ฟังเพื่อนที่ยังอยู่ในระบบราชการเล่าให้ฟัง

ปีนี้แพทย์จบใหม่ประมาณ 2,700 แต่เหลือไปใช้ทุนแค่ 1,800

ส่วนทันตแพทย์ ตำแหน่งราชการมีแค่ 1/3 ของจำนวนเด็กที่จบใหม่ เหลือตำแหน่งน้อยขนาดนั้นแต่คนยังสมัครไม่เต็มเลย

หนีไปทำเอกชนกันหมด

นี่ยังไม่รวมพยาบาลที่หนีออกนอกประเทศไปเยอะแล้ว

ผมว่าอีกไม่นานจะเป็นปัญหาใหญ่แน่ ๆ

คนจบแพทย์ ทันตะแพทย์ ส่วนใหญ่ มาจากครอบครัวที่มีฐานะดีมาก

เขาไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน ดังนั้น เขาไม่จำเป็นต้องทนกับอะไรห่วยๆ

เงินดีกว่า ไม่ต้องทนกับพวก toxic

ผู้บริหารสบายบนหอคอยงาช้าง บอกว่าให้เสียสละอดทน ผมว่ามันก้สมควรที่จะสมองไหล

ถ้าไม่จริงจังให้สต้าฟมาช่วย แทนที่จะไปอยู่เอกชน/คลินิกควบน่ะ ไม่โยนงานให้อินเทินหนัก มันก้รอด

ตามความเห็นบน คนเรียนแพทย์ได้ น่าจะ 80-90% มาจากฐานครอบครัวที่ดีทั้งนั้น

เขาไม่ทนอยู่แล้วนี่

อยากอัญเชิญซักยูสนึงที่เคยเล่า(เมื่อเดือนที่แล้ว) ที่บอกมีแม่เป็นพยาบาลอยู่ ร.พ.รัฐ

แล้วคุยว่าบุคลากร(แพทย์,พยาบาล) อยากทำงานเยอะๆเอาโอทีทั้งนั้น ใครบอกว่าไม่อยากขึ้นเวร

ขนาดว่ามีวัฒนธรรมใจบุญ คนรุ่นเก่าๆยอมโอนเวรให้คนรุ่นใหม่ๆขึ้นแทน จะได้เอาเงินไปสร้างเนื้อสร้างตัว

อสกข.

เข้าใจเลย ผมเป็นคนไข้ไปรพ.เอกชนกับรพ.รัฐ ปริมาณงานนี่คนละเรื่องเลย เห็นก้าวไกลพูดเรื่องชั่วโมงทำงานของคนสาธาฯอยู่ รอดูว่าจะแก้ได้มั้ย

ทำไมเราไม่ทำโควต้าสำหรับคนที่เรียนหมอแล้วตั้งใจไปทำเอกชนเลยละ พวกนี้ก็เก็บค่าเรียนแพงๆไปเลยให้พอสำหรับเพิ่มเงินเดือนคนที่ทำรัฐบาล

ส่วนใครที่มาโควต้าเรียนฟรีแล้วไปทำเอกชนก็มีบทลงโทษไปที่มากกว่าเงิน เช่น พักใบอนุญาตไรพวกนี้ไป เพราะเลือกแล้ว

ไม่มีนะเรียนฟรี จ่ายเงินทุกคน

โครงการ ODOD ของยุคทักษิณ, ยิ่งลักษณ์มีครับ เอาโควต้าให้เด็กท้องถิ่นอำเภอนั้น ๆ เรียนหมอ แล้วกลับไปใช้ทุนบ้านเกิดตัวเอง

ถูกยุบไปหลังรัฐประหาร

ส่วนค่าเทอม ตอนนี้แพทย์ผมไม่ทราบ แต่ทันตแพทย์รัฐเลิกให้เงินอุดหนุนแล้วครับ เด็กคณะทันตะรุ่นปัจจุบัน ขนาดอยู่ม.รัฐต้องเสียค่าเทอมประมาณ 150k-200k ครับ

หมอปุยเมฆก็ลาออกแล้วเหมือนกัน เจอหัวหน้างานพูดไม่ดีใส่

ไม่เคยเจอหมอที่ลาออกแล้วบอกวา่เสียใจที่ลาออกจากราชการเลยจริงๆ อย่างน้อยก็เท่าที่ผมรู้จักอ่ะ

ปัญหามันมีอยู่แล้ว แต่เขาใช้หมอจบใหม่รับภาระ
ซึ่งหมอที่อาวุโสเขาก็เคยรับภาระแบบนี้มาในอดีต
แก้ ๆ ให้มันดีขึ้นซะได้ก็ดี
แต่ต้องยอมรับว่าประชาชนจะเข้าถึงบริการลดลง
เอ แล้วรัฐบาล กก จะยอมมั้ยนะ รัฐสวัสดิการนี่นา
สวัสดิการสาสุข ปลิวก่อนเลย

ไม่แปลกเลย แถมจะมากขึ้นเรื่อยๆด้วย

ลองนึกภาพคุณมีลูก เรียนจบมา ต้องไปทำงานต่างจังหวัด ชื่ออำเภอเกิดมาไม่เคยรู้จักเลย
ชั่วโมงการทำงานสูง สวัสดิการไม่ดี แถมต้องไปอยู่ในที่ที่ไม่ใช่บ้านเกิด สิ่งอำนวยความสะดวกก็ไม่มี
พูดง่ายๆคือ งานหนัก สภาพแวดล้อมแย่ แถมไกลบ้าน ไม่มีใครอยากอยู่หรอกครับ
(บางพื้นที่ความปลอดภัยในชีวิตยังไม่มีเลย เพราะมีแต่ประชากรโลก3)

1/3 ที่หายไปจะไม่ได้ใบเพิ่มพูนทักษะ ไปเรียนต่อเฉพาะทางไม่ได้ เป็นหมอGPรพ.เอกชนหมดยุคแล้ว (เงินน้อย/เต็ม) ทางเลือกคือ
- เลิกทำอาชีพนี้ไปเลย
- ไปทำคลินิคความงาม/ศัลยกรรม

ทันตะโควต้ารับใช้ทุนมีน้อยกว่าคนจบครับ ต้องจับฉลากว่าใครจะได้ใช้ทุนบ้าง อันนี้จากคนใกล้ตัวนะครับ

คือมีคนต้องการเข้าระบบมากกว่าโควต้าที่มีเลยต้องจับฉลาก

สาเหตุก็ง่ายๆเลยคือไม่มีงบพอสำหรับเด็กจบใหม่ทุกคน

แล้วดูตัวเลขจำนวนประชากรสูงอายุที่จะเพิ่มขึ้นๆ คิดแล้วสยองโคตรๆ ต่อไปอาจต้องถึง

ยุคที่หมอจะเลือกว่าใครจะอยู่-ใครจะตาย เพราะจำนวนบุคลากรในการดูแลผู้ป่วยไม่เพียงพอ

ใครมีเงินมีประกันพอเข้าเอกชนได้ ก็รอดไป ใครต้องรอการรักษาจากรพ.รัฐ ก็แย่แน่นอน

(ฟังพวกหัวๆพูดทีไร ก็บอกว่าหมอพอ พอบ้าน_มุงซิ ไม่งั้นคนไข้จะไปตั้งแต่ตี 5 กลับ 5 โมงเย็นหรอ)