ผมก็ว่าญี่ปุ่นนะ ขนาดสมัยสงครามโลก ถ้าหมั่นไส้จริงถล่มแหลกไปละ ถึงจะไม่ใช่อาณานิคมก็เถอะ

ญี่ปุ่นนะ ตอนสงครามโลก เค้าก็ทำกับเราน้อยกว่าที่ไปทำกับประเทศอื่นเยอะนะ

1 ญี่ปุ่น ทั้งคนทั้งรัฐบาลมองเราเป็นมิตร ทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจ
2 เมกา คนไม่ได้เกลียด ชอบอาหาร ชอบมาเที่ยว ชอบวัฒนธรรม รัฐบาลเห็นเราเป็นพันธมิตร
3 จีน คนจีนคล้ายๆคนญี่ปุ่นแต่ก็มีบางส่วนไม่ชอบเพราะวัฒนธรรมเรามันตรงข้ามกับเขาโดยเฉพาะพวกชมพูน้อย รัฐบาลจีนน่าจะพยายามดึงไทยมากแต่ไม่น่าเห็นไทยเป็นมิตรเท่าไหร่เพราะให้อาวุธทั้ง พม่า ลาว เขมร

เขมร นะ เห็นพูดคุยกับไทย อย่างไมตรีจิต ทุกวันช่วงนี้

แถมนักกีฬา ระดับ โอลิมปิค มหาอำนาจด้วย

โดยรวมทุกด้านก็คงญี่ปุ่นอะแหละ ดูเป็นบ้านพี่เมืองน้องกว่าประเทศอื่นเยอะ คนไทยก็ซึมซับวัฒนธรรมญีปุ่่นค่อนข้างเยอะ

ญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นครับ มิตรด้ามเลยแฮร่

ทั้งท่องเที่ยวฟรีวิซ่า นำเข้าส่งออก นวัตกรรมเทคโนโลยี วัฒนธรรม อาหารศิลปะ สื่อบันเทิง

ก็ตามยุคตามสมัยล่ะครับ

ช่วงสงครามเย็น รอบๆ เราเป็นคอมมิวนิสต์หมด เมกากลัวจะล้มเป็นโดมิโน่ เลยให้ความสำคัญกับไทยมาก การลงทุน สิทธิพิเศษ ความช่วยเหลือมาเต็ม เราก็พัฒนาก้าวกระโดดจากเพื่อนบ้านเลย สรุปง่าย ๆ เป็นเบี้ยที่ไม่อยากเสียไปจากกระดาน

ส่วนจีน อันนี้เขามองเราเป็นรัฐที่ยอมสยบส่งบรรณาการมาให้ตั้งแต่โบราณ ตัดมาที่ปัจจุบัน จีนดำเนินนโยบายแข็งกร้าวขึ้น แผ่อิทธิพลแถวทะเลจีนใต้ แล้วใช้นโยบายทางด้านการเงิน หนี้สิน จูงจมูกผู้ปกครองของประเทศแถบนี้กลายเป็นลิ่วล้อโดยปริยาย อันนั้นคือการเมืองทางสว่าง แต่ทางมืดๆเทาๆ ตอนนี้ไทยเราก็อย่างที่เห็น ทหารตำรวจกรมการปกครองบิ๊ก ๆ เขาได้อานิสงฆ์จากทุนจีนสีเทามาไม่รู้กี่สิบปีแล้ว เอื้อจีนมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาเป็น แค่ตอนนี้เรื่องมันเพิ่งแดงออกมาต่างหาก

พูดง่าย ๆ ไทยกับมหาอำนาจต่างพยายามหาผลประโยชน์กันและกันครับ แต่แนวทางในการอ่อยเหยื่อ ผมชอบเมกามากกว่าจีนนะ เกลียดนโยบายกินรวบของจีน เพราะท้ายสุดไทยจะไม่เหลืออะไรเลยถ้าจีนกุมทุกอย่างไว้ในมือได้แล้ว