จริงๆ ผมยกตัวอย่างมาจาก คนรู้จัก 7-8 รร เลยครับ ทุกที่เป็นแบบที่ผมกล่าวมาหมด ส่วนผมว่าคุณ เนี่ย มองจากมุมมอง ของ รร ตัวเอง รร เดียวสุดๆแล้วครับ  

นั่นนะสิครับ ประสบการณ์ที่รับมามันต่างกัน ทำไมคุณถึงพูดมั่นอกมั่นใจขนาดนั้นว่า มันต้องเป็นแบบนั้นมาก ๆ

และผมไมไ่ด้บอกเลยว่าจะเป็นแบบที่ผมบอกทั้งหมด .. ที่ผมพยายามจะบอกคืออย่าพึ่งไปตัดสินแบบนั้นครับ ระบบการศึกษาไทยมันผิดพลาดจริง ๆ ผิดมาตั้งแต่นโยบายของกระทรวงเลย ระบบบริหารจัดการก็ห่วย  

เพื่อนๆ พี่ๆในบอร์ด คิดว่าอาชีพครู นั้นมีความเรียกร้อง หรือ หาสมมติฐาน เพื่อให้ตัวเองดูลำบากดูเหนื่อย กับ งานตัวเองกันไหมครับ

พอดี ผมมีเพื่อนหลายคนที่เป็นครู ต่างจังหวัด ซึ่งจบจาก Radz กัน ในทุกๆ 1 เดือน กลุ่มเพื่อนหรือเพื่อนที่อยู่ใน social ที่เป็นครู ไม่ว่าจะเป็น ครูจริง หรือ ครูอัตราจ้าง จะชอบ บ่นตัดพ้อ ว่าตัวเองเหนื่อยหนาสาหัสกับงาน ซึ่งรวมถึงภรรยาผมด้วยที่เป็นครู แต่เอาตรงๆเลย งานที่รับผิดชอบของครู ที่ผมดูจากตัวภรรยา คือ ถ้าเทียบกับพวกอาชีพก่อน แทบจะเรียกว่า สบายกว่าหลายเท่า แต่ผมก็งงทำไมชอบมาโพสตัดพ้อ อะไรกันขนาดนั้น แล้วเรื่องนี้ ผมก็เคยคุยกับภรรยาไปหลายรอบละ ว่า "งานเธออะ ถ้าเทียบกับอาชีพอื่น มันก็ไม่ได้หนักขนาดนั้น"

แล้ว ยิ่งใน facebook ที่มีข่าว ไม่ต้องจบครูก็สอบตั๋วครูได้ ผมลองไปอ่านคอมเม้นในเพจต้นทาง(พอดีเพื่อนในfacebookที่เป็นครู แชร์มา แล้วก็ตัดพ้อว่าไม่ยุติธรรม) ซึ่งตรรกะ ครูจบ Radz บอกว่า
" ถ้างั้นจบครู ก็ไปเป็นหมอได้ซิ " ผมนี่ WTF เลย แล้วมีหลายคนที่เห็นชอบความคิดเห็นนี้หลายร้อยคนด้วยหนะ พอมีคนไปแย้ง ก็ไปลุมกินโต๊ะเขา 5555

อะทีนี้ มาฟังความเห็นของผมจากที่ผมมองว่า อาชีพครู เรียกร้องกันเกินไป
1.งานสอน กับ งานเอกสาร
- อันนี้ผมมองว่า มัน job basic มากๆ ในทุกๆอย่างชีพ ซึ่งผมได้ทำการ สัมภาษณ์ ภรรยาผมว่ารูปแบบการสอนของเขาเป็นยังไง(แฟนผมสอน อนุบาลนะครับ) คำตอบคือ ก็สอนตามหนังสือเป็นบทๆ ไป แต่ก็อาจมี แจกใบงานที่ไปซื้อในเน็ต หรือ ถ่ายเอกสารจากแบบฝึกหัดในหนังสือเรียน เอามาให้เด็กทำ ซึ่งจุดนี้ ผมเดาว่า น่าจะเหมือนๆกันในทุกโรงเรียนที่อยู่ตาม ต่างจังหวัด ซึ่งไม่น่าต่างกันมาก

