โพสต์พลีชีพเพื่อการเลือกตั้ง 14 พฤษภา
ถ้ามองจากสถานการณ์เผด็จการเพื่อนบ้านในเอเชียแล้วจะเห็นว่า ณ จุดนี้การลงถนนไม่อาจทำให้ได้ประชาธิปไตยมาแล้ว อย่างเคสฮ่องกงหรือพม่าก็คือปราบปรามรุนแรงไปเรื่อยๆ ในส่วนของจีนที่เศรษฐกิจภายในกำลังล่มสลาย รัฐบาลท้องถิ่นเริ่มล้มละลาย อัตราว่างงานสูง คนออกมาประท้วงและจลาจลมากขึ้น รัฐก็ปราบปรามรุนแรงอยู่ดี นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าถ้าไม่เกิดยึดอำนาจกันเองในพรรคคอมมิวนิสต์ จีนก็คงไปทางเกาหลีเหนือ คือประชาชนก็ยากแค้นไปเรื่อยๆ แต่รัฐก็ยังกุมอำนาจต่อไป ทั้งหมดนี้เพราะปืนในสมการนี้มันไปกองกันอยู่ข้างเดียว ประชาชนไม่มีทางสู้
หลายคนในประเทศเรายังมองภาพประชาธิปไตยเป็น 14 ตุลา หรือพฤษภา 35 ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด เพราะการชุมนุมประท้วงใหญ่ที่จบลงด้วยการนองเลือดทั้งสองครั้งนั้นไม่ได้นำมาซึ่งประชาธิปไตย แต่นำมาซึ่งอำนาจเบื้องบนสั่งให้นายกทหารลาออกแล้วก็แต่งตั้งนายกพระราชทานขึ้นมา (ประชาธิปไตยตรงไหนเอาปากกามาวง) ดังนั้นความคิดที่ว่าถ้าเขารัฐประหาร หรือยุบพรรค แล้วจะลงถนนให้เยอะๆ แล้วจะได้ประชาธิปไตยเป็นความเข้าใจผิด เพราะในสมการนี้ปืนก็อยู่ข้างเดียวเหมือนกัน ถ้าประเทศเราเดินทางไปถึงวันนั้นก็น่าจะจบแบบพม่า จีน หรือเกาหลีเหนือแน่นอน
ช่วงปี 2019-2020 เราเคยบอกว่าถ้าใครทำม๊อบเราจะไปลงถนนด้วย และเราเชื่อว่าม๊อบก็มีประโยชน์ต่อ democratization ทั้งนี้เพราะม๊อบอันต่อเนื่องยิบย่อยน่ารำคาญไม่จบซักที จะทำให้เผด็จการรู้สึกเหนื่อยและเบื่อหน่าย ทั้งนี้ไม่ใช่จะทำให้มันลาออกไปเอง แต่มันจะรู้สึกว่า กูตั้งพรรคการเมืองแล้วชนะเลือกตั้งมาเป็นรัฐบาลแม่งจะปกครองง่ายกว่านี้เยอะมาก และตอนนี้อำนาจกูก็มีแล้ว เอาเงินภาษีมาแจกประชาชนแบบประชานิยม จัดหลักสูตร propaganda ในโรงเรียน มหาวิทยาลัย ท้องถิ่น ฯลฯ สนับสนุนฝ่ายอนุรักษนิยมก็ได้ ออกกฎหมายเลือกตั้งเองก็ได้ ได้เปรียบทุกทางอย่างงี้กูลงเลือกตั้งดีกว่า ขี้เกียจปราบม๊อบ มันทำให้ฉันดูแย่
สิ่งนี้คือสิ่งที่เกิดในเกาหลีใต้เป๊ะๆ และที่พรรค KMT ของไต้หวันเริ่มคิดว่าจะให้มีพรรคการเมืองฝ่ายค้านได้ในปลาย 1980s ก็มาตามหลักการเดียวกัน การเอาทหารออกจากการเมืองที่จะสำเร็จอย่างยั่งยืนคือต้องให้ทหารแปลงร่างเป็นนักการเมือง และการจะเป็นเช่นนั้นได้คือมันต้องเชื่อว่าบริบททุกอย่างทำให้มันได้เปรียบและมีสิทธิชนะ ดังนั้นก็ไม่แปลกอีกเช่นกันที่ในการเลือกตั้ง ปธน ครั้งแรกในกระบวนการ democratization ของทั้งเกาหลีใต้และไต้หวันคือตัวแทนพรรคฝ่ายเผด็จการเป็นผู้ชนะ
ประเทศเรากำลังมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะนำไปสู่ democratization แล้ว เป็นความเปลี่ยนแปลงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ถ้ารอบนี้ประยุทธ์ประวิตรชนะแล้วได้เป็นรัฐบาล อีก 4 ปีก็จะได้เลือกตั้งอีก และในรอบนั้นก็คงไม่เจอประวิตรประยุทธ์แล้ว แต่ถ้าเราจะรีบลัดขั้นตอนตั้งแต่วันนี้ก็มีทางที่จะทำได้ คือเลือกพรรคใดพรรคหนึ่งให้มีที่นั่งมากพอที่จะชนะ สว.250 เสียงในการโหวตนายก หรือ ฝ่ายประชาธิปไตยเอา พปชร ร่วมรัฐบาลแล้วให้ประวิตรเป็น รมว กลาโหม เอาจริงๆ เราต้องมีที่ลงให้เขาในระบอบประชาธิปไตย ไม่งั้นมันไม่มีเหตุอันใดที่เขาจะไม่เอาปืนในมือออกมาใช้ และสอง ป. อุตส่าห์แยกกันตั้งพรรคการเมืองคนละพรรคแล้ว ถ้าเราแยกสองพรรคนี้ให้อยู่คนละฝั่งกันได้ฝ่ายประชาธิปไตยก็ยิ่งมีโอกาสมาก แล้วเราจะได้เริ่มฟื้นฟูประเทศตั้งแต่หลังเลือกตั้งคราวนี้ รัฐบาลเลือกตั้งจะอยู่ได้ครบวาระ 4 ปีแล้วมีเลือกตั้งอีก เราจะ democratize ได้เหมือนเกาหลีใต้และไต้หวัน
แต่ถ้าเรารังเกียจ พปชร มาก เราไม่จับมือกับพวกที่เป็นรัฐบาลตอนนี้เด็ดขาด และเราจะต้องเลือกพรรคที่ชูนโยบายแก้ 112 ฯลฯ สิ่งที่เราจะได้ ถ้าเราโชคดีคือ 2 ป. กลับมาเป็นรัฐบาล และเราเป็นฝ่ายค้านไปอีก 4 ปี รอเลือกตั้งรอบหน้า ถ้าเราโชคร้าย มีคนทำม๊อบลงถนนใหญ่โต เราจะนองเลือด แล้วทหารจะคิดว่าไม่น่าเลือกตั้งให้เสียเวลาเลยกู ท้ายสุดแม่งก็ม๊อบอยู่ดี แล้วมันจะรัฐประหาร แล้วเราจะไปทางพม่า จีน เกาหลีเหนือไปอีกยาวนานมาก โอกาสที่ 100 ปีมีหนในการกลายเป็นประชาธิปไตยครั้งนี้จะหมดสิ้นไปโดยสิ้นเชิง

