[RE: ผมว่านะให้เเต่งไปรเวทเเบบมหาลัยก็ไม่จบ]
TH3.R3FR3SH พิมพ์ว่า:
ลูกไก่ในกำมือ^ พิมพ์ว่า:
TH3.R3FR3SH พิมพ์ว่า:
ลูกไก่ในกำมือ^ พิมพ์ว่า:
TH3.R3FR3SH พิมพ์ว่า:
ลูกไก่ในกำมือ^ พิมพ์ว่า:
niali พิมพ์ว่า:
LoversMoon พิมพ์ว่า:
niali พิมพ์ว่า:
นึกถึงตัวเราในวัยเด็กเถอะ ในทุกๆวันก่อนไปโรงเรียนมันต้องมีสักครั้งในสัปดาห์ที่เราจะกังวลใจว่าวันนี้กูแต่งตัวครบเรียบร้อยยังวะ
พรุ่งนี้ครูจะตรวจผมมั้ยวะ แล้วมันวนลูปกลับมาเป็นรอบๆเป็นความกังวลที่กลายเป็นความเคยชินจนเราๆรู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติ
เคยลองสมมติลองนีกกันบ้างมั้ยว่ามันจะดีแค่ไหนถ้าวันนี้ที่กำลังจะออกจากบ้านไม่ต้องมีเรื่องกังวลใจเลยว่าต้องแต่งชุดอะไรหยิบในตู้ตัวไหน
ใกล้มือก็ใส่ๆไป
ในโรงเรียนเราจะต้องการความมีระเบียบเรียบร้อยไปทำไมครับ ตลอดระยะเวลากว่า 90 ปี นับจากมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองมา
เราไม่เคยใส่ใจในสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างแท้จริงเลย เพราะพวกเราล้วนถูกตีกรอบ ถูกกดขี่ จนชินชาอยู่ทุกๆวันเริ่มตั้งแต่เรียน
อนุบาลเลยด้วยซ้ำ อยากเห็นประเทศไทยเปลี่ยนแปลงแต่พวกคุณกลับพยายามจะให้เด็กๆเค้าเติบโตผ่านระบบโรงเรียนเดินตามรอยพวกเรา
มาเลยเนี่ยนะ พวกคุณฝันไปแล้ว กว่าพวกเราจะตระหนักรู้ในสิทธิและเสรีภาพของเราอย่างจริงจังหลายคนก็แก่เกินจะสู้เพื่อความ
เปลี่ยนแปลงแล้ว ถ้าปราถนาจะสู้กับเผด็จการเด็กๆเหล่านี้คือกลุ่มคนที่เราควรต้องฝากความหวังเอาไว้แต่พวกคุณกลับอยากขีดเขียน
ตีกรอบให้เค้าเดินตามก้นโดนกดขี่ โดนริดรอนสิทธิตั้งแต่เด็กแบบเรามา แบบนั้นจะมีสักกี่คนที่จะสามารถตระหนักรู้แล้วมาถูกทางกัน
100 คน จะมาทางนี้สักกี่คน
ทำไมไม่ลองช่วยพวกเค้าให้ก้าวออกจากกรอบเดิมๆ ตั้งแต่ตอนเรียนหล่ะครับ ถามใจพวกคุณดูว่าในโรงเรียนที่พวกคุณเรียนๆกันมาน่ะ
เผด็จการหรือประชาธิปไตย
หรือพวกคุณคิดว่าวันนี้ประชาธิปไตยชนะแล้ว?
