นักบอล ดิวิชั่น 1
Status: เห่าลอยๆไม่นับนะงับ

: 0 ใบ

: 0 ใบ
เข้าร่วม: 26 May 2011
ตอบ: 4642
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 21, 2023 15:02
Review : Oppenheimer และ Barbies แบบ *NO SPOIL*
สวัสดีสหายบอร์ด เมื่อวานผมมีโอกาสได้ไปดูภาพยนตร์สองเรื่อง สองรสชาติที่แตกต่างกันสุดขั้ว อย่าง Oppenheimer และ Barbies มาครับ ทั้งนี้จะเป็นรีวิวที่เน้นไปที่บรรยากาศรอบข้าง การเตรียมตัว แล้วก็เกริ่นถึงเรื่องราวในภาพยนต์สักเล็กน้อย เผื่อประกอบการตัดสินใจของสหายท่านไหนที่กำลังจะไปดูนะครับ
เรื่องแรก Oppenheimer : IMAX Subthai
เรื่องนี้ผมเข้าไปชมในฐานะผู้ชมที่พอรู้เรื่องประวัติคร่าวๆ ของ Oppenheimer เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ผมรู้แค่เขาสร้างปรมาณู เป็นคนคุมโปรเจคแมนฮัตตัน แล้วก็รู้แค่จบโปรเจคเขาเจอปัญหามากมายที่ทำให้ตัวเขาต้องทนทุกข์ ผมรู้แค่นั้นเลย รายละเอียดลึกไม่เคยแตะ ผลคือผมตามเนื้อเรื่องทันนะ ด้วยความเป็น 'หนังโนแลน' ด้วยมั้ง ที่ทำให้ผมระวังตัวตั้งแต่ต้นเรื่องเลย เหมือนนักวิ่งที่เตรียมออกตัวเลย ขึ้นโลโก้ค่ายมาผมก็เตรียมรับการสาดบทพูดจากหนังละ คือมึงมาแน่และผมเองก็ไม่อยากพลาดละ หลังจาก Tenet มันเหมือนเรียนรู้มาแล้วว่าหนังเด็จพ่อแม่งไม่ปราณีคนดูแน่ๆ ซึ่งก็เป็นแบบนั้น Oppenheimer เปิดมาก็ใส่ยับๆเลย ข้อมูล ศัพท์เทคนิค ฟิสิกต์ การเมือง ปรัชญา มาเต็ม แต่ถ้าเตรียมตัวดี ผมว่าผ่านได้สบาย
เนื้อเรื่องก็ค่อนข้างจะตรงไปตรงมา มีแกนหลักเป็นประวัติชีวิตของบิดาปรมาณู แล้วก็มีการตัดสลับไปมาช่วงนั้นช่วงนี้ตามสไตล์โนแลนนั่นแหละ ซึ่งก่อนจะเข้าไปดูผมก็ค่อนข้างจะให้ความสนใจอยู่แล้วกับหนังเรื่องนี้ โนแลนจะเล่าเรื่องที่คนรู้กันอยู่แล้วให้สนุกได้อย่างไร ซึ่งแกทำได้ เป็นหนังเน้นบทสนทนาที่ผมไม่เบื่อเลยตลอดสามชั่วโมง และผมว่าโทนหนังปกติของแก แม่งเหมาะกับการทำหนังแนวนี้อยู่แล้วด้วย ทั้งภาพและเสียง มันทำให้ผมรู้ระทึกอยู่ในใจเล็กๆ แล้วทำให้เราจดจ่ออยู่กับหนังตลอดเวลา ผมแทบจะไม่ละสายตาจากจอเลย (ถ้าหนังน่าเบื่อ ผมจะมีนิสัยชอบเหลือบดูนาฬิกา อันนี้ผมเข้าโรงตั้งแต่บ่ายสามยี่สิบ เงยหน้าดูนาฬิกาอีกที คือ หกโมงครึ่ง)
ส่วนประสบการณ์ IMAX ผมรู้สึกว่าคุ้มนะไม่เสียดายตังค์เลย แต่ถ้าไม่ได้ดู IMAX สำหรับผมก็ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร ด้วยความที่หนังมันเครมไว้ว่า 0 CGI ด้วยแหละ ผมก็เลยรู้สึกว่าฉากเหล่านี้ ดูในจอภาพยนตร์แบบธรรมดา ก็คงไม่ต่างกันครับ แต่ผมไม่แน่ใจนะเรื่องระบบเสียงมันต่างกันมากแค่ไหน เพราะหนังโนแลน ใช้เพลงกับเสียงบิ้วอารมณ์เก่งมาก ใครอยากไปให้สุดของประสบการณ์เสียง ก็ลองกด IMAX ดู ไม่เสียหายครับ (มีฉากนึงที่เล่นคนดูเงียบทั้งโรงอะ แล้วก็สาดตู้มมาทีเดียว ผมไม่แน่ใจว่าโรงธรรมดา ระบบเสียงมันจะสะใจอย่างที่ผมได้รับมั้ยนะ)