ส่วนเรื่องเอกสาร อันนี้ เหมือนจะมี pattern ของส่วนนั้นๆไว้พร้อมแล้ว ครูที่รับผิดชอบหน้าที่นั้นๆ แทบจะไม่ต้องแก้ไขอะไรเยอะเลย

ซึ่งรูปแบบเนื้อหาการทำงาน ซึ่งแทบเรียกว่า สบายกว่าเอกชน บางที่มาก ซึ่งผมเองก็ งง ว่ามันหนักตรงไหน ถ้าครูคนนั้นจัดการรูปแบบการสอนเตรียมความพร้อมดีๆ กำหนดว่าจะสอนอะไรบ้าง ในแต่ละ week งี้ แทบจะไม่ต้องเครียดอะไรด้วยซ้ำ ซึ่งเรื่องสอนผมคิดว่า คนเรียนจบครูมา น่าจะมีประสบการณ์อยู่แล้ว เปรียบเทียบก็ เป็น skill เฉพาะของคนที่จบมาที่ต้อง รับมือ เด็ก ก็เหมือนโปรแกรมเมอร์ จุดแข็งเขาก็คือ เขียนโปรแกรม คิดอัลกอลิทึม ซึ่งพวกนี้คือ skill หลักของสายนั้นๆ

2.เรื่องทุจริต
- ผมเชื่อเลยว่า ไม่มี โรงเรียนไหน ในประเทศไทยที่ไม่ทุจริต ตัวอย่างจาก โรงเรียน ภรรยาผม
ซึ่งจะมีครูเวรที่รับผิดชอบอาหารกลางวัน ยิ่งมี นักเรียนเยอะ ก็จะได้ค่าหัวอาหารกลางวันเยอะ อย่างของ รร. ภรรยาผม ค่าอาหารกลางวันเด็ก ตกวันละ 18k+ ซึ่งเงินส่วนนี้ เชื่อไหมครับ ผอ. จะหักไปเข้ากระเป๋าตัวเองแล้ว 5k ที่เหลือ 13k ครูเวรที่รับผิดชอบอาหารกลางวัน ก็จะได้ไป ซึ่งเชื่อไหมครับ ในโรงเรียนภรรยาผม ทำอาหารจริงแค่ 10k อีก 3k ก็เข้ากระเป๋าครูเวรที่รับผิดชอบ แล้วจุดนี้ ครูที่อยู่ใน รร. แทบจะไม่ต้องเสียเงินซื้อ อาหารเลย แถม ยังห่อกลับไปฝากลูก ฝากเมีย ฝากผัว ฝากพ่อแม่ ที่บ้านตอนเย็นอีก

แล้วก็ ทุจริตในรูปแบบ ก่อสร้าง หรือ รีโนเวทอาคาร พวก ครูที่รับผิดชอบตรวจงาน เชื่อไหมครับ ครูพวกนี้ เขาได้ส่วนแบ่งจากผู้รับเหมา กันทั้งนั้น เช่น ผอ. ได้ 5% ครูที่ตรวจงานได้ 2-3% งี้

อีกเรื่องก็ พวกที่จะซื้อของเข้า โรงเรียน แล้ว เบิกเกินราคาของ เช่น ซื้อ สมุด 100 แต่เขียนบิล 300 งี้

3.วันหยุด
- ผมกล้าบอกเลยว่า เป็นอาชีพที่วันหยุดเยอะสุดๆละ ไหนปิดเทอม ไหนลานั่นนู้นนี่ แล้วพวกที่บ่นว่า ปิดเทอมก็ต้องเข้าเวร ผมกล้าบอกเลย ส่วนน้อยมาก เพราะส่วนใหญ่ให้ ภารโรงเฝ้าแทนทั้งนั้น ไม่รู้จะมาเรียกร้องอะไรขนาดนั้น

