ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1124
ที่อยู่: Hat yai สภาทนายความภาค9
โพสเมื่อ: Thu May 11, 2023 19:48
ว่าด้วยยุคที่หนึ่งของจักรวาลมิดเดิ้ลเอิร์ธ(จักรวาลโทลคีน)เนื้อหาก่อนLOTR Part1
ก่อนอื่นผมต้องขอยอมรับก่อนว่าบทความนี้ผมดองไว้นานมากๆ ถ้านับก็ช่วงหลังจากที่ซีรี่ย์อย่าง Rings of Power จบลงไปได้1-2อาทิตย์ โดยคิดว่าจะลงต่อจากกระทู้นี้เลยตอนแรก
http://www.soccersuck.com/boards/topic/2209606
แต่สุดท้ายไม่ได้เขียววันนี้ว่างเลยจัดเต็มเขียนจบรอบเดียวไปเลย

ซึ่งในบทความนี้ผมจึงอยากจะนำเสนอว่าทำไมแฟนๆของวรรณกรรมชุดนี้รวมถึงตัวผมเองถึงได้ไม่ชอบซีรี่ย์ ROP ขนาดนั้น ตามธรรมเนียมเราต้องเปิดดนตรีเพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่าน



EDIT ตัวละครเมลคอร์กับมอร์ก็อธคือตัวเดียวกันนะครับที่ผมต้องเขียนสองชื่อเพราะช่วงเวลานึงเขาถูกเรียกว่าเมลคอร์ แต่พอได้รับการตั้งชื่อก็เรียกมอร์ก็อธ

ก่อนอื่นเลยผมขอแนะนำโครงสร้างของจักรวาลนี้ก่อนเลยละกัน



สำหรับผู้ปกครองสูงสุดหรือพระเจ้าก็คือองค์เอรูหรืออิลูวาทาร์ พระผู้เป็นหนึ่ง



พระองค์ได้สร้างเหล่าไอนัวร์ขึ้นมาเพื่อที่จะคอยช่วยเหลือพระองค์ในการสร้างสรรพสิ่งต่างๆจากมหาคีตาแห่งไอนัวร์ หรือไอนูลินดาเล (ไอนัวร์ถ้าจะเปรียบเทียบก็คือเทวทูตนั่นแหละหรือเอาง่ายๆก็คือพวกเทพ)
โดยที่เหล่าไอนัวร์นั่นแบ่งออกเป็น 2ประเภทนั่นก็คือ เทพวาลาร์กับเทพไมอาร์ โดยที่เทพวาลาร์นั้นถือเป็นเทพชั้นสูง ส่วนเทพไมอาร์จะเป็นเทพชั้นรองและเป็นบริวารของเทพวาลาร์อีกที สำหรับรายชื่อของเหล่าวาลาร์มีดังนี้


วาลาร์



มานเว 2.อุลโม 3.อาวเล 4.โอโรเม 5.มานดรอส 6. ลอริเอน และ7.ทุลคัส

วาลิแอร์หรือเทพีวาลาร์
1.วาร์ดา 2.ยาวันนา 3.นิเอนนา 4.เอสเต 5.ไวเร 6.วานา และ7.เนสซา



ในด้านของความสามารถและคู่ครองของเหล่าวาลาร์มีดังนี้ครับ



-เทพบดีมานเว
ผู้ซึ่งเป็นกษัตริย์ของเหล่าทวยเทพ เทพแห่งท้องฟ้ามีความสามารถในการควบคุมอากาศ และพระองค์ยังมีเหล่าวิหคเป็นภาหนะส่วนตัว(เหล่าพญาอินทรีย์ที่เราเห็นๆกันล้วนอยู่ในอาณัติของพระองค์)และเป็นผู้ที่องค์เอรูโปรดปรานมากที่สุดอีกด้วย ส่วนคู่ครองก็คือ
-เทพีวาร์ดา
ผู้ทรงงดงามมีหน้าที่ควบคุมแสงสว่างในจักรวาล อีกทั้งยังเป็นที่เกลียดชังและหวาดกลัวของเมลคอร์มากที่สุด

-เทพอุลโม
ผู้ครองสายน้ำทรงฤทธาเป็นรองแค่เทพมานเวไร้คู่ครอง

-เทพอาวเล
ผู้ปกครองสารพันธาตุและงานช่างทรงฤทธาเป็นรองเทพอุลโมเล็กน้อย พระองค์ทรงสร้างงานฝีมือออกมามากมายและด้วยความที่มีความสามารถทางด้านช่างจึงทำให้เทพอาวเลสนิทกับเอลฟ์ชาวโนลดอร์มากเป็นพิเศษ เพราะชาวโนลดอร์ฝักใฝ่ในงานช่างจึงมาขอคำแนะนำจากเทพอาวเลเป็นประจำ ส่วนผลงานชิ้นเอกของแกคงหนีไม่พ้นคนแคระที่พระองค์สร้างออกมา ส่วนพระชายาก็คือ
-เทพียาวันนา
เทพีผู้ครองความอุดมสมบูรณ์

