Pixar สตูดิโอผู้ผลิตอนิเมชั่นชื่อดังของ ของ Walt Disney ได้ปลดพนักงาน 75 ตำแหน่ง รวมถึง ผู้บริหารสองคนที่เป็นผู้สร้าง “Lightyear” หนังอนิเมชั่นที่ทำรายได้ค่อนข้างน่าผิดหวังในบ็อกซ์ออฟฟิศประจำปี 2023

สื่อดัง Reuters เสนอข่าวการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ของ Walt Disney ซึ่งล่าสุดมีการเลิกจ้างงาน 7,000 ตำแหน่งเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่ Bob Iger ( บ็อบ ไอเกอร์ )ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ที่จะลดต้นทุนให้ได้ถึง 5.5 พันล้านดอลลาร์

การปรับโครงสร้างดังกล่าวได้รวมเอากลุ่มภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์เข้าเป็นหน่วยงานเดียวของดิสนีย์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ และยุบแผนกที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดจำหน่าย




การเลย์ออฟครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อสตูดิโอ Pixar ทำให้มีผู้ถูกเลย์ออฟ 75 คน ซึ่งรวมถึงผู้บริการ 2 ตำแหน่ง ได้แก่ผู้กำกับ Angus MacLane (แองกัส แมคเลน ) ผู้ที่ทำงานเป็นแอนิเมเตอร์ให้กับที่นี่มานาน 26 ปีซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทีมสร้างสรรค์อาวุโสที่มีผลงานเด่นๆ อย่าง Coco,Incredibles 2 และ Toy Story 4 และโปรดิวเซอร์ Galyn Susman (เกลิน ซัสแมน) ซึ่งทำงานอยู่ที่สตูดิโอนี้ตั้งแต่ Toy Story ต้นฉบับออกฉายในปี 1995



สาเหตุที่ทั้งสองคนถูกเลย์ออฟคาดว่าเป็นเพราะทั้งคู่รับผิดชอบโปรเจ็คอนิเมชั่นเรื่อง “ Lightyear” ซึ่งออกฉายในปีนี้ด้วยทุนสร้างกว่า 200 ล้านดอลลาร์ แม้ว่าจะได้นักแสดงชื่อดังอย่าง "Chris Evans" มาพากย์เสียงบทนำ แต่กลับทำรายได้ทั่วโลกน่าผิดหวังได้เงินไปเพียง 227 ล้านดอลลาร์เท่านั้น ทำสตูดิโอ Pixar ขาดทุนมากกว่า 106 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม “Lightyear” มีเหตุผลที่ทำให้ได้รายได้น้อยกว่าหนังอนิเมชั่นเรื่องอื่นๆ ของสตูดิโอ เพราะ ไม่สามารถเข้า ฉายได้ ใน 14 ประเทศในตะวันออกกลางและบางประเทศเอเชียได้ เนื่องจากมีตัวละครที่มีความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกัน



การตัดสินใจเลย์ออฟพนักงานจำนวนมากเกิดขึ้นไม่บ่อยกับ Pixar ครั้งสุดท้ายที่มีการปลดคนออกจำนวนมาก คือปี 2013 หลังการตัดสินใจเลื่อนฉาย หนังเรื่อง “The Good Dinosaur” ไปเป็นปี 2015 และปลด Bob Peterson ผู้กำกับออกตำแหน่ง พร้อมเลิกจ้างพนักงานประมาณ 30 ตำแหน่ง

https://www.tnnthailand.com/news/trueinside/147816/

ไม่รู้ว่าเลย์ออฟ หรือลาออกรับผิดชอบเอง คนเก่าคนแก่

“Lightyear ซึ่งออกฉายในปีนี้ด้วยทุนสร้างกว่า 200 ล้านดอลลาร์ แม้ว่าจะได้นักแสดงชื่อดังอย่าง Chris Evans มาพากย์เสียงบทนำ แต่กลับทำรายได้ทั่วโลกน่าผิดหวังได้เงินไปเพียง 227 ล้านดอลลาร์เท่านั้น ทำสตูดิโอ Pixar ขาดทุนมากกว่า 106 ล้านดอลลาร์"

บริษัทหนังไม่เอาตัวเลขขาดทุนของ Pixar 106 ล้าน มาใส่เพิ่มในก้อน 200 ล้านให้เห็นเหรอเนี่ย

สมน้ำหน้า woke ไม่เข้าท่า

เรื่องนี้มีฉากที่ถูกพูดถึงกันมากคือว่ากันว่าเป็นซีน lgbt+ ผิวดำจูบกันเป็นครั้งแรกของโลกการ์ตูน

คือเข้าใจว่าค่ายเอ็งจะส่งเสริมความหลากหลายเท่าเทียม บลาๆๆ

แต่บางทีก็ต้องมานั่งคิดว่า การ์ตูนให้เด็กทั่วโลกดูมันจำเป็นต้องมีไอ้เรื่องพวกนี้มั้ย คือจะปลูกฝังค่านิยมแบบนี้จริงหรือ

ไปอ่านเรดดิทมีแต่คนด่า กับมูฟนี้ของดิสนีย์พิกซ่าร์