เมื่อช่วงต้นปี ผมเป็นอีกหนึ่งคน ที่ลงทุนสมัครสมาชิก Hbo Go เพื่อเหตุผลหลักคือต้องการชมซีรีส์ The Last of Us เนื่องจากเป็นแฟนตัวยงของวิดีโอเกม เกมนี้มาก่อน หลังจากใช้เวลาเพียงร่วม 2 เดือน ซีรีส์ก็เป็นอันสิ้นสุดใน Season 1 ไป หากแต่ การสมัครในครั้งนี้ จากที่เคยจะดูแค่ TLOU แล้วยกเลิกจบไป ผมกลับผมว่ามันมี Hidden Gem แห่งโลกภาพยนตร์ซุกซ่อนอยู่มากมายในแพลตฟอร์มนี้ (ถึงระบบภาพ/เสียงจะห่วยที่สุดในบรรดา 4 จตุรเทพของแพลตฟอร์มที่ผมมีในมือก็เถอะ)



และ Barry (ชื่อไทยก็คงจะแบร์รี่นี่แหละ) คือหนึ่งในของดีที่ซุกซ่อนอยู่ ภายใต้ร่มเงาแห่งซีรีส์ขึ้นหิ้งชั้นครูมากมาย บน Hbo Go ที่อยู่ ๆ ผมเองก็ตัดสินใจดูด้วยความไม่รู้อะไรเลย ไม่ได้มีโอกาสอ่านแม้กระทั่งรีวิว (เพราะกระแสในไทย ถือว่าเงียบมาก) ไลน์อัพนักแสดงก็แทบไม่รู้จักใคร อาศัยแค่ว่า หน้าปกมันดึงดูดอย่างบอกไม่ถูก + ด้วยความไม่ค่อยมีเวลาว่าง ระยะเวลาเพียง 30 นาที/EP และมีเพียง 8 EP/Season ก็เพียงพอให้ตัดสินใจกด Play ในทันที...

ณ ตอนนี้ที่ผมเขียนอยู่ ซีรีส์เพิ่งจบบริบูรณ์ไปเมื่อวานนี้ สิริรวมทั้งหมด 4 Season 32 EP สำหรับผม มันคู่ควรมากจริง ๆ กับการเป็น "ว่าที่" ซีรีส์แห่งปีในใจผมเลย ให้พูดแบบอวย ๆ หน่อย ก็คือ ภายหลังจาก Better Call Saul อวสานไปเมื่อปีก่อน ผมควานหาอะไรแบบนี้มาตลอด จนกระทั่งมาพบกับ Barry ที่แม้ว่าต้องเรียนตามตรงว่า จะยังห่างชั้นกันพอสมควร แต่รสชาติจากการได้ลิ้มลองมันให้ความรู้สึกเดียวกันเลยครับ

ให้พูดถึงจุดหนึ่งที่ผมชื่นชอบ คือ หากว่า Breaking Bad คือการเล่าเรื่องจาก สีขาว สู่สีเทา และทะยานสู่สีดำ Barry คือการที่จากสีดำ พยายามตะเกียกตะกายออกไปสู่สีขาว แต่ท้ายที่สุดก็จะมีบางสิ่งบางอย่างเข้ามาคอยฉุดกระชากลากดึงให้วนกลับมาเป็นสีดำอยู่เรื่อย และตลอดทั้งเรื่องมันจะวนเวียนไปด้วย Mood แห่งความ ขาว-ดำ-เทา อยู่เสมอ อีกทั้งยังถูกถ่ายทอดออกมาอย่างกลมกล่อมผ่านตัวนักแสดงที่ แม้จะไม่ได้เกรด A List แต่ต้องชื่นชมว่า "เอาอยู่" ทุกคาแรกเตอร์ การปรากฎตัวของแต่ละตัว มันมี Charisma ในตัวเองสูงมาก

เดิม ผมอยากจะเขียนเล่าถึงเนื้อเรื่องคร่าว ๆ ของ Barry เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจต่อท่านผู้อ่าน แต่เชื่อเถอะ การไม่ต้องรับรู้อะไรมากแล้วไปชมเนี่ย มันช่วยเติมเต็มอรรถรสได้เป็นอย่างดี และมันคู่ควรกับการจะถูกกำหนดให้เป็นแบบนั้นกับซีรีส์เรื่องนี้ ที่เต็มไปด้วยประเด็นเสียดสี ตลกร้าย ชวนเหวอ คาดเดายากตลอด 4 Season ที่เอาจริง ๆ คุณอาจใช้เวลาเพียงไม่ถึง 7 วันกับการรับชมตั้งแต่ต้นจนจบด้วยซ้ำไป แต่อารมณ์ ความรู้สึกต่าง ๆ จะถูกตกค้างเอาไว้ในโสตประสาทอย่างแน่นอนครับ

