ไม่เชื่อดวง

เรื่องอย่างนี้ต้องอาศัยสายตาอันยาวไกลครับ อย่างอาผมจะซื้อที่ดินที่มีวิกฤตเท่านั้น

อย่างเมื่อตอนเกิดสึนามิที่แถวนั้นราคาลงแทบจะเรียกได้ว่าถูกเหมือนได้เปล่า อาผมไปเสนอซื้อ ทุกคนก็สงสัยว่าเอาไปทำไมมีคนตายเยอะแยะ

แต่เขาก็ไม่สนซื้อมาได้หลายแปลงตอนหลังเขาเอาไปขายกำไรเป็น 10 เท่า

หรืออย่างตอนที่เกิดน้ำท่วมบางบัวทอง ท่านก็ไปซื้อบ้านไว้หลายหลังหลายปีผ่านไปเขาก็เอามาขายทำกำไรตอนที่คนลืมไปแล้ว

ความคิดของคนรวยนี่ไม่เหมือนใครจริงๆ

จังหวะสำคัญจริงๆนะ เพื่อนผมตอนแรกเรียนจบมาทำขายส่งกับที่บ้านก็ก๊อกๆแก๊กๆมีกินมีใช้ พอได้บวชสักพักได้ไปข้องเกี่ยวกับพระเครื่อง ทั้งที่เป็นคนไม่เคยสนใจด้านนี้มาก่อน ตอนนี้เป็นเซียนพระลอยตัวไปละ

พูดหยาบ ไม่เพราะครับ ถ้าพูดเพราะ ๆ ต้อง จังครับ

จังหว่ะ คือ เราอยู่ถูกที่ถูกเวลาในช่วงที่โอกาสทองมาถึงเราพอดี บางคนมีจังหว่ะแบบส้มหล่น ไม่ได้ขวนขวายมันก็มาหาเอง

เรื่องจังหว่ะชีวิตมีเคสนึงเป็นซูดเปอร์จังหว่ะชีวิตเลย แต่ข้อมูลตัวเลขอาจคลาดเคลื่อนเพราะผมฟังมาเมื่อเกือบยี่สิบปีที่แล้ว นั่งกินฟูจิกับรุ่นพี่คนนึงแล้วเขาเล่าให้ฟัง
รุ่นพี่คนนี้เป็นเจ้าของกิจการโรงโม่หิน ก็คุยกันเรื่องทำงานเหนื่อยเหลือเกิน อยากดวงดีเหมือนเพื่อนของเขาอีกคน เพื่อนคนนั้นเรียนจบแล้วไม่ทำงานอะไรเพราะบ้านรวย มีเงินทองเหลือเฟือแล้ว วันหนึ่งนัดกินข้าวกันเพื่อนบอกว่าซื้อที่ดินไว้แปลงนึงไม่แน่ใจว่าเป็นแถวพระรามเก้าหรือมักกะสัน แต่เป็นบึงเก่า และที่ดินตาบอดด้วย ซื้อไปกี่ล้านจำไม่ได้แล้ว สัก 5-10 ล้านนี่แหล่ะ เพื่อนๆ ก็ด่าว่าบ้าหรือโง่กันแน่ไปซื้อบึงมาทำไม ค่าถมเท่าไหร่ แถมเป็นที่ดินตาบอดอีก เพื่อนคนนั้นก็เฉยๆ
ช่วงเริ่มโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินสายแรก ก็มี ผรม.มาเสนอว่าอยากถมที่มั้ย เขามาถมให้ราคาถูกๆ เจ้าของที่ดินก็เฉย ใครก็ว่าทำไมไม่เอาดินราคาถูกแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตร พอเจ้าของที่ดินเฉยทาง ผรม.ก็ต้องอ่อนให้ มาเสนอใหม่ว่าขอเอาดินมาถมให้ ปรับและบดอัดให้เรียบร้อย และแถมเงินให้ด้วย งานนั้นถ้าจำไม่ผิดน่าจะได้มาหลักร้อยล้าน
ในมุม ผรม.เขาก็กำไรเพราะตอนคิด BOQ เขาคำนวณจากขนดินไปทิ้งนอกเมือง พอเปลี่ยนเป็นทิ้งในเมืองใกล้ๆ แม้จะจ่ายเงินเยอะแต่ก็ลดต้นทุนมหาศาล ขณะที่เจ้าของที่ดินเหมือนถูกรางวัลที่ทุกใบหลายๆ งวดเลย
เท่านั้นยังไม่พอ มีการปรับผังเมืองอีก แล้วก็มีถนนเส้นใหม่ตัดผ่านที่ดินที่เคยเป็นบึง ได้ค่าเวนคืนพร้อมกับที่ดินจากตาบอดมืดสนิทกลายเป็นที่ดินติดถนนใหญ่ ราคาพุ่งปรี๊ด

