เหมือนผมที่ไปถามผีหม้อนึ่งเลย บอกว่าหัวรถไถที่สูบน้ำหาย ยายตัวเล้กๆอายุ 70 กว่า แกเอาเเรงที่ไหนมาบิดหม้อนึ่ง
ผมที่ถืออยู่อีกฝั่งถึงกับปวดแขง แกสบัดแรงมาก แล้วพอถาม ถ้าอันไหนใช่ก้สบัด พอไปดูอยู่บ้านคนนั้นจริงๆ

เรานิยามผี = ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ = สิ่งที่วิทยาศาสตร์ไม่่สามารถอธิบายได้ในปัจจุบัน
ถ้าเรานิยามแบบนี้ปัจจุบันมีผีเต็มไปหมดครับ

สมัยก่อนมีผีเยอะกว่านี้อีก เพราะมีสิ่งที่อธิบายไม่ได้เยอะกว่านี้
พระอาทิตย์ทรงกลด จันทรุปราคา สุริยุปราคา รุ้้งกินน้ำ เสียงก้องเวลาเราไปตะโกนที่หน้าผา
เสียงฟ้าร้องและอื่นๆอีกมากมาย

เอาแนวคิดผมนะ ผมเชื่อว่าดวงจิตของเราทุกอย่างมันเป็นพลังงานในรูปแปปนึงแต่มันเป็นพลังงานที่อ่อนมากเพราะมวล(ร่างกายมันไม่มีแล้ว) นี่คือเหตุผลที่คนจิตแข็งไม่เจอผี
แล้ววิทยาศาสตร์ในปัจจุบันยังไม่สามารถวัดได้ ทุกๆเหตุการณ์ในธรรมชาติที่เกิดขึ้นทิ้งร่องรอยของพลังงานไว้
แล้วมันมีคนที่ดัน Access ไปดู Trace ของพลังงานนั้นๆได้ ผ่านสมองของเค้า
(ว่ากันว่าสมองมนุษย์ปัจจุบันทำงานแค่ 5% ของ capacity ทั้งหมด ถ้าเราทำได้มากกว่านั้น เราก้อาจจะ Access ได้มากขึ้นในสิ่งที่เราไม่เคยทำได้

ส่วนพวกของตก ของขยับ:
สิ่งที่เดินทางข้ามเวลาได้คือ Gravity หรือความโน้มถ่วง มีผลทำให้ปริภูมิเวลาเปลี่ยนแปลงไป
เหมือนในหนังเรื่อง Interstella อะครับ

โดยสรุปคือมันเป็นสิ่งที่วิทยาศาสตร์ในปัจจุบันอธิบายไม่ได้ แต่มันเป็นเรื่องจริงของธรรมขาติแน่ๆ
เรากลัวเพราะเราไม่รู้ครับว่ามันคืออะไร เหมือนคนสมัยก่อนเห็นสุริยปราคาแล้วกลัว แต่ทุกวันนี้ไม่มีใครกลัวแล้ว

เรื่อง การหยั่งรู้ เมืองนอกก็มีการ วิจัยจริงจังนะครับ ที่เป็นวิทยาศาสตร์มากกว่า เรื่อง วิญญาณ อีกครับ

เรื่องผีๆ เค้ายังบอกแนวๆว่า เกิดจากสารเคมีในสมอง หรือ จินตนาการสมอง เพราะ ถ้าคนไม่เคยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับผีๆ หรือไม่เคยเห็นอะไรวัฒนธรรมชาติอื่น ก็จะเห็นผี ที่เป็นแค่ ชาติตัวเอง หรือ ที่เคยผ่านตาเท่านั้น

แต่เรื่องการหยั่งรู้ อย่างที่เพื่อนๆ หลายๆท่านบอก มันเหลือเชื่อไร้เหตุผลเกินไป รู้ได้ไง นี่แหละครับ วิทยาศาสตร์จึงให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ

พระที่ท่านได้ฌานสมาบัติจะรับรู้สิ่งที่เราเข้าไม่ถึงได้ครับ
ช่วงที่ผมเรียนสามเสน อ.อิฏฐ์ท่านบอกแม่ว่าผมหนีไปตีสนุกแถวสะพานควาย กลับมาโดนแม่ด่าเลย แต่ก็ดีทำให้ผมเลิกเล่นมาถึงทุกวันนี้