ถ้าพวกคุณคิดแบบนั้นก็เตรียมรอดูรัฐประหารครั้งหน้าได้เลย
ผมกลับตรงกันข้ามเลย โรงเรียนผมใส่เสื้อนักเรียนหรือเสื้อพละสลับวันกัน ทุกเช้าหยิบง่ายและเร็วไม่ต้องเลือกชุดมาก
แต่วันเสาร์เป็นวันเรียนพิเศษและทำกิจกรรม ผมค่อนข้างขี้อายเลือกชุดไปรเวทนานมาก แล้วมีแต่เสื้อเก่าๆ ตอนเด็กค่อนข้างจน มีวันนึงใส่เสื้อลายสก็อตเพราะคิดว่าเท่ห์โดนเพื่อนแซวทั้งวัน ถ้าย้อนกลับไปได้ผมอยากใส่ชุดนักเรียนมากกว่า ไม่อยากมาเลือกชุดไปรเวทใส่ตอนเช้า
สมัยผมเรียนมัธยม เรื่องล้อ แซว บูลลี่มีประจำ อย่าได้มีช่องเป็นล้อเพื่อน ส่วนมหาลัยควรใส่ชุดอะไรก็ได้ เพราะโตๆกันแล้ว
แต่ชุดลูกเสือกับทรงผมเห็นด้วยว่าควรยกเลิกไป
ย้อนกลับไปคุณก็ยังมีสิทธเดิมครับ แต่เพื่อนๆคุนที่เค้าอยากแต่งชุดอะไรก็ได้เค้าก็ยังไม่มีสิทธิไงครับ
เค้าให้ยกเลิกการบังคับแปลว่าถ้าคุณสะดวกใส่ชุดนักเรีน คุณก็ใส่ ถ้าเพื่อนอยากใส่ชุดไปรเวทเพื่อนก็ใส่
จริงๆชุดนักเรียนมันมีข้อดัของมันอยู่นะ เพราะมันคือการเเสดงตัวตนว่าคนๆนี้เป็นนักเรียน เรื่องความปลอดภัย ราคาถูกเมื่อเทียบกับระยะเวลาที่ต้องสวมใส่ สะดวกในการจำเเนกเเละไม่เเสดงถึงความเหลื่อมล้ำ
มันขึ้นกับว่ามองมุมไหนมากกว่า
ส่วนคำว่ายกเลิกการบังคับเนี่ยโดยส่วนตัวมันคือกึ่งการยกเลิกชุดนักเรียนนั่นเเหละ ผมไม่เห็นประเทศไหนนะที่ในสถาบันระดับเตรียมอุดมจะเลือกได้ 2 ยูนิฟอร์ม ถ้าได้ยูนิฟอร์ไปรเวท ชุดนักเรียนก้จะตายหมด หรือถ้าใช้ชุดยูนิฟอร์มนักเรียน ไปรเวทก้จะตายไปอยู่ดี
โดยส่วนตัวจริงๆผมอยากให้ปรับยูนิฟอร์มนักเรียนมากกว่าเป็นเเบบกึ่งทางการ หลักการเดียวกับวิศวะสวมชอปนั่นเเหละ เพราะเอาจริงๆชุดนักเรียนมันก้มีประโยชน์ในตัวของมันอยู่
ผมถามจริงๆนะครับ คือต้องชุดนักเรียนเท่านั้นหรอครับเหรอครับที่จะชี้วัดได้ว่าบุคคลนี้เป็นนักเรียน แล้วที่ท่านว่าถูกนี่ถูกสำหรับใครครับ สำหรับครอบครัวท่านเองหรือเปล่า แล้วครอบครัวที่เขามีภาระความจำเป็นทางอื่นมากกว่า ต้องมาเสียค่าใช้จ่ายตรงนี้ อันนี้ยังถูกต้องชอบธรรมและราคาถูกสำหรับเขารึเปล่า?