4.เรื่องการช่วยเหลือกัน
- ยกตัวอย่าง โรงเรียนภรรยาผม มีครูคนนึง มาเซ็นเวลาก่อนเพื่อน แต่ออกไปเที่ยวเล่นไม่ยอมสอน หรือ อยู่ดีๆ ขาดสอน ไม่มาสอน ถ้าทางวินัยก็น่าจะโดนไล่ออกละ แต่นี่ ผอ. ไม่อยากให้มีชื่อเสีย เลยช่วยกันปกปิดความผิด ขนาดว่า ชาวบ้านไปร้องเรียนเขต ผอ.ก็ยังทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น หรือ ทางเขตมาตรวจ ครูคนนั้นก็ทำมาเป็นสอนปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หรือ อย่างผิดลูกผิดผัวผิดเมียกัน เป็นว่าเล่น ผมกล้าบอกเลยว่า แทบจะทุกโรงเรียน มันจะมีครูประเภทนี้เยอะ ส่วนใหญ่ ถ้าไม่เป็นข่าวดังจริงๆ ก็ไม่โดนไล่ออกหรอก บางคู่ นัดออกไปรีสอร์ทกัน ในคาบสอนก็มี

5.งานสังสรรค์
- ผมกล้าบอกเลย อาชีพครู แม่ง งานสังสรรค์น่าจะเยอะที่สุดในอาชีพข้าราชการ
ไหนจะ งานประเพณีต่างๆ ที่ต้องร่วมกันกับอำเภอ หรือ ตำบล ในวันนั้นเด็กนักเรียนนี่แทบจะไม่ได้เรียนเลย
ไหนจะวัน กีฬา แล้วแม่งมีเยอะไปหมด กีฬาศูนย์ , กีฬาเขต , กีฬาจังหวัด ต่างๆ แล้วแม่ง จัดใส่วันทำงา่นปกติด้วย กลายเป็นว่า free day ไปละสำหรับวันนั้น ผมก็ไม่เห็นสักคนนะ ที่ร่วมงานแล้วกลับไปสอน เห็นแต่ ตอนเช้าเดินขบวน สายๆ เมากันละ ถ้าต่างจังหวัดก็ พวกนี้ก็จ้างหมอลำมา มีโต๊ะจีนอะไรครบหมด

6.ค่าตอบแทน
- ผมกล้าพูดเลยว่า อาชีพครูในต่างจังหวัด ก็เป็น elite ดีๆนี่เอง ถ้าใครอยู่แถว ตจว. จะพบว่า พวกที่ดินต่างๆ จะเป็นของครูกันซะเยอะ แล้วครูเนี่ย เป็นอาชีพที่ทำขั้นเงินเดือน ไว สุดละ เรียกได้ว่า แทบจะไวลำดับต้นๆ ในอาชีพข้าราชการเลย แถม อาชีพครูมีจำนวนเยอะมากกว่าอาชีพข้าราชการอื่นๆอีก คือ ในต่างจังหวัด ใครเป็นครู นี่แทบจะเป็นชนชั้น กลาง - บน สังเกตเลยว่า ในต่างจังหวัดใครๆก็อยากให้ลูกเป็นข้าราชการครู ก็คล้ายๆ พวกสอบตำรวจนายสิบ ที่อยากเป็นนายสิบเพราะ เรียนจบแล้วไม่่รู้จะไปทำงานอะไร

อันนี้คล้ายๆกัน ส่วนใหญ่เลย 98.99% พ่อ แม่เป็นครูหรือเป็น ผอ. จะดึงลูกตัวเองเข้า บางคนไม่ได้จบครู เพราะ ตอนเรียนมหาลัยก็เลือกสาขามั่วๆไป เพราะขอให้ได้เรียนไว้ก่อน พอสุดท้ายเรียนจบ หางานไม่ได้ หรือ ไม่สู้งาน กลับบ้านต่างจังหวัดดีกว่า

พวกนี้ พ่อแม่ ก็ดึงเข้าเป็นครูอัตราจ้าง พอสอนครบ 3 ปี ก็ไปสอบใบประกอบวิชาชีพครู แล้วพวกนี้ก็ได้เป็นครูจริงๆ ในที่สุด เพื่อที่จะได้ สวัสดิการ ที่ผมกล่าวมาในข้างต้น

จากข้อที่ผมกล่าวมา เพื่อนๆคิดว่า อาชีพครูนี่เรียกร้องมากเกินไปไหมครับ มีแต่อยากให้แก้ปรับนั้นปรับนี่
ขนาด toeic ยังจะขอลดมาเหลือ 150 ผมนี่ wtf

ปล. ภรรยาผมก็จบครูจาก Radz