ฝากไว้หน่อย

ที่เคยเจอคือผมไปทัวร์กับคนรู้จักทั้งหมด รู้จักไกด์ด้วย ทีนี้ไปรร.นึงที่อังกฤษ ตอนเชคอินก็เอากระเป๋าของทุกคนวางไว้ในโรงแรมแล้วเดี๋ยวจะมีพนักงานโรงแรมมายกไปไว้หน้าห้องให้

ปรากฏว่ากระเป๋าของไกด์ไม่ได้อยู่หน้าห้อง ไกด์เลยลงไปหาfrontแจ้งเรื่องกระเป๋าหาย พอดีมีพี่ที่เป็นหมอดูชื่อดังคนนึงที่มาเที่ยวด้วยแล้วแกอยู่หน้าfrontพอดี แกเลยถามว่ามีอะไร สักพักแกก็บอกให้ไกด์ไปรอในห้องใจเย็นๆ เดี๋ยวสัก3ทุ่มจะมีคนเอาไปให้

ไกด์ก็ยังไม่เชื่อ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากรอ ทีนี้พอได้เวลา3ทุ่มแป๊ะกระเป๋าก็ยังไม่มา ไกด์เลยลุกจากเตียงว่าจะไปถามfrontอีกรอบ ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่โรงแรมมาเคาะประตูห้องเพื่อส่งกระเป๋า

ไกด์เลยไปเสิชชื่อหมอดูคนนี้ เพราะทีแรกไม่รู้ว่าเป็นหมอดู พอเสิชเลยพบว่าแกมีชื่อเสียงมาก

ส่วนตัวผมเองก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงกับเหตุการณ์นี้ อาจจะเป็นความบังเอิญก็ได้ แต่มันก็บังเอิญแป๊ะมากไปหน่อย

ไทยเรามีแต่คนเก่งๆเนอะ ทำไมไม่เป็นมหาอำนาจกับเขาซักที

ส่องชีวิต สี จิ้นผิง ชีวิต ไบเดน แล้วเอามาแบล็คเมล์มันได้ปะ

คนละจังหวัดครับ

ท่านพูดได้โคตรดี มีเหตุมีผล ผมเห็นด้วยครับ

แต่ถ้าถามเอาแบบแค่ความรู้นะ ผมเก่งวิทยาศาสตร์ ไม่ได้แปลว่าผมจะต้องรู็ เรื่อง สังคม การเมือง ดารา นักร้อง ฟุตบอล หรือแม้กระทั่ง คริปโต ผมคงไม่อาจตอบได้ทุกเรื่องบนโลกใบนี้

ถ้าเอาเรื่องณานสมาบัติ ที่ทำให้รับรู้ได้ คนที่คิดจะทำร้ายคนอื่นไม่มีทางได้มาแน่ ผู้มีณานนี้ต้องอยู่ในศีล สมาธิ
เป็นเหตุผลว่า ทำไมผู้มีณานทั้งหลายไม่คิดเป็นใหญ่
แต่ต้องแยกของจริงกับแอบอ้างด้วยนะครับ 90% ของปลอมทั้งนั้น หรือไม่ก็พวกที่ได้มาครองแล้วแต่เอามาอวดมาโชว์ เกิดยึดติดในคำสรรเสริญ เกิดกิเลศอื่นๆ จนณานเสื่อมไปแล้ว แต่ยังคิดว่าตัวเองยังรับรู้ได้หลอกตัวเองไปอีก

ประเทศที่พัฒนาแล้วก็มีความเชื่ออย่างเลข 13 ตึกหรือเรือสำราญในประเทศพัฒนาที่ไม่มีชั้น 13 ก็เยอะอยู่นะ

ขอpm ไปถามสถานที่และจังหวัดนะครับ

เอาญาณพวกนี้ไปติดต่อกับไอน์สไตน์ให้มาช่วยเขียนโปรแกรมที่เป็นนวัตกรรมใหม่ให้โลกหน่อยครับ

สรุปหมอดูเอากระเป๋าผิดไป ละไปคืรให้ที่ฟรอนท์3ทุ่มพอดี