ผมเชื่อว่า ก่อนหน้านี้ จู้ดคือเป้าหมายหลักจริง และน่าจะเป็นเป้าหมายเดียวด้วยซ้ำ และผมก็เชื่อว่าทีมกล้าทุ่มด้วย แต่จุดเปลี่ยนมันคือ

ฟอร์มการเล่นที่รูดกราวของฟาบินโญ่

กับเฮนโด้ มันพอเดาได้จากวัยที่เพิ่มขึ้น แต่กับฟาบินโญ่ ที่ยังไม่เข้าวัย30ดี การเล่นตกต่ำขนาดนี้ ไม่ได้อยู่ในความคิดของคล็อปป์แน่ จึงทำให้ปีหน้าต้องพิจารณาหาตัวแทนมาอย่างเลี่ยงไม่ได้

การไม่ต่อสัญญาของเกต้า

แน่นอน นี่คือดีลที่โค้ชเรายื้อมาตลอด หายเจ็บเมื่อไหร่ ก็มีตำแหน่งในทีมเสมอ คล็อปป์ไม่สามารถจูงใจให้นักเตะรายนี้อยู่ต่อได้แล้ว จึงทำให้ขุมกำลังที่คาดว่าจะมี ลดหายลงไปอีก

ฟอร์มที่ตกต่ำของเซ็นเตอร์เกือบทั้งแผง

ฟานไดจค์กับมาติป เล่นได้แย่อย่างน่าใจหาย โกเมซเองก็แย่มาตลอดกับบทบาทเซ็นเตอร์ อิบูเล่นดี แต่เจ็บบ่อย จากที่คิดว่าจะวางใจ4เซ็นเตอร์นี้ได้สักระยะ กลายเป็นว่าตำแหน่งนี้ก็จำเป็นต้องซ่อมโดยด่วนแล้ว

ทั้งหมดมันคือสิ่งที่ทั้งคาดการณ์พลาด ทั้งอยู่เหนือการคาดการณ์

เอาจริงๆปีที่ผ่านมา ถ้าแค่ตัดใจปล่อยเกต้าซะ ปล่อยอ็อกซ์ (จะยืมหรือขายก็ได้) ไม่ต่อสัญญากับมิลเนอร์ แลกมาเป็นกองกลางพละกำลังดีๆสักคนนึง ทีมอาจจะไม่ทรุดลงขนาดนี้ แต่ก็คงไม่ถึงแชมป์

คล็อปป์ไม่ใช่คนที่ชอบเปลี่ยนแปลงทีมทีละหลายตำแหน่ง จุดนี้เป็นทั้งข้อดีและข้อเสียในเวลาเดียวกัน บวกกะนโยบายใช้จ่ายแบบประหยัดของบอร์ด มันก็สอดคล้องต้องกัน มันคือสิ่งที่ต้องรับไปร่วมกัน การประเมินพลาดในปีนี้ ส่งผลให้จากที่คิดว่าคว้าจู้ดตัวเดียว เสียวทั้งลีก กลายเป็นว่ามันไม่พอเสียแล้ว ทีมมีจุดที่ต้องซ่อมเพียบ

(ถ้ายังไม่ซ่อมอีก ก็ควรจะอัปเปหิทีมบริหารออกไปยกแผง)

ไม่ใช่หรอก งก ล้วนๆ
แมนซิ ซื้อตัวดีๆ มาถมไม่เห็นจะเป็นไร
คล็อปก็แค่ออกตัวแทน FSG ทีมพีคมาหลายปี ไม่ซื้อไม่ต่อยอดทีมไรเลย
จนทีมพิการ กากงอกง่อยแบบเนี่ย

หลักๆเลยคือฟอร์มดรอปยกทีมโอกาสหลุดuclสูงมาก เงินหายบาน ถ้าจะไปทุ่มซื้อจู๊ดคนเดียวจะไม้ไหวเอา เจ้าของไม่ทุ่มเยอะเลยต้องเลือกซื้อ

ทำไมคล็อปป์ถึงต้องออกตัวแทนล่ะ ลองคิดว่าถ้าบอร์ดขัดใจ จนคล็อปป์ออกมาจวกแบบคอนเต้ คิดว่าแฟนบอลจะอยู่ข้างใคร ผมคิดว่าคล็อปป์ก็พูดในสิ่งที่เขาคิดนี่แหละ ไม่มีความจำเป็นต้องมาปกป้องอะไรใครสักนิดเดียว

ผมมองว่า ต่อให้ไม่หลุด UCL ทีมก็คงมีงบให้พอๆกะปีนี้ ซึ่งมันคงพอแค่ซื้อจู้ดตัวเดียวเท่านั้น