-เทพมานดรอสหรือนาโม
เทพแห่งความตายและคำพิพากษา พระองค์มีหน้าที่คอยจัดการรวบรวมดวงวิญญานตัดสินเอลฟ์ที่เสียชีวิตไปแล้ว แถมยังเป็นเทพยากรณ์แต่พระองค์จะไม่สามารถพยากรณ์หรือพิพากษาได้หากไม่ได้รับการยินยอมจากเทพมานเวเสียก่อน หนึ่งในคำทำนายที่สำคัญที่สุดก็คือความพินาศของเหล่าเอลฟ์โนลดอร์ส่วนคู่ครองคือ
-เทพีไวเร
เทพีแห่งการโชคชะตาถักทอ

-เทพลอริเอนหรือเอียร์โม
เจ้าแห่งมโนภาพ นิมิตรความฝันและความปรารถนาของโลกส่วนคู่ครองก็คือ
-เทพีเอสเต
ผู้อ่อนโยน ผู้เยียวยารักษาอาการบาดเจ็บและอ่อนล้าทั้งปวง ผู้ประทานพรแห่งการพักผ่อนอันสงบสุข

-เทพีนิเอนนา
น้องสาวของเทพมานดรอสและลอริเอน เทพีแห่งความเมตตาและความอดทนสามารถสัมผัสความทุกข์ของโลกได้ พระองค์มักเศร้าสร้อยตลอดเวลาและยังมอบความหวังผ่านการไว้ทุกข์

-เทพโอโรเม
เทพแห่งการล่าพระองค์มักออกไปล่าสิ่งชั่วร้ายทั้งมวลและรักธรรมชาติ โดยมีแตรศึกอย่างวาลาโรมา โดยมีม้านาฮาร์และสุนัขเทพฮูอันร่วมทางอยู่เสมอ ส่วนพระชายาของพระองค์คือ
-เทพีวานา
เทพีแห่งความงามและความเยาว์นิรันดร์ อีกทั้งยังเป็นตัวแทนของฤดูใบไม้ผลิและดอกไม้อีกด้วย

เทพทุลคัส
เทพแห่งพลังผู้ซึ่งกล่าวได้ว่ามีความแข็งแกร่งที่สุดในด้านกายภาพและมีความห้าวหาญมากที่สุดอีกด้วย ชื่นชอบกีฬามวยปล้ำไม่มีพาหนะ และพลังวาลาร์องค์สุดท้ายที่ลงมาในการจัดการเมลคอร์ ซึงทุลคัสเป็นคีย์แมนสำคัญมากๆ สามารถจัดการเมลคอร์ได้อยู่หมัดพระองค์มีคู่ครองคือ
-เทพีเนสซ่า
เทพีแห่งการเต้นรำน้องสาวของเทพโอโรเม มักไปเต้นรำกับเหล่าบริวารของเธอและมีความเร็วที่โดดเด่นอีกด้วย

ซึ่งตามหลักแล้วเมลคอร์หรือมอร์ก็อธก็ถือเป็นวาลาร์ด้วยแถมยังเป็นวาลาร์ที่ทรงพลังที่สุดอีกต่างหาก โดยองค์อิลูวาทาร์กล่าวว่าเมลคอร์กับเทพบดีมานเวมีศักดิ์เป็นพี่น้องกัน










นอกจากเทพวาลาร์แล้วองค์อิลูวาทาร์ก็ได้สร้างเทพไมอาร์ขึ้นมาด้วยซึ่งจะเป็นเทพชั้นรองและถูกสร้างมาเพื่อสนับสนุนงานขององค์อิลูวาทาร์และเหล่าวาลาร์ ถึงแม้เทพไมอาร์จะเป็นเทพชั้นรองก็จริงแต่ไมอาร์บางคนอาจจะทรงพลังกว่าเหล่าวาลาร์ด้วยซ้ำ โดยเหล่าไมอาร์นั้นมีจำนวนไม่แน่ชัดแต่ถ้านับตามรายชื่อก็จะมีดังนี้

เอออนเว ผู้ของเหล่าเทพไมอาร์เป็นเทพแห่งการยุทธ์ ผู้ชำนาญศิลปะการต่อสู้ การใช้อาวุธ และเป็นประกาศกประจำองค์มานเวเทพบดี

อิลมาเร อีกหนึ่งในผู้นำของเทพไมอาร์ ผู้พิทักษ์แห่งดวงดาวและเป็นนางสนองพระโอษฐ์ของเทพีวาร์ดา

เมลิอัน ราชินีแห่งความรัก ญาติองค์หนึ่งของเทพียาวันนา แต่ทำงานอยู่ในสังกัดของเทพีเอสเตในอุทยานลอริเอน ครั้งหนึ่งนางออกจากลอริเอนมาอภิบาลดูแลพืชพรรณบนมิดเดิลเอิร์ธในยุคดรุณแห่งกาล จึงได้พบกับเอลเว หรือเอลู ธิงโกล กษัตริย์แห่งเอลฟ์ชาวเทเลริ ในป่านันเอลม็อธ ต่อมาได้อภิเษกกับธิงโกล และได้เป็นราชินีแห่งอาณาจักรโดริอัธ

อาริเอน เทพีแห่งแสง มีฤทธิ์แรงกล้า จนแม้มอร์กอธยังต้องยำเกรง เป็นผู้อัญเชิญนาวาแห่งดวงตะวัน

