1. เด็ดหัว พิธา คดีหุ้นสื่อ หรือ อาจจะถึงขั้นยุบพรรคไปเลย

2. ปล่อยให้ลองเข้าไปมีอำนาจดู แล้วค่อยสร้างอุปสรรคต่างๆ


เป็นผมจะเลือกอันที่ 2 นะ ปล่อยให้เข้าไปมีอำนาจ แล้วค่อยสร้างอุปสรรคต่างๆรอไว้
เพราะถ้าเลือกอันแรกมันได้พิสูจน์มานับครั้งไม่ถ้วนแล้วว่ายิ่งยุบยิ่งโต เด็ดหัวคนนี้ก็มีคนอื่นมาแทน
ปล่อยให้ลองเข้าไปทำ แล้วถ้าทำไม่ได้ก็จบ ประชาชนก็จะเลือกน้อยลงไปเอง

1 พวกนี้บ้าอำนาจแล้วก็ไม่เคยจะเรียนรู้

wม่ 1 ก้ 1.5ได้ปะ

1.5คือ ไม่ให้โอกาส แต่ไม่เด็ดจากหุ้นสื่อ เสี่ยงคนลงถนนเยอะไป

ปรับแค่ให้ฝ่ายการเมืองปาตี้อื่นรวมทีมมาสกัด

ฝ่ายอำนาจนี่เขาไม่เหนื่อยบ้างเหรอ เลือกตั้งกี่ทีก็แพ้ ละต้องมานั่งคิดมุกใหม่ๆตลอด นี่คนหรือคณะตลก

ไม่ใช่มุกใหม่ครับ มุกเดิมเลย ยุบพรรค เด็ดหัวแกนนำ
พิสูจน์แล้วพิสูจน์อีกว่ามันไม่เวิร์ค ยิ่งทำอีกฝ่ายยิ่งโต
แถมเอาความน่าเชื่อถือนิติรัฐนิติธรรมของตัวเองมาจ่ายจนหมดแล้วก็ไม่เข็ด

1. ง่ายๆเลย

ตัดหัว ยุบพรรค
ปล่อยอีกพรรคคุมสภา พร้อมฟาร์มเศรษฐกิจ
ปล่อยม๊อบลงถนน

พรรคนั้นต้องสร้างเรื่องอีกแน่ๆ ขุดมาซักเรื่องก้ได้
คนลงถนนเพิ่ม
ขับรถถังมาปราบพร้อมคุมอํานาจต่อ

ผมหมายถึงหนังนะครับ

ถ้าเป็นตัวผม

ข้อ1.75 ครับ ก่อนที่จะได้เป็น ต้องบีบให้มาคุย กันให้เรียบร้อย ว่า ยอมแลกอะไรบ้าง และ ทางเราจะให้อะไรได้บ้าง ถ้ายอมมาคุยกัน

มันสร้างสถานการณ์​ win-win situation ได้

เพราะกระแสสังคม เค้าตัดสินชัดมากกว่าครั้งไหนๆ

ถ้าฝืน ถึงจะได้สื่งที่เราต้องการ แต่มันจะทนสู้กับกระแสได้นานแค่ไหน เพราะตัวอย่างมีว่า ยิ่งฝืน กระแสตีกลับ ยิ่งแรง

ถ้ายอมแบบไม่มี ข้อแลกเปลี่ยนก็กระทบต่ออำนาจโดยตรง

การบริหาร การเมือง อำนาจ มันหาจุดตกลงกันได้ จากการเจรจาครับ

คำถามคือ จขม นิยามคำว่า "คนคุมเกม" ไว้เลเวลไหนครับ ระดับยอดปีรามิดหรือระดับคนเหนี่ยวไก

