ถ้าเป็นที่ท่านว่ามา ก็มีแค่กลุ่มนักกีฬากับผู้จัดอ่ะครับที่ได้ประโยชน์ คนส่วนใหญ่ที่โดนบังคัยเป็นกองเชียร์ได้อะไร

เสียเงิน เสียเวลา ต้องมาช่วยทำฉาก แต่งเต้น ทำอุปกรณ์เชียร์นู้นนี่นั้น วันจริงก็ต้องมานั่งทนร้อนเป็นวันๆ

ชอบเรื่องความสนุกของกิจกรรมนะ

บางส่วนมันดี แต่ส่วนที่ไม่ดีก็เยอะ

โดยเฉพาะ เรื่องงบฯ เป็นภาระเด็ก สมัยผม เก็บเงินน้องๆ ในสีคนละ 100

พี่สตาฟฟาดไปกี่ร้อยไม่รู้ แล้วของรางวัลนี่เป็นแค่ขนมปี๊ป

ลงทุนหลักหมื่น ของรางวัลหลักร้อย 5555

โหวตว่าอยากมีมั้ยในแต่ละปีตอนเปิดเทอมก็น่าจะทำให้แต่ละปีนักเรียนพึงพอใจได้นะ

แต่เข้าใจคนที่มีส่วนร่วมน้อยเพราะสปอร์ตไลท์มันก็ส่องไปที่หลีดกับนักกีฬาจริงๆแหละครับ ส่วนใหญ่ผมว่าเด็กๆน่าจะเบื่อที่ต้องมานั่งทนร้อนกับงานที่เค้าได้เป็นแค่ตัวประกอบซึ่งมันมีจำนวนมากกว่าตัวเด่นอยู่แล้ว

ผมว่าแข่งกีฬาอย่างบอลห้อง บาสห้อง หรือ e-sport ระหว่างห้องผมว่าเด็กๆน่าจะยังต้องการอยู่นะ


แต่ส่วนตัวผมเห็นว่าก็ควรมีนะมันช่วยเสริมทักษะการทำงานเป็นทีม ต้องถ่ายทอดความสำคัญของแต่ละส่วนงานที่จะประกอบเป็นงานกีฬาสีที่ดีได้ แน่นอนสปอร์ตไลท์ไม่ส่องมาที่คนทุกคนแต่ทุกคนก็สำคัญในหน้าที่ต่างๆของแต่ละคน ก็ต้องอธิบายวัตถุประสงค์ของงานให้เด็กๆเข้าใจน่ะครับ สมัยผมก็ไม่มีคนมานั่งอธิบายหรอกนึกย้อนไปถ้ามีคนอธิบายผมสักหน่อยคงสนุกและรู้สึกถึงคุณค่าในการตากแดดทำอุปกรณืเชียร์ได้มากขึ้นกว่าในตอนนั้น

ผมเดาว่ามาจากปัญหาเรื่องเงิน แข่งกีฬาสีแต่ละปีใช้เงินเยอะนะครับ

สงสารทั้งครูประจำแต่ละสีที่โดนเรี่ยไรเงิน พ่อแม่ที่ก็โดนแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้

สุดท้ายถ้ามันไม่พอก็พวก ม.6 แล้วถ้าไม่พออีกก็พวกเราเอง

คิดถึงความหลัง
ได้เป็นประธานสีตอน ม.6
กิจกรรมที่สนุกและเอาจริงเอาจังมาก ได้รวมกันทำอะไรเว่อร์ ๆ กับเพื่อนเป็นครั้งสุดท้าย
คิดว่าถ้าอยากปรับเปลี่ยน ให้ ม.5 รับผิดชอบกิจกรรมนี้ไปเถอะ ม.6 ให้เค้าอ่านหนังสือสอบ

ที่โรงเรียนผมนี้ม.ปลายนี้จัดกันจริงจังมากเลยนะครับ

โดนเฉพาะพวกม.6 จริงจังกว่าตอนเรียนเยอะ

ยิ่งโรงเรียนผมแบ่งสีเป็นห้องๆด้วยยิ่งแข่งกันน่าดู

ชอบอ่ะ กีฬาสี ไม่ต้องเรียน

ผมเองไม่อยากให้ยกเลิกครับ
แต่อยากยกเลิกเรื่องการบังคับว่า คนที่ไม่แข่งกีฬาให้เป็นกองเชียร์ มากกว่าครับ อยากให้เป็นเรื่องสมัครใจ