โอเค..ผมเชื่อท่าน เย็นนี้จะไปดู

ผมชอบไอ้มาเฟียหัวโล้นนี้จัด อย่างเกรียน

เบิ้ล

หลายแอพเหลือเกินดูไม่ทัน

โคตรรักเลยเรื่องนี้

ฉากฮาก็บ้าแบบสุดๆ ฉากดราม่าก็ดิ่งแบบสุดๆเช่นกัน

เข้ามายืนยันอีกเสียงครับว่าของโคตรดี ตลกร้ายจนเข้าขั้นดาร์คเลยในหลาย ๆ ซีน

Bill Hader (พระเอกของเรื่อง)เป็นคนกำกับเองเล่นเอง เล่นโคตรเก่ง ตัวละครอื่น ๆ ก็เล่นโคดเก่ง โครงเรื่องก็โคดดี เป็นของดีที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึงจริง ๆ ครับ

ตอนนี้ผมเคว้งเลยครับ เพราะซีรีย์ HBO สองเรื่องโปรดที่ดูอยู่พร้อม ๆ กันคือ Barry กับ Succession จบพร้อมกันเลย ต้องหาเรื่องใหม่ดูอีกแล้ว

จัดไปคืนนี้

เอ้า เดวไปดูวะ

น่าสนใจครับ พึ่งสมัครสมาชิก HBO มาดูเดอะลาสออฟอัส แบรี่ใส่ไว้ในลิสแล้ว

ป้ายยา Succession ผมกลับหน่อยครับท่าน เป็นอีกเรื่องที่ติดดาวไว้ใน Hbo Go ตอนนี้เพิ่มสมัคร Prime ไปเพิ่ม
กำลังชั่งใจว่า ซีรีส์ยาว ๆ จะเริ่มไรก่อนดี ระหว่าง Succession กับ The Boys (คนละโทนยังไง จับมาโยงได้ไง ยัง งงอยู่ )

Succession ออกแนว หักเหลี่ยม ธุรกิจ การเจรจาต่อรอง ตลกร้าย มีมุขแบบบางครั้ง เราไม่เข้าใจบ่อยๆอะครับ ถ้าไม่เข้าใจธุรกิจ และจิตวิทยา

แล้วก็เรื่องของครอบครัว พี่น้อง พี่ลูก ผัวเมีย ที่มาหักกันเอง แล้วก็มาดีกัน แล้วก็หักกันต่อ เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง

มีการแฉ Inside ทั้งด้านมืด ด้านสว่าง ของเหลี่ยมธุรกิจ ในองค์กร ยักษ์ใหญ่

บทพูดเร็วมาก จนบางทีตามไม่ทัน ต้องกลับมาย้อนตีความอีกรอบ

ถ้าชอบแนวนี้ แนะนำครับ บางตัวละคร ก็น่าหงุดหงิด บางตัวก็เขี้ยวฉิบหาย บางตัวก็เหมือนจะโง่แต่โคตรเหลี่ยม

Succession นี่ผมให้ขึ้นหิ้งเลยครับ ผมว่ามันเป็นซีรีย์ที่ทำออกมาได้ดีมาก ๆ ทุกอย่างลงตัว เป็นเรื่องของตระกูลคนรวยที่เป็นเจ้าของสื่อฝั่งที่สนับสนุน Republican (แรงบันดาลใจของตัวเอกในเรื่องนี้คือ Rupert Murdoch เป็นผู้ก่อตั้งสื่อช่อง Fox News ที่เป็นสื่อโปร Republican ครับ) เนื้อหาก็เหมือนชื่อเรื่องครับ เส้นหลักของเรื่องคือการสืบทอดกิจการ แต่ในการเล่าเรื่องมันมีความซับซ้อนและโยงไปในหลาย ๆ ประเด็นที่ทำให้ดราม่าการสืบทอดกิจการเรื่องนี้มันมีความพิเศษมากๆครับ มันไม่ได้มีตัวแปรแค่พี่น้องทะเลาะกัน แต่ผู้เขียนเอาทั้งเรื่องธุรกิจ เรื่องการเมือง เรื่องความสัมพันธ์ มาผูกกันได้ลงตัวและกลมกล่อมมากครับ