ทิลิออน เทพองค์หนึ่งในสังกัดของเทพโอโรเม ผู้หลงใหลในแสงของพฤกษาเงิน จึงอาสาเป็นผู้อัญเชิญเกาะแห่งดวงจันทร์

ออสเซ เทพแห่งคลื่นลม เคยคิดแปรพักตร์ไปอยู่กับมอร์กอธ แต่ภายหลังกลับใจและมาอยู่รับใช้ อุลโม เทพแห่งสมุทร

อุยเนน เทพีแห่งสายน้ำ ผู้คอยรับใช้อุลโม เทพแห่งสมุทร เป็นชายาของเทพออสเซ

โอโลริน "ผู้มีฝัน" เป็นเทพในสังกัดของเทพเอียร์โม แห่งลอริเอน แต่เขามักไปเรียนรู้ความเมตตาจากเทพีนิเอนนาอยู่เสมอ เทพมานเวคัดเลือกให้เขาเป็นหนึ่งใน อิสทาริ เพื่อเดินทางมามิดเดิลเอิร์ธ เป็นที่รู้จักในชื่อ "แกนดัล์ฟ"

คูรูโม "ผู้เปี่ยมทักษะ" เดิมเป็นเทพในสังกัดของอาวเล เทพวิศวกรรม ภายหลังได้รับเลือกเป็นหนึ่งในอิสทาริ เดินทางมามิดเดิลเอิร์ธ เป็นที่รู้จักในชื่อ "ซารูมาน"

เซารอน เดิมเป็นเทพในสังกัดของอาวเล เป็นผู้ชำนาญในการสร้างสรรค์ ต่อมาแปรพักตร์ไปรับใช้เทพอสูรมอร์กอธ

บัลร็อก ชื่อเรียกกลุ่มดวงจิตไมอาร์จำนวนหนึ่งซึ่งเป็นเทพแห่งไฟ เป็นผู้คอยรับใช้มอร์กอธ

ก็อธม็อก เจ้าแห่งบัลร็อก เทพซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มของเทพแห่งไฟ




เมื่อกล่าวถึงเมลคอร์แล้วก็ขอขยายความคำว่ามหาคีตาแห่งไอนัวร์(ไอนูลินดาเร)ซักหน่อยละกัน เพราะมันเป็นการประพันธ์บทเพลงขององค์อิลูวาทาร์กับไอนัวร์ในการสร้างอาร์ดา(โลก)และทุกสรรพสิ่งในอาร์ดา ไม่ว่าจะเป็นเอลฟ์มนุษย์สัตว์ต้นไม้ใบหญ้า ซึ่งระหว่างบรรเลงนั้นตัวเมลคอร์พยายามจะสอดแทรกท่วงธรรมนองของตัวเองลงไป และมีไอนัวร์บางคนก็คล้อยตามท่วงทำนองอันดุดันของเมลคอร์ไปด้วย แต่สุดท้ายก็โดนองค์อิลูวาทาร์จัดการประสานท่วงทำนองให้เข้าที่ได้ถึง3ครั้ง3คราว (ประมาณเขาร้องแนวโอเปร่าแต่เมลคอร์เล่นเฮฟวี่เมทัลอะ )
ส่วนสาเหตุที่เมลคอร์ทำแบบนี้เพราะเขาต้องการสร้างอาร์ดาร์และสิ่งมีชีวิตนั้นในแบบฉบับของตนเอง แต่การที่จะสร้างสิ่งมีชีวิตได้นั้นต้องอาศัยอัคคีปริศนาซึ่งเป็นสิ่งที่มีแค่องค์เอรูเท่านั้น




ซึ่งจากการกระทำของเมลคอร์ตรงนี้ทำให้อาร์ดาบางส่วนจะมีพื้นที่หนาวสุดขั้วกับร้อนสุดขีด เมื่อประพันธ์มหาคีตาเสร็จแล้วองค์เอรูจึงแสดงนิมิตรให้เหล่าวาลร์เห็นว่าอาร์ดานั้นเป็นอย่างไร จากนั้นองค์เอรูจึงได้ส่งเหล่าไอนัวร์ลงไปยังอาร์ดาเพื่อจัดการสิ่งต่างๆ ส่วนเมลคอร์นั้นเขาขออาสาลงไปด้วยโดยอ้างว่าจะลงไปแก้ไขจากสิ่งที่ตนเองกระทำ เมื่อลงไปถึงเทพองค์อื่นๆก็เริ่มสร้างสิ่งที่ตัวเองถนัด แต่เมลคอร์นั้นคิดต่างเพราะเขาต้องการครอบครองที่แห่งนี้ พร้อมประกาศว่าตนคือผู้ปกครองของที่แห่งนี้ มิซ้ำยังคอยไปขัดแข้งขัดขาเทพองค์อื่นอยู่เรื่อยๆ เช่นเขาแผ่นดินเมลคอร์ทำลาย เขาขุดหุบเขามันก็ยกแผ่นดินขึ้นให้สูง เขาสร้างแม่น้ำมันก็ทำให้น้ำท่วม อีกหนึ่งสาเหตุที่เมลคอร์ทำลายงานของเทพคนอื่นๆนั้นเพราะเหล่าวาลาร์ได้ยกตำแหน่งเทพสูงสุดให้แก่เทพมานเวทั้งๆที่เมลคอร์ทรงพลังยิ่งกว่าวาลาร์ที่เหลือรวมกันซะอีก




