สังคมที่มำงานคุณเป็นไงบ้าง ในแง่ใดก็ได้ไม่ว่าจะเป็นบรรยกาศการทำงาน , หัวหน้า , ลูกน้อง บลาๆๆ

ของผมมาทำงานที่ใหม่ได้ 3 เดือนละ แต่แอบอึดอัดกับสังคมในแผนก ด้วยผมเป็นผู้ชายคนเดียวจากทั้งหมด 4 คน ไลฟ์สไตล์เลยไม่คลิ๊กกัน ด้วยเพศก็ดี วัยก็ดี เช่น เวลาพักเที่ยงหรือทำกิจกรรมก็ต้องทำร่วมกันหมด อย่างวันนี้ไปนั่งกินข้าวกัน นั่งคุยกันเรื่อง sale คนนี้ล่าแต้มงี้ เพิ่งได้กะคนนุ้นไรงี้ มันไม่สร้างสรรค์เลย แรกๆก็ฟังไปหลังๆ เบื่อมากจริงๆม่จริงไม่รุ หนำซ้ำ หัวหน้ายังกีดกันกับแผนกอื่นอีก อย่าไปยุ่งกับจัดซื้อนะมันบลาๆๆ ล้างสมองตูไปอีก

ไม่มีอะไรแค่บ่นเฉยๆ

ในกลุ่มสวยไหม ถ้าสวย ลองถาม มาล่าแต้มผมบ้างไหม

z

เอาดีดีละ เรื่องพวกนี้เลี่ยงไม่ค่อยได้ ไม่งั้นเวลากินข้าวลองออกไปทานข้างนอกครับ

ส่วนใหญ่ผมเน้นเดินออกไปกินเอง

เพิ่งเข้ามาที่นี่เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา

- หัวหน้า/เจ้านาย : Country Managerเป็นชาวต่างชาติ และทำงานในลักษณะแทบจะเรียกว่าเป็นเพื่อนกันเลย เพราะเคยทำงานด้วยกันมาก่อน ก่อนที่แกจะลาออกย้ายประเทศไป แล้วกลับมาเปิดสาขาให้บริษัทใหม่ เลยชวนๆกันมา สนิทกันเป็นการส่วนตัว คุยเล่นได้ปรกติ
ส่วน Regional Manager ก็ทีมเดียวกัน รู้จักกันมาจะสิบปีแล้วเหมือนกัน เป็นคนรับผมเข้าทำงานที่เก่า แล้วย้ายตามๆกันมาเช่นกัน โดยรวมจึงไม่มีปัญหาเพราะรู้มือรู้นิสัยกันดี
- เพื่อนร่วมงาน : ก็โอเค เพราะเจ้านาย(ข้างบน)เป็นคนคัด/สัมภาษณ์เอง โดยมีเซลล์เมเนเจอร์(สนิทกันกับผมด้วย)ช่วยดูอีกแรง จึงได้คนประเภทเดียวกัน หรือทำงานด้วยง่ายๆทั้งหมด
- ลูกน้อง : ยังไม่มีครับ เริ่มมาทำงานอาทิตย์หน้า จะออกฤทธิ์อะไรหรือเปล่าไม่รู้ ก็ดูๆกันไปครับ

ตอนนี้เลยสบายเลยผม ชิวมากกกกกกกกกกกกกก

ดี ถึงดีมาก 55555

หัวหน้าอายุเยอะกว่าผมประมาณ.....6-7 ปีมั่ง ขอแค่งานเสร็จ กฏแทบไม่มีละอะ ค่อนข้างใจดี 55555

เพื่อนๆนี่ส่วนมากไม่ค่อยมีปัญหากันเพราะงานมีหลายส่วน ทำไปก็ไม่เกี่ยวกับคนอื่น น้องๆในทีมก็ค่อนข้างน่ารัก(หมายถึงนิสัยนะ) ทำงานเรียบร้อย

แต่ไม่ค่อยได้เจอกัน เพราะส่วนมาก WFH บริษัทให้เข้าเดือนละ 4 วัน(วันไหนก็ได้แล้วแต่เรา) ส่วนใหญ่ก็นัดเข้าไปพร้อมๆกัน กินข้าว คุยเล่น

บริษัทที่ WFH แทบไม่เจอกัน คุยกันแต่ในไลน์ ทำงานตามหน้าที่อย่างเดียว ก็ดีนะ ไม่มีทะเลาะแบ่งพรรคแบ่งพวกดี

สำหรับผม ถ้าคุยเรื่องใต้สะดือกัน หมายความว่า
คนเปิดเรื่องอยากจะทอดสะพาน ถ้าสเปคผ่าน
เดี๋ยวได้มีต่อแน่ๆ ถ้าไม่ผ่านก็แค่ฟังๆไป

