- โรนัลโด้เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมมาก ตอนย้ายมาช่วงแรกตัวผอมแห้ง พยายามใช้ทริคและเทคนิคส่วนตัวมากไป แต่ด้วยความมุ่งมั่น เสียสละชีวิตส่วนตัว ทุ่มเทเพื่อพัฒนาตัวเอง ทำให้กลายเป็นสุดยอดนักเตะและคู่ควรกับสิ่งที่เขาได้รับอย่างทุกวันนี้
- ส่วนรูนีย์ ถ้ามี mentality ได้อย่างโรนัลโด้ น่าจะประสบความสำเร็จได้มากกว่านี้ เพราะรูนีย์มี่ทั้งพรสวรรค์และความสามารถไม่ต่างกัน
- ดร็อกบาคือคู่แข่งที่หินที่สุด มีความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะกับเชลซีในยุคนั้น จากนั้นก็มีอเกวโร่ กับซิตี้ ที่มีกล้ามน่องขาเป็นมัด ใหญ่เท่าต้นขาของฉัน แถมมีการเคลื่อนที่ที่ยอดเยี่ยม ตอร์เรสก็มีปีที่่ยอดเยี่ยมกับลิเวอร์พูล มีเกมนึงที่เขากะจังหวะพลาด ทำให้ตอร์เรสฉกบอลเข้าไปยิงประตูได้ ส่วนถ้าผู้คนจะมองและตัดสินอย่างไรก็ตามนั้น แต่สำหรับเขาเขาทุ่มเททั้งหมดให้กับสโมสรไปแล้ว ไม่ใช่หน้าที่ของเขาที่ต้องมาพูดเรื่องนี้
- เขารู้สึกเสียใจที่ไม่ได้อยู่กับทีมในช่วงที่เอ็ด วู้ดเวิร์ดบริหารงาน ไม่งั้นคงได้ค่าเหนื่อยสูงกว่านี้ (แหมมมมม 5555)
- เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้สวมปลอกแขนกัปตันทีม ซึ่งช่วงนั้นอยู่ในระหว่างการเจรจาต่อสัญญากับทีม แล้วเซอร์อเล็กซ์ก็มอบปลอกแขนให้ และบอกว่าเขาอยากมียอดกองหลังกัปตันทีมในทีมของเขา โดยบอกให้เป็นตัวของตัวเองและทำในสิ่งที่ทำมา แต่ที่จริงแล้วในห้องแต่งตัวมีกัปตันทีมอยู่หลายคน ทั้งกัปตันทีมชาติ และนักเตะหลายคนมีความเป็นผู้นำสูงอยู่แล้ว
- กัปตันทีมในความคิดของเขาคือคนที่มีผลงานดีทั้งในสนามแข่งและสนามซ้อม นั่นเป็นตัวอย่างที่ดี ไม่ใช่คนที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงแล้วจะชี้ใครให้ทำตาม ซึ่งแฮรี่ แม็กไกว์เจอปัญหาอาจเพราะเขาโชว์ฟอร์มได้แย่และมันยากที่จะเป็นตัวอย่างหรือได้รับความเคารพ
- วีดิชชื่นชอบมาร์ติเนซมาก แม้ตอนแรกเขายังสงสัยเรื่องความสูงจะเป็นปัญหา แต่มาร์ติเนซมีคาแรคเตอร์ของนักสู้และแสดงมันออกมาในทั้งสนามและห้องแต่งตัว ซึ่งตรงนี้ทั้งวีดิชและริโอรุ้สึกว่าโชคดีที่อยู่ในทีมที่มีวิถีแห่งผู้ชนะอยู่แล้วและตัวเองเป็นส่วนเสริม แต่เพื่อนร่วมรายการไม่เห็นด้วย ซึ่งทั้งคู่ควรได้รับเครดิต
- เมื่อทีมชนะและเก็บคลีนชีตได้ มันสำคัญมากสำหรับทีมที่จะคว้าแชมป์ และมันเป็นหน้าที่ของกองหลังซึ่งถ้าทำได้มันเป็นเครดิตของกองหลังด้วย