ตอนแรกเหล่าเทพก็ไม่ค่อยอยากจะจัดการเมลคอร์เท่าไหร่หรอกด้วยความที่เป็นเทพวาลาร์ด้วยกัน แต่เมลคอร์นั้นแปลงกลายเป็นร่างยักษ์แล้วทำลายพื้นโลก เหล่าทวยเทพจึงทนไม่ไหวเตรียมผนึกกำลังกัน ประจวบเหมาะกับเทพทุลคัสที่ได้ชื่อว่ามีพละกำลังแข็งแกร่งที่สุดได้ลงมาจุติพอดี การมาของเทพทุลคัสนั้นสร้างความหวั่นวิตกให้แก่เมลคอร์พอสมควรดังนั้นเมลคอร์เลือกที่จะหลบเร้นซ่อนตัวหายไปในเงามืด เมื่อเมลคอร์ไม่ไม่อยู่เหล่าเทพก็ได้จัดการสะสางสิ่งต่างๆให้ฟื้นกลับคืนมาเพื่อรอการตื่นของบุตรแห่งองค์อิลูวาทาร์ รวมไปถึงการสร้างแสงจากมหาตระเกียงขึ้นมา2อัน อันนึงอยู่เหนือสุดของอาร์ดาร์คือ illuin อีกอันอยู่ใต้สุดคือ ormal พร้อมกับสร้างทะเลสาปขึ้นมาในใจกลางของอาร์ดาร์และเกาะอยู่ในนั้นเพื่อเป็นที่พำนักของเหล่าวาลาร์ทั้งหมด ซึ่งก็คือเกาะอัลมาเรน ต่อมายังมีงานแต่งของเทพทุลคัสกับเทพีเนสซ่า เมลคอร์จึงอาศัยจังหวะนี้เข้าไปทุบตะเกียงมหาชาวาลา(มหาตระเกียง)2ดวง(พระอาทิตย์พระจันทร์ยังไม่สร้าง)แถมเกาะอัลมาเรนก็พังหมดรูปไปเลย ส่วนเมลคอร์ก็หลบหนีไปได้ ดังนั้นเหล่าเทพเลยย้ายที่อยู่ไปยังทวีปอามันและสร้างวาลินอร์ขึ้นมา ส่วนเมลคอร์นั้นเมื่อแมวไม่อยู่หนูก็ร่าเริงพร้อมกับประกาศตนเป็นผู้ปกครองอาร์ดาร์ในทันที พร้อมกับสร้างป้อมอุทุมโนและป้อมอังบันขึ้นมาโดยให้เซารอนอยู่ที่อังบันด์เพื่อจับตาดูความเคลื่อนไหวของวาลาร์ จากสาเหตุการย้ายไปของเหล่าวาลาร์ทำให้ตอนนี้ทั่วทั้งอาร์ดาร์ล้วนอยู่ในความมืดภายใต้การปกครองครองเมลคอร์ไปแล้วก็ว่าได้ และเทพก็แทบจะไม่ใส่ใจฝั่งมิดเดิ้ลเอิร์ธอีกเลย



ต่อมาบุตรแห่งองค์อิลูวาทาร์ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นโดยเผ่าพันธ์ุที่ตื่นมาก่อนก็คือเหล่าเอลฟ์ หรือปฐมชน เผ่าพันธุ์เอล์ฟกำเนิดในยุคแห่งพฤกษา ซึ่งนับเป็นยุคที่สองในยุคบรรพกาล ยุคแรกคือยุคแห่งโคม ยุคที่สามคือยุคแห่งตะวัน โดยการตื่นของเอลฟ์นั้นได้ตื่นขึ้นที่ทะเลสาปคุยวิเอเนน โดยที่เอลฟ์ได้ตื่นขึ้นมา 6คู่ เอล์ฟคนแรกที่ลืมตาตื่น คือ อิมิน ข้างๆกันคือ คนที่สองคือ ตาตา ข้างๆคือ ตาติเอ และคนที่สามคือ เอเนล และเอเนลเย และแต่ละคู่ก็ไปพบเอลฟ์ที่เจอและจัดตั้งกลุ่มของตนเอง กลุ่มแรกมีน้อยสุดแค่ 14คนต่อมาคือเอลฟ์วันยาร์ กลุ่มที่2 มี56คนต่อมาคือเอลฟ์โนลดอร์ กลุ่มสุดท้ายมีมากสุดคือ74คนต่อมาคือชาวเทเลริ