ออฟฟิศผมมี 3 คน 5555555
แต่หัวหน้าไม่ได้เข้าก็เท่ากับเหลือ 2 ผมกับน้อง

ก็เงียบ ๆ ทั้งคู่ คุยเฉพาะเรื่องงานนะ(ซึ่งก็ดี) ผมก็พูดจ่ะบางทีก็ครับเป็นหางเสียงบ้าง
น้องเหมือนไม่ชอบคุยหรือไม่อยากคุยกับผมก็ไม่รู้ แต่เค้าจะสนิทกับหัวหน้า พูดคุยกันประจำ
ยื่นเอกสารให้ผมก็เอามาวางให้แหม่ะ แล้วก็ไม่มีแจ้งอะไร เออก็ดีเหมือนกัน
ผมชอบนะแบบนี้ ซึ่งผมก็ปฏิบัติแบบเดียวกันเลย หน้าแทบไม่มอง
เดินเข้ามาผมก็ไม่มองไม่สนใจ จะเอาอะไรมาวางให้

แล้วเค้าก็ชอบพึมพำคนเดียว บางทีมีเคาะโต๊ะเป็น 3 ช่าบ้างบางครั้ง
ผมก็ใส่หูฟังต่างคนต่างอยู่ เงียบดี ติดอย่างเดียวสงสัยขี้หนาว เปิดแอร์เดี่ยวเบาเดี๋ยวเร่ง
เพราะผมขี้ร้อน ผมก็เข้าใจแหล่ะ เลยเปิดพัดลมช่วยแทน

ส่วนพนักงานไลน์ผลิต เค้าก็อยู่เป็นกลุ่มของเค้าไป ไม่ได้มายุ่งอะไรมาก

ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ 6 เดือนล่ะ
มาคนเดียว อยู่คนเดียว
ทำงานไม่ COnnection กับใคร เนื่องจากงานมันบังคับให้ต้องเป็ยแบบนี้
ทำงานตัวเองจบ รายงานหัวหน้า เย็นกลับบ้าน

สังคมดีนะ ถ้าเข้ากะกลุ่มใหญ่ได้อ่ะ ช่วยกันดีชิบหาย

ส่วนคนนอกกลุ่มนี่ไม่เหลือ ผิดนิดผิดหน่อยก็ใส่ยับ

ดี ถึงดีมาก

ผมทำไรก็ได้ เจ้านายอายุเท่าผมเหมือนเพื่อนกัน ผมทำงาน2 บริษัท ผมสั่งงานได้ทุกคน ทุกคนพร้อมซัพพอต

คนในออฟฟิต รวมสอง บริษัทประมาณ 30กว่าคน คนงานอีก 50-60 คน

ไม่เคยทะเลาะกะใคร เพราะผมแหย่เล่นทุกคน กินข้าวแทบจะฟรีตลอดที่เจอผม จะถามผมกินไหม แบ่งจริงจังเลย

ซื้ออะไรก็เผื่อผม ผมบอกตลอดไม่ต้องเผื่อแต่ก็ซื้อมา โดยรวมประมาณนี้ละ

สังคมที่มำงานคุณเป็นไงบ้าง ในแง่ใดก็ได้ไม่ว่าจะเป็นบรรยกาศการทำงาน , หัวหน้า , ลูกน้อง บลาๆๆ

หัวหน้าเป็น Regional Director แกอยู่อินเดีย ส่วนผมก็อยู่ไทยบ้างตปท.บ้าง ไม่ค่อยได้คุยกัน ขอให้งานเสร็จและไม่มี unmanaged escalation = จบ | ส่วน functional report ข้างบนผมมีอีกสองคน คนนึงนั่งไทย อีกคนนั่งสิงโป ก็มีแค่ weekly catch-up กัน อันนี้ก็ระดับ Regional MD แกก็ไม่มีเวลาอยู่แล้ว สรุปคืออยู่ง่ายๆ

ส่วนทีม อันนี้จะยากนิดนึงเพราะดูแล 10 ประเทศ แล้วก็คนอีกประมาณ 10 คน การสร้าง engagement หรือความรู้สึกว่าเป็นทีมนี่ทำยากมาก ต่างคนต่างอยู่ แต่จริงๆอยากให้แชร์กันมากกว่านี้ คุยกันมากกว่านี้ แต่ด้วยทั้งเวลาที่มันต่าง วัฒนธรรมที่มันต่าง อันนี้ก็เป็น key challenge ใหญ่ของผมเหมือนกัน

ส่วนออฟฟิศที่ไทย เนื่องจากผมมีห้องตัวเอง ก็ไม่ได้สุงสิงกับใคร มีไปกินข้าวกะทีมบัญชีบ้างหรือกะ HR บ้าง แต่ที่เหลือผมก็กินคนเดียวครับ เพราะสาเหตข้างบนที่ดูแลหลายประเทศ บางทีมันประชุมตอนเที่ยงหรือลากยาวเลยเที่ยง ก็ไปกินคนเดียวหรือให้ใครซื้อขึ้นมาให้ (อย่างเมื่อวานไม่ได้กินข้าวกลางวันก็มี)