แล้วไอที่ว่าปลอดภัยอะ มีกี่ข่าวแล้วครับที่มีผู้เสียหายเป็นเด็กนักเรียน ใส่ชุดนักเรียน ตระหนักถึงตรงจุดนี้มั้ยครับตอนบอกว่าปลอดภัย
ละคุณรู้ได้ไงครับว่าชุดนักเรียนแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำได้จริงๆ ถามจริงๆเลยครับกี่ครอบครัวแล้วครับที่ถูกดูแคลนด้อยค่าแค่ว่าชุดนักเรียนถูกใช้ซ้ำจากพี่ๆน้องๆของตัวเอง แค่เปลี่ยนรอยปัก
กี่บุคคลแล้วครับที่โดนมองแปลกๆเพราะแค่ว่ารองเท้านักเรียนเก่า ถุงเท้าเป็นรู
บุคลากรทางการศึกษากี่ท่านแล้วครับที่ตัดสินฐานะทางบ้านของนักเรียนจากสิ่งที่คุณเรียกว่ายูนิฟอร์มที่มันไม่เหลื่อมล้ำ แล้วไปให้ฉายาเด็กคนนู้นคนนี้ตามลักษณะของชุดที่ชำรุด
เคยรู้เรื่องราวบ้างมั้ยครับว่าในบางพื้นที่เนี่ยเขาไม่มีโอกาสได้เข้าเรียนเหมือนกันกับคุณหรอกนะ เหตุผลเพียงเพราะว่าไม่มีชุดนักเรียนในการใส่ไปเรียน
ฉะนั้นอย่ามาพูดว่ามันช่วยเรื่องความเหลื่อมล้ำหน่อยเลยครับ ไอแค่ว่าท่านไม่เคยประสบเหตุการณ์พวกนี้โดยตรงไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีปัญหาและควรดำรงอยู่ต่อไปสำหรับผู้อื่นครับ
เอ้อละที่ไปเปรียบเทียบกันกับชุดช้อปวิศวกรน่ะ มันไม่ควรยกเอามาเปรียบเทียบเลยครับ เพราะมันคือเครื่องแต่งกายเชิง function การใช้งานต่างกันเยอะครับ
ก้ไม่จำเป็นต้องเป็นชุดนักเรียนไงครับ เเต่ผมบอกถึงประโยชน์ของชุดนักเรียนว่ามันระบุถึงสถานะของนักเรียนได้ เเล้วมันผิดตรงไหน?
เรื่องค่าใช้จ่ายผมถามหน่อยเเล้วชุดไปรเวทไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายรึไง? ดีไม่ดีเสียมากกว่าด้วย เเสดงถึงความเหลื่อมล้ำมากกว่าอีก ชุดนักเรียนชุดนึงใช้ยาวๆได้ 3 ปี ถ้าใครไม่มีชุดใส่ไปรเวทซ้ำๆทุกวันถามจริงจะไม่รู้สึกน้อยใจเหรอกับตัวเด็กน่ะ?
คำว่าปลอดภัยหมายถึงการคัดกรองคนที่จะเเดินเข้าในนสถานศึกษา ตีไปประเด็นไหนล่ะเนี่ย ถ้าคิดเเบบนี้งั้นก้ยิ่งต้องเอาเเบบอเมริกาเป็นเเบบอย่างมั้ยที่คนนอกเข้าไปกราดยิง รึยังไง?
ไอเรื่องความเหลื่อมล้ำที่ท่านยกมา ชุดไปรเวทก้หนักกว่าทั้งนั้น รองเท้าเก่าเเล้วรองเท้าไปรเวทเก่าไม่ได้หรอ ชุดใช้ซ้ำเเล้วไปรเวทหลายๆคนก้เเบ่งกันใส่กับคนในครอบครัวด้วยซ้ำ เเล้วมันจะต่างยังไงที่ยกๆมา ผมล่ะงงตรรกกะตรงนี้จริงๆ เเต่ไปรเวทมันหนักกว่าตรงเครื่องประดับ ยี่ห้อ ถ้าจะพูดต้องพูดเรื่องนี้ ไม่ใช่พูดเรื่องเก่า/ขาด ไปรเวทมันเก่า/ขาดได้ทั้งนั้น
