ดูรอบๆบ้านด้วยนะครับ การจอดรถอะไรเอย บางโครงการเจอเพื่อนบ้านเห็นแก่ตัวนี่ก็เอือมระอาสุดๆ

ท่านลองเช่าอยู่ก่อนมั้ย

ว่าเหมาะกับเรารึเปล่า

อีกอย่าง ถึงบ้านเดี่ยวปัญหาจะน้อยกว่าแต่มันก็ยังมีครับ

เช่นเรื่องสัตว์เลี้ยง แมวจรจัด จอดรถหน้าบ้าน การต่อเติม เพื่อนบ้าน

สุดท้ายมันก็วัดดวงอยู่ดีครับผม

อายุพึ่ง25 เงินเดือนดีโอกาสโตน่าจะเยอะนะครับ
ถ้าไม่รีบมาก เก็บเงินอีกสักหน่อยแล้วไปบ้านเดี่ยวเถอะครับ สิ่งแวดล้อมคนละเรื่องเลยครับ
ถ้าเรามองว่าต้องอยู่ไปอีกเป็นสิบๆปีหรือตลอดชีวิต
คำนี้ใช้ได้เสมอครับ ซื้อบ้านถูกในโครงการแพง ดีกว่าซื้อบ้านแพงในโครงการรถูก

- ผนังมีรอยร้าวเกือบทั้งหลัง (บ้านผมเป็นพรีแคส) สีร่อนเป็นแผ่นทั้งในบ้านละนอกบ้าน บวมเป็นตุ่มด้านนอกบ้าน (บ้านผมติดคนอื่นด้านเดียว)

- ผมไม่เอาของแถมเลย ของแถมโครงการผมเป็นเซตเตียงโซฟาตู้เสื้อผ้าผมไม่เอาลดไป 150000 วันนัดโอนโครงการจะนัดบีบเราให้โอนไวๆ ใช้ต่อรองพวกเครื่องปรับอากาศมาซะ ผมได้ไดกิ้นมา 1 ตัว 9000 บีทียู

ปล.เพื่อนบ้านนี่ดวงจริงๆ

ถนนหน้าบ้านเอากว้างๆหน่อย ยังไงก็มีคนจอดรดหน้าบ้านอยู่เเล้ว

ผมซื้อบ้านทาวน์เฮ้าส์ เมื่อก่อนปัญหาเรื่องเสียงเยอะ

โชคดีคนที่ชอบเมาเสียงดัง ฉี่รดข้างกำแพงบ้านผม เขาได้เลื่อนตำแหน่งเป็น ผจก.

เขาเลยอยากมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แล้วไปซื้อบ้านเดี่ยวมือสองในหมู่บ้านเดียวกันแทน

เคยไปวิ่งออกกำลังกายตอนเย็นผ่านหน้าบ้านใหม่เขาโดยไม่รู้มาก่อน แม่งตั้งวงเหมือนเดิมเลย

ขอเสริมเรื่องปลวกละกัน ผ่านไปประมาณปีที่ 3 ปลวกเริ่มมาถึงบ้านเราจะไม่มีปลวกแต่ปลวกอาจจะมาจากข้างบ้านได้

จากประสบกามซื้อบ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น หลังกลาง ราคา 2.5ล้าน ในวัย 27 ปี
1) ดูจำนวนห้องว่าเพียงพอหรือไม่ มองไปยันอนาคตเวลามีลูก หรือพ่อแม่แก่ด้วย
> ของผม 3 ห้องนอน ใหญ่ กลาง เล็ก, ใหญ่เอาไว้นอนเอง, กลางเอาไว้ให้แขกนอน แต่เวลาผ่านไปมันเปลี่ยนเป็นห้องเก็บของแทน ส่วนห้องเล็กเอาไว้เก็บของ และรีดผ้า)
>> ปัจจุบันอยากได้ห้องทำงาน ถ้าเอาห้องเล็กเป็นห้องทำงาน ก็ต้องไปเก็บของในห้องกลางแทน แล้วอนาคตมีลูก หรือมีแขกมานอน ก็จะไม่มีห้องนอนให้
2) ดูเรื่องเสาเข็มให้ดีว่าเค้าลงไว้ยังไง จะได้ต่อเติมหน้าบ้านและหลังบ้านถูก
> ของผมลงเข็มแค่ตัวบ้าน ดังนั้นหน้าบ้านหลังบ้านและตัวบ้านจะยุบไม่เท่ากัน
>> หน้าบ้านผมปล่อยยุบไปเลย เอาอิฐวางบังรอยแตกไว้ ส่วนหลังบ้านว่าจะต่อเติมครัว แต่พื้นและกำแพงค่อนข้างจะยุบและร้าวไปเยอะ ยังไม่มีโอกาสเรียกช่างมาประเมิน

