ข้อมูลที่ให้ไม่ตรงกันอีก แล้วของใครคือข้อมูลจริงละเนี่ย แต่ไปท่องทวิตภพมีให้สัมภาษณ์ว่าน้องไม่ขอเคารพธงชาติเพราะเป็นเพลงชาติที่มาจากเผด็จการ

ก่อนหน้านี้แม่ซัพพอร์ตครับ แต่พอโดน 112 น้องก็โดนตัดขาด ก็เป็นพวกนักกิจกรรมช่วยกันบ้าง แล้วน้องก็โดนจับเข้าสถานพินิจ ก็มีศูนย์ทนายเข้าไปช่วยเหลือ (อันนี้เผื่อใครไม่รู้ เงินที่ทุกท่านบริจาคบางส่วนได้แบ่งให้เป็นค่าใช้จ่ายระหว่างวันในระหว่างที่ถูกกุมขังด้วย)

ส่วนตอนนี้ก็คือ บุ้ง ที่เป็นผู้ปกครองดูแลอยู่ครับ ส่วนบุ้งเอาเงินมาจากไหนมาดูแลน้อง ผมก็ไม่ทราบ ทราบแต่ว่า

บุ้งเป็นลูกผู้พิพากษา

ตามที่อ่านมาคือ ไปในฐานะผู้ปกครองเพื่อให้หยกสามารถไปมอบตัวในวันมอบตัวกับทางโรงเรียนได้ครับ
ซึ่ง ผอ. ยืนยันมาแล้วว่า เขายอมให้บุ้งเป็นผู้ปกครอง เพื่อรับรองการมอบตัวเข้าโรงเรียนครับ

คือมันผ่านขั้นตอนการมอบตัวมาแล้ว แต่โรงเรียนมาแก้เรื่องนี้ทีหลังครับ

น้องก็เบาๆได้เบาก่อนลูกเอ้ยย

ผมว่าน้องควรจะเป็นฝ่ายถูกช่วยเหลือมากกว่าการที่จะมาเป็นแกนนำหรือถูกใช้เป็นเครื่องมือนะครับ ดูแล้วเค้ามีปัญหาพอสมควรเลย คนรอบข้างก็มีแต่นักกิจกรรม ถึงขั้นพ่อแม่ตัดคงมีอะไรมากกว่าที่เรารู้อีกเยอะแหละมั้ง

เค้ายอม แต่ถ้ามันต้องใช้เอกสารยืนยันมันก็ต้องทำตามกฎนั่นแหละ เพราะเค้ายังเป็นเยาวชนด้วย ทุกการตัดสินใจ พ่อแม่/ผู้ปกครอง ต้องอยู่ด้วย ผมถึงตั้งคำถามว่า ผู้ปกครองเนี่ย ได้ไปทำเอกสารให้ถูกต้องหรือยังที่จะมาใช้อ้างอิง เพราะมันต้องมีลายเซ็นยืนยันนะในเยาวชน

ไม่สิครับ ในความคิดผมคือ มันผ่านขั้นตอนการตรวจเอกสารมาครบหมดแล้ว
ทางโรงเรียนยืนยันมาแล้วว่า ขั้นตอนการมอบตัวจบแล้ว เอกสารและคุณสมบัติคุณผ่านแล้ว โรงเรียนรับเข้าเป็นนักเรียน แล้วเพิ่งจะมาย้อนเอาทีหลังว่าไม่ได้ ต้องให้ผู้ปกครองตัวจริงมายืนยัน ไม่ใช่หรือครับ

เหมือนเราเข้าทำงานกับ บริษัทใหม่ บ.ใหม่บอกว่า ok เอกสารคุณครบ ไม่มีอะไรตกหล่น
เข้าทำงานได้ แล้วอยู่ดี ๆ มาวันนึงทางบริษัทมาบอกว่า เอกสารรับรองที่ออกมาโดย line manager คุณใช้ไม่ได้นะ ต้องมีลายเซ็นต์ CEO ตอนนั้นแบบนี้ อันนี้ผมว่าน่าจะตรงกับกรณีของน้องเขามากกว่าครับ

ถ้ามันไม่ได้ ควรปฎิเสธการเข้ามอบตัวตั้งแต่แรกเลย ไม่ใช่เอาเหตุผลนี้มาอ้างย้อนหลังแบบนี้

เอาละไง นี่ผมควรเชื่อข่าวด้านไหนดีเนี่ย = ="