ไอชุดชอปนี่ท่านก้ไม่เข้าใจประเด็นอีก มัน functional มั้ยก้ใช่ เเต่ถามคนเรียนวิศวะส่วนใหญ่สิที่ใช้เพราะมัน functional หรือสะดวก เพราะผมเรียนวันที่ไม่ลงชอปผมก้ใส่เพราะมันใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ได้ ถ้าใส่ชอปคือถูกระเบียบของสถานที่ก้เเค่นั้น เพราะระเบียบของสถานศึกษาให้ส่ชอปเข้าเรียนได้เเทนชุดนักศึกษา วันที่มีเเค่เเลคเชอร์ผมก้ใส่ชอป เเล้วผมใช้ฟังก์ชั้นของชุดชอปมั้ย ก้ไม่นิ
เเล้วก้เลิกซะนะไอนิสัยประชดประชันใช้อารมณ์เนี่ย เค้าคุยกันดีๆด้วเยหตุผลนี่อารมณ์มาคุเลย
ประเด็นแรกก่อนเลยนะครับ ถ้าการที่ผมเอา facts มาถกในข้อโต้แย้งของคุณ คือ=การประชดประชัน การใช้อารมณ์
นั่นมันคือปัญหาในการตีความส่วนตัวของคุณแล้วครับ ข้อเท็จจริงที่เคยเกิดขึ้นในสังคมเน้นๆเลยที่ผมได้กล่าวถึงไปข้างต้น
ก็นั่นไงครับ ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นชุดนักเรียนก็บอกได้นี่ครับว่าเป็นนักเรียน ดังนั้นเรื่องการระบุตัวตนก็ไม่ใช่ประโยชน์เฉพาะอย่างเดียว
ของชุดนักเรียน ชุดอื่นแต่มีอุปกรณ์หรือตัวชี้วัดอื่นก็ถือยกเรื่องประโยชน์ส่วนนั้นได้ไงครับ
เรื่องค่าใช้จ่าย ใช่ครับที่คุณกล่าวว่าชุดไปรเวทมันแพงกว่าในบางชุด ก็ถูกต้องครับ ขาดได้ เก่าได้ ใส่ซ้ำได้ เหมือนกับกับชุดนักเรียนมั้ย ถูกต้องหมดเลย ใช่ครับที่คุณพิมมาทั้งหมดมันเป็นเหตุผลได้ทั้งหมดเลยครับในด้านกลับกันที่เขาเรียกร้องกันมา หรือที่เรียกร้องอยู่
นี่ไง ท่านก็เข้าใจนี่ครับ ว่ามันไม่ใช่ปัญหาที่ต้องมา fixed ว่าต้องเป็นยูนิฟอร์มนักเรียนในการเข้าเรียนอยู่นะ อย่างปัจจุบัน
อะทีนี้ว่ากันต่อนะครับ ชุดไปรเวทแพงไม่แพง เครื่องประดับการแต่งกายต่างๆในส่วนอื่น อยู่ที่ตัวบุคคล ตัวครอบครัวที่จะเลือกใส่เลือกซื้อครับ ชุดไปรเวทที่ราคาถูก ทนทานกว่า ไม่ฉีกขาด ไม่เป็นรู ไม่หมองหรือเหลืองถ้าซักรวมกันกับผ้าสี ทางเลือกในการเลือกใส่มันมีมากกว่าชุดนักเรียนที่ปรับขึ้นราคามาเรื่อยๆแล้วตัวเลือกที่มันราคาถูกมันไม่ได้มีมากเท่าชุดไปรเวทไงครับ ผมพูดถูกไหม? อะอันนี้ยกแค่ความ diversity ในการเลือกแต่งกายนะครับ
แล้วในแง่ของการใช้งานนะครับ ตัวชุดไปรเวทมันก็ใช้งานได้หลากหลายกว่าทั้งการใส่อยู่บ้าน ใส่ไปห้าง หรือใส่ไปทำอะไรต่ออะไรก็ตามแต่ นั้นเท่ากับว่าการลงทุนซื้อเครื่องแต่งกายนั้นๆมันครอบคลุมการใช้งานในการใส่ไปเรียนได้ด้วย ทีนี้คุณเห็นภาพมั้ยครับเรื่องข้อจำกัดของชุดนักเรียนในข้อแตกต่างนี้ หรือถ้าอยากให้ยกตัวอย่างเพิ่ม ผมพิมให้ได้อีกนะครับ