ต่อมาระหว่างที่เทพโอโรเมกำลังล่าสิ่งชั่วร้ายต่างๆอยู่ก็ได้มาเจอกับเหล่าเอลฟ์จึงนำเรื่องนี้ไปรายงานต่อเทพบดีมานเวและเทพวาลาร์ตนอื่นๆ จนมีมติออกมาว่าให้เชิญเหล่าเอลฟ์มาอยู่ที่วาลินอร์ แต่ก่อนหน้านี้เมลคอร์ได้เจอกับเหล่าเอลฟ์ก่อนวาลาร์ตนอื่นๆจึงได้แอบจับพวกเอลฟ์บางส่วนมาทดลอง และในช่วงแรกๆอาจารย์โทลคีนเขียนแบบคลุมเคลือว่าออร์คนั้นเกิดมาจากเอลฟ์ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนในเรื่องนี้ และเมื่อเทพโอโรเมกลับมาเขาก็อยากชักชวนเหล่าเอลฟ์ไปยังวาลินอร์ เพื่อความปลอดภัยจากเมลคอร์โดยให้ตัวแทนของเอลฟ์แต่ละกลุ่มเดินทางไปก่อนซึ่งคนที่ได้รับเลือกก็คือ อิงเว ฟินเวและเอลเว หลังจากที่ทั้งสามได้ไปยลโฉมความงานของวาลินอร์มาแล้วก็ได้กลับมาชักชวนเอลฟ์ในกลุ่มของตนให้ไปวาลินอร์ โดยที่เอลฟ์วันยาร์ไปทั้งหมด โนลดอร์ไปส่วนใหญ่ ส่วนเทเลรินั้นมีทั้งอยากอยู่ต่อและบางส่วนก็อยากจะไป





ทำให้จุดนี้สามารถแบ่งกลุ่มของเอลฟ์ได้ออกมาอีกรูปแบบที่วัดจากการเดินทางอพยพครั้งนี้ คือ
กลุ่มแรกชาวเอลดาร์ แต่เฉพาะผู้ที่ไปถึงวาลินอร์เท่านั่นจึงถูกเรียกว่า ไฮเอล์ฟ หรือคาลาเควนดิ
กลุ่มที่สองคือผู้ที่ปฏิเสธการเดินทาง คือ พวกอวาริ หรือ ซิลวัน
อีกกลุ่มหนึ่งคือ อูมันยาร์ พวกที่เข้าร่วมการเดินทางแต่ไปไม่ถึงวาลินอร์ เพราะเอลเวผู้นำของชาวเทเลรินั้นได้หายสาปสูญไปเพราะไปต้องมนต์เสน่ห์ของเทพีเมลิอันทำให้ติดอยู่ในภวังค์เป็นเวลาหลายปี ชาวเทเลริจึงแบ่งออกอีกสองกลุ่มคือกลุ่มที่เดินทางไปยังวาลินอร์ต่อภายใต้การนำของโอลเว(น้องเอลเว) ส่วนอีกกลุ่มคือรอเอลเวจนไม่ได้ไปยังวาลินอร์ แต่ถึงอย่างนั้นเอลฟ์กลุ่มนี้ก็ยังทรงพลังกว่าเอลฟ์กลุ่มที่ไม่เลือกเดินทางไปเลยนั่นก็เพราะตัวกษัตริย์ของเขาอย่างเอลเวเคยไปวาลินอร์มาแล้ว แถมยังได้เทพีเมลิอันเป็นอีกหนึ่งไมอาร์ที่ทรงพลังมากสุดตนนึงมาเป็นราชินีของพวกเขา ทำให้แม้ไม่ได้เห็นทวิพฤกษาโดยตรงแต่ก็ยังสามารถเห็นได้ผ่านดวงตาของพระนางเอล์ฟซึ่งชื่อเรียกกลุ่มนี้คือ ซินดาร์ นั่นเอง






นอกจากการที่เหล่าวาลาร์นั้นจะให้เหล่าเอลฟ์เดินทางไปยังวาลินอร์แล้ว ยังมีสงครามระหว่างเหล่าวาลาร์กับเมลคอร์ที่กินระยะเวลานานถึง7ปี ท้ายที่สุดก็สามารถจัดการเมลคอร์ไปได้และเทพบดีมานเว ได้มีคำสั่งให้ขังเมลคอร์เอาไว้3ยุคสมัย จนกระทั่งเวลาครบกำหนดการปล่อยตัวของเมลคอร์ในช่วงแรกเขาพยายามเสแสร้งแกล้งสำนึกผิดเป็นคนดีที่กลับตัวกลับใจแล้ว ซึ่งเหล่าเทพก็ดันเชื่อซะงั้นว่ามันกลับตัวได้จริง แต่เทพทุลคัสกับเทพโอโรเมไม่ไว้ใจเมลคอร์และคอยจับตามองเมลคอร์อยู่ตลอดเวลา ซึ่งสิ่งที่เทพทั้งสองพูดมานั้นถูกต้องจอมมารคิดไม่ซื่อ เพราะเขามีแผนที่จะสร้างความปั่นป่วนจากภายใน โดยที่เขาจะใช้เอลฟ์เป็นเครื่องมือเพราะเมลคอร์โทษทีสาเหตุที่เขาต้องอยู่ใสภาพนี้เป็นเพราะเอลฟ์ สำหรับจอมมารพวกวันยาร์ที่สนิทกับเทพบดียังไงก็ไม่ฟังคำของตน ส่วนพวกเทเลรินั้นไม่อยู่ในสายตา ทำให้หวยออกที่เอลฟ์โนลเดอร์ผู้ทะเยอทะยานในช่าง สำหรับเอลฟ์โนลดอร์นั้นที่กล้าเปิดบ้านรับเมลคอร์เพราะต้องการความรู้ของเมลคอร์มาต่อยอดในงานของตน



ส่วนของฝั่งโนลดอร์นั้นเรียกได้ว่าเป็นเอลฟ์กลุ่มหลักที่มีบทบาทมากที่สุดเลยก็ว่าได้ หรือจะพูดว่าเป็นจุดเริ่มต้นความชิบ...ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นผมขอแนะนำคนของตระกูลนี้ซักนิดละกัน