นอกจากนั้นผมว่าสเน่ห์อีกเรื่องนึงของอันนี้คือมันเป็นซีรีย์ที่สะท้อนภาพความเป็นทุนนิยมของอเมริกาได้ดีมาก ๆ ครับ เป็นซีรีย์ที่มี setting เป็นชนชั้นสูงของนิวยอร์คที่หาดูได้ยากมาก ๆ ครับ ผมอาจจะอินตรงนี้เพราะเคยไปเรียนหนังสือที่นิวยอร์คมาแล้วตอนเรียนผมก็สงสัยตลอดครับว่าตึกหรู ๆ ต่าง ๆ นี่ข้างในหน้าตามันเป็นไง หรือคนรวย ๆ ที่อยู่ในอพาร์ตเมนต์หรู ๆ นี่เค้าทำอาชีพอะไร มีชีวิตยังไงหรือเฮลิคอปเตอร์ที่บินขึ้นบินลงเป็นว่าเล่นในเมืองนี่ใครเป็นคนนั่ง เค้านั่งไปไหนกัน ดูเรื่องนี้แล้วก็พอจะได้ไอเดียความสงสัยพวกนี้ครับ

อีกมุมนึงที่ผมชอบคือการตีแผ่ให้เห็นว่าสื่อในอเมริกามีอิทธิพลต่อการเมืองแค่ไหนครับ ในหลายๆฉากก็เป็นการ adapt มาจากประวัติศาสตร์การเมืองอเมริการจริง ๆ ด้วยครับ ถ้าดูเผิน ๆ จะคิดว่าเป็นละคร แต่พอ fact check แล้วก็จะยิ่งว้าวครับ ว่าคนเขียนเค้ายัดเหตุการณ์จริงมาเชื่อมเส้นเรื่องได้ยังไง ดู ๆ ไปมันก็ทำให้เราฉุกคิดเปรียบเทียบกับการเมืองไทยได้อยู่เหมือนกันครับ

แล้วเรื่องนี้เป็นซีรีย์ไม่กี่เรื่องที่เนื้อเรื่องยิ่งผ่านไปยิ่งพีค (ให้อารมณ์เดียวกับ Breaking Bad & Better Call Saul) เลยครับ ตอนดูซีซันแรกผมว่าโคดดีแล้ว แต่ซีซัน 4 ที่เป็น Finale ที่เพิ่งจบไปนี่ผมว่ามันดียิ่งกว่าอีก ตัวละครก็เล่นโคดเก่งเลยครับ

แล้วก็เรื่องนี้เป็นซีรีย์ที่มีลายเซ็นของ HBO จริง ๆ ครับ คือมีความตลกร้าย ซึ่งอันนี้จะถ่ายทอดออกมาผ่านการจิกกัดของตัวละครที่ใช้ภาษาสละสลวยครับ คำศัพท์ที่ใช้นี่แสบ ๆ คัน ๆ ทั้งเรื่อง สิ่งนึงที่ผมชอบในเรื่องนี้อีกอย่างนึงคือด้วย Setting ของซีรีย์ที่ต้อง Based อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง มันเลยไม่มีฉากอะไรเวอร์ ๆ หรืออะไรที่ไม่น่าเป็นไปได้ในความเป็นจริงเกิดขึ้นครับ (อย่างแบร์รี่บางฉากยังมีความเป็นนิยายอยู่บ้าง แต่อันนี้คือสมจริงมาก ๆ ในทุกมิติครับ)

ไหน ๆ ก็ป้ายยาอันนี้แล้วผมก็ขอแถมอีกสองเรื่องละกันครับ คือ White Lotus ของ HBO กับ The Office ของ Prime เป็นแนว ๆ Dark Humor ทั้งคู่ครับ ยิ่งเรื่องหลังนี่ผมว่าน่าจะเป็นตำนานของ American TV Series เลยครับ คนอเมริกันหลาย ๆ คนก็จะเคยดูอย่างน้อยๆ 1 รอบ ส่วนตัวผมดูมา 3 รอบแล้วครับ นี่ว่ากำลังจะดูรอบที่ 4

ถ้าดู The Boys เสร็จแล้วรบกวนช่วยแชร์เป็นกระทู้ป้ายยาอีกทีนะครับ ผมรออ่านรีวิวอยู่ 555

กำลังหาเรื่องใหม่ต่อจาก Succession เลย