมีชีวิตพวกนี้ ถึงสิ่งมีชีวิตพวกนี้จะเป็นสิ่งที่ทรงภูมิปัญญา ก็ไม่ได้จำเป็นเสมอไปว่ามันต้องมาจากนอกโลก David Grusch พูดว่าหนึ่งในทฤษฎีที่เป็นไปได้เรื่องต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิตพวกนี้คือ มันเป็นสิ่งที่มาจากมิติอื่น หรือจักรวาลคู่ขนาน (Interdimensional/ Multidimensional being) ตามทฤษฎีทางควันตัมฟิสิกส์ ไมได้มาจากนอกโลก หรือระบบสุริยะอื่น
รัฐบาลมีภาพถ่ายดาวเทียมของ UFO ที่ตกด้วย แต่ปิดเอาไว้เป็นความลับ
มีเคสคนที่ได้รับบาดเจ็บจากการเผชิญหน้ากับ UFO หรือสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์
มีเคสคนที่ทำงานในโครงการ UFO ถูกคนจากภายในรัฐบาลทำร้าย เพื่อปกปิดข้อมูลเรื่องนี้ไมได้แพร่งพรายออกไปด้วย และ Rep. Tim Burchett ได้ถาม David Grusch ด้วยว่า “มีเคสคนถูกฆาตกรรมเพื่อปกปิดข้อมูลของ UFO ด้วยมั้ย” David ตอบกลับไปว่า” ตัวเขาไม่สามารถพูดถึงรายละเอียดเรื่องการฆาตกรรมกลาง Public Hearing ได้ เพราะข้อมูลเรื่องนี้มันมีความ sensitive มากๆ แต่ David พร้อมที่จะเผยรายละเอียดแก่สมาชิกสภาคองเกรสที่สงสัยในห้องปิด หลังจากที่ Public Hearing จบลง
David Grusch ได้ดูคลิปวัตถุลึกลับที่กองทัพอากาศสหรัฐยิงตกในสหรัฐ และแคนาดา เมื่อต้นปีที่ผ่านมาแล้ว David บอกว่าไม่มีเหตุผลที่รัฐบาลควรจะปิดคลิปนี้เป็นความลับ
David Grusch และภรรยาของตน เคยเผชิญกับเหตุการณ์ UFO ที่มีความ “น่าหวาดหวั่นมาก” (very disturbing
ต่อมาคำให้การของ Ryan Grave อดีตนักบิน F-18
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีเคสการพบเห็น UFO ทั้งจาก นักบินจากของกองทัพ และนักบินของเครื่องบินพาณิชย์(จากทั่วโลก) หลายพันเคส แต่มีเคสแค่ประมาณ 5% เท่านั้นที่ถูกรายงาน
ที่เคส UFO ของนักบินแค่ 5 % ที่ถูกรายงาน เพราะมีปัจจัยหลักๆอยู่ 2 อย่างคือ
1. ทางกองทัพ และสายการบิน ไม่เคยมีการจัดตั้งระบบ เพื่อความสะดวกต่อการรายงานการพบเห็น UFO เรื่องนี้สมควรได้รับการแก้ไขอย่างมาก
2. นักบินไม่กล้ารายงานการพบเห็น UFO เพราะ กลัวเรื่อง Stigma หรือ Taboo ที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง UFO เช่นกลัวการถูกเยาะเย้ย หรือกลัวถูกหาว่าบ้า หรือพูดเรื่องเพ้อเจ้อ (ในอดีตเคยมีเคสนักบินพาณิชย์ที่ถูกไล่ออกจากงานมาแล้ว เพราะรายการการพบเห็น UFO ต่อผู้บังคับบัญชา) นักบินส่วนใหญ่ที่พบเห็น UFO จึงเลือกที่จะเก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวเอง
UFO ถูกพบเห็นถี่มาก และมีหลายครั้งที่มีการเผชิญหน้ากับ UFO ในระยะประชิดกับเครื่องบิน จนทำให้นักบินจำนวนมากกังวลว่า UFO เหล่านี้อาจส่งผลต่อความปลอดภัยในเรื่องของการบิน
รูปแบบของ UFO ที่ Ryan Graves และนักบินของกองทัพคนอื่นๆ พบเห็นกันถี่มากคือ UFO รูปทรงคล้ายๆ “วัตถุทรงสี่เหลี่ยมที่ถูกห่อหุ้มด้วยวัตถุทรงกลมที่โปร่งแสง” (Cube inside the Sphere)
มีบางเคสที่ UFO บินเข้ามาอยู่ใกล้เครื่องบินรบมาก เช่นมีอยุ่เคสนึงที่ UFO บินอยู่ห่างจากตัว Cockpit ของเครื่องบินไปแค่ 50 ฟุต (15 เมตร) เท่านั้น จนทำให้นักบินสามารถมองเห็นรายละเอียดพื้นผิวของ UFO ได้อย่างชัดเจน
มีการเอ่ยถึงเคสที่คนที่ทำงานในบริษัทโบอิ้ง เผชิญหน้ากับ UFO สีแดงรูปทรงสี่เหลี่ยม ที่มีขนาดใหญ่เท่ากับสนามฟุตบอล โผล่ขึ้นมาจากทะเล แล้วเข้ามาลอยอยู่เหนือฐานทัพอากาศ ก่อนที่จะพุ่งข้ามภูเขาหายไปด้วยความเร็วเหนือเสียง