เรื่องการคัดกรองความปลอดภัยในการเข้าสถานที่ด้วยชุดนักเรียน ผมว่ายุคสมัยนี้แล้ว มันมีทางแก้ปัญหาทางอื่นได้อีกนะครับนอกเหนือไปจากการคัดกรองด้วยชุดนักเรียนอย่างที่ท่านว่ามา การใช้เทคโยโลยีสแกนหน้าเข้าไปเช็คกับฐานขัอมูล หรือจะเป็นเทคโนโลยีที่ทำเข้าไปในบัตรนักเรียนแล้วตรวจสอบก็เป็นอีกหนึ่งวิธีครับ
แล้วเหตุที่ท่านยกตัวอย่างมากราดยิงในเมกาเนี่ย ความผิดจริงๆมันอยู่ที่ชุดไปรเวท หรือความปลอดภัยด้านอื่นหรือครับ ถ้าเอาเคสนี้ยกมาผมก็ให้ตัวอย่างได้เช่นกันไงครับว่าตามข่าวที่ผ่านมามันก็มีเยอะแยะนิครับที่เป็นคู่อริใส่ชุดนักเรึยน รรนั้นๆเข้าไปสวมรอยก่อเหตุ แบบนี้คือชุดนักเรียนยิ่งเป็นจุดอ่อนในการใช้งานเข้าไปก่อการร้ายไหมครับ เพราะท่านพูดมาว่าแค่ใส่ชุดนักเรียนก็ผ่านการคัดกรองได้แล้ว แบบนี้หวานเลยไหมสำหรับคนที่คิดจะทำเรื่องไม่ดี ถ้าพูดถึงเรื่องชุดกับการก่อเหตุอะครับ
เรื่องชอปใช่ไงครับ มันแล้วแต่บุคคลเลยจะเลือกใส่เพราะความสะดวกสบายไม่ต้องใส่นักศึกษา หรือไม่ใส่แล้วไปใส่ชุดอื่น แต่มันก็มีส่วนของคนที่ใช้เพราะ function ต่างๆที่ชุดมีให้ในการใช้งานทำชอป ทำแลป กลับกันชุดนักเรียนมันไม่ได้จำเป็นนี่ครับว่าต้องกำหนดในการสวมใส่ ในการใช้งาน เพราะตัว function ที่มีในชุดมันไม่ได้เหมือนกันกับชอป ความหนาบางของเนื้อผ้าก็ต่างแล้วครับ ดังนั้นผมคิดว่าไม่ควรเอามาเทียบกันนะ ไอที่คุณยกมาเทียบคือในด้านการใส่เข้าเรียน ซึ่งมันก็ไม่ใช่ purpose หลักของการผลิตชุดชอปมาใช้งานนี่ครับ
มาถึงเรื่องที่สำคัญที่สุดใน context นี้อย่างเรื่องความเหลื่อมล้ำนะครับ หนักกว่าไม่หนักกว่าคุณเอาอะไรมาเป็นเกณฑ์วัดเหรอครับว่าไปรเวทมันหนักกว่าชุดนักเรียน ใช้อะไรมาเป็นมาตราวัดกลางในเรื่องนี้ ไม่ว่าชุดอะไรที่ท่านเลือกสวมใส่ มันก็เกิดความเหลื่อมล้ำได้้ทั้งหมดเลยครับในสังคม ดังนั้นการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม ไม่ว่าจะเป็นสังคมเด็กเองก็ตาม ก็ไม่ได้สามารถแก้ไขได้ด้วยชุดนักเรียนตามที่ท่านกล่าวมาไงครับ มันคือเรื่องของตัวสังคมตัวบุคคล ไม่ใช่ตัวชุดครับ ส่วนเรื่องรองเท้าไปรเวทเก่า ฉีกขาดเป็นรูได้ไหม ผมกล่าวไปแล้วข้างต้นให้เรื่องชุด แต่ผมให้ข้อมูลอีกรอบก็ได้ครับ อย่างรองเท้าแต่ละประเภทมันก็มีราคา มีความทนทาน การใช้งานที่แตกต่างกันไปถูกมั้ยครับ ดังนั้นทำไมต้องมากำหนดว่าต้องเป็นรองเท้านักเรียนที่มีตัวเลือกไม่กี่ยี่ห้อ อีกอย่างความทนทานมันก็ไม่ได้ดีมากขนาดนั้น ในแง่ของการใช้งานก็แทบจะแบนราบ เพราะแทบหาประโยชน์ในการใช้งานด้านอื่นไม่ได้เลย ผู้ชายอย่างเราอาจจะดีหน่อยเอาไปเล่นฟุตซอล หรือกีฬาด้านอื่นได้ แล้วมองในแง่ของรองเท้าหญิงล่ะ คุณคิดว่าเขาใส่ไปทำไรเพิ่มเติมได้อีกหรอครับ