ผมชอบครัยสนุกดี แต่ปัจจุบันไม่รู้ครับว่า เด็กรุ่นนี้จะชอบมั้ยคิดเห็นอย่างไร สงสัยได้ยกเลิกทุกกิจกรรม

กิจกรรมไร้สาระ ต้องจ่ายเงินเสียค่าให้พวกเชียร์ลีดเดอร์อีก

เหมือนในฮอโมนเลย โดนเรียกไปขึ้นสแตน ถึงเป็นนักกีฬาแต่ถ้าตอนนั้นไม่มีแข่งก็ต้องมานั่งสแตนต่อมึนๆ

เวลาร้องก็ต้องทำเสียงเหมือนออกจากปากเพราะร้องไม่เป็นบางเพลง กับตบมือตบให้ไม่มีเสียงเดี๋ยวเข้าจังหวะ

ไม่ได้เพราะไม่ได้ซ้อมประจำกับสแตนคนอื่น

สำหรับคนที่ไม่อยากเข้าร่วมนี่ไม่มีประโยชน์เลยนะ เพราะต้องเสียเงิน

แข่งกีฬาบาง รร.ไม่มีงบอุปกรณ์ให้ คนลงแข่งต้องไปซื้อเอง

บังคับขึ้นแสตนเชียร์ไปนั่งร้อนแล้ว ยังต้องเสียเงินหารค่าป้าย อุปกรณ์ น้ำ+อาหารอีก เสื้อกีฬาสีก็ตัวละเป็นร้อย

ตอน ม.ต้น ไม่ชอบครับ ร้อน โดนบังคับให้อยู่ซ้อมเชียร์หลังเลิกเรียน

ตอน ม.ปลาย ชอบมากครับ ได้ร่วมทำกิจกรรมกับเพื่อนสีเดียวกันจากต่างห้อง ได้ฝึกอะไรหลายอย่าง (การบริหารจัดการ,ทำงานช่าง ทำป้าย ทำสแตน,ฯลฯ)

ส่วนตัวไม่ได้ลงแข่งอะไรหรอก เป็นเบื้องหลังซะมากกว่า สนุกดีครับ ส่วนให้ออกความเห็นในประเด็นนี้ ผมคิดว่ามันเป็นกิจกรรมที่ดี แต่ควรต้องปรับในประเด็นที่เป็นปัญหา เช่นน้องต้องไม่มานั่งตากแดด อำนวยความสะดวกสบายให้น้องกองเชียร์ ต้องดูแลตรงนี้ให้ได้ (สมัยผม ม.ต้น เอาขนมเอาน้ำมาให้ กูคงจะหายร้อนหรอกเนอะ) หากิจกรรมร่วมให้น้องเอ็นจอยมากกว่านี้ กระจายโอกาศลงแข่งกีฬาให้ทั่วถึง

สำหรับผมกีฬาสีมันไม่ใช่การชิงดีชิงเด่นอะไร (สำหรับผม)
ยังไงซะมันก็หนีไม่พ้นต้องมีคนเด่นน้อยเด่นมากอยู่แล้ว
อยู่ที่คนจะมองละกันครับ

เออ ผมนึกถึงตอนนี้เลย ซีซั่นนี้ดีสุดของฮอร์โมนละ มันเอาปัญหาจริงๆในโรงเรียนมาพูดถึง



เป็นกิจกรรมที่เก็บเงินเปลืองมากจริงๆ

ถ้า รร ผม มีคนไปถาม ผมว่าคนอยากยกเลิกเยอะ

เด็ก ม1 ก็ไม่อยากไปนั่งปรบมือเป็นกองเชียร์ที่สแตนด์ ต้องซ้อม ต้องร้องเพลง ต้องปรบมือ ต้องจำจังหวะนั่นนี่

เด็ก ม2 ม3 กับ ม4 ก็ไม่อยากเดินพาเหลด ต้องซ้อม ต้องย่ำเท้า ต้องแปรขบวน

สมัยผมอยู่ ม2 ม3 ม4 ก็หนีไปลงวิ่ง โคตรสบาย ม5 คุมพาเหลด ม6 คุมเชียร์ โคตรแม่งเหนื่อย