เควิน เดอ บรอยน์ กองกลาง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยืนยันว่า ผลการแข่งขันในนิดชิงชนะเลิศของแชมเปี้ยนส์ลีก จะไม่ใช่เครื่องตัดสินเส้นทางอาชีพของเขา

ซิตี้ เพิ่งเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในนัดชิงชนะเลิศของเอฟเอคัพเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้พวกเขาได้ถ้วยรางวัลที่ 2 ต่อจากพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้

"เรือใบสีฟ้า" ยังมีลุ้นถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกอีกรายการหนึ่ง ซึ่งเป็นเป้าหมายของพวกเขามาตลอด แถมยังได้ลุ้นการคว้าเทรเบิ้ลแชมป์ด้วย

แม้ยอมรับว่า การคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกจะเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยม แต่ เดอ บรอยน์ ก็ยืนยันว่าผลการแข่งขันในเกมนี้ไม่ได้ส่งผลต่อเส้นทางอาชีพโดยรวมของเขา

"มันขึ้นอยู่กับว่าคุณถามใคร มันจะมีส่วนช่วยเหรือเปล่า? แน่นอนอยู่แล้ว แต่ 90 นาทีนี้ไม่ได้เป็นช่วงเวลาที่นิยามเส้นทางอาชีพ" เขากล่าว

"ผมเล่นมาประมาณ 700 เกม, 90 นาทีแค่นัดเดียวจาก 700 เกมไม่ได้นิยามเส้นทางอาชีพของผม แต่แน่นอนว่ามันมีส่วนช่วย"

"เราทำผลงานกันได้ดีมากๆ เพราะเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย, รอบรองชนะเลิศ และชิงชนะเลิศมากแล้วหลายครั้ง เราไปถึงจุดนั้นอยู่เป็นประจำ"

"ผมอยากคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกและผมก็อยากได้เทรเบิ้ลแชมป์ เราควรเอ็นจอยสัปดาห์หน้าและหวังว่าเราจะทำผลงานได้สุดความสามารถ"

นอกจากนี้ เดอ บรอยน์ ยังกล่าวถึงคู่แข่งในนัดชิงอย่าง อินเตอร์ มิลาน ว่า "นัดชิงมันมีโอกาส 50-50 มันยากเสมอ คุณต้องจัดการจังหวะนั้นให้ดี"

"มันจะมีบางจังหวะที่ยากลำบาก แต่ในช่วงเวลาสำคัญเราต้องพยายามทำหน้าที่ของตัวเอง อินเตอร์ มีนักเตะชั้นยอดและเราก็ต้องเคารพพวกเขา พวกเขาไม่ได้มาถึงนัดชิงโดยการเอาชนะทีมอ่อนๆ"

เอาแชมป์มาให้ได้ครับ..

สัมภาษณ์ที่ดีต้องแบบนี้ ไม่ควรบอกว่ามั่นใจว่าจะชนะเท่ากับเป็นการเจิมก่อนแข่ง อินเตอร์เจิมไปแลว

สัมภาษณ์ได้สวยให้เกียรติทุกคน โฟกัสที่ตัวเองพอ ถ้ามีสมาธิมุ่งมั่นทำเต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์ เดี๋ยวผลงานมันออกมาเหมือน เจอบาเยิร์น มาดริดเอง

รอคุณจูบถ้วยอยู่ครับ!

เริ่มให้สัมภาษณ์แบบเป๊ปแล้ว ต่างกับตอนเล่นบอลโลก
แฟนเรือเห็นโค้ช นักเตะชมคู่แข่ง สัมภาษณ์ดีน่าจะสบายใจ

เน้นสุดในชีวิตแน่ๆ เอาตรงๆนี้น่าจะเป็นเกมใหญ่ที่สุดในชีวิตค้าแข้งของนักเตะแทบทั้งทีมเลยมั้ง ในบรรดานักเตะในทีมชุดนี้ เหมือนจะไม่เคยมีใครได้UCLเลยมั้ง แล้วส่วนใหญ่ก็เป็นชุดเดียวกันกับตอนเข้าชิงกับเชลซีเมื่อ2ปีก่อน อายุอานามก็เข้าสู่จุดพีคกันทั้งทีมละ หลายๆคนจะไม่เก่งไปกว่านี้แล้ว มีแต่เหี่ยวเฉาลง(แต่ก็คงอยู่ในระดับนี้ต่อได้อีกสักพัก) แชมป์ระดับทีมชาติก็แทบจะหมดโอกาสกันหมด(ไม่นับอัลวาเรซที่สอยแชมป์โลกไปแล้ว) ยังไงเอาใจช่วยทั้งนักเตะและเป๊ป จะได้หมดคำครหาเรื่องแชมป์ยุโรปกับสโมสรเดียวสักที

เนี่ยแหละที่เรียกว่า สัมภาษณ์แบบไม่เจิม

บางคนที่บอก แมนซิตี้ก็เจิม ลองสังเกตดีดี ว่าไม่เหมือนกัน

สัมแบบนี้ มีแววโหด

งงตกลงไอ่ เจิม อะไรที่ว่านี่ ผจก ไม่นับเหรอ หรือนับแค่นักเตะ ผจก ไม่เกี่ยว

อยากให้ได้จริงๆ
จะได้ขึ้นไปแตะพวก 3 กลางตำนานอังกฤษได้แบบไม่มีข้อกังขาเลย