ผมมองว่ายังไงก็รอด เพราะมีคดีตัวอย่างที่มีหุ้นสื่อก่อนหน้านี้แล้วรอดสองสามคดี แถมถือหุ้นเองไม่ใช้ ผจกม ด้วย
แล้วมองอีกมุมคือ ถ้าไม่รอด กกต คงรับฟ้องส่งศาลไปแล้ว ยิ่งปล่อยไว้พิธายิ่งมีเสียงสนับสนุนเพิ่มขึ้น
แต่นี้ผมคิดว่าดึงไว้จนเลือกนายกก่อนแล้วให้ สว อ้างว่าพิธาติดคดีอยู่เลยไม่ยกมือให้ เพราะยังไม่บริสุทธิ์

ส่วนตัวคือสงสัยมากนะ ว่าทำไมท่องเป็นบท"หุ้นสื่อ"กันเลย

การจะรอดหรือไม่รอด มันอยู่ที่กระแส ณ ขณะนั้น ไม่เกี่ยวเลยว่า"หุ้นสื่อ"หรือไม่ ต่อให้ไม่มีซักหุ้น ก็หาเรื่องอื่นไปเรื่อยๆ หรือต่อให้มีก็รอดได้

แอบงงใจ ว่าทำไมถึงชอบเต้น/ลนกับการตีปี๊บโง่ๆ แล้วสื่อฯเอาไปขายต่อ
คุณสรยุทธเล่น/ประโคมเรื่องนี้มากี่วันแล้วครับ...เหมือนจะไม่นะ

แล้วกองเชียร์จะดิ้นกับทุกมูฟที่ไร้สมองเพื่ออะไร ผมงงจริงครับ

+1 ครับ
ผู้จัดการมรดก สามารถมีส่วนได้เสียกับมรดกได้ และส่วนใหญ่ผู้จัดการมรดกก็คือทายาท
จะมีบ้างที่เชิญคนนอกมาเป็นผู้จัดการมรดก และเช่นกัน ฟ้องกันชิหายเลยก็เยอะ เช่น กรณีคุณห้างทอง ที่ไปลากเอาคุณสมัครมา และฟ้องกันเละเทะครับ

ฟังคุณ Pol มา สรุปใจความได้ว่า
1. ผจก.มรดก ไม่ใช่เจ้าของมรดก
2. ITV ไม่ประกอบกิจการสื่อแล้ว และไม่มีรายได้จากการทำสื่อแล้ว
3. เคยมีคดีคล้ายกันแล้วศาวตัดสินไม่ผิด

ทีนี้ก็รอดูว่าศาลจะทำยังไงให้ผิด

หุ้นก็เป็นหุ้นพ่อตัวเองเป็นคนซื้อ แถมสถานะเป็นแค่ผู้จัดการมรดก จำนวนหุ้นก็ไม่ถึง 1% จะไปครอบงำยังไง แล้วสถานะ itv ก็ไม่ได้ทำกิจการสื่อ โดนสั่งให้ปิดกิจการแล้วมีย้ายคลื่นให้ tbps ไปแล้ว ทุกวันนี้ที่ยังดำเนินการอยู่เพราะติดคดีฟ้องร้องกันอยู่

ก็วัดใจตุลาการว่าจะเป็นที่พึ่งประชาชน หรือ ที่พึ่งเผด็จการ ถ้าจะบิดกฎหมายให้ผิดก็เตรียมรับแรงกระแทกได้

ตัดสินค้านสายตาคนดู
เค้าไม่เคยแถลงการซ้ำนะครับ
อย่าหวังอะไรแบบนั้น เค้าคิดกันเองแล้วในกลุ่มตุลาการนั่นแหละ

ศาลรัฐธรรมนูญ นะครับ

ต่อให้พิธา ขี้วันละ 2 รอบ มันก็อ้างผิดกฎหมายได้

ยังไงก็ต้องรอด

ไม่อยากให้ทุกคนคิดว่าจะไม่รอด เพราะมัน non-sense มาก

อย่าเอาเคสในอดีตที่บิดเบี้ยวมาชี้นำความคิดสังคม
เพราะถ้าคนในสังคมคิดว่ากรณีนี้จะออกหน้าไหนก็ได้ แล้วแต่คนตัดสิน มันจะเป็นช่องให้สามารถตัดสินได้ตามดุลพินิจ ตามใจ โดยไม่สนหลักการ ไม่สนเจตนารมณ์ของกฎหมาย