ถ้านิยามไว้ที่ระดับยอดปีรามิด ผมก็จะสั่งแค่ว่า

"ทำยังไงก็ได้ให้มันหายไปจากระบบนี้" ครับ แล้วค่อยให้พวกระดับล่างๆ (คนเหนี่ยวไก) ไปหาวิธีกันเอาเอง แต่งานต้องจบ ความนิยมของเขาต้องไม่เสีย แต่เท่าที่ดูความนิยมเขาก็ไม่ได้ดีขึ้น แล้วเขาเองก็ไม่ได้แคร์ด้วย ผมคิดว่าเขาน่าจะสนใจแค่ทำยังไงก็ได้ให้มันหายไปจากระบบนี้ก็พอ

แต่ถ้านิยามไว้ที่ระดับคนเหนี่ยวไก มันก็จะยากอีกตรงที่ว่า

"ตัวเองจะไปตอบระดับยอดปีรามิดยังไง" มากกว่าครับ จากอดีตที่ผ่านมาการยุบไทยรักไทย/พลังประชาชน/อนาคตใหม่ ผมคิดว่าน่าจะเป็นทางออกที่ระดับคนเหนี่ยวไกทำได้ดีที่สุดแล้ว เพราะตัวเองก็ไม่หยั่งรู้อนาคต ไม่แน่ใจว่ามีผลกระทบยังไง

ยุบไทยรักไทย > พลังประชาชนชนะขาด
ยุบพลังประชาชน > เพื่อไทยชนะ
ปรับกติกาเลือกตั้งเป็น MMP แบบมั่วๆ > อนาคตใหม่ผงาด
ยุบอนาคตใหม่ > ก้าวไกลผงาด
ปรับเป็นแบบ 2 ใบ 400+100 > ก้าวไกลชนะ

ปล. เห็นหลายๆเม้นบอกว่าเจรจา ผมยืนยันว่า "เขาไม่คิดจะเจรจาอยู่แล้ว" ครับ เพราะผมคิดว่า mindset เขามองว่า ก็กูเหนือกว่ามึงอะ ทำไมกูต้องลดตัวไปคุยกับมึงด้วยละ ถ้ากูถอยก็เท่ากับกูแพ้สิ

ปล2. มีการพูดถึงรัฐประหาร พูดถึงทหาร แต่ผมคิดว่าตัว main point อยู่ที่ "ระบบยุติธรรม" มากกว่าครับ ถ้าระบบยุติธรรมมันพัง ทหารที่ว่าเยอะๆก็อาจจะตายคาค่ายทหารได้นะครับ ถ้าผู้คนมันบ้าคลั่งพอ

ปล3. พอพูดถึงทหารก็จะพูดถึงเรื่องลดจำนวนทหารอีก ผมคิดว่าเขาไม่น่าจะยอม เพราะถ้าลดจำนวนทหารแล้ววันดีคืนดีเขาส่งทหารไปแล้วเกิดผู้คนไม่พอใจ ทหารที่เหลือไม่มากอาจจะโดนชาวบ้านไล่ฆ่าคาค่ายทหารก็ได้ การตัดแขนขาเขา เขาไม่ยอมแน่นอน

สอยพิธา ยุบพรรค เรียกคนลงถนน

แล้วเอารถถังออกจากค่ายมาหล่อๆ

ไม่ต้องง้อใคร

ถนัดทำอะไรก็ทำแบบนั้นแหละ มันทำเป็นแค่นี้

คนลงถนนนี้แหละสิ่งที่ฝั่งนั้นอยากเห็น ใช้เป็นของอ้่างรัฐประหาร

รู้แต่ว่า ทำข้อไหนก็แล้วแต่

"ประเทศถึงเป็นอยู่แบบนี้"

ผมไม่แน่ใจว่า ท่านหมายถึงผมรึเปล่านะครับ แต่โอเค

มาถกกันสนุกๆ ผมชอบครับ

คืองี้ ผมคิดว่า เค้าน่าจะยอมเจรจา เพราะ ก่อนหน้านี้ คนก็กรอกหูทุกวันๆว่ามีแต่คนรัก ไอ้ที่ไม่รักอะส่วนน้อย โดยไม่มีอะไรมาวัดว่า คนรู้สึกยังไงจริงๆ