มีเคส UFO ที่สามารถจอดอยู่นิ่งไม่เคลื่อนไหว (Completely Stationary at Mach 0.0) กลางลมพายุของเฮอริเคนระดับ 4.4 !!! ก่อนที่จะพุ่งออกไปด้วยความเร็วเหนือเสียง
UFO มีเทคโนโลยีที่เหนือล้ำเกินกว่าความเข้าใจของเรามาก มันไม่น่าใช่เทคโนโลยีของจีน หรือรัสเซีย แลไม่น่าใช่ของสหรัฐด้วย
สมาชิกสภาคองเกรสถาม Ryan Grave ว่า “ถ้าเกิด UFO เหล่านี้กลายเป็นศัตรูของเราขึ้นมา คุณคิดว่าตัวคุณ (ในเครื่องบินรบ F-18) จะสามารถป้องกันตัวเองจาก UFO นี่ได้มั้ย” Ryan Graves ตอบกลับไปทันทีว่า “ไม่ได้!” (No!) หลังจากนั้นสมาชิกสภาคองเกรสก็อุทานขึ้นว่า “พวกเรามีปัญหาแล้ว”
UFO อาจไม่ได้สร้างความเสี่ยงต่อแค่นักบินเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อความมั่นคงของชาติด้วย
American For Safe Aerospace คืองค์กรไม่แสวงผลกำไร ที่ Ryan grave กับนักบินคนอื่นๆ ร่วมกันตั้งขึ้นมา เพื่อทำลาย Stigma ของ UFO และเพื่ออำนวยความสะดวก แก่นักบินในการรายงานการพบเห็น UFO
สุดท้ายมาต่อกันที่คำให้การของ David Fravor อดีตนักบิน Top Gun ตัวท๊อปของกองทัพเรือสหรัฐ (คนนี้ใครที่ตามเรื่อง UFO น่าจะรู้จักกันดี มีคลิปสัมภาษณ์ของแกในรายการ 60 minutes กับสารคดีอื่นๆในยูทูปด้วย)
UFO (ที่ถูกเรียกว่า Tic-Tac เพราะมีรูปทรงที่คล้ายกับลูกอม Tic-Tac) ในเหตุการณ์ของ USS Nimitz ในเดือนพฤศจิกายนปี 2004 เหนือน่านน้ำระหว่างสหรัฐและเม็กซิโกนั้น มาจากอวกาศ เพราะ ทั้งระบบเซ็นเรดาห์ SPY-1 Aegis system และระบบเว็นเซอร์อื่นๆใน Carrier Strike Group ต่างจับข้อมูลได้ตรงกันว่า UFO ปรากฏตัวขึ้นครั้งแรกที่ความสุงเหนือน้ำทะเลระดับ 80,000 ฟุต ตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน ซึ่งถือว่าเป็นระดับความสูงที่วงโคจรระดับต่ำของโลก
หลักฐานจากระบบเซ็นเซอร์หลายระบบในบริเวณนั้น ให้ข้อมูลตรงกันว่า Tic-Tac หยุดอยู่นิ่งไม่เคลื่อนไหวอยุ่ที่ระดับความสูง 80,000 ฟุตเหนือน้ำทะเลเป็นเวลานาน ก่อนที่จะดิ่งลงมาอยู่เหนือน้ำทะเลอย่างกระทันหันที่ระดับความสูงแค่แค่ 50 ฟุต (15 เมตร) ภายในเวลาเพียงแค่เสี่ยววินาทีเท่านั้น!!! (ข้อมุลจากคนดูแลระบบเว็นเซอร์บอกว่าแค่ 0.75 วินาที)
Tic-Tac ไม่มีปีก ไม่มีใบพัด หรือระบบ Propulsion system อื่นๆให้เห็น แต่สามารถเคลื่อนที่เร็วเหนือเสียงอย่างกระทันหันโดยไม่เร่งความเร็วก่อน และสามารถหยุดนิ่งกลางอากาศได้อย่างกระทันหัน โดยที่ไม่ชะลอความเร็วลงก่อน
หลายวันผ่านไป วันที่ 14 พ.ย. ก็มีการจับสัญญาณของ UFO อีกเป็นจำนวนมาก David Fravor กับนักบินคนอื่นๆ จึงถูกมอบหมายให้ขับเครื่องบิน F-18 ออกไปลาดตระเวนแถวๆที่จับสัญญาณได้ พบไปถึงก็วัตถุใต้น้ำขนาดใหญ่ที่ทำให้เกิดฟองฟู่ไปทั่วผืนน้ำ ตอนแรกนึกว่าเครื่องบินตก แต่พอบินเข้าไปใกล้ก็พบว่ามี Tic-Tac โผล่ขึ้นมาจากทะเลแทน
นี่เป็นการคอนเฟิร์มว่า Tic-Tac สามารถเคลื่อนที่ได้ทั้งในอากาศและใต้น้ำ
David Fravor กับ F-18 อีกลำ พยายามขับเครื่องบินบินตาม Tic-Tac แต่ Tic-Tac พยายามเลี่ยนแบบการเคลื่อนไหวของ F-18 ที่บินวนรอบมัน ก่อนที่ Tic-Tac จะพุ่งหายไปด้วยความเร็วสูงภายในพริยตา
ต่อมาอีกไม่กี่อึดใจ คนที่หอควบคุมก็แจ้งทางวิทยุว่า Tic-Tac ที่ David Fravor แจ้งว่าพบเห็นเมื่อกี๊นี้ ได้ไปปรากฏตัวอยู่เหนือ Cap point (จุดนัดพบของนักบิน) ที่ห่างออกไปตั้ง 60 ไมล์ (96.5 กิโลเมตร)
นั่นเท่ากับว่า Tic Tac สามารถเคลื่อนที่ได้เป็นระยะทางไกลถึง 96.5 ภายในเวลาที่ต่ำกว่า 1 นาที !!!