ในเรื่องทางด้านจิตใจ กับการใส่ชุดซ้ำ ส่วนตัวผมชอบชุดไหนผมก็ใส่ซ้ำๆได้นะ ไม่เห็นรู้สึกว่าเชย หรือน้อยใจเพื่อนรอบข้าง อันนี้เป็นเรื่องทางด้านจิตใจ ความชอบพอของแต่ละคนครับ ผมไม่สามารถไปตัดสินแทนจิตใจใครได้ และผมไม่ได้คิดจะทำด้วยครับ
point หลักคือสามารถไปเข้าเรียนได้ ไม่ต้องมาโดนจำกัดด้วยการแต่งกายเป็นชุดใดชุดหนึ่ง ผมว่ามันเป็นประโยชน์ต่อผู้ด้อยโอกาสหลายๆท่านในสังคมมากกว่านะครับ
ถ้าท่านอ่านถึงตรงนี้แล้วยังมองว่าการที่ผมยก facts มาโต้ท่านในด้านต่างๆโครมๆ เป็นการใส่อารมณ์ เป็นเรื่องประชดประชันก็ไม่ต้องมาโควทผมกลับอีกรอบแล้วก็ได้ครับ มันคงอ่านแล้วลำบากใจท่านในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเปล่าๆแหละ
ประชดประชันรึไม่รู้อยู่เเก่ใจ สำนวนการพิมพ์ก้เห็นอยู่ว่ายกตนข่มคนอื่น เหมือนตัวเองมีปมด้อยเเล้วอยากให้คนอื่นรู้ด้วย ดูประวัติตอบเก่าๆก้พอเห็น อะไม่คุยเรื่องนี้ก้ได้
เเล้วเหตุผลที่ยกมามันยังไงหว่า ผมไม่ได้ถามประโยชน์ของชุดไปรเวท ในนี้ก้ไม่มีใครถาม พูดเพื่อ?
ตัวเองบอกเหมือนเคยถูกคนอื่นดูถูกเพราะใส่ชุดนักเรียนซ้ำๆขาดๆ อ้างขาดอ้างเเพง ราคาชุดนักเรียนเท่าไหร่ช่วงเซลล์ เเละที่สำคัญอย่างที่บอกไปคือมันต้องใส่ไปอย่างน้อยๆ 3 ปีเป็นอย่างน้อย เเต่สนับสนุนให้ใส่ชุดไปรเวทที่เเสดงความเหลื่อมล้ำได้ง่ายกว่า ตรรกะย้อนเเย้งมั้ยล่ะนั่น ไอเรื่องทนเรื่องคุณภาพไม่ใช่สาระไม่ได้มีใครเค้าถาม
เเล้วมาคู่อริเเทงกันอะไรเลอะเทอะ อันนั้นมันเป็นเรื่องของปัญหาตัวเด็กระหว่างสถาบัน ชุดมันอยู่ของมันเฉยๆมันผิดปะ? บางคนใส่เสื้อยืดก้โดนถ้าโดนหมายหัว เเล้วพวกนี้มันมีเหตุเฉพาะที่ไม่สมควรใส่อยู่เเล้ว อ้างอะไรไม่เข้าเรื่องเนอะ
เรื่องความปลอดภัยนี่ก้ยังไม่เข้าใจอีก คนนอกไม่ประสงค์ดีที่ไหนมันจะเดินเข้ามาเเสกนใบหน้า ยื่นบัตรนักเรียนในสถานศึกษา ตอบอะไรหัดอยู่กับควาเมป็นจริงหน่อย หรือจะให้ติดรั้วไฟฟ้ารอบโรงเรียนดี
บอกตัวเองชอบใส่ชุดซ้ำๆเดิมๆ งั้นก้ใส่ชุดนักเรียนไปดิได้ซ้ำ 3 ปี เลยกลัวอะไร หรือบางคนเค้าอาจจะไม่ได้มีประเด็นกับการใส้ชุดนักเรียนเก่าหรือขาดก้ได้ ทียังงี้ล่ะเสนอหน้าไปคิดเเทนเค้า พอเป็นตัวเองบอกเเล้วเเต่ความชอบส่วนตัว สรุปเอาไงเเน่?