- ชื่นชอบกองหลังอายุน้อย อย่างยอสโก้ กวาร์ดิโอล ของโครเอชีย เล่นกับบอลได้ดี ชอบต่อสู้และป้องกันประตู เหมือนกันกับมาร์ติเนซ
- ผิดหวังในช่วงเวลาหลังจากเดวิด มอยส์เข้ามา เพราะเขาอยากช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จ แต่มันยากสำหรับใครก็ตามที่เข้ามาสานต่องานต่อจากเซอร์อเล็กซ์ เขาเข้าใจความรู้สึกของมอยส์ แต่มอยส์สื่อสารกับทีมไม่ชัดเจน หลังจบเกมกับซิตี้ซึ่งทั้งคู่มีปากเสียงกัน ความสัมพันธ์กับมอยส์ก็ย่ำแย่ แล้วสโมสรไม่ติดต่อเพื่อขยายสัญญากับเขา
- เขาไม่คิดที่จะเล่นภายใต้การคุมทีมของฟานกัล ซึ่งมีแนวทางการทำทีมที่ไม่น่าจะเข้ากับการเล่นของเขา ไม่ใช่เพราะไม่ชอบฟานกัล
- มันง่ายที่จะพูดมากกว่าลงมือทำเกี่ยวกับการรับมือแอร์ลิ่ง ฮาลันด์ ซึ่งเขาคิดว่าไม่ควรให้ฮาลันด์โจมตีจากด้านหลังเขา แต่สุดท้ายฮาลันด์จะเจอช่องว่างและเข้าโจมตีได้อยู่ดี พนันได้เลย เขาเป็นกองหน้าเบอร์ 9 ที่ยอดเยี่ยมมาก ซึ่งก่อนหน้านี้มีเบอร์ 9 อย่าง อิราฮิโมวิช ดร็อกบา ทีมชาติเซอร์เบียมีวลาโฮวิชแต่เขาก็ยังเด็กอยู่
- เอริก เทนฮากกำลังทำได้ดี ซึ่งเขามีดีเอ็นเอว่าต้องการให้ทีมเล่นแบบไหน เขากำลังปรับตัวกับสไตล์การเล่นและความเข้มข้นของพรีเมียร์ลีก
- พูดถึงกองหน้า ถ้าเขาไม่มั่นใจเขาจะไม่จ่ายเงินราคาแพงสำหรับกองหน้า สำหรับเขาหัวใจหลักของทีมคือแดนกลางและกองหลัง นั่นคือบาลานซ์
- เอ็ด วู้ดเวิร์ดมีเวลามากพอที่จะพาทีมไปในทางที่ถูกต้อง แต่ทำไม่ได้ แต่ตอนนี้เขาคิดว่าริชาร์ด อาร์โนลด์กำลังทำหน้าที่ได้ดี แผนการระยะยาวสำคัญกว่าสำหรับยูไนเต็ด
- เซอร์ อเล็กซ์ กล่าวถึง วีดิช "เป็นคนที่ดี เขาย้ายมาในช่วงเบรกฤดูหนาว(ลีกรัสเซีย)และต้องดิ้นรนอย่างหนัก เขาเป็นคนที่ทีมเราต้องการอย่างมาก ช่วยส่งเสริมทีมได้มาก เป็นกองหลังระดับท็อป ซึ่งในตอนนั้นทีมเรามีแต่กองหลังไร้ประโยชน์ (555555 ริโอเจอไปหนึ่งดอก)
- ริโอถามเซอร์ว่าคิดยังไงที่คาราเกอร์พูดว่าวิดิชโดนตอร์เรสสอนบอล แล้วเปรียบเทียบว่าฟานไดค์เป็นกองหลังที่ดีกว่า เซอร์ตอบว่า "ความจริงก็คือวิดิชโดนไล่ออกครั้งหนึ่งที่แอนฟิลด์ อีกครั้งที่โอลด์แทรฟฟอร์ด คาราเกอร์จะบอกว่านั่นเป็นการสอนบอลวีดิชก็ได้ แต่นอกเหนือจากนั้นคุณรู้มั้ย เขาเป็นกองหน้าที่มากความสามารถ แต่ฉันคงจะไม่พูดหรอกว่าเขาเป็นกองหน้าที่ดีที่สุดที่ผ่านวิดิชได้ มันยังห่างไกลมาก"(สำเนียงแกฟังยากมาก ตรงนี้อาจแปลคลาดเคลื่อนได้)