introvert ? วอนนาบี ? วัลลาบี ?
มาๆๆ เรามาถกกันเรื่องใหม่ต่อจากเรื่องชุดนักเรียนดีกว่า 555
เห็นกระทู้เรื่องอินโทรเวิร์ทแล้วมีคนมาแซะเยอะ เลยอยากจะอธิบายอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้นิดหน่อย เพราะผมว่ามีคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับ introvert เยอะมาก รวมถึงเข้าใจว่าคนเป็น Introvert คนเป็นคนแบบนั้นแบบนี้ จริงๆแล้วมันไม่ใช่ครับ มันมีประเด็นยิบย่อยมาก ที่ทั้งคนที่เป็น extro/intro ก็แชร์ trait หรือลักษณะคล้ายๆกันได้อยู่ดี
อย่างแรก คนที่เป็น Introvert != คนชอบอยู่คนเดียวเลย มันไม่ใช่ครับบบบบบบบ คุณต้องเข้าใจก่อนว่า คำว่า introvert ใน definition แบบนั้นมันคือความเข้าใจแบบ 20-30 ปีที่แล้วครับ ตามการอธิบายสมัยใหม่ คนเป็น introvert มันแปลว่า คุณ"รู้สึก"ว่าคุณได้เป็นธรรมชาติหรือเป็นตัวของตัวเองที่สุด หรือได้รับ energy จากการอยู่คนเดียว (แต่ไม่ได้แปลว่าชอบอยู่คนเดียว)
ยกตัวอย่างง่ายๆเลย แฟนผมเป็น marketing และ extrovert ตัวแม่เลย เค้าจะรู้สึกว่าตัวเองไม่เคยเหนื่อยถ้าต้องทำงานกับคนเยอะๆ หรืออยู่ในที่คนเยอะๆ ซึ่งเค้าก็ทำงานในบริษัทที่เป็น marketing-led ด้วย นั่นคือคนส่วนใหญ่จะเป็นแบบนั้น มันก็มี energy ของการอยู่ด้วยกันเต็มไปหมด ทำงานด้วยกันถึงสี่ห้าทุ่มก็ไม่ได้รู้สึกเหนื่อย สนุกด้วย หรือเดี๋ยวก็ต้องมีนัดกินข้าวกะเพื่อนละ แต่ถ้าต้องอยู่คนเดียวทำงานคนเดียวนานๆก็จะเฉาๆนอยด์ๆหน่อย... ขณะที่ introvert แบบผม หมดวันก็อยากกลับบ้านมานอนแล้ว หรือขอให้มีเวลามานั่ง reflect สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างวันบ้างก็ยังดี เพราะนั่นคือการชาร์จแบตของเราสองคนต่างกัน
นั่นคือความแตกต่างของความเป็น ex/introvert ครับ ขณะที่อย่างอื่นๆด้านล่างที่ผมกำลังจะอธิบาย มันไม่เกี่ยวกับความเป็นไอ้ข้อด้านบนอะไรเลย ที่ว่าเรา gain energy ต่างกันอย่างไร มันคือลักษณะนิสัยของตัวบุคคลครับ ซึ่งคนเป็น introvert ไม่ได้แปลว่าไม่ชอบแสดงออกครับ ซึ่งจะแบ่งออกเป็นการรับสาร ตัดสินใจ และแสดงออกนะครับ
เรามาเริ่มกันเลยครับ
1/ การรับสาร Spoil
ต้องเข้าใจก่อนว่า คนเรามีวิธี"รับสาร"ต่างกัน (sensing/intuition) บางคนรับสารผ่านสิ่งเร้าภายนอกที่รับรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า"เป็นหลัก" ขณะที่อีกพวกคือรับสารผ่านการสังเกต การอ่านสถานการณ์ อ่านสิ่งที่เป็นอะไรที่ไม่ได้แสดงออกหรือพูดออกมา"เป็นหลัก" นั่นแปลว่าคนเราไม่ได้มีแค่ด้านเดียว แต่แค่มีด้านไหนเป็นหลักต่างหาก
ขณะที่ทั้ง sensing/intuition ก็มีทั้งภาค intro/extro เช่นกัน (มีทั้งหมดสี่อย่าง) ซึ่งผมจะสามารถอธิบายได้แค่เฉพาะฝั่ง intuition นะครับ การเป็น introverted intuition คือใช้การสังเกต การอ่านสิ่งต่างๆที่บอกไปนั่นแหล่ะ แต่เอามาฟิตกับเฟรมหรือกรอบในหัวของตัวเอง (หรือ core values ของตัวเอง) คือการทำความเข้าใจอะไรต่างๆโดยเอามาแมปกับแพทเทิร์นในหัวตัวเอง คนพวกนี้ข้อดีคือเป็นคนที่ยีดโยงในหลักการ แต่ก็จะมีความหัวดื้อด้วยเช่นกัน
ซึ่งในส่วนของคนที่เป็น extroverted intuition ก็คือการสังเกต การทำความเข้าใจจากสิ่งต่างๆแบบที่บอก แต่พวกนี้จะเก็บ data เยอะกว่า มีความโอนอ่อนต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า เรียกง่ายๆว่าเป็นการเก็บข้อมูลที่ผ่านจากการคิด แต่ยังยึดกับความเป็นจริงมากกว่าแบบ Ni ด้านบน ข้อดีคือถ้ามีคนถามจะอธิบายตัวเองได้ดีกว่า รวมถึงยังเปิดกว้างต่ออะไรๆได้มากกว่า ชอบเรียนรู้ แต่ส่วนใหญ่จะไปตายตรงที่อาจจะไม่มีหลักการอะไรชัดเจนแบบ Ni