เอาตรงว่าไม่แปลกนะ เพราะซื้อนูญเญซกับก้คโปมาแล้วแผงหลังก็ไม่ต้องซื้อไปทุ่มจู๊ดคนเดียว แมนซิตี้หลังๆก็ไม่ได้ซื้อเยอะอะ

ก็ต้องยอมรับนะว่าดีลจู๊ดตอนนี้อาจจะไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้องที่สุดของทีมเราก็ได้ ถ้าตอนต้นฤดูกาลอาจจะยังได้แต่สภาพตอนนี้คือทีมมันเสียหายทั่วทุกตำแหน่งไปหมดละในเรื่องฟอร์ม อายุ คลาส ไปหมด

ดังนั้นดีลจู๊ดทุ่มเน้นๆคนเดียวผมว่าไม่พอสำหรับการล้างทีมใหม่ แล้วถ้าบอกว่าอ้าวก็ทุ่มจู๊ดแล้วทุ่มคนอื่นต่อสิ อันนี้ผมว่ามันก็เป็นคำพูดที่หวังมากไปหน่อยสำหรับเจ้าของทีมอย่างfsg

เราต้องอยู่บนความจริงที่ว่าสิ่งที่เปลี่ยนยากที่สุดก็คือเจ้าของทีมมือเดิมแต่คาดหวังวิถีการบริหารที่เปลี่ยนแบบหน้ามือเป็นหลังมือ เหมือนดังที่เกลเซอร์กับแมนยู กับอาร์เซนอลยุคที่ทีมอยู่ในการบริหารของสแตนโครเอนเก้

ทีงี้แล้วจุดพิสูจน์คือตรงไหนจะตัดเกรดยังไง ผมจะวัดตรงปีหน้านี่แหละที่พอเปลี่ยนไปซื้อแบบกระจายปริมาณมากกว่าซื้อสตาร์ปังๆเน้นๆคนเดียวเพราะต้องรื้อทีมใหม่เยอะ ก็จะดูว่าเอาเงินไปซื้อใครบ้าง ถ้าเลอะเทอะแล้วละเมอเพ้อพบคิดว่าเล่น fm แล้วจะซื้อมาปั้นแบบใช้เวลาแล้วทีมเสียหายอีก อันนี้อะผมจะให้ติดลบเลย

ใช่ มันไม่แปลกเลยครับ ที่จะไม่ซื้อเยอะ แต่ของทีมลิเวอร์พูลมันเหมือนปัญหามันค่อยๆสะสม ทั้งเก็บตัวแก่กะตัวเจ็บง่ายไว้เยอะ ซึ่งตัวพวกนี้ถึงเวลาก็ช่วยอะไรทีมไม่ได้ ปีนี้มันเหมือนปัญหาที่แบกไว้มันมาระเบิดทีเดียว อันที่จริงมันก็มีทางที่จะแก้ไข ลดความเสี่ยงอยู่ แต่ดันเลือกที่จะยึดติดกะผู้เล่นที่มี จนสุดท้ายมันก็เลี่ยงการผ่าตัดทีมไม่ได้อยู่ดี

เห็นด้วยฮะ ปีนี้พลาดแล้ว ปีหน้าต้องอย่าซ้ำรอนเดิม ต้องแก้ปัญหาให้ถูกจุด ถ้ายังทำอะไรเดิมๆก็ควรเด้งยกชุด

นี่ยังไม่ได้พูดถึงแนวทางการเล่นแบบเดิมที่มันอาจจะไม่เอื้อกับนักเตะในชุดปัจจุบันแล้วนะ

เห็นด้วยเรื่องฟาบินโย ไม่มีใครกล้าพูดหรอกว่าแกจะฟอร์มอุบาทว์ขนาดนี้ แล้วไม่รู้จะกลับไปฟอร์มเดิมได้หรือเปล่าด้วย ดังนั้นการซื้อกลางรับเข้ามาใหม่มันเลยโคตรจะเมกเซนส์ แต่คงมองหานักเตะเบอร์ 8 ที่เล่นเบอร์ 6 ได้มากกว่า

ส่วนเกอิตา จนถึงตอนนี้ก็ไม่เคยเข้าใจวิธีคิดทีมงานว่าคาดหวังอะไรกับมัน ที่ผ่านมาคือเจ็บมาตลอด แล้วฟอร์มดีมีสักกี่นัดเชียว การจะต่อสัญญานี่เป็นความคิดที่โง่เง่าที่สุด ถึงจะบอกว่ายื้อเวลาออกไปอีกอย่างน้อย 1 ตลาดในการเสริมนักเตะแดนกลางก็เถอะ