สรุปสำหรับ Oppenheimer ถ้าเป็นคอหนังคุย คอหนังชีวประวัติ สนุกกับการอ่านบทพูดตัวละคร ไม่ควรพลาดครับ จะให้ดีก็อ่านประวัติแกไปสักนิดสักหน่อยก่อนเข้าชมก็ดี อาจจะแม่นเรื่องตัวละครมากขึ้น ตัวละครเยอะมากครับ สำหรับคนกลัวศัพท์ฟิสิกต์ การเมือง ปรัชญา ไม่ต้องคิดมากครับ พวกนั้นไม่ใช่พาทหลักของเรื่อง เรื่องนี้เน้นไปทางดราม่าเลย อย่างเดียวที่ต้องระวังคือเข้าห้องน้ำห้องท่าให้เรียบร้อยก่อนเข้าโรงก็พอครับ หนังยาวชิบหาย 55555555
เรื่องที่สอง Barbies : 2D Screen Subthai
ผมเป็นตัวแทนชายแท้เข้าไปดูเรื่องนี้เพราะดูจากตัวอย่างแล้วคิดไปว่า หนังมันต้องกวนตีนมากแน่ๆ เลย ตัวอย่างของหนังบาร์บี้น่าสนใจมาก มันทั้งดูกวนประสาท ดูจิกกัดหนังเรื่องอื่นพอสมควร ดังนั้นความคาดหวังของผมตอนเดินเข้าโรง มันคือการเตรียมตัวไปรับความฮา แต่กลับกลายเป็นว่าผมเตรียมตัวมาผิด ผมพูดตรงๆ ผมดูหนังเรื่องนี้ไม่รู้เรื่องเลย เหมือนหนังมันพยายามจะจิกกัดสังคม ทั้งที่ผมก็ผ่านโลกทวิตเตอร์มาเยอะ เห็นกระแสต่างๆ มามากมาย แต่ก็ยังดูเรื่องนี้แล้วงงๆ อยู่ดี อย่างที่บอก ผมอาจจะเตรียมตัวมาไม่ดีด้วยแหละ
ด้วยมายเซ็ตผมหลังจากดู Oppenheimer จบก็คือ เอาวะ หาอะไรเบาสมองๆดูซะหน่อย แต่กลายเป็นว่ามันไม่เบาน่ะสิครับท่านผู้ชม Barbies มันสอดแทรกนู่นนี่นั่นมาในระดับที่หนักพอสมควร แต่ผมว่ามันต้องอาศัยการ 'สังเกตุ' พอสมควร ถึงจะเข้าใจว่าหนังมันกำลังแซะอะไรอยู่ ตามสไตล์หนังตลกจิกกัดแบบอเมริกัน ที่มันจะไม่ชัดเจนเอะอะเหมือนตลกไทย แล้วตัวหนังมันสอดแทรกปรัชญาต่างๆมาเยอะพอสมควร การมีชีวิตอยู่ ความเท่าเทียมทางเพศ และประเด็นอีกเยอะแยะที่ผมคิดว่าตัวผมเองยังรับมาไม่ครบถ้วน
ภาพรวมของหนังบาบี้คือมันไม่ใช่หนังเด็กเลย เนื้อหามันหนักกว่าที่เราเห็นในโฆษณาตัวอย่างเยอะเลย ถ้าพาเด็กๆไปดูอาจจะไม่ตอบโจทย์ ผู้ใหญ่อย่างผมยังย่อยยากเลย ไม่ต้องพูดถึงเด็กๆตัวน้อยๆเลยครับ 5555 อาจจะสั้นไปหน่อยสำหรับบาร์บี้ เพราะสำหรับตัวผมเองก็ยังต้องซ่อมกับเรื่องนี้พอสมควร อาจจะต้องเคลียร์หัวให้โล่งก่อนไปดูอีกรอบเลย
ดังนั้นอยากให้ระวังตัวมากๆ กับการเข้าไปดูหนังเรื่องนี้ ไม่งั้นอาจจะเป็นอย่างผมได้ ที่งงและงวยทั้งเรื่อง และสิ่งที่เราจะได้รับจะเป็นมุขแป้กๆ จากหนังเท่านั้น ผมตัดสินจากสายตาโดยยังไม่ได้อ่านรีวิวที่อื่นประกอบเลย ผมเองก็พอรู้ตัวว่าผมน่าจะพลาดอะไรไปบางอย่างกับหนังเรื่องนี้ ดังนั้นการไม่คาดหวังว่าหนังมันจะตลก น่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมแนะนำได้ จากการดูรอบแรกของผมนะครับ
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