สำหรับกษัตริย์ของเหล่าโนลดอร์ก็คือกษัตริย์ฟินเวโดยเขามีภรรยาสองคนคนแรกคือ มิริเอล นางเสียชีวิตหลังจากคลอดลูกชายคนแรกคือเฟอานอร์เนื่องจากเพลิงในตัวอันร้อนแรงของเฟอานอร์ เพราะเฟอานอร์มีอัคคีภายในกายมากที่สุดในบุตรของอิลูวาทาร์ คนที่สองคืออินดิสที่มาจากเอลฟ์วันยาร์ โดยฟินเวมีลูกชายสามคนคือ 1.เฟอานอร์ผู้เป็นเลิศที่สุดในหมู่เอลดาร์ลูกของมีริเอล ส่วน2.ฟิงโกลฟิน 3.ฟินดิส 4.ฟินาร์ฟินและ 5.อิริเม เป็นลูกของอินดิส



ถึงแม้ว่าทั้งสามคนจะเป็นพี่น้องกันก็จริงแต่คนละแม่ทำให้ตัวเฟอานอร์นั้นไม่ค่อยชอบน้องๆ โดยเฉพาะฟิงโกลฟินแต่ถึงอย่างนั้นทั้งสองฝ่ายก็อยู่กันได้อย่างสันติจนกระทั่งการกลับมาของเมลคอร์ ที่แสร้งว่ากลับตัวกลับใจแล้ว มาคอยยุยงสร้างความแตกแยกในหมู่โนลดอร์ เริ่มด้วยการใส่ร้ายพวกวาลาร์ว่ามีจุดประสงค์ไม่ดีต้องการขังพวกเขาไว้ที่วาลินอร์ไม่ให้กลับมิดเดิ้ลเอิร์ธ โดยมีเฟอานอร์เป็นตัวตั้งตัวตี อีกทั้งช่วงนั้นเฟอานอร์ได้สร้างซิลมาริลสำเร็จแล้วด้วย นอกจากเรื่องวาลาร์แล้วยังใส่ความน้องชายต่างแม่ว่าต้องการชิงตำแหน่งรัชทายาทบ้าง ชิงซิลมาริลหรือสมบัติบ้าง ซึ่งเฟอานอร์ก็บ้าจี้ไปเชื่อจอมมารบุกเอาดาบไปจี้ใส่คอฟิงโกลฟินถึงนครทิริออน




พอเหล่าวาลาร์ทราบเรื่องก็สืบหาความจริงจนได้รู้ว่าเมลคอร์เป็นผู้ยุยง เทพทุลคัสเลยรีบพุ่งไปหาจอมมารแต่มันได้หนีไปแล้ว

การกระทำครั้งนี้ของเฟอานอร์นั้นถือเป็นความผิดร้ายแรงจึงโดนเนรเทศไปยังป้อมฟอร์เมนอส โดยที่เขาได้ขนสมบัติและซิลมาริลไปยังที่นั่นด้วย ส่วนผู้เป็นพ่ออย่างฟินเวก็ได้ตามมาอยู่กับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนด้วย




ต่อมาเมลคอร์แบกหน้ามายังฟอเมนอสเพื่อจะยุยงเฟอานอร์ต่อว่า สิ่งที่เขาพูดคือความจริงเพราะตอนนี้ฟิงโกลฟินจะเรียกว่าเป็นครองนครทิริออนแล้ว แต่เฟอานอร์ย่อมรู้จุดประสงค์ของเมลคอร์และไล่จอมมารให้ใสหัวไปซะ



หลังจากนั้น12ปีต่อมา เหล่าวาลาร์ได้จัดงานเลี้ยงให้แก่เฟอานอร์และฟิงโกลฟินเพื่อปรับความเข้าใจกัน จากนั้นฟิงโกลฟินยอมคุกเข่าสวามิภักดิ์ให้กับพี่ชายในฐานะผู้อาวุโสและศักดิ์สูงกว่าตน แต่อีกด้านนึงเมลคอร์ที่โดนเฟอานอร์ตะเพิดไปมันได้ไปร่วมมือกับนางพญาแมงมุมอุงโกลิอันด์โดยยื่นข้อเสนอว่าถ้านางยอมช่วยเมลคอร์สัญญาว่าจะกินทุกๆอย่างๆ เมื่อมาถึงวาลินอร์อุงโกลิอันด์ก็ได้ดูดน้ำจากต้นทวิพฤกษาจนหมดจริง แถมยังดูดน้ำในสระของเทพีวาร์ดาหมดสระอีกด้วย เมื่อเสร็จภารกิจเมลคอร์พยายามจะชิ่งหนีแต่นางแมงมุมรู้ทันจึงสั่งให้จอมมารส่งอัญมณีมาให้ซึ่งเขาก็ส่งให้ จนกระทั่งนางขอกินซิลมาริลแต่เมลคอร์ปฎิเสธนางจึงจะเปลี่ยนเป็นกินเมลคอร์แทน แต่เนื่องจากเสียงกรีดร้องของจอมมารดังมาก เหล่าบัลร็อกจึงได้ออกมาขับไล่อุงโกลิอันด์ไปจนได้