แต่ก็อย่าลืมว่าเฮนเดอร์สัน ติอาโก้ ก็เลข 3 กันหมด มีโอกาสที่จะต้องซื้อมากกว่า 1 อยู่แล้ว

กองหลังนี่คงเลือกที่จะไม่เสี่ยงด้วยวิธีเดิมๆอีกแล้ว เลยต้องจัดการตั้งแต่ตลาดนี้ ข่าวการขายมาติปเลยไม่มีใครแปลกใจเท่าไร รวมถึงการปล่อยแน้ทด้วย สองคนนี้อาจจะได้เงินกลับมาสัก 25-30 ล้านปอนด์ เติมอีก 10-20 ล้านปอนด์ก็คงได้กองหลังชั้นดีมาแย่งตำแหน่งตัวจริงได้

FSG อนุญาตให้ Net Spent ปีละประมาณ 50-60 ล้านปอนด์ และผมเชื่อว่า 22/23 คงเลือกจ่ายหนี้เท่ากับ 21/22 หรือน้อยกว่า ดังนั้นเงินมันค่อนข้่างจะจำกัดจำเขี่ยมากๆ โชคดีที่นักเตะขาออกน่าจะหลายคน ค่าเหนื่อยมันเลยลดลงมาล้อไปกับความล้มเหลวของฤดูกาลนี้ที่ไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลย โบนัสจึงไม่น่าจะมีการจ่ายอะไร

พูดง่ายๆคือตลาดนี้แม้จะไม่ได้ไป ชปล. ก็สามารถมี Net Spent ประมาณเดิมได้ ซึ่งถ้าได้ไปชปล.ก็อาจจะขยายวงเงิน Net Spent ไปแตะ 80-100 ล้านปอนด์ หนทางสุดท้ายอาจจะต้องขาย Jota ที่มีข่าวว่านิวฯอยากได้ ถ้าเรียกได้ถึง 40-50 ล้านปอนด์นักเตะขาเข้าอาจจะคุณภาพสูงขึ้นหรือจำนวนมากขึ้น 1 คน

ขายโชต้า คงไม่ขายนะผมว่า ยกเว้นจะปรับมาเล่นระบบอื่น อันที่จริงผมว่าโชต้ายังเล่นได้ดีนะ ถ้าเป็นหน้าคู่ หรือเล่นตัวรุก แต่เล่นปีกมันช้า เลี้ยงไม่ค่อยผ่านใคร

ผมรู้สึกว่ายังไง ลงท้ายก็คงจะต้องเปลี่ยนวิธีการเล่นด้วย ถ้าจะเล่นระบบเดิมนี่ ผมว่าซื้อ 3-4 ตัวก็ยังไม่พอ

เห็นด้วยนะที่ปีหน้ามันต้องซ่อมเยอะหลายตำแหน่งมากกว่าที่ทีมคงประเมินไว้ ประกอบกับต้องเจียดเงินไปซื้อกักโป และทีมน่าจะอดไปถ้วยหูใหญ่ปีหน้าด้วย เลยกลายเป็ยว่าจู๊ดคนเดียวอาจไม่ตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาทั้งหมด

แต่เรื่องรับผิดร่วมกันผมว่าใจร้ายกับเจเคไปหน่อย เพราะการวางแผนเสริมทีมภายใต้งบที่จำกัดมันยากกว่าทีมที่มีงบให้ไม่อั้นอยู่แล้ว ยังไงบอร์ดควรที่จะรับผิดชอบมากกว่า เพราะในเมื่อปัญหามีเยอะขนาดนี้ บอร์ดควรจะเพิ่มงบให้หนึ่งถึงสองตลาด เพราะที่ผ่านมาเจเคแกก็ทำได้ตามนโยบาย โดยใช้เงินสุทธิติดลบไม่ได้มากเลยถ้าเทียบกับชาวบ้าน บอร์ดก็ควรจะให้รางวัลแกหน่อย

เรื่องจู๊ดไม่มีความเห็น แต่เรื่องนักเตะใหม่ผมว่าไม่ต้องซื้อเยอะเหมือนที่หลายคนต้องการ เต็มที่ 3 คนก็พอ จริงๆกลางใหม่ 2 คนก็พอด้วยซ้ำขอแค่คนที่ได้คือคนที่ใช้งานได้จริง ไม่อยากซ้ำรอยสมัยขายซัวเรสหรือตอเรส หว่านซื้อมาห่วยแตกแทบทุกคน

