พอดีเห็นจากมู้ล่างๆ
คือพวกนี้เดินทางเหมือนเราติดเกาะแล้ว”เอาจดหมายใส่ขวดแก้วแล้วลอยไปในทะเลใช่ไหม” แค่เปลี่ยนจากน้ำทะเลเป็นเวลา สมมุติขวดเราลอยไปถึงฝั่งในอีก 5 ปี คนอ่านข้อความของเราตอนนั้นก็ไม่มีทางรู้อยู่ดีว่าเราอยู่หรือตายไปแล้วถูกไหมงับ

ใช่ครับ

ตอนนี้ถ้าเอาทฤษฎีสัมพัทธภาพ ไอน์สไตน์ มาใช้ สิ่งที่เดินทางได้เร็วที่สุดคือแสง

แล้วคลื่นวิทยุก็เร็วใกล้เคียงแสง

ณ องค์ความรู้ปัจจุบัน จักรวาลมีอายุ 13,800 ล้านปี

และถ้าจากข่าวบอกว่าคลื่นเดินทางมา 9,000 ล้านปีแสง แสดงว่าต้องมีดาวที่มีภูมิปัญญาหลังจากจักรวาลก่อกำเนิดเพียง 4,800 ล้านปี เท่ากับว่าช่วงที่จักรวาลอุณหภูมิลดปุ้บ ดาวนี้ได้ความลัคกี้แบบถูกหวยรางวัลที่ 1 100 ครั้งติด ซึ่งสามารถเกิดและดำรงอยู่ได้ เพราะช่วงแรกจะยากมากๆ



ซึ่ง ณ เวลานี้ ดาวดังกล่าวอาจจะสูญสลายไปแล้วก็เป็นได้

ใช่ครับ

ตอนนี้ถ้าเอาทฤษฎีสัมพัทธภาพ ไอน์สไตน์ มาใช้ สิ่งที่เดินทางได้เร็วที่สุดคือแสง

แล้วคลื่นวิทยุก็เร็วใกล้เคียงแสง

ณ องค์ความรู้ปัจจุบัน จักรวาลมีอายุ 13,800 ล้านปี

และถ้าจากข่าวบอกว่าคลื่นเดินทางมา 9,000 ล้านปีแสง แสดงว่าต้องมีดาวที่มีภูมิปัญญาหลังจากจักรวาลก่อกำเนิดเพียง 4,800 ล้านปี เท่ากับว่าช่วงที่จักรวาลอุณหภูมิลดปุ้บ ดาวนี้ได้ความลัคกี้แบบถูกหวยรางวัลที่ 1 100 ครั้งติด ซึ่งสามารถเกิดและดำรงอยู่ได้ เพราะช่วงแรกจะยากมากๆ



ซึ่ง ณ เวลานี้ ดาวดังกล่าวอาจจะสูญสลายไปแล้วก็เป็นได้

ถูกต้องค้าบ มันคือการประมาณคร่าวๆ

จริงๆอธิบายไปมู้นั้นแล้วว่า ที่เขาตื่นเต้น คือเราเจอดาวที่อยู่ห่างจากเราไป 9000ล้านปีแสงต่างหาก

เพราะมันอยู่ในช่วงที่ ดาวต่างๆยังไม่รวมตัวกันเลย หลังจากเกิดเหตุการ์ณ bigbang

มันน่าทึ่งนะผมว่า ยิ่งเราส่องไปไกลเท่าไหร่ มันยิ่งทำให้เราเห็นอดีตได้มากขึ้นเท่านั้น

ใช่ครับ

Dying Message

จะว่าแบบนั้นก็ถูกครับ

เสริมให้คือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเนี่ยจะวิ่งด้วยความเร็วเท่ากันหมดคือเท่ากับแสง

ซึ่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามีมากมาย เช่นคลื่นวิทยุ คลื่น Microwave คลื่น Infrared แสง Ultraviolet รับสี X etc.

ทั้งหมดจะวิ่งด้วยความเร็ว 3x10^8 m/s แต่จะต่างกันที่ความถี่และความยาวคลื่น

เมื่อมันไม่มีความเร่ง จากสมการระยะทาง S = vt เมื่อเรามี v คงที่ พอเรากล่าวถึงเวลาหรือ t เราจะได้ระยะทางหรือ S เช่นกัน

ส่วนที่ท่านยกตัวอย่างขวดมันก็ใช่ครับ

ยกตัวอย่างภาพที่เราเห็นทุกอย่างมันคือภาพอดีตทั้งหมด เพราะมันคือแสงที่ตกกระทบวัตถุแล้ววิ่งเข้าที่ตาเรา

ยิ่งระยะทางยิ่งมาก ภาพจะยิ่งเป็นอดีตมาก เพราะมันต้องใช้เวลาเยอะในการวิ่งจากต้นทางมาเข้าสู่ตาของเรา