คนในสังคม ต้องยืนยันยันว่า ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย และ ความเป็นจริง มันไม่มีทางที่จะผิดได้
ถ้าเป็นอย่างนั้น การติดสินก็จะไม่สามารถตัดสินตามใจหรือตามธงที่ตั้งไว้ได้

ถ้าตาม กฏหมายปกติถือว่ารอดครับ เพราะไม่ได้ดำเนินกิจการสื่อรายได้หลักที่ปัจจุบันมีก้ไม่ได้มาจากสื่อ แล้วถือหุ้นแค่นี้ไม่สามารถครอบงำได้ แต่กรณีนายก อาจจะต้องโอนไปให้คนอื่นเลย

ITV อดีตเคยเป็นสื่อ

ตอนนี้ไม่ได้เป็นสื่อ เพราะไม่มีใบอนุญาต และไม่มีดำเนินการใดที่บ่งบอกว่าเผยแพร่ข่าวสาร

พิธามีหุ้นอยู่จริง ( ไม่เกี่ยวว่ากี่หุ้น ) แต่ไม่ใช่หุ้นสื่อ เป็นหุ้นบริษัททั่วไป

ไม่รอดหรอก ศาล รธน แล้วแต่อารมณ์ อยากให้รอดก็จะตีความแบบนึง

ดูเรื่องประยุทธ์อยู่บ้านทหาร

ดูเรื่องแป้ง

ดูเรื่อง 8 ปี

บางครั้งก็ตามเจตนารมณ์ บางครั้งก็ตามตัวบท เอาแน่เอานอนไม่ได้

คือผมเข้าใจถ้ามองแบบคนทั่วๆไปดีเค้าตีความ แต่ทีั้งที่พิธารู้ว่ามีความเสี่ยงจากศาล รัฐธรรมนูญที่ดูแปลกๆและเสี่ยง รวมถึงพิธาก็บอกเองว่าคิดแเวต้องโดนเล่นงานตรงนี้ ทำไมไม่ปรับให้ความเสี่ยงเป็น0 ไปเลยแต่ต้น

ธรก็โดนไปแล้ว ถึงจะแตกต่างกัน แต่ก็มีความเสี่ยงก็มีเพราะรู้ว่ามีอำนาจมืด น่าจะทำให้มันความเสี่ยงไม่มีไปเลยจะได้ไม่ต้องมากังวลเพิ่ม

อยู่ที่ข้างบนจะสั่งมา ว่าแต่เค้าตัดสินวันไหน

ถ้าเกิดมองแบบเป็นกลาง
อดีต itv คือสื่อ แต่โดนยึดใบอนุญาตไปตั้งแต่ปี2550 แต่ก็ยังฟ้องรัฐบาลอยู่แสดงว่ามีเจตนาที่ต้องการจะเป็นสื่ออีกต่อไป แต่ปัจจุบันคือไม่มีใบอนุญาตก็เป็นสื่อไม่ได้ แสดงว่าหมดความเป็นสื่อ
ส่วนเรื่องถือหุ้น ถึงจะถือเพียงนิดเดียวก็คือถือหุ้นอยู่ดี อันนี้ผิดเต็มๆตามข้อกำหนด
แต่หากตัดสินผิดจริงย่อมมีโอกาศที่จะทำให้เกิดการเลือกตั้งใหม่ทั้งประเทศซึ่งอาจจะทำให้เกิดความวุ่นวายตามมา
แต่เขาน่าจะตัดสินให้ผิด(วิษณุพูดเปิดทางแล้ว)แน่นอนเพราะเขาไม่เคยสนใจเสียงของประชาชนอยู่แล้ว เขาต้องการยึดอำนาจเขาอีกต่อไปให้นานๆ
สุดท้ายก็จะมีรัฐบาลแห่งชาติคือทางออก
ผมหวังว่า ศาลท่านจะใช้ดุลยพินิจตามความจริงโดยไม่เน้นตัวหนังสือทั้งหมดเพื่อให้ความเป็นธรรมกับคนหมู่มาก