จากที่กล่าวมาตอนนี้แสงสว่างที่มีเพียงอย่างเดียวนั่นคือแสงจากซิลมาริลเท่านั้นที่สามารถทดแทนได้ทวิพฤกษาได้ เพราะตัวทวิพฤกษานั้นกักเก็บแสงของต้นทวิพฤกษาไว้ เหล่าเทพเลยบอกให้เฟอานอร์ส่งซิลมาริลมาให้ แต่ทางเฟอานอร์ในตอนนี้ยังสองจิตว่าจะมอบให้ดีมั้ย แต่เฟอานอร์ก็ได้พุดประมาณว่าของสิ่งนี้ไม่มีใครสามารถสร้างขึ้นมาได้ต่อให้เป็นเทพแห่งการช่างอย่างอาวเลก็ตาม ไม่สิต้องบอกว่าถ้าให้เฟอานอร์สร้างขึ้นมาอีกครั้งก็ไม่แน่ว่าจะสร้างซิลมาริลขึ้นมาได้อีก แต่ข่าวร้ายยังไม่หมดเมื่อมีคนรายงานว่าป้อมฟอเมนอสโดนทำลายกษัตริย์ฟินเวก็โดนเมลคอร์สังหารและมันได้ขโมยสมบัติทั้งหมดของเฟอานอร์ไปรวมไปถึงซิลมาริลด้วย จากการกระทำของเมลคอร์เฟอานอร์เลยตั้งฉายาของเมลคอร์เป็นมอร์ก็อธ จากนั้นเฟอานอร์ในฐานะกษัตริย์ของเหล่าโนลดอร์ปลุกระดมชาวโนลดอร์ให้ตามเขาไปไล่ล่าซิลมาริลคืนจากเมลคอร์ที่มิดเดิ้ลเอิร์ธโดยไม่สนใจคำของทวยเทพ แถมยังให้เหล่าลูกๆมาสาบานโดยนามขององค์เอรูในการตามล่าซิลมาริลคืนไม่ว่าอีกฝั่งคือใครก็ตาม ซึ่งผลของการสาบานครั้งนี้มีผลที่ตามหลังมาแน่นอน ส่วนทางของฟิงโกลฟินนั้นแม้ไม่อยากจะไปแต่เขาพึ่งคุกเข่าสวามิภักดิ์ต่อเฟอานอร์ไป จะกลับคำก็ไม่ได้ อีกอย่างเขาก็ไม่ไว้ใจความหุนหันพันแล่นของพี่ชายอย่างเฟอานอร์ที่อาจสร้างความเสียหายแก่ชาวโนลดอร์คนอื่นๆได้ ฟิงโกลฟินเลยจำใจติดตามเฟอานอร์ไปยังมิดเดิ้ลเอิร์ธ







แต่การที่จะข้ามไปยังมิดเดิ้ลเอิร์ธนั้นไปได้สองทางคือนั่งเรือข้ามทะเลไป หรือไม่ก็เดินทางผ่านช่องเขาเฮลคารัคเซ แต่เนื่องจากชาวโนลดอร์ไม่มีเรือในการข้ามฟากเขาเลยไปขอยืมเรือจากเอลฟ์เทเลริ(ฟามาลิ)แต่ก็ได้รับการปฏิเสธกลับมาเพราะชาวเทเลริไม่ต้องการขัดคำสั่งของทวยเทพ เมื่อความเห็นไม่ตรงกันเลยทำให้เกิดการต่อสู้ระหว่างเอลฟ์ด้วยกันระหว่างโนลดอร์ vs เทเลริ ผลปรากฏว่าโนลดอร์สามารถเอาชนะไปได้




เฟอานอร์และพวกได้จึงขึ้นเรือเพื่อที่จะเดินทางไปต่อแต่จู่ๆเทพมานดรอสได้ปรากฎกลายขึ้นและได้พยากรณ์ว่าการต่อสู้กับมอร์ก็อธจะไร้ผลและเพียงแค่เอลฟ์ไม่สามารถจัดการมันได้และสุดท้ายจะถึงแก่หายนะ จากนั้นเทพออสเซก็มารับช่วงต่อสร้างลมพายุทำให้เรือที่พวกโนลดอร์เอามาเริ่มจมหายไปทีละลำ ทำให้เรือที่จะข้ามไปทีเดียวไม่พอเฟอานอร์ได้พาพรรคพวกข้ามไปยังฝั่งมิดเดิ้ลเอิร์ธก่อน แต่แทนที่จะกลับไปรับชาวโนลดอร์ที่เหลือของฟิงโกลฟินแต่เขาเลือกที่จะเผาเรือทั้งหมด พอเห็นแสงไฟพวกของฟิงโกลฟินนั้นก็รู้แล้วว่าตนโดนหักหลัง แต่ถ้าหวนกลับไปก็ไม่กล้าสู้หน้าทวยเทพ ฟิงโกลฟินเลยตัดสินใจเดินทางผ่านเฮลคารัคเซอันหนาวเหน็บ









