แฟรงค์ แลมพาร์ด กุนซือชั่วคราว เชลซี วิจารณ์ลูกทีมตัวเอง เล่นกันอย่างสุภาพอ่อนโยนต่อคู่แข่งและเฉื่อยชามากเกินไป พร้อมเร่งเร้าว่าพวกเขาต้องแก้ไขสถานการณ์โดยเร็ว

แลมพาร์ด คุม "สิงห์บลูส์" ชั่วคราวเป็นนัดที่ 6 ยังหลุดพ้นความพ่ายแพ้ไม่สำเร็จ ล่าสุดบุกไปโดน "ปืนใหญ่" เพื่อนร่วมลอนดอนกด 3-1

เกมที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม นั้น ทีมของ แลมพาร์ด โดน อาร์เซน่อล นำห่างสามสกอร์ ตั้งแต่ราวครึ่งชั่วโมงแรก แล้วครึ่งหลัง โนนี่ มาดูเอเก้ ตีไข่แตกลดความเสียหาย

"ช่วงครึ่งแรก ฟอร์มของเราไม่ใกล้เคียงกับคำว่าดีพอ" ตำนานกองกลาง เผยความรู้สึกหลังเกม

"เราเล่นกันอย่างสุภาพอ่อนโยนต่อคู่แข่ง และเฉื่อยชากันเกินไป จนดูเหมือนไม่ใช่ เชลซี, เราไม่ต่อบอลหนีการเพรสซิ่งของ อาร์เซน่อล และเราเก็บบอลจังหวะสองไม่ได้

"ครึ่งหลังเราเล่นดีและสร้างโอกาสมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นเพราะสิ่งที่ผมพูดในห้องแต่งตัว แต่ถึงตอนนั้นผลการแข่งขันก็ชัดเจนแล้ว"

"ความเฉื่อยชา สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายเหตุผล แต่ผมเชื่อว่าสำหรับเราแล้ว มันไม่ได้เกิดเพราะเหล่าผู้เล่นไม่ใส่ใจ"

"ถึงแม้จะอยู่ในช่วงความมั่นใจต่ำ แต่เมื่อสวมเสื้อของ เชลซี คุณต้องแสดงพลังงานในการเล่นออกมาบ้าง และวันนี้เราทำสิ่งทั้งหลายที่พูดไว้ก่อนเกมไม่ได้"

"คำตอบหลักๆ นั้นเรียบง่ายมาก คือเราต้องทำเรื่องพื้นฐานให้ดีขึ้น จากนั้นพัฒนาการของเราจะตามมา

"เชลซี ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ทั้งในประเทศและระดับยุโรปมากกว่า 20 ปี แต่ตอนนี้เราไม่อยู่ในตำแหน่งนั้น"

"เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ภายในชั่วข้ามคืน แต่เราต้องทำแบบนั้นให้ได้โดยเร็ว"

ผลการแข่งขันทำให้ เชลซี จมอันดับ 12 ของตารางต่อไป และ แลมพาร์ด ถูกถามเพิ่มเติมถึงระยะห่าง 39 แต้มจาก อาร์เซน่อล ในตำแหน่งจ่าฝูง

"ฟุตบอลก็เป็นแบบนี้ และสถานการณ์มันอาจเคยกลับกันเป็นเวลาหลายปี" อดีตนายใหญ่ เอฟเวอร์ตัน ชี้แจง

"ตอนนี้เราไม่สามารถคิดเรื่องระยะห่างกับ อาร์เซน่อล ได้ เพราะเราต้องคิดถึงการโชว์ฟอร์มให้ได้ตามมาตรฐานของตัวเองก่อน"

"อาร์เซน่อล คือทีมที่ใช้เวลาสร้างมาแล้ว 3 ปี ด้วยไอเดียและวิธีการชัดเจน แต่สำหรับผมการเข้ามาที่ เชลซี และทำแบบนั้นภายใน 3 สัปดาห์ คือเรื่องเป็นไปไม่ได้"

แลมพาร์ด ถูกถามเพิ่มเติมถึงฟอร์มของ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมย็อง ดาวยิงผู้รับโอกาสลงตัวจริงเจอทีมเก่า แต่ตลอดทั้งเกมได้สัมผัสบอลแค่ 9 ครั้ง แล้วเริ่มครึ่งหลังโดนเปลี่ยนออกทันที

"ผมจะไม่พูดเรื่องฟอร์มส่วนตัวของลูกทีม และหากจะต้องทำแบบนั้น ผมขอกล่าวถึง โนนี่ มาดูเอเก้"

"มาดูเอเก้ ยิงประตู และเล่นได้ตามแบบที่ฝึกซ้อมมา ดังนั้นในอนาคตเขาจะได้โอกาสเพิ่มขึ้นอีกมาก"

ออกไปเถอะ ห่วยเหลือเกิน ทำไมยังกล้าอยู่ แฟนผีอย่างผมเห็นแล้วยัง ส่ายหัว

หมดกันตำนานเชลชี ตกลงรักเชลชีจริงรึเปล่าเมือทำให้เชลชีตกต่ำแบบนี้ยังกล้าที่จะอยู่ทำทีมอยู่อีก ทำไมไม่ไขก็อกลาออก ไม่อดสูบ้างรึแลมส์

เหนือสิ่งอื่นใด เคยพิจารณาตัวเองบ้างมั้ย ว่าแท้ที่จริงแล้วเราเอาดีด้านนี้ไม่ได้จริงๆ Position ที่ทำทีมก่อนหน้านี้ก็โดนทีมอื่นตะเพิ่ดมา ทำไมมั่นหน้ามั่นโหนก ที่คิดว่าฝีมือตัวเองดีพอจะพาทีมพ้นวิกฤติไปได้ “แลมพวย”