ฟังมาตอนแรกนี่หนังคนละม้วนกับอันนี้เลยนะครับเนี่ย

คนละเรื่องเลยครับ
กรณีน้องเค้าคือมีพ่อแม่ตัวจริง สถานภาพการมีชีวิตยังคงอยู่

ถ้าใครจะมาอ้างตัวเป็นผู้ปกครองจะต้องมีเอกสารยืนยันว่าคุณรับหยกเข้ามาอยู่ในการดูแล

กรณีเอกสารมีปัญหาเค้ามีสิทธิ์ที่จะเรียกตรวจสอบเอกสารอยู่แล้วไม่ว่าจะที่ไหน ต่อให้ตรวจเจอย้อนหลังเค้าก็มีสิทธิ์ที่จะเรียกตรวจ
มันถึงมีการตรวจสอบย้อนหลังกรณีปลอมแปลงเอกสารไง

ถ้าจะยืนยันนอนยันแบบนี้ ผมท้าให้ไปทำพาสสปอร์ตให้ผ่านดูครับ ถ้าคิดว่าใครจะมายืนยันก็ได้

ผมพูดในกรณีทุกคนไม่ใช่แค่เฉพาะตัวน้องหยก คุยกันในแง่หลักการ

กก
มีว่าที่ สส มากมาย งานนี้ต้องเข้าไปดูแลเยาวชนแล้วครับ

ก็เราคุยกันเรื่องกรณีที่โรงเรียนออกมาบอกว่า น้องไม่มีสิทธิมอบตัวเพราะไม่มีผู้ปกครองตัวจริงมายืนยันไม่ใช่หรือครับ

ผมก็เลยบอกไปว่า มันผ่านกระบวนการนั้นมาแล้ว วันที่ต้องมามอบตัวพร้อมคนอื่น บุ้งเขามาในนามผู้ปกครอง
แล้วผอ.ก็ยืนยันว่า เขาอนุโลมให้ แล้วมาตอนหลังจะมาบอกว่าผิดกฎ
ท่านไม่มองว่ามันแปลกหรือ เอ่อ ถ้าครั้งแรกบอกมาตั้งแต่ทีแรกเลยว่าไม่ได้ ก็จบไปตั้งนานแล้ว

ไม่เกี่ยวกับเอกสารผิดหรือว่าทำ passport อะไรเลยครับ มันคนละกรณีกันแล้ว
ทำ passport มันมีกฎระเบียบอยู่แล้วว่าต้อง submit เอกสารอะไรบ้าง 1 2 3 4
เรื่องตรวจสอบหลักฐานย้อนหลังนี่นี่ผิดประเด็นไปใหญ่

เขาไม่ได้ปลอมลายเซ็นต์ผู้ปกครอง หรือให้บุ้งถือใบมอบอำนาจแทนแล้วปลอมลายเซ็นต์ผู้ปกครองครับ
เขาแจ้งไปตั้งแต่ทีแรกแล้วว่า ของน้องเขาเป็นกรณีแบบนี้ สามารถมอบตัวได้ไหม โรงเรียนและผอ. บอกว่าได้


กรณีที่ท่านบอกคือ น้องเขาโกหกไปว่าบุ้งคือพ่อแม่ทางสายเลือด แล้วโรงเรียนมาจับได้ทีหลัง
อันนี้คือ เขาแจ้งตั้งแต่แรกแล้วว่า กรณีของน้องคือบุ้งขอเป็นผู้ปกครองสำหรับการมอบตัวแทน

ผมไม่ได้บอกว่าวิธีนี้ทุกคนจะเอามาใช้แทนได้ หรือถูกต้องตามระเบียบ แต่ผมจะบอกว่าทางโรงเรียนและ ผอ. ให้ผ่านโดยการให้บุ้งเป็นผู้ปกครองไปแล้วในวันมอบตัว

ทีนี้อยู่ที่ว่า ท่านจะคุยเรื่องไหนก่อน ระเบียบวิธีการทั่วไป หรือเรื่องการมอบตัวของน้องหยก
ถ้าเป็นเรื่องระเบียบทั่วไป ท่านต้องตั้งคำถามว่า ทำไมทีแรกผอ.ถึงรับรองการมอบตัวของหยกโดยให้บุ้งเป็นผู้ปกครองแล้วมาแก้ไขบอกว่าไม่ได้ทีหลัง