สรุปก็ชอบครับ ทำงานแบบ minimal supervision ดี
ขอให้ deliver results ให้ได้ก็จบ

ผมไม่เคยมีปัญหาเรื่องพวกนี้เลย
เพราะผมไม่เคยสนใจคนที่ทำงานผมเลยซักนิดเดียว ไม่จำเป็นต้องจับกลุ่ม ไม่จำเป็นต้องมีเพื่อน

ผมมาทำงาน ไม่ได้มาหาเพื่อน

จะ toxic แค่ไหน ผมแค่ไม่หย่อนตัวเองไปอยุ่จุดๆนั้นแค่นั้นเอง

ผมทำที่แรกโรงพิมพ์
----พนักงานในแผนกเดียวกัน 8 คน สนิทกลมเกลียวกันดีครับ
แต่มีพี่คนนึงชอบนินทาคนอื่น นินทาพนักงานใหม่ แบ่งพรรคแบ่งพวกอะไรแบบนี้
ส่วนคนในโรงงานนี่แม่ง จะหาว่าเหยียดก็ได้ ตามการศึกษาเลย คนดีๆก็มี คนคิดเล็กคิดน้อยคิดเยอะก็มี
ไม่รับงานต่อจากคนนี้บ้าง ไม่รับงานต่อจากคนนี้บ้าง พอบอกว่างานด่วนแม่งมาวีน แม่งมางอน
ทั้งๆที่ลูกค้ารับงาน เค้าก็รับงานจากบริษัท ไม่ได้รับจากมึงคนเดียว ถ้าเสียมันเสียหมด
หัวหน้าสามคน แก่2 วัยรุ่นโคตรแอคทีฟ1 ตีกันประจำหัวหน้าอะ

ที่สองโรงครีมเล็กๆ
----ดีสุดในโลกหล้าแล้วมีเพื่อนร่วมงานคนเดียว เป็นพี่ในคณะ แย่หน่อยตรงแกสายมูมากนี่แหละ จะซีเรียสเรื่องวางของไว้ตรงนู้น ตรงนี้แต่ไม่ค่อยทำให้เราเดือดร้อนเท่าไหร่ เป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีมากๆๆ

ที่สามร้านกล้องวงจรปิด
-----พนักงานน่ารักทุกคนบ้านๆ ลูกทุ่งๆ ทุกคน แต่ความเป็นหัวเก่ายังมีเยอะมาก
พนักงานยังเหยียดเพศ เหยียดรูปร่าง เหยียดการแต่งกายคนอื่น ตอนแรกๆแซวผมเหมือนกันนะ แต่ผมไม่สนใจเลย เขาก็เลิกแซวผมไปเองเลย มีเซลล์คนนึงพูดมากชิบหาย ผมนี่พูดกับมันตรงๆเลยอายุเท่ากัน ว่าแบบอย่าพูดเยอะ ไม่มีสมาธิทำงาน คือเป็นคนขี้โม้อะไม่ชอบชิบหาย โดนไล่ออกไปละ โกงบริษัท โกงเงินลูกค้า

ที่ปัจจุบันโรงงานผลิตอาหาร
-----หัวหน้ามีความเป็นหัวใหม่มาก ทันสมัยมาก แต่ช่วงนี้แกไม่เข้าออฟฟิศแล้ว
เพื่อนร่วมงานก็กันเอง สมัยก่อนที่โรงงานยังบูมๆ พนักงานเยอะมากแบ่งพรรคแบ่งพวก
พวกเด็กวัยรุ่น อายุ20-25 ติดเล่น ติดคุยหนักมาก โดนไล่ออกหมดแล้ว 55+
กินข้าวกลางวันรวมกัน แต่ผมไม่กินเพราะผมเข้าไปในนอนหลับในโรงงานก่อน เที่ยง40ผมค่อยกินคนเดียว
ตอนเย็นมีดื่มบ้าง ช่วงที่ผมไม่ได้เข้ายิมเมื่อก่อนผมก็นั่งดื่มกับเขาบ่อยแหละ
แต่นี้ไม่ได้ดื่มกับเขามา 5-6 เดือนละ เหมือนเริมดีดตัวเองออกมา


ส่วนมากทุกที่เขาจะบอกว่าผมติ๊สมาก แต่ผมไม่ได้เข้ากับคนยากขนาดนั้น
ผมไม่ได้อินโทรเวิร์ตเก็บตัว ผมกล้าที่จะพรีเซนต์งาน นำเสนอแนวทาง ผมเฮฮาปกติ เป็นที่รักทุกที่เลยที่เคยทำมาแต่ผมไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาสานสัมพันธุ์หรือหาเพื่อนในที่ทำงานเลย คนไหนที่ผมไม่ชอบ ผมไม่ยุ่งเลย

"จะทำไรก็เรื่องของคุณ แต่งานเสีย ทีมเสีย คุณก็จะโดนเล่นโดยตรง"

หัวหน้าผมว่างี้