ปลี่ยนโค้ชมา 3 คน ในระยะเวลาอันสั้น แล้ว
มันก็น่าคิดนะว่านักเตะพวกมีงใจมดหรือป่าว

ไม่วิ่งกันเลย เฉื่อยตามที่แลมพ์บอกจริง ลูก โอเดนการ์ดยิงนี่ง่ายมากๆ ยืนดูทรอสซาเลี้ยงบอล แล้วจ่าย

ส่วนในกรอบ ยืนดูโอเดนการ์ดแซงหน้ามายิง
พวกเงใช้พลังจิตกันเหรอ

ถ้าไม่มีใจเล่นก็เชิญ เอาเด็กมาเล่นยังดูมุ่งมั่นกว่าอีก

อยู่เป็นตำนานก็ดีอยู่แล้ว

ไม่น่ากลับมาแล้วเอาขื่อมาทิ้งเลย

สงสารทุกคนที่เกี่ยวข้องกะเชลซีจริงๆ

อย่ามาเก่งนัดเจอ ยูไนเต็ด เชียวหนะ

"อาร์เซน่อล คือทีมที่ใช้เวลาสร้างมาแล้ว 3 ปี ด้วยไอเดียและวิธีการชัดเจน แต่สำหรับผมการเข้ามาที่ เชลซี และทำแบบนั้นภายใน 3 สัปดาห์ คือเรื่องเป็นไปไม่ได้"
ประเด็นน่าจะอยู่ตรงขอเวลาท้อดด์อีก3ปี จะทำทีมให้เหมือนอาเตต้า

ต้องยอมรับด้วยว่าแท็คติคต่างชั้นกันเกินไป

การที่เอากองเต้ดันขึ้นสูงคิดเป็นเปอร์เซ็นก็แพ้ไปแล้วครึ่งหนึ่ง

แทนที่จะใช้จุดเด่นโดยการให้ตัดบอลตรงกลางสนามแล้วจ่ายให้เพื่อนทำเกมต่อแทบจะไม่มีให้เห็น

มีไหมแบบไคเซโด้ที่ตัวเองโดนมา ตัดบอลได้แล้วจ่ายก็ไม่มี

เก็บจังหว่ะสองไม่ได้เพราะอะไร แล้วทำไมอาร์เซนอลถึงเก็บจังหว่ะสองได้มากกว่า เล่นลูกไดเร็ควางยาวจากแนวหลังได้เยอะกว่า

ผมว่าสิ่งที่ต้องตำหนิจริงๆคือคนที่บริหารตอนนี้แหละ

แผนการณ์เหมือนเปลี่ยนตลอดเวลามั่วซั่วไปหมด จากมุมคนนอกนะ

นักเตะมันก็เป็นแบบที่แลมพ์ว่าจริงๆนั่นแหละ

สมัยแลมพ์เป็นนักเตะ ไม่มีหรอกมาใช่ฮาคิสังเกตุแล้วโดนฝั่งตรงข้ามวิ่งตัดไปยิง

นักเตะนี่แหละตัวดี โค้ชระดับทูเคิ่ลที่พาทีมได้UCLยังคุมนักเตะชุดนี้ไม่ไหวอะ

อันนี้ผมว่าแลมพ์พูดถูกนะ นักเตะภาษากายเข้าขั้นวิบัติจริงๆ ดูทรงแลมพ์ไม่น่าโหดพอเอานักเตะพวกนี้อยู่

ถ้าจะด่าต้องไปด่าบอร์ด ฤดูกาลเดียวเปลี่ยนโค้ช 3 คน แล้วตอนนี้เปลี่ยนจากโค้ชแผนหลังเซ็นเตอร์แบ็ค 3 คน มาเป็นเซ็นเตอร์แบ็ค 2 คน วิธีการเล่นการยืนตำแหน่งมันก็ต่างกันมากแล้ว แถมไม่พอนักเตะก็ล้นทีมอีก โฟกัสการซ้อมเฉพาะเจาะจงเป็นรายบุคคลก็ยากขึ้นไปอีก นักเตะ 30+ ได้เป็นตัวจริงแค่ 11 คน (มีนักเตะและนักวิจารณ์ออกมาพูดกันหลายคนแล้ว) บรรยากาศการซ้อมก็คงไม่เต็มที่และไม่ดีแน่ๆ คนที่รู้ตัวยังไงก็ไม่ได้ลงเป็นตัวเลือกที่ 4-5 คงซ้อมๆไปงั้นไม่เต็มที่รอย้ายอีก แถมมีดราม่าเรื่องโดนลดค่าเหนื่อยสำหรับนักเตะใหม่ที่ได้ได้ไป UCL อีก แต่นักเตะเดิมไม่โดนทั้งที่บางคนเล่นก็ไม่ดี ปัญหาส่วนใหญ่มาจากการบริหารที่ผิดพลาดของบอร์ดล้วนๆเลย

ด้วยความเคารพ ไม่เห็นจะคุ้นเลยว่าปีไหนที่อาร์เซนอลตามหลังเชลซี 39 แต้ม

เสมอทุกนัดก็ยังดี ยังแสดงให้รู้ว่าแทคติกดี แต่นักเตะทำไม่ได้

แต่นี่พรี่เล่นแพ้ทุกนัด อาการหนักทั้งโค้ชทั้งนักเตะ