คราวนี้ มันมีมาตรวัดแบบชัดเจนไงครับ ว่าคนเกือบทั้งประเทศรู้สึกแบบไหน ผ่านคะแนนเสียง และพรรคที่ชนะ

พรรคที่มีนโนบาย กระทบเค้าชัดเจน และคิดว่าจะเป็น ปฎิปักษ์​กับสังคมแน่ๆ ถ้ามีคนรักเยอะอยู่ กลับ พลิกชนะแบบ เกินความคาดหมาย

ส่วนพรรคที่เอาเค้ามาเป็นจุดเด่นหาเสียง ทั้งพรรคใหญ่ พรรคเล็กที่ รักเค้าสุดขั้ว แพ้ราบคาบ โดยเฉพาะพรรคเล็ก ที่ไม่ได้แม้แต่ ที่เดียว

ผลมันฟ้องชัดๆ ให้เค้าเห็นชัดๆครับ ว่า คนเกือบทั้งประเทศ รู้สึกกับเค้าอย่างไร ผ่านหน้าข่าว หน้าสื่อ เค้ารู้อยู่แล้ว

และต้องรู้สึกตัวเองแล้วหละว่าควรทำยังไง ที่จะอยู่ต่อได้โดย ไม่มี อะไรเกิดขึ้น โดยไม่ฝืนกระแส และ ให้คนยังไม่เกลียดมากกว่านี้

อันที่จริง เค้าส่งสัญญาน ตั้งแต่เห็นผล เลือกตั้งวันแรกๆแล้วนะครับ ว่าเค้ายอมเจรจานะ ทั้งปล่อยน้อง ทั้งๆที่ก่อนหน้าขอเท่าไหร่ ก็ไม่ปล่อย ทั้งคดี สว ทรงเอ
คดี ช่อและอื่นๆ ที่ผลเป็นบวก จนทุกคน งง แต่เราก็ลืมไป

ใครจะสั่งศาลให้ได้เร็วขนาดนั้นครับ มีอยู่คนเดียว

และล่าสุด สว.กุ๊ยอีก อยู่มาตั้งนานไม่มีใครกล้าเล่น นี่แป้ปๆเป็นคดี ตร. กล้าออกหมายจับ ทั้งๆที่ตัดจบ ตั้งกะลูกน้องก็ได้

โดยส่วนตัวผมคิดว่าพวกนี้มันเป็นสัญญานหมด เราอาจะนึกไม่ถึง

นี่แหละครับเหตุผลของผม

และเห็นด้วยครับว่า วิธีเดิมๆที่ใช้มาหลายๆรอบ เริ่มจะใช้ไม่ได้แล้ว ยิ่งใช้ ผลย้อนกลับยิ่งแรง

และต้นทุนหน้าตักในการใช้เหตุผล ที่จะทำ แทบไม่มีแล้ว

ยกเว้นจะโนสน โนแคร์ จริงๆ และไม่สนใจกับประเทศอื่นๆ ที่เค้ามีผลประโยชน์ ในประเทศเราเลย

ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ครับ ประเทศยักษ์​ๆ ก็จับตาเราอยู่ และประเทศเรา ก็ต้อง พึ่งสังคมโลก

และเค้าแคร์ สังคมโลกมากด้วย ดูสิครับ ออก สาสน์ไปหา ทุกประเทศ ทั่วโลก ทุกวันๆ ประเทศไหนทำอะไร ออกสาสน์ไปแสดงความรู้สึกหมด

อ่อลืมไป อีกอย่าง อย่าลืม มองพรรคร่วม ทั้งหมดสิครับ เกือบทั้งหมด รอยัล ทั้งนั้น มีผู้อาวุโส 1 คนที่สามารถจะเป็น สะพานเชื่อมให้ด้วยซ้ำ

