หลังจากฤดูกาลที่แล้วกระดูกโหนกแก้มแตก บวกอาการอื่น เจ็บพักไป4ครั้ง รวมกัน74วัน ฤดูกาลนี้โอซิมเฮนบาดเจ็บกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อฉีก เจ็บพักไป2ครั้งรวมกัน50วัน พลาดลงเล่นให้นาโปลี10เกมส์

เหมือนอาการบาดเจ็บเริ่มมาในวัยเท่านี้ กับพรีเมียร์ลีกที่คู่แข่งวิ่งถึงตัวเร็ว มีพื้นที่ให้เล่นน้อย โอซิมเฮนที่รูปร่างผอมเล่นในพรีเมียร์ลีกไหวไหมครับ

ถ้าดีล kane ราคาถูกกว่าครึ่งนึง ใช้เคนอาจจะดีกว่า

อิซัค นี่อย่างผอมเลย ยังเล่นพรีเมียร์ลีคได้นะ แต่ไม่รู้สมัยก่อนเจ็บบ่อยมั้ย

ของอย่างงี้ต้องรอดูหน้างานเอาเลย เดายากว่าจะไหวไม่ไหว

สเปคเข้าเชลซีเลย เรื่องเจ็บ

คบไม่มีใครเจ็บมากไปกว่าหมากแล้วล่ะ

ดาบิด ซิลบา โดนทักเหมือนกันว่าตัวเล็ก ผอมบางจะเล่นไหวมั้ย ทุกวันนี้คงไม่ต้องสงสัย

แบบนี้คงอยู่ที่ว่าโอซิมเฮนย้ายไปทีมไหน ถูกรึเปล่าครับ



ซิลบา สกิล dribbleดีจริงครับ แทบไม่มีใครถึงตัวได้เลย

จริงๆเรื่องนี้ ผมว่าทีมแพทย์ วิทยาศาสตร์การกีฬา ของแต่ละทีมสำคัญมากๆ ยกตัวอย่าง ฮาลัน สมัยดอร์ทมุนปีสุดท้าย เจ็บบ่อยนะ คือติดภาพจำไปเลยว่า มันเจ็บง่ายจังหวะ จะปังปะเนี่ย อนาคต แต่พอมาซิติ้ omg ขุนดูแลแบบไหนกล้ามเนื้อที่เจ็บบ่อย ไม่มีเลยแทบจะไม่เจ็บเลย น้อยๆมาก ฟิตเปรี้ย

ใช่ครับ แล้วจากนั้นก็ไปลุ้นเรื่องปรับตัวดูอีกที


แต่ที่สำคัญผมว่า แนวการเล่นของทีม กับ เพื่อนร่วมทีม นี่สำคัญมาก


เอาง่ายๆก็ ในทีมต้องมีตัวจ่ายบอลป้อนกองหน้าเทพๆ แบบ เดอบรอย เคน บรูโน่ อะไรพวกนี้


กับทีมต้องเล่นบอลไดเร็คได้ดี เล่นบอลฉาบฉวยให้ตัวรุกวิ่งใช้สปีดได้ แบบ แมนยู ลิเวอร์พูล


แบบนี้น่าจะพอไหวอยู่ กับพวกกองหน้า


อย่าไปทีมที่เน้นชัวร์ ไม่เน้นจังหวะฉาบฉวย ไม่มั่นใจม้วนส่งคืนหลังเคาะกันใหม่ ( แบบ เชลซี ยุค ทูเคิ่ล ) ทีมทรงนี้ กองหน้า จะเกิดยากหน่อย ดูจะเป็นตัวซัพพอร์ต มากกว่า ตัวยิง

บอลอิตาลีเนี่ย กองหน้าเล่นยากกว่าเยอะเลยครับ เพราะกองหลังประกบแน่นตลอด อย่าว่าแต่พลิกบอลเล่นเลย แค่เก็บบอลไว้กับตัวยังยาก

ส่วนใหญ่กองหน้าในอิตาลี ถ้าไม่สูงใหญ่แข็ง ก็ต้องขยับตัวหาช่องเก่งๆ เล่นบอลจังหวะน้อยๆเอา

ซึ่งโอชิมเฮนเด่นอย่างหลัง ถ้าเล่นในอังกฤษผมว่าเล่นง่ายกว่า

บาเยินน่าไปทุ่มเอาตัวนี้นะ

Osimhen ทำให้นึกถึงดร็อกบา สมัยเชลซีเอามาใหม่ๆ

นักเตะทรงแบบนี้ ผมว่าเสร็จเชลซี

ต้องถามกองหลังพรีเมียรจับน้องไหวไหม

ตอนฮาลันด์ก็เห็นบอกว่าเจ็บบ่อย จะไหวหรอ
ถ้าทีมแพทย์เจ๋งพอมันก็ไหวอ่ะ