จับกับหมายังเป็นไปได้มากก่าวสูตรนี้

ไอเห็บเผ็ดกลาง มาไงวะเมากาวหรอเห็นกระแสเค้าดีจะเกาะเค้าเฉย

คนนี้เค้าเป็นใคร

สูตรนี้กาวไปไหม

หรวน

วงศ์สุรวัฒน์ นามสกุลไม่คุ้นเหรอครับ

เริ่มผลักก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้านแล้วสินะ เพราะรู้ว่าก้าวไกลยังไงก็ไม่เอาลุงแน่ๆ

เผื่อใครไม่ทราบ อ.วาสนา เป็นพี่สาว จอห์น วิญญู นะครับ

ปกติดูทรงแกก็น่าจะเอนมา กก นั่นแหละ

แต่เห็นเพื่อนในบอร์ดบอกแกเป็นแฟนกับนางแบก?

ใช่นางแบกที่ออกมาโพสต์กาวๆ บ่อยๆ เปล่าครับ

ถ้าใช่ก็น่าจะช่วยแฟนโปรโมตพรรคนั่นแหละ แต่คนอื่นในบ้านไม่รู้ยังไง

จริงๆ ผมจะ support ช่อง spokedark หลายรอบละ ติดที่มีสติกเกอร์นางแบกเนี่ยแหละ ทำเอาเชียร์ไม่ลง

พี่จอห์น แฟนของคำผกา

วงศ์สุรวัฒน์ก็ตระกูลของจอห์น วิญญูไง วาสนาคือพี่สาวของจอห์น

พี่สาวจอน วิญญู เป็น อจ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์การเมืองจีนครับ

ฟังดูก็เป็นมุมมองเขาที่เห็นประวัติศาสตร์ จีน พม่า เกาหลีเหนือ เป็นอย่างนึง เกาหลีใต้ ไต้หวันเป็นอีกอย่างนึง

ซึ่งเขาก็อยากให้สามารถไปจบแบบ เกาหลีใต้ ไม่ก็ไต้หวัน

_______________________

แต่เราอยากให้มันจบๆไปเลยครับ เอาทหารออกไปจากการเมือง ไม่ต้องมายุ่ง ไม่ต้องมาจำแลง เพราะประเทศเป็น case ที่คล้าย แต่ไม่เหมือนทั้ง จีน ทั้งเกาหลี เพราะไทยมีอีกตัวแปลที่เกื้อหนุนกับกองทัพอยู่

ถ้าแตะต้องไม่ได้ ก็ต้องเอากองทัพออกไปจากการเมืองให้ได้ครับ แล้วสถาบันจะไม่สามารถเกื้อหนุนกองทัพ กองทัพก็โหนสถาบันไม่ได้ ประเทศถึงจะไปต่อได้ ผมเชื่อแบบนั้น และเชื่อว่าทำได้ครับ

กก.คงไม่เอาแต่โหวตนายกให้ เพราะถ้าร่วมเท่ากับจบเห่เลยพรรค กับสิ่งีท่พูด ทัวร์ลงยับแน่นอนและสมัยหน้าไม่มีทางกลับมาได้อีก

เป็นแฟนนี่มุก หรือเรื่องจริงครับ
ไม่ใช่แกมีสามีแล้วหรอ ผมเข้าใจว่าแกมีสามีแล้วมาตลอด

ถ้าร่วมกับ พปชร. นี่พังหนักกว่า กกต.ยุบพรรคอีก

ก้าวไกลจุดยืนไปขนาดนั้นแล้วยังไงก็คงไม่เอาด้วยอยู่ละ แต่ถ้าเพื่อไทยไปจับพลังประชารัฐ ก้าวไกลยังคงต้องโหวตให้เพื่อไทยอยู่ไหม ส.ว.จะเทไปให้หรือยัง อันนี้ซิน่าสน

ถ้าส.ว.เอาพลังประชารัฐแต่ยอมนายกจากเพื่อไทย ก็ไม่น่ามีปัญหา แต่ถ้าส.ว.ไม่ยอมละ ก้าวไกลต้องโหวตให้ ทุกอย่างก็อยู่ที่ส.ว.อีกนั่นแหละ