ข้อมูลจากระบบเรดาห์ และเว็นเซอร์ ทั้งจากบน USS Nimitz และเรือรบใน Carrier Strike Group ลำอื่นๆ บนเครื่องบิน E2- Hawkeye และ F-18 หลายลำ ต่างให้ข้อมุลเรื่องความเร็วและการเคลื่อนที่ของ Tic-tac ตรงกันหมด
นอกจากจะมีข้อมูลหลายระบบที่ตรงกันแล้ว วันนั้นท้องฟ้าแจ่มใสไม่มีเมฆด้วย ดังนั้นตัดประเด็นสัญญาณผิดเพี้ยนไปได้เลย
David Fravor ย้ำว่า Tic-Tac นี่ มีการเคลื่อนไหว ที่เหนือกว่าวิทยาการของมนุษย์เราตอนปี 2004 (และอีก 10 ปีมาก) มันไม่น่าใช่เทคโนดลยีของ จีน รัสเซีย หรือแม้แต่สหรัฐ
หลังจากเหตุการร์จบลงทุกคนก็ถูกสั่งให้เก้บเรื่องนี้เป็นความลับ และมีการ Classified ข้อมูลทั้งหมดให้เป้นความลับ (จนกระทั่งหลุดมาในปี 2017)
David Fravor ย้ำว่า ตัวเขา (ใน F-18) จะไม่สามารถป้องกันการโจมตีของ Tic-Tac ได้ ถ้า Tic-Tac เกิดเป็นศัตรูขึ้นมา (ตอบ No! เหมือนกับ Ryan Graves)
UFO ดูเหมือนจะสนใจระบบอาวุธนิวเคลียร์ของมนุษย์เรา เพราะมีรายงานว่า UFO ชอบไปปรากฏตัวให้เห็นบ่อยๆ เหนือฐานยิงอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งข้อมูลนี้สอดคล้องกับตำให้การของอดีต จนท.ระดับสูงของรัฐบาลหลายคน ที่เคยออกมาแฉข้อมูลในอดีตว่า ช่วงสงครมเย็นเคยมี UFO มาปรากฏตัวให้เห็นในระยะใกล้เหนือฐานยิงอาวุธนิวเคลียร์ ของทั้งในสหรัฐและชาติพันธมิตร รวมทั้งในสหภาพโซเวียต ซึ่งหลายๆเคสส่งผลให้ระบบยิงขีปนาวุธในฐานขัดข้องพร้อมกัน บางเคสทำให้ระบบอาวุธนิวเคีลยร์นับถอยหลังเตรียมยิงได้เอง โดยที่ไม่มีใครสามารถทำอะไรกับระบบได้ จนสร้างความแตกตื่นและความตึงเครียดไปทั่วทั้งฐาน
สุดท้ายนี้ผมขอเสริมว่า
UFO และ UAP คือสิ่งเดียวกัน ที่ UAP ถูกตั้งขึ้นมาก็เพื่อหลีกเลี่ยง Stigma ของเรื่องนี้ และตอนนี้ UAP ไมไ่ด้ถูกเรียกแบบเต็มๆว่า Unidentified Aerial Phenomenon แล้ว แต่ถูกเรียกว่า Unidentified Anomalous Phenomena แทน (เปลี่ยนคำว่า Aerial เป็น Anomalous ) เพราะ UFO ไม่ได้มีอยู่แต่แค่บนท้องฟ้าเท่านั้น แต่มีอยู่ใต้ทะเลด้วย โดย UFO ใต้ทะเลมีศัพย์เรียกแบบทางการว่า USO - Unidentified Submerge Object)
UFO ที่สามารถเคลื่อนที่ได้สลับกันได้ทั้งในอากาศและใต้น้ำ คือวัตถุที่ถูกเรียกแบบศัพท์ทางการว่า Transmedium object
ปล. Public Hearing ครั้งต่อไปจัดขึ้นเมือ่ไหร่ไม่รู้นะ แต่มีการคาดการณ์ว่าอาจเป็นเดือนหน้า หรือเดือนกันยายนนี้