ศาลกีฬาโลก” ตัดสินให้ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ชนะคดีที่ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และ เมืองทอง ยูไนเต็ด เป็นโจทก์ร่วมฟ้องชวดสิทธิ์ไปเตะฟุตบอลสโมสรเอเชียเพราะปรับโควตาใหม่

การประชุมสภากรรมการ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 3 ก.ค.นี้ เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมสมาคมฯ ท่ามกลางความสนใจของแฟนบอลและคนลูกหนังหลัง พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกสมาคมฯ แต่ยังไม่ได้ยื่นหนังสือลาออกอย่างเป็นทางการ
รวมถึงประเด็นสำคัญในการพิจารณาข้อเสนอของ 16 สโมสร “ไทยลีก 1” ที่ต้องการแยก บริษัท ไทยลีก จำกัด ออกมาเพื่อบริหารสิทธิประโยชน์กันเอง นอกจากนี้ยังมีวาระในเรื่องที่ต้องแจ้งเพื่อทราบ และเรื่องที่ต้องพิจารณาอีกหลายเรื่อง

1 ในหัวข้อที่ถูกบรรจุในวาระเรื่องพิจารณาคือการขออนุมัติค่าทนายความ (Success Frees) จำนวน 25,000 CHF (ฟรังก์สวิส) ประมาณ 985,482 บาท ตามเงื่อนไขข้อตกลงที่มีต่อกันกรณีพิพาทการกำหนดโควตา “เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก” ระหว่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และ เมืองทอง ยูไนเต็ด กับ สมาคมฯ และ บจก.ไทยลีก
ที่ประชุมสภากรรมการจะมีการชี้แจงรายละเอียดของคดีดังกล่าว เบื้องต้น #BallThaiStand ได้รับข้อมูลยืนยันว่า “ศาลกีฬาโลก” ตัดสินให้ สมาคมฯ ชนะคดีที่ “แข้งเทพ” กับ “กิเลนผยอง” เป็นโจทก์ร่วมฟ้องหลังไม่ได้สิทธิ์ไป “เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2023/2024” เพราะมีการปรับเปลี่ยนโควตาใหม่
“ศาลพิจารณาว่า สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ทำตาม สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) และดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆถูกต้องแล้ว คือแจ้งให้ทราบ และเลือกให้โควตาตามขั้นตอนที่ถูกต้อง โดยคู่กรณีต้องจ่ายค่าทนายของตัวเอง แต่ยังมีค่าดำเนินการต่างๆที่ผู้แพ้คดีต้องรับผิดชอบ” แหล่งข่าว กล่าว
สำหรับปัญหาพิพาทเกิดขึ้นเนื่องจาก “ไทยลีก” เคยประกาศให้สิทธิ์ “ไทยลีก 2021/2022” ได้โควตา 2+2 (แชมป์ไทยลีก, แชมป์เอฟเอคัพ + ทีมอันดับ 2-3) ไป “เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2023/2024” แต่ภายหลังปรับโควตาเหลือเพียง 1+1 (แชมป์ไทยลีก + แชมป์เอฟเอคัพ) แล้วให้ “ไทยลีก 2022/2023” ได้โควตาอีก 1+1 (แชมป์ไทยลีก + แชมป์เอฟเอคัพ) เนื่องจาก “เอเอฟซี” ปรับปฏิทินแข่งขันใหม่ “ไทยลีก” จึงต้องปรับโควตาให้สอดคล้อง

การปรับโควตาส่งผลให้ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และ เมืองทอง ยูไนเต็ด ถูกตัดสิทธิ์ไปสโมสรเอเชียทันที โดย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่คว้าดับเบิ้ลแชมป์ทั้ง “ไทยลีก” และ “เอฟเอคัพ” ได้สิทธิ์ไปเล่น “เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2023/2024” รอบแบ่งกลุ่มตามปกติ ขณะที่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่จบอันดับ 2 ได้สิทธิ์ไปเพลย์ออฟ (แทนแชมป์เอฟเอคัพ) ตามโควตา 1+1

ส่วน “แข้งเทพ” และ “กิเลนผยอง” ที่จบอันดับ 3 และ 4 ใน“ไทยลีก 2021/2022” ต้องถูกตัดสิทธิ์ไปเพลย์ออฟใน “เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2023/2024” เนื่องจากโควตาจาก 2+2 เหลือเพียง 1+1 ทำให้ทั้ง 2 สโมสรยื่นคัดค้านต่อ สมาคมฯ บริษัท ไทยลีก จำกัด การกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อขอความเป็นธรรม และประกาศขอเดินหน้าตามกระบวนการกฎหมายจนเรื่องไปถึงศาลกีฬาโลกในที่สุด

อย่างไรก็ตามเมื่อ “ไทยลีก 2022/2023” เสร็จสิ้นลง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ก็ได้สิทธิ์ไปเล่น “เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2023/2024” รอบแบ่งกลุ่มแบบอัตโนมัติ เพราะจบฤดูกาลที่อันดับ 2 ขณะที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ทั้ง “ไทยลีก” และ “เอฟเอคัพ” ทำให้สิทธิ์ตกไปเป็นของรองแชมป์ไทยลีกทันที



สรุปคือถ้าแบงค็อกผมไม่จบที่ 2 ปีนี้ ก็คืออดไปเตะ
เซ็งแทนเมืองทองเลยงี้

รออ่านคอมเมนต์พรี่ไข่ตุงคนับ

อยากเห็นคอมเม้นจากนักข่าวสื่อคุณภาพ

อุ้ย

เป็นแชมป์ลีกสิครับได้ไปแน่นอน

มิน่าจากออกข่าวว่าตัวไทยต้องดีกรีทีมชาติเท่านั้น แต่เปิดจริงโนเนมทั้งนั้น

พี่ไข่โต ประธานศรีสะเกษไปไหนฮ้าบ

ทรูน่าจะหายงอนแล้วละ จากการที่ได้ไปรอบแบ่งกลุ่ม

เคสนี้บีจีน่าจะเสียหายสุดแล้ว จากรอบแบ่งกลุ่มเหลือแค่ playoff แถมเจอของหนักซะด้วย

เมืองทองสิเสียหายสุดจากลุ้นplayoff สรุปไม่ได้ไปเลยแถมต้องขายนักเตะกินอีก

พรี้ไข่ค้าบบบ พรี้

คืองงนะ เหตุผลที่บอกว่าสมาคมทำตาม AFC ทั้งๆที่สมาคมไปริบสิทธิ์ช่วงนัดสุดท้ายอะ มันดูไม่ค่อยถูกเท่าไหร่

ปล และอย่างน้อย ต่อให้ทำถูกตามระเบียบ AFC แต่ในเมื่อประกาศเปลี่ยนแปลงช่วงท้าย ทั้งๆที่คนอื่นพยายามกันมา อย่างน้อยก็ควรจ่ายค่าเสียหายชดเชยให้เขาบ้าง ไม่ใช่ไปริบเขาฟรีๆ ทั้งๆที่เขาไม่ได้ทำไรผิดเลย

เชื่อเหอะว่าหลายคนก็มองว่าการริบโควต้าเมืองทองไปฟรีๆแบบนี้คือถูกต้อง ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย นี่ตะหากทีเป็นปัญหา

งงอะไรอ่ะพรี่

คนอื่นเข้าใจกันหมดยกเว้นพรี่นี่แหละ เสียดายอีกคนมันติดคุกอยู่ คนนั้นเข้ากับพรี่ได้ดีนะ