เห็นประเด็นนี้มาหลายวันละ
ผมเห็นต่างนิดนึงแฮะ
ผมก็ยังอยู่ในระบบนะ เป็นบุคคลลากร สธ อยู่
ผ่านชีวิตมาทั้ง intern พชท เรียนต่อ staff
ทำไมผมไม่ได้รู้สึกว่าชีวิตมันยากขนาดนั้นเลยแฮะ
หรือผมกลายเป็น toxic person ที่เอาเปรียบน้องๆไปแล้ว
ก็ไม่นะ ทุกวันนี้น้อง นศพ โหดจะแย่ ทำไรไม่ถูกใจ เขียนด่าลงในประเมิณยับๆ บางคนก็เอาแขวนประจานลง social media
จนเริ่มกลัว เด็กๆรุ่นใหม่ๆแล้วเนี่ย 555

ถ้ากล้าก็ลองดูก้าวไกล เพื่อไทย อยากเสียฐานเสียงรากหญ้าก็ลองดู
คุณจะเห็นอะไรดีๆเยอะตามหน้าข่าว
แต่ผมเชื่อว่า ฝ่ายการเมืองไม่กล้า

ระบบจองมันทำได้อยู่แล้วครับ สถานพยาบาลรัฐหลายที่ก็มีทำร่วมกับapp krungthai ในบางงานอยู่แล้ว
ถ้าจะทำระบบจอง ไม่กี่วันก็เปิดได้แล้วครับ
สมมติเปิดใน app เปิดจองคิวตรวจ 6-10 คน/ชั่วโมง ต่อทีมบุคลากร หมอ1คน+พยาบาล+/-ผู้ช่วย
1.เอาแค่เคสโรคเรื้อรังนัด ยังไงก็เกินครึ่งแล้ว เผลอๆจะเต็มด้วย
2.จะกล้าปิดรับ walkin ที่ไม่ฉุกเฉิน ไม่มีคิวมั้ย เพราะไม่มีบุคลากรพอไปแยก ห้องตรวจจองคิว กับ walkin อยู่แล้ว
3.คนสูงอายุกลุ่มที่มารับบริการรพ.รัฐ ส่วนหนึ่ง low socioeconomic มากนะครับ ใช้ technology ได้น้อยมาก ลูกหลานก็ไม่ได้จะมาดูแลพามารพ.ได้

เจนใหม่ เค้ากล้าที่จะชนมากกว่าครับ
ซึ่งผมมองเป็นเรื่องดีนะ
หลายๆเรื่อง ผู้บอมันก็เหมือนกันหมด คือ ทนได้หนิ ทนได้ก็ทนไป
และบางรพ.ก็จัดการบริหารบุคลากรได้ดี แต่ most คือห่วยครับ โดยเฉพาะพยาบาลและจนท.
ผมเชื่อว่า คุณเคยโดนงดจ่ายเงินตกเบิก มาบ้างไม่มากก็น้อย
ซึ่งระบบตกเบิกนี่ มีเกิน 30 ปีแล้วนะครับ ไอทำงานแล้วไม่ได้เงินเนี่ย มันไม่ควรมีแม้แต่เดือนเดียวด้วยซ้ำ
กระทรวงอื่นนี่ แทบไม่มีนะครับ มีกระทรวงนี้แหละ งบเยอะ แต่ไม่จ่าย

เอาระบบตรวจคัดกรองโดยใช้ tech มาช่วย

จะช่วยได้ไหมครับแบบนี้

แบบตรวจออนไลน์ ใช้หมอ call หรือ AI มาถามตรวจคัดกรอง

ผ่่านตรวจแล้วต้องมาโรงพยาบาลจริงๆ ถึงได้ใบมาโรงพยาบาล

ผมอยากเห็นมุมมองของท่านนะ เพราะเพื่อนผมหลายคนก็ยังอยู่ในระบบ ก็เลยงงๆเหมือนกันว่า ทำไมบางคนมันทนได้ บางคนทนไม่ได้

ได้แค่กลุ่มคนบางกลุ่มครับ ที่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี ยังมีอีกเยอะที่ยังไม่เข้าถึง ยังไม่รวมคนที่เข้าถึงแต่ไม่เข้าใจอีก AI มันต้องมีการเทรน มีโอกาสผิดพลาดสูง จึงอาจจะยังไม่เหมาะกับการคัดกรองโรคครับ

เป็นไปได้ไหม ให้คนที่ใช้ชีวิตแบบทำร้ายตัวเองจ่ายค่ารักษาราคาปกติ เช่น ป่วยจากการดื่มสุรา สูบบุหรี่หนัก ๆ

เสียดายเจนผมไม่โหดเท่ารุ่นใหม่ๆ ตอนนั้นโดนอาวุโสกด ตอนนี้ก็โดนรุ่นใหม่
เก็บความเครียดไว้เจนตัวเอง

มองว่า ประชาชนรุ่นใหม่พร้อมที่จะปรับตัวนะ

การแพทย์มันตัด 100 % แบบนั้นไม่ได้ทุกโรคครับ บางโรคอาจเกิดร่วมกับพันธุกรรม ซึ่งถ้าไปตัดสินแบบนั้น คนไข้หลายคนจะได้รับผลกระมบไปด้วยครับ ไม่fair

แต่Gen y gen z นะครับที่ถ่ายรูปหมอ พยาบาลประจานลงเฟสกันบ่อยๆหนะ
โรคกตัญญู เฉียบพลันนี่ก็ใช่ ถ้าพ่อแม่เค้าต้องรอ ก็งัดเอาจ่ายภาษีมาเล่นอีก
นี่ยังไม่เริ่มนโยบายจัดคิวเลยนะครับ ปัญหาหน้างานก็เพียบแล้ว
รุ่นใหม่หลายๆคนก็ใช้เทคเลเวล 1 เยอะนะครับ