2/การสื่อสารและการตัดสินใจ Spoil
แน่นอนว่ามนุษย์เรามีความลึกซึ้ง ซึ่งสิ่งที่ใช้ตัดสินใจต่างกับการรับสารด้านบน ก็แบ่งไปได้อีกเป็น Feeling/Thinking หรือใช้ความรู้สึกหรืออารมณ์ร่วมในการตัดสินใจหรืออีกประเภทคือใช้เหตุและผลในการตัดสินใจมากกว่า ซึ่งก็มีแยกเป็น extro/intro feeling และ extro/intro thinking (รวม 4 ประเภทเหมือนด้านบน) คนเป็น extroverted thinking คือมักแสดงออกว่าตัวเองตัดสินใจอะไร เพราะอะไร คือสามารถอธิบาย process ของตัวเองได้นั่นแหล่ะ คือสามารถอธิบายไปถึงการรับสารของตัวเองได้ด้วยซ้ำ
อย่างบางคนที่เค้าเป็น introvert แต่เค้าเป็น extroverted thinking (Te trait ซึ่งมันมีครับ) คนพวกนี้ก็เป็นคนที่มี process หรือ structure จ๋าๆมาก คือการตัดสินใจจะผ่านมาจากการทำ decision tree ผ่านในหัว และยังสามารถบอกได้ว่า ตัดสินใจแบบนี้เพราะอะไร (ต่างกับ Ne นั่นคือ สามารถบอกได้ว่า คิดหรือเข้าใจว่าอย่างไร แต่ไม่ใช่ตัดสินใจนะ) และคนที่เป็น Te เนี่ย หลายๆคนเป็น group/team leaders ที่ดีด้วยซ้ำ และส่วนใหญ่ก็เป็นคนมี charisma ด้วย ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือพิธา ที่เป็น ENTJ (Te trait นำ)
อีกด้านนึง สำหรับคนที่เป็น introverted thinking (Ti) นี่คือ"สิ่งที่คนส่วนใหญ่"เข้าใจว่านี่แหล่ะ introvert ครับ (ซึ่งจริงๆไม่ใช่ introvert ในความหมายใหญ่ แค่คนเข้าใจผิดไปเอง) คนที่เป็น introverted thinking คือคนที่ชอบคิดอะไรอยู่ในหัวครับ แล้วก็ตัดสินใจอะไรก็อยู่ในหัวเหมือนกัน ซึ่งข้อดีก็คือ คนพวกนี้ชอบเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ชอบคิดนอกกรอบ (ซึ่งหลายคนก็เบียว) รวมถึงเป็น overthinker หรือพวกย้ำคิดย้ำทำเช่นกัน
ซึ่งถ้าคุณเห็นคำอธิบายด้านบน นั่นคือ stereotype ที่คนส่วนใหญ่ชอบคิดเอาเองว่า introvert มันคือคนแบบนั้น แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่เลย คนที่เป็น extrovert ที่มี Ti ก็มี เช่นพวกที่ชอบทึกทักไปเองว่า คนนู้นคนนี้คิดกับเราแบบนั้นแบบนี้ คือมี assumption ในหัวไปแล้วนั่นแหล่ะ (ไม่รู้คุณมีคนรู้จักเป็นแบบนั้นบ้างมั้ย แต่ผมมี ฮ่าาา) คือใช้ logic นะ แต่ logic มันจะแปลกๆหน่อย เพราะมันอยู่ในหัวทั้งหมดนั่นแหล่ะ แล้วยิ่งถ้าไม่สามารถเป็นคนรับสารจากภายนอกได้ ยิ่งไปกันใหญ่เลย
ถ้าคุณอ่านทั้ง 2 spoils แบบละเอียดๆ ผมว่าคุณจะเริ่มเข้าใจละว่า อ๋อ มันคือแบบนี้ ฉะนั้นคนเป็น introvert ตามคำจำกัดความเก่าๆ แม่งก็เป็น sociable person ได้เหมือนกัน แต่ว่ามันจะตายง่ายหน่อย หรือว่าอาจจะพูดไม่เก่ง นั่งเก็บข้อมูลเฉยๆ แต่พอถึงเวลาให้มันพูดมันก็พูดได้เหมือนกัน
คนเป็น introvert แล้วอยากแปะป้ายตัวเองให้ดูชิคคูลมันก็มี คนเป็น introvert แล้วอยากหนีจากสังคมก็มี (ข้อแรกสุด เพราะเค้ารู้สึกเหนื่อยกับการอยู่กับคน) คนเป็น introvert ที่อยากให้คนอื่นเข้าใจตัวเองก็มี... ซึ่งคนเป็น extrovert มันก็มีเหมือนกันทั้งนั้นครับ ขึ้นอยู่กับลักษณะของพวกเค้านั่นแหล่ะ life coach หลายคนนั่นก็ extrovert ที่พยายามอธิบายและสอนคนอื่นอยู่เหมือนกัน ซึ่งมันไม่ได้ต่างอะไรกันหรอกครับ
สุดท้าย คนเราควรจะพยายามเข้าใจคนอื่นแล้วพยายามเข้าใจความแตกต่างให้ได้ต่างหากล่ะที่สำคัญ