ทางฝั่งของเฟอานอร์เมื่อย่ำเท้าเข้าสู่มิดเดิ้ลเอิร์ธก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากมอร์ก็อธ โดยการส่งพวกออร์คมาดักไว้เพราะเห็นแสงไฟจากการเผาเรือ แต่ต่อให้อีกฝั่งจะมีจำนวนมากกว่าก็ไม่เป็นผลเพราะเอลฟ์ที่อาบแสงทวิพฤกษานั้นโครตจะ OP การต่อสู้นี้เอลฟ์ของเฟอานอร์เหนือกว่าเยอะมากแต่ตัวเฟอานอร์เองนั่นแหละที่ไม่รู้มันมือหรือยังไงถึงได้บุกฝ่าไล่เชือดศัตรูจนเกือบถึงประตูของมอร์ก็อธ โดนที่ทัพตัวเองตามแทบไม่ทันจากนั้นอสูรไฟไมอาร์บัลร็อคก็ออกมารุมเฟอานอร์ ซึ่งต่อให้พี่แกเก่งขนาดไหนแต่โดนรุมโดนบัลร็อคที่เป็นเทพไมอาร์แห่งไฟ แถมยังมีก็อธม็อคราชาของบัลร็อคอีก แม้จะพลาดท่าแต่ท้ายที่สุดก็สามารถนำร่างเฟอานอร์ออกมาได้ ก่อนที่เฟอานอร์จะตายนั้นเขาได้นึกถึงคำพยากรณ์ของมานดรอสขึ้นมา จากนั้นร่างกายของเฟอานอร์สลายไปเหมือนไฟเพราะดวงจิตแห่งไฟของเขาเอง



ขอเสริมจุดนี้ โลกในจักรวาลนี้ช่วงแรกจะเป็นโลกแบนราบ เปรียบเทียบคือเราเดินไปทางเหนือสุดของแผนที่ เราไม่สามารถเดินทางไปต่อแล้ววนกลับมาที่เดิมได้จุดสิ้นสุดตรงไหนก็จบแค่ตรงนั้น เพราะโลกมันกลมตอนปลายยุคที่2เลยเดี๋ยวค่อยมาขยายข้อมูลตรงส่วนี้ให้อีกที







ป.ล.เหมือนเดิมครับถ้าผิดพลาดตรงไหนสามารถแสดงความเห็นวิเคราะห์วิจารณ์ได้เต็มที่ ถ้ามีข้อมูลไม่ตรงหรือตกหล่นก็ต้องขออภัยเพราะข้อมูล80-90 เปอร์เซ็นต์มาจากความจำ
แก้ไขล่าสุดโดย เป็นความลับ เมื่อ Thu May 11, 2023 22:28, ทั้งหมด 1 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ

ออนไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 1469
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu May 11, 2023 20:38
[RE: ว่าด้วยยุคที่หนึ่งของจักรวาลมิดเดิ้ลเอิร์ธ(จักรวาลโทลคีน)เนื้อหาก่อนLOTR]
เคยฟังในช่อง fan fiction ไปทีนึงแต่ลืมๆ ไปละ เดี๋ยวว่างๆ จะมานั่งอ่านซ้ำกระทู้ท่านอีกทีนะครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
LINE กลุ่ม Blue Archive บอร์ด Soccer Suck

https://line.me/ti/g2/JntT3ck6SzXMMBHj2Y3GLkj7Cn137wguta5JlQ
ออฟไลน์
OTG
นักบอลถ้วย ก.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Sep 2010
ตอบ: 1813
ที่อยู่: everywhere
โพสเมื่อ: Thu May 11, 2023 22:26
[RE: ว่าด้วยยุคที่หนึ่งของจักรวาลมิดเดิ้ลเอิร์ธ(จักรวาลโทลคีน)เนื้อหาก่อนLOTR]
คุณภาพ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
CHELSEA

OG
ออฟไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status: 18+ คือนิพพาน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2164
ที่อยู่: โรงละครเเห่งความฝัน
โพสเมื่อ: Thu May 11, 2023 22:38
ว่าด้วยยุคที่หนึ่งของจักรวาลมิดเดิ้ลเอิร์ธ(จักรวาลโทลคีน)เนื้อหาก่อนLOTR Part1
ยาวจัด ปักไว้ก่อนเดี๋ยวมาอ่านครับ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Nov 2005
ตอบ: 3283
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri May 12, 2023 09:34
[RE: ว่าด้วยยุคที่หนึ่งของจักรวาลมิดเดิ้ลเอิร์ธ(จักรวาลโทลคีน)เนื้อหาก่อนLOTR Part1]
เพิ่งนอนดูในยูทูบไปเมื่อคืน มาได้อ่านในนี้อีกที
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


Championships 500cc - 1993
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Apr 2009
ตอบ: 1442
ที่อยู่: หลังมอ
โพสเมื่อ: Sat May 13, 2023 01:42
[RE: ว่าด้วยยุคที่หนึ่งของจักรวาลมิดเดิ้ลเอิร์ธ(จักรวาลโทลคีน)เนื้อหาก่อนLOTR Part1]
อ่านเพลินมากครับท่าน
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Feb 2011
ตอบ: 2079
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun May 14, 2023 08:43
[RE: ว่าด้วยยุคที่หนึ่งของจักรวาลมิดเดิ้ลเอิร์ธ(จักรวาลโทลคีน)เนื้อหาก่อนLOTR Part1]
ยังรออ่าน Part 2 อยู่นะครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel