นี่มันก้าวไกลหรือกระดองฟะ

ตรรกะว่าต้องตีเด็กถึงจะสอนได้นี่มันไม่ควรจะมีในยุคนี้แล้วนะ

แต่ผมไม่ใช่สลิ่มนะ กาส้ม 4 ใบด้วย

ส่วนผมกาตู่สองใบนะ แต่ไม่เอาเผด็จการ

กาส้มสองใบแล้วไงครับ
ทำให้เหตุผลที่คุณยกมามันน่าเชื่อถือมากขึ้นเหรอครับ
เหมือนยกตัวเองว่าเป็นคนดีย์ ฉันเป็นคนดีย์แบบนี้เหรอครับ
1. ใครถาม?
2.บอกเพื่ออะไร?
3.มันเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังคุยกันตรงไหน?

เวลาเจอกับคนที่ชอบบอกซ้ำๆว่าฉันเป็นคนดี ฉันรักชาติ ฉันชอบทำบุญ บลาๆๆ > รูัสึกเหมือนเค้ากำลังพยายามสร้างภาพอะไรบางอย่าง เพื่อปกปิดอะไรบางอย่างอ่ะ

เออจริง ไม่เห็นต้องบอกเลยว่า กา อะไร

มันอยู่ที่ ตรรกะล้วนๆ

มันทิ้ง trauma ไว้ในจิตใจได้นะครับ ความเจ็บปวดเมื่อถูกตี มัน ทางกายภาพมันก็หายได้ แต่ทางจิตใจ โตมามันก็ยังจำอยู่นะครับ

แล้วมันก็มีทางที่ดีกว่าในการสอน

ถ้าคุณไม่อยากให้ลูกเกเร ในนิยามของคุณ คือไม่เชื่อฟัง ต้องทำตามกฎทุกอย่าง

ก็เป็นหน้าที่ของคุณที่จะอบรมด้วยเหตุผล ด้วยการคิดวิเคราะห์ แยกแยะ

แล้วถ้าลูกเห็นต่าง เราก็ต้องรับฟัง แล้วสอนเขา บางที บางเรื่องเราเองอาจจะเป็นฝ่ายผิด เราก็ต้องรับฟังด้วยครับ

แน่นอน เราเป็นคน เราก็ต้องมีอารมณ์ บางครั้งเราก็อยากอบรมลูกด้วยวิธีที่เราเคยโดนมา

ก็ท่องไว้เสมอครับ แน่ใจแล้วใช่ไหม ว่าการอบรมครั้งนั้นด้วยการตี มันดีต่อลูกเราจริงๆ?

ผมพึ่งกินไปเมื่อกี้ครับ ไม่ไหวอากาศร้อนเลยจัดสลิ่มน้ำกะทิ ใส่ทับทิมกรอบกับเฉาก๊วยเพิ่ม

หงายการ์ดที่หมอบไว้ กาส้มสองใบ

ล่าแม่มดกันอีกแล้ว

ความเห็นคนเรามันไม่ไปทางเดียวกันหมดหรอก

บางคนดีได้เพราะตี บางคนดีได้เพราะพ่อแม่สั่งสอนดี ก็แล้วแต่ความเชื่อ

แต่ไม่ใช่ตีซะทุกเรื่อง ถ้าเรื่องมันไม่ถูกจริงๆ หรือผิดร้ายแรงก็ต้องตี

ออ ครับๆ มันเป็นอย่างงี้นี่เอง คำว่า สลิ่ม คือกลุ่มคนที่ไม่ยึดถือหลักสิทธิมนุษยชน นี่เอง

อ่านแค่หน้าแรกก็ขี้เกียจอ่านต่อล่ะครับ ไร้สาระมาก
ยิ่งโดยเฉพาะตั้งหลักจะฟาดกันอย่างเดียว มันสะท้อนชัดถึงการไร้การสื่อสารที่สมเหตุสมผลมาตั้งแต่เริ่ม

เมื่อคุณไม่ปลูกฝังให้เด็กคิด สักแต่จะหักเอาอย่างเดียว จะสั่งอย่างเดียว มันก็ชิหายหมดล่ะครับ



ปล. อ่านยังไม่พ้นหน้าแรก ก็ค่อนข้างชัดล่ะ ว่าอีโก้ค้ำคอสูงมากกกกกก

ไม่ได้ไปฝึกทหาร หรือ ฝึกกีฬาอะไร ทำไมต้องตึครับ
ไม่ทำการบ้านก็สั่งให้ทำแก้ ทำผิดหนักๆก็ฑัณบนไล่ออกไรก็ว่าไปฝ

แล้วจะมาพูดทั้งที่ ทำไมตัองออกตัวว่ากาส้ม 2 ใบครับ ไม่มีใครมาถามว่ากาพรรคไรเลย
เหมือนจะมาปกป้องตัวเองชัดๆ

สลิ่มไม่ใช่พรรคที่เลือก แต่อยู่ที่ความคิด สลิ่มส้มเองก็มีนะ

แต่จขม.นั้น ไม่รู้กาส้มจริงไหมนะ

สลิ่มเนี่ยความหมายมันกว้าง ยังไม่มีคำจำกัดความที่แน่นอน มันถูกจำกัดความจากการกระทำมากกว่าแนวคิดนะ

เช่น ถ้าคุณกินฉี่ เอาฉี่มาทาหัว คุณอาจเป็นสลิ่ม ถ้าคุณรู้สึกว่าขั้วการเมืองฝ่ายที่ตัวเองเชียร์จะทำอะไรก็ได้ เพราะเป็นฝ่ายพระเอกฝ่ายคนดี อันนี้คุณเป็นสลิ่ม ถ้าคุณสามารถด่าใครก็ตามที่ไม่รักอะไรเหมือนๆคุณ คุณเป็นสลิ่ม

ผมว่าสุดท้ายมันเป็นวาทะกรรมที่ยังไม่มีการกำหนดขอบเขตความหมายที่ชัดเจนอ่ะ คนกาก้าวไกลเขาก็ว่าเป็น สลิ่มเฟสสองก็มี

เพราะฉะนั้นอย่าไปจริงจังมากเลยกับคำว่าสลิ่ม แต่ถ้าคุณถูกด่าว่าสลิ่มแล้วคุณเจ็บ ดีใจด้วยคุณอาจไม่ได้เป็นสลิ่ม

ไม่รู้ต้นเรื่องนะแต่บางทีผมไม่เห็นด้วยในบางเรื่องก็กลายเป็นสลิ่มเหมือนกันอันนี้โคตรไม่ใช่อะ