พี่คนที่เล่าเป็นคนธรรมะธัมโม เขาสรุปว่าบุญวาสนาแบบนี้แข่งกันไม่ได้ ถ้าอยากได้ต้องสร้างวันนี้แล้วไปรอผลชาติหน้าๆ โน้นเลย

ลองหาหนังสือเรื่อง Good to Great มาอ่านดูครับ มีพูดเรื่องนี้เลย

เปรียบกับฟุตบอลเลยครับ

คุณต้องสร้างจังหวะและโอกาส และถ้ามันมาคุณจะต้องเตรียมพร้อมคว้ามั่นให้ได้

จริงอยู่ว่าจังหวะพวกนี้มีโชคเป็นส่วนประกอบ แต่มันน้อยนิดมาก สิ่งสำคัญคือคุณต้องรู้ว่าคุณจะทำอะไร เป้าหมายเป็นยังไงและถึงเมื่อไหร่ เมื่อนั้นคุณจะสามารถคำนวณได้คร่าว ๆ ว่า จังหวะมันจะมาเมื่อไหร่

และการที่จะสร้างจังหวะได้ คุณต้องมีองค์ความรู้หลายอย่างมากครับ

สารคดี The playbook ตอน Mourinho แกก็พูดเรื่องของจังหวะครับ และแกให้ความสำคัญมาก

เช่น ถ้าผมรู้จัก บิทคอยตอนไม่มีราคาเลยนะ เอายุค 5000btcแลกพิซซ่า ถาดนึงก็ได้ ปานนี้จังหวะผมคงจะ ตรั่บๆ

1ในหลายล้านวิธีแบบใน endgame มั้ง มีเรื่องเล่านะ เจ้าของห้างอดีตเคยดังจังหวัดนึง ไม่เเน่ใจว่าแต่ก่อนแกขายอะไรระหว่าง หนังสือพิมพ์กับล็อตเตอรรี่ นี่แหละ แล้วดันถูกรางวัลใหญ่เลยมาขายหนังสือพอขายหนังสือเสร็จเห็นในจังหวัดไม่ค่อยมีห้างทันสมัยเลยทำห้างจนรวยเรียกว่าสบายจนวันสุดท้ายของชีวิตคุณว่าจังหวะมั๊ยละ

กับอึกคนจังหวัดเดียวกันจากเซียนพระจากจนๆเลยไปนั่งกินเหล้าบ้านเพื่อน คราวนี้น้ำจิ้มซีฟู๊ดเพื่อนทำอร่อยเลยขอสูตรมาปรับปรุงนิดหน่อย +กับร้านขายอาหารทะเลซีฟู๊ดในยุคนั้นยังน้อยสรุปดังรวยอยู่พักใหญ่เลย

สำหรับผมจังหวะมันเหมือนกับการยิงประตูฟุตบอลอะ ลูกบางลูกคนจ่ายถวายพานมาให้แต่เราดันยิงออก ลูกบางลูกคนจ่ายจ่ายดีแต่เราเข้าไม่ถึง ลูกบางลูกได้โหม่งเต็มหัวเเต่ติดลูกากู(หยอกๆ) ลูกบางลูกอยู่ดีๆดันเข้าเท้าได้ประตูสวยๆซะงั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นโอกาสแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าเราไม่ฟิตพอจะลงเล่น ดังนั้นเราจึงควรทำทุกวันให้ดีที่สุดเตรียมพร้อมและมองหาช่องยิงประตูหรือโอกาสเติบโตอยู่ตลอด