ปัญหาของทีมตอนนี้มีหลายมิติไม่ใช่แค่ฟอร์มส่วนตัวนักเตะ อย่างตัวรุก 3 ตัวเคมีก็ยังไม่ค่อยเข้ากันถ้าเทียบกับรุ่นก่อนจะเห็นชัด เคมีของคล็อปกับนักเตะก็เช่นกัน คล็อปเองก็ยังปรับไปปรับมาอยู่ว่าจะให้ใครรับบทอะไรยังหาจุดลงตัวไม่เจอ เรื่องพวกนี้ต้องใช้เวลา ยิ่งมีนักเตะใหม่เยอะยิ่งต้องจูนกันนาน

กองหลังผมว่าอันดับ 1-2 ยังพอมีลุ้นให้คืนฟอร์มได้ มาติปกับโกเมซถ้ามองว่าเป็นอันดับ 3-4 ก็ไม่น่าเกลียด แต่ปัญหาคืออันดับ 2-3 เจ็บบ่อยเหลือเกิน กลายเป็นต้องไปดันโกเมซที่เป็นอันดับ 4 ขึ้นมาบ่อยๆ ซึ่งถ้ามองว่าโกเมซเป็นแค่ตัวเลือกสุดท้ายจริงๆถือว่าเป็นตัวเลือกสุดท้ายที่เก่งแล้ว มองไปที่ท๊อป 4 นอกจากแมนซิแล้วผมว่าโกเมซสู้อันดับ 4 ของท๊อป 4 ได้ทุกทีม ถ้าอยากอัพเกรดตำแหน่งนี้ก็ต้องไปขายอันดับ 1-2 แล้วหาใหม่เป็นตัวเก่งเลย เพราะถ้าขายมาติปแล้วไปหาตัวจริงใหม่แล้วลดระดับโคนาเต้ไปเป็นตัวสำรอง ด้วยงบประมาณที่จำกัดอาจจะยังไม่คุ้มที่สุด

เพราะงั้นไปทุ่มซื้อกองกลางซัก 2 คนเลยดีกว่าน่าจะตอบโจทย์ตามงบที่มีได้ดีที่สุด ถ้าได้จู๊ด+1 ก็ดี แต่ถ้าไม่ได้ก็หาเป้าหมายรองลงมาก็ว่าไป ถ้ามีงบ 100 ล้านบวกลบเอามาหาร 2 ยังพอมีลุ้นได้ตัวดีๆ ถ้าเอามาหาร 4-5 คิดไม่ออกเลยจะได้ใครมา

พวกนักเตะที่ฟอร์มตก ส่วนใหญ่เป็นนักเตะเก่าทั้งนั้น ซาลาห์ เฮนโด้ ฟาบิญโญ ฟานไดจ์ มาติป เทรนท์ ฟาบิญโญอาจจะเห็นชัดที่สุด แต่ที่เหลือก็ไม่มีใครรักษาระดับตัวเองได้ ส่วนเกอิต้าไม่นับเพราะแทบไม่เคยฟอร์มดีต่อเนื่อง เรื่องอายุก็อาจจะมีส่วนเพราะ 30+ กันทั้งนั้นแล้ว แต่แรงจูงใจก็คงมีผลเหมือนกันไม่งั้นคงไม่เป็นแค่นักเตะเก่า ถ้าเป็นเรื่องนักเตะอิ่มตัวต้องเจอกันทุกทีม และช่วงเปลี่ยนผ่านฟอร์มก็หายนะกันทุกทีม ไม่ใช่เรื่องที่จะแก้ด้วยการซื้อนักเตะลงมาตูมเดียวในตลาดเดียวแล้วแก้ได้ ต้องทยอยผลัดใบไป ผมว่าใช้เวลา 2 ฤดูกาลในการแก้ไม่น่าเกลียด ดีกว่าตกใจแล้วซื้อหว่านเพื่อหวังผลไวๆแล้วได้แต่ตัวละครลับมา ไม่อยากปวดหัวกับนักเตะแบบมาโควิช โมเรโน บาโลเตลีอะไรพวกนี้อีก

ที่ต้องทำควบคู่กันไปคือคล็อปต้องหาระบบที่ลงตัวให้เจอได้แล้วเหมือนกัน ถ้าดูระยะสั้นๆไม่กี่นัดอาจจะรู้สึกว่าเล่นระบบเดียวกัน แต่ถ้าดูตั้งแต่ต้นฤดูกาล รายละเอียดหลายๆอย่างเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาหลายรอบแล้วยังไม่เจอจุดลงตัว

มาดริด ซิตี้ลงมาแข่งก็ยอมๆไปเถอะ หงส์จะเอาอะไรไปสู้ สถานการณ์ตอนนี้ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่

ซิตี้ มาดริดตัวแปร ทำให้ราคาสูง หง สู้ไม่ไหวหรอก ราคานี้ ไปทุ่มตัวเดียวก็ดูจะเกินไปอะ ต้องเสริมต่ำๆ 3 ตีว