ไม่ต้องโควทเเล้วมั้งผมว่า เเถอย่างเดียวเลย เรื่องชอปก้ยังไม่ตอบเนอะ เเต่ช่างเหอะ ยูสก้เก่าพอควรนะ วุฒิภาวะน่าจะมีมากกว่านี้
ยกเคสยกตัวอย่างให้อ่านก็ไม่เข้าใจจริงๆหรอครับ เห้อ อ่านแล้วคุณคงมีปัญหาด้านการตีความจริงๆแหละ แล้วทำเป็นบอกว่าให้คนอื่นเลิกประชดประชัน แต่ตัวเองยังพิมแซะ บ้าบอมากๆ

เป็นคนที่ย้อนแย้งสุดกู่เลยล่ะครับ เยี่ยมๆ
อ้อ แล้วก็ที่ผมพิมมาไม่ใช่ปมด้อยส่วนตัวหรอกครับ มาจากการที่ไปลงพื้นที่แล้วเห็นมากับตา ถามคุยมากับตัวเองครับ ไม่ได้อยู่แค่หลังคีย์บอร์ดแล้วมาด้อยค่าคนอื่นว่าเป็นปมด้อย ใครกันแน่ครับที่วุฒิภาวะไม่มี ดูการตีความ ตีกรอบต่างๆก็รู้แล้วล่ะทีนี้
ส่วนเรื่องสแกนหน้าก็จะบอกให้เป็นความรู้เนอะครับ ว่าไม่จำเป็นต้องยื่นหน้าไปสแกนครับ เชื่อมฐานข้อมูลเข้ากับกล้องวงจรปิดแล้ว link ระบบเข้ากับฐานข้อมูลเซิร์ฟเวอร์ก็พอแล้วครับ smartiOT ไม่ใช่เรื่องไกลตัวครับ 2023 แล้วนะครับ
ลงพื้นที่เเต่ยังเเยกไม่ออกว่าชุดไปรเวทเหลื่อมล้ำยังไงก้ถือว่าล้มเหลวครับ หรืออ้างว่าลงพื้นที่เเล้วเอาเวลาไปเเต๊ดเเต๋ทำอย่างอื่น
เเค่เรื่องชุดชอปยังไม่มีปัญญาตอบ อ้างเเต่เรื่องชุดนักเรียนเเพง (เเพงยังไง) อ้างรองเท้าขาด (รองเท้าทั่วไปก้ขาดเหมือนกัน) บอกใส่ชุดซ้ำๆได้ (ชุดนักเรียนก้ซ้ำ) ทีเเบบนี้เงียบกริ๊บไม่ตอบ 55555555555
ด้อยค่าไม่ด้อยค่าก้ไปลองย้อนอ่านที่ตัวเองพิมพ์สิ ปากบอกคนอื่นไม่รู้หรอกเพราะไม่เคยเจอไม่เคยเห็น เเล้วเเบบนี้ไม่เรียกว่าปมเหรอ หรือลืมว่าตัวเองพิมพ์อะไรไป555
ไอสเเกนใบหน้าเนี่ยเลิกพูดเห๊อะ เเค่ให้กล้องกทม.สเเกนทะเบียนรถได้ครอบคลุมก่อนเถอะ น้องเค้าเรียกร้องตอนนี้เเล้วตอนนี้ระบบมันรองรับรึยังล่ะ เอาจริงๆคือมีเเค่บางโรงเรียนที่ใช้กล้องสเเกนใบหน้าหน้าประตูจบ เเถมเป็นส่วนน้อยด้วย กล้องวงจรปิดในโณงเรียนมีเพียงพอรึเปล่าเถอะมาบอกให้ใช้กล้องวงจรปิดเนี่ย
ลงพื้นที่หรือไปเดินเล่นฟระเนี่ย