3)โรงรถหน้าบ้าน ผมทำแบบไม่มีเสา เป็นแขนท้าวเอากับตัวบ้าน ผมว่าโอเคเลย
> เห็นบ้านอื่นมีเสารับปลาย สุดท้ายยุบไม่เหลือชิ้นดี

4) อย่าซื้อหลังกลาง ให้ซื้อหลังริม (ที่มีพื้นที่ข้างบ้าน) เพื่อ
4.1 เวลาจะต่อเติมหลังบ้าน สามารถให้รถปูน หรือรถขุดดินฝังเข็มเข้าด้านข้างได้
4.2 มีพื้นที่ด้านข้างบ้านสามารถทำเป็นพื้นที่สีเขียว หรือลานซักล้างได้

5) เพื่อนบ้านดูได้ก็ดู หาหลังที่ข้างๆเค้าอยู่เอง ถ้าเจอบ้านเช่าจะหัวปวดโคตรๆ เพราะส่วนมากสันดารไม่ดี ไม่ใช่บ้านมัน มันไม่แคร์

6) อันนี้แถม ถ้านิติหมดสัญญา อย่าเลือกบริหารหมู่บ้านกันเอง เละเทะแน่นอน

ถ้าไม่มั่นใจ หาเช่าก่อนก็ได้ครับ

ที่โดนแน่ๆคือเรื่องจอดรถและเสียงข้างบ้าน

1.เสียงช้างบ้าน ควรกรุผนังฉนวนกันเสียงเพิ่มอีกชั้น จะเสียที่ไปประมาณ 10-15 ซม.
ถ้าเอาให้ชัวร์ต้องทำฝ้า 2 ชั้นกรุฉนวนกันเสียงด้วยก็ดี (สำหรับชั้นบน)

2.จอดรถหน้าบ้านคนอื่น ผมเจอ ผมตามถึงบ้าน ให้ย้ายทันที
(รู้ว่าบ้านไหนเพราะดูวงจรปิด ลูกบ้านสามารถดูผ่านมือถือได้เอง)
พอชื่อเสียงดังทั้งหมู่บ้าน ก็ไมีมีใครกล้ามาจอดอีกเลย

3.วงเหล้า อันนี้ต้องทำยังไงก็ได้ให้เค้าเกรงใจ
อย่างของผมหลังเที่ยงคืนไม่หยุด ผมเดินไปเตือนเลย
ก็ได้ผลนิดๆ หลังจากนั้น ถ้าเค้าจะตั้งวง เค้าจะเดินมาบอกว่าวันนี้เสียงดังนิดนึงนะ
(ได้ผลตรงไหนวะ)

ของผม มี เเค่นี้ อย่างอื่นไม่เท่าไหร่ พวกงานก่อสร้างผมดูเองตั้งเเต่ขึ้นเสา ไปดูทุกอาทิตย์
เพราะผมซื้อตอนบ้านยังไม่เสร็จ มันก็มีข้อดีข้อเสีย เเต่พอดีผมทำงานด้านนี้ เลยสบายหน่อย

เก็บเงินสดซื้อที่ปลูกบ้านดีกว่า อย่าเอาเลยทาวโฮม

เคยไปดูทาวน์โฮม เข้าไปดูบ้านตัวอย่างที่รอบข้างมีคนเข้ามาอาศัยแล้ว คุยๆกับเซลล์อยู่ บ้านไหนไม่รู้ตำน้ำพริก ได้ยินถึงที่ผมนั่งคุย ผมเดินออกเลยครับ

เก็บเงินเพิ่มเอาบ้านเดี่ยวเถอะครับ ถ้าเพื่อนบ้านไม่ดีนี่ปวดหัวเลย
กู้พอๆกับผมเลย ตอนนั้นผมผ่อน 22,000 รายได้ก็พอๆกับท่านรู้สึกตึงมือไปหน่อย
ผมว่าถ้าซัก 20-30% รายได้ก็น่าจะไม่หนัก

เขาบอกว่างบ 3.5 ล้าน บ้านเดี่ยว 3.5 ล้าน น่าจะยากนะ

หาที่ใกล้ที่ทำงานที่สุดครับ อย่าเสียเวลาเดินทางมากส่วนก่อนโอนจ้างบริษัทมาตรวจครับถ้าโครงการไม่แก้ก็ไม่ต้องเซ็นต์รับเพราะตอนมาแก้ให้จะช้ามาก