ผมไม่ได้หมายถึงท่านครับ ผมหมายถึง จขม (คนตั้งกระทู้) ครับ

ถ้าถามผมเรื่อง "เขาไม่คิดจะเจรจาอยู่แล้ว" เนี่ย มันต้องย้อนไปว่ามันเคยมี timing ดีๆอยู่ช่วงนึงที่มันจะคุยกันได้ ซึ่งมันผ่านไปแล้วด้วย (ถ้าให้ผมระบุช่วงเวลา ผมคิดว่าช่วงชิมไปบ่นไป-น้องเขยโทนี่น่าจะเป็นช่วงที่ดีที่สุด) การที่เขาจะมาคิดหรือตัดสินใจอะไรตอนนี้ มันมีค่าเสียเวลาที่ต้องจ่ายครับ

เรื่องนึงที่เขาต้องรู้ (ซึ่งเขาอาจจะรู้อยู่แล้วก็ได้) คือระบบมันถูกวางไว้เป็นโยงใยระหว่างตัวเขา-รัฐราชการ-ทหาร-ตำรวจ-ระบบยุติธรรม สิ่งที่เราเห็นอาจจะเป็นคำสั่งเขาหรืออาจจะเป็นสิ่งที่คนอีกกลุ่มทำก็ได้ ซึ่งผมไม่เห็น agenda จากเขาชัดๆ เพราะเขาเองก็ต้องประสานผลประโยชน์ให้คนพวกนี้เหมือนกัน

ถ้ามองแบบ Best Scenario ว่าเขาเองก็อยากถอย แต่คำถามคือ แล้วกลุ่มคนที่เหลือละครับ เห็นด้วยกับเขาหรือเปล่า หรือต้องถามกันแบบลึกๆแล้วว่า "จริงๆแล้วเขามีอำนาจสั่งพวกนี้จริงๆไหม"

แล้วค่าเสียเวลาที่เขาต้องจ่ายคือการปลุก "ปีศาจแห่งกาลเวลา" อย่างก้าวไกลและผู้คนที่เชียร์ก้าวไกลด้วยนะ แต่เขาจะจ่ายด้วยอะไร ผมก็ไม่รู้

มี Quote นึงจากหนังเรื่อง Shooter กล่าวไว้แบบนี้ครับ

"มันไม่มีรากหรือโคนให้ถอน เพราะมันเป็นโลกของการประสานผลประโยชน์ร่วมกัน ที่ถ้ามีใครสักคนผิดสัตยาบันแห่งการกอบโกยผลประโยชน์ก็จะโดนรุมยำ"

อ้อครับท่านขอโทษด้วยครับที่เข้าใจผิด

ท่านหมายถึงช่วง Timeline ก่อนหน้านั้น ถ้าเป็นช่วงที่ท่านบอก คือช่วงคนพ่อใช่มั้ยครับ

แต่พอดีผมเข้าใจผิด ผมนึกว่าช่วงเวลาปัจจุบัน

ปัจจุบัน ผมก็ยังคิดว่า เจรจา ได้หนะครับด้วยเหตุผลที่ผมบอกไปข้างบน อันนี้คือในมุมมองผมนะ

ประเด็นที่ท่านบอก ใน ช่วงคนพ่ออาจจะจริง เพราะไม่ได้โดนรวบศูนย์ แบบชัดๆเหมือนปัจจุบัน

ตอนนี้คือ เหมือนรวบอำนาจ ทุกหน่วยไว้โดยตรง พร้อมรับใช้ตลอด แต่ไม่รู้ว่าเต็มใจรึเปล่านะ

ผมเลยมองว่าถ้าเจรจา จบคนเดียว มันแก้ปัญหาทั้งหมดได้ และยังแอบคิดว่า เค้าก็เล่นการเมืองเป็น ถึงเค้ามองไม่ออก แต่คนใกล้ชิดเนี่ยแหละ น่าจะมองออก และ ให้คำแนะนำเค้าได้

ขอโทษท่านอีกทีนะครับ ขอบคุณครับ