ก็ถ้า มะนาวต่างดุ๊ด ส่งมา

ก็หมายความว่าส่งมาจากเมื่อ 9 พันล้านปี ที่แล้ว

ถ้าเขาไม่ได้มีเทคโนโลยีอะไรพิเศษกว่าเราในตอนนี้นะ




มีใครรู้บ้างมั้ยว่า แสง ผ่าน รูหนอน มันเกิด redshift มั้ยอะ

ก็ถ้าเกิดได้ ถ้ามะนาวต่างดุ๊ดเขามี รูหนอน ก็อาจจะส่งมาไม่ถึง 9 พันล้านปี ก็ได้นะ

เอาให้เห็นภาพง่ายๆละกันนะครับ

แบบโลกกับดวงอาทิตย์เรี่ย

เวลาแสงจากดวงอาทิตย์มาถึงโลก มันใช้เวลาเดินทาง 8 นาทีครับ

สมมุติว่าเราเห็นลูกไฟกะพริบอยู่บนดวงอาทิตย์

ก็แสดงว่าของจริงมันลุกเมื่อ 8 นาทีที่แล้วครับ

เพราะงั้นระยะทางจากโลกถึงดวงอาทิตย์ก็จะตีคร่าวๆได้ว่า

มันเป็นระยะทางที่แสงเดินทางไปได้ในเวลา 8 นาที หรือก็คือ 8 นาทีแสง

เพราะงั้นไอ้ดาวที่บอกว่าอยู่ห่างออกไป 9000 ล้านปีแสง ก็คือ

แสงใช้เวลาในการเดินทางจากดาวนั้นมาโลกเนี่ย ใช้เวลา 9000 ล้านปี

สัญญาณที่เราเพิ่งได้มาจากดาวนั้นก็คือส่งออกมาจากที่นู่นเมื่อ 9000 ล้านปีที่แล้วนั่นเอง

กลับกัน ถ้าเรายิงบีมคลื่นเต่าไปที่นู่นก็จะใช้เวลา 9000 ล้านปีกว่าจะถึงครับ

แบบนี้ทำไมโลกที่มีอายุแค่4500ล้านปี ถึงได้รับสัญญาณของดาวที่ห่างออกไป 9000ล้านปีได้อะครับ งงๆตรงนี้

มันชัวร์ไหม ว่าสัญญาณมาจากสิ่งมีชีวิตจริงๆ หรือมันมีเหตุการณ์อื่นๆ ที่ทำให้เกิดคลื่นวิทยุได้แบบ ดาวระเบิด หรือ big bang

เพราะคนส่งสัญญานส่งมาตั้งแต่โลกยังไม่ก่อตัวครับ

แล้วสัญญานที่ว่านี้โลกเพิ่งได้รับหลังจากส่งมาแล้ว 9000 ล้านปีแค่นั้นครับ

มันเป็นสัญญาณที่ไม่ได้ระบุเป้าหมายครับ

เหมือนมีคนตะโกนมาแล้วคุณบังเอิญได้ยินแค่นั้นแหละ

เพียงแค่ว่าเขาตะโกนมาตั้งแต่ 9000 ล้านปีที่แล้วอ่ะ ก่อนคุณจะเกิด

แต่กว่าจะมาถึงคุณ คุณก็เกิดทันพอดี

แสดงว่าทั้ง ดาวเคราะห์ ในทางช้างเผือก กับ ใน galaxy andromeda (เพื่อนบ้าน)

ทั้งหมดก็ยังไม่มี ดาวที่มีสิ่งมีชีวิต ทรงภูมิปัญญา แม้แต่ดวงเดียว (อยู่ใกล้แต่ไม่มีสัญญาณ)

ผมเข้าใจถูกต้องไหม

หลักฟิสิกส์ปัจจุบันคือ ไม่มีวัตถุ หรือ คลื่นใดๆเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าแสงในระยะทางและเวลาที่เท่ากันครับ


แปลว่า แสงเคลื่อนที่ได้เร็วที่สุด และถ้าคลื่นต่างๆเหล่านี้สามารถเดินทางได้ด้วยความเร็วแสงก็จะเป็นระยะทางตรงๆเลย ซึ่งถ้าพูดถึงคลื่นวิทยุที่ส่งมาจากดาวที่ระยะห่าง 9000ล้านปีแสง แปลว่าแสงใช้เวลาเดินทางจากต้นทางมาปลายทางเนี่ย 9000ล้านปี


แต่ทีนี้ต้องมามองลึกต่อไปอีกว่า แล้วส่งมาด้วยเทคโนโลยีอะไร ส่งมาแบบไหน ในสถานการณ์แบบไหน มันอาจจะมีวิธีการร่นระยะทางจำนวนมหาศาลก็ได้จาก worm hole หรืออะไรเทือกๆนี้ รวมถึงพิกัดการส่งว่ามันต้องมาใกล้เราขนาดไหนถึงจะจับสัญญาณได้ แปลว่าก็ต้องมีข้อมูลถึงตำแหน่งของเราอยู่ระดับนึงด้วยเหมือนกัน ถ้าจะมีร worm hole จริงๆ


possibility เยอะมากครับ

ผมถามเพิ่มได้มั้ยครับว่า คลื่นพวกนี้เนี่ย ปกติมันทำการ resonate กับอะไรซักอย่างถึงจะรู้ว่ามีอยู่ถูกมั้ยครับ? แล้วระยะ หรือ รัศมีการ resonate นี่มันจะเป็นวงกว้างขนาดไหนอ่ะครับ ถ้าเปรียบเทียบเป็นการตะโกนคือการสั่นสะเทือนกับพื้นผิวต่างๆให้เกิดเสียง แต่มันก็ไม่ได้สามารถเดินทางได้ด้วยระยะอนันต์

ผมเข้าใจถูกมั้ยครับ