ตัวอย่างจังหวะไม่ดีในชีวิต

1. มีความรู้ แต่ ณ ตอนนั้น ไม่มีเงินมากพอ

สมัยเรียน high school กลับมาเที่ยวไทย สมัยก่อนยังไม่มี community mall เยอะแบบทุกวันนี้ในเมืองไทย ยังมีแต่ ห้างที่เป็นห้างจริงๆไปเลย มีidea ว่า ถ้ามีที่เปิดตามเมืองนอก รวยแน่ๆ แต่วันนั้น ไม่มีเงินมากพอ ไม่มีที่ ไม่รู้จักคน สรุป ไม่ได้ทำ

2. มีความรู้ มีโอกาส จังหวะไม่ดี

เริ่มทำธุรกิจเอง ค้าขายสินค้าเพื่อสุขภาพ ต้นทุนต่ำ margin สูง operation lean สุดๆ กำลังบูม ปีเดียว เจอโควิด เริ่มใหม่หมด

ตัวอย่างจังหวะดีๆในชีวิต

1. เพื่อน ที่บ้านทะเลาะกัน ทำกิจการเช่ารถที่จังหวัดนึง ก็ร่ำรวยแหละ แต่วุ่นวาย เกิดจังหวะดีปิดกิจการแบ่งเงินกัน เพื่อนเอาเงินมาก้อนนีง ซื้อที่ทำ apartment ปีถัดมาบูมพอดี นี้ไม่ต้องทำมาหากินเกิน 20 ปีแล้ว รายได้เดือนนึงเกินล้าน ใช้ชีวิตได้ทุกที่บนโลก

2. คนรู้จัก ตกงานเพื่อนให้ช่วยทำ school agency เห็นช่องทาง จับเสือมือเปล่า ได้เงินก่อนทำงานที่หลัง พาไปรู้จักคน ทุกวันนี้ทำมา 10 กว่าปี ไม่ต้องลงทุนก่อนสักบาท

คนจะรวยทั้งชาติ รอแค่จังหวะดีๆครั้งเดียวปังๆ แต่ต้องยอมรับไม่ใช่ว่าทุกคนมีโอกาสได้เจอจังหวะนั้น พอๆกับถูกหวยนั้นละ แต่โอกาสสูงกว่า เพราะเกินกว่าครึ่งเราสร้างเองได้ ถ้าโอกาสนั้น ผู้แข่งขันในตลาดต่ำ โอกาสโดน jackpot ก็สูงกว่า แค่นั้นเอง

เก่ง+เฮง+โอกาส=รวย

โอกาส+ความพร้อม=รวย

เก่ง≠เฮง

จังหวะชีวิต
ช่วงนึง ผมก็เคยผ่านจุดนั้นมา จับเงินก้อนโตในระยะเวลาสั้นๆ เพราะสิ่งที่ตัวทำอยู่ แล้วพอเก็บเงินได้ถึงจุดนึง ก็เลิก เอาเงินไปลงทุนทำสิ่งที่ตัวเองฝัน ณ ตอนนั้น
.
..
สรุป เจ๊ง

เมื่อก่อนโอกาสมันเต็มไปหมด
อยู่แค่ไปคว้ามารึเปล่า มีคนพร้อมช่วย เพราะทรัพยากรมันไม่พอ
สมัยนี้ทรัพยากรเหลือเฟือ อยู่แค่ว่าผลตอบแทนคุ้มมั้ย

ผมรู้จักคนหลายคนมากที่เมื่อก่อนจับธุรกิจที่เข้าง่าย รวยง่าย
รวมทั้งที่บ้านผมด้วย
ทั้งรถบรรทุก เฟอร์นิเจอร์ รับเหมา ฯลฯ

เจ๊งไปเท่าไรคับ