ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตั้งใจโกงหรอกครับ แต่ก่อนก็เคยมีการเลือกตั้งแบบที่ต่างเบอร์กันแบบนี้ จริงๆมันทำให้โกงยากขึ้นด้วยซ้ำ เพราะเลขมันหลากหลาย ไม่ได้ล็อคคะแนนไปที่การกาเลขเดียว

ข้อดี : พรรคที่ได้เลขไม่สวย เช่นเลขสองหลักขึ้นไป ปกติจะเสียเปรียบมาก เพราะเวลาชูนิ้วบอกประชาชนต้องใช้ 2 มือ มันไม่ชัดเจนเท่าคนได้เลข 1-5 ที่ใช้มือเดียวโชว์หราได้เลย ระบบนี้แต่ละพรรคก็จะได้เบอร์ห่วยๆสลับกันไป

ข้อเสีย : ชาวบ้านโดยเฉพาะผู้สูงอายุ ที่บ้านอยู่รอยต่อระหว่างเขต อาจจะงงๆจำผิดคิดว่าเป็นอีกเบอร์ .. แล้วยังมีบัตรเลือกคนกับบัตรเลือกพรรคอีก ถ้าเป็นคนมีอายุหน่อย มีมึน


เรื่องที่ว่าจะทำให้บัตรเสียเยอะ บัตรเสียมันก็กระจายทุกพรรคอยู่ดี ไม่ได้เสียเฉพาะฝั่งตรงข้ามรัฐบาล

กกต อีกแล้วนะ

ไม่ตั้งใจโกงยังไง เลือกตั้งครั้งนี้ตั้งใจโกงทุกรูปแบบยันการนับคะแนน

ใครๆก็ต้องคิดว่า กกต ควรมีหน้าที่นอกจากการรักษาความยุติธรรมในการเลือกตั้งแล้ว

ก็ต้องเป็น การอำนวยความสะดวก การจัดการเลือกตั้งให้ประชาชนเข้าใจง่ายที่สุด

และจัดให้มีการลงคะแนนเสียงตรงตามเจตจำนงค์ของประชาชนที่สุด


แต่เค้าไม่ทำ ลอยหน้าลอยตาอยู่ได้ยังไงก็ไม่รู้

ตั้งใจโกงเลยนั่นแหละครับ เขาไม่ต้องการให้พรรคการเมืองแข็งแรง

2ครั้งหลังที่หมายเลขพรรคกับส.ส.เขตคนละเบอร์คือเลือกตั้งปี50และ62 นั่นคือหลังจากพรรคไทยรักไทยและพรรคเพื่อไทยชนะแบบถล่มทลายแล้วเกิดการยึดอำนาจ พอคลายอำนาจการเลือกตั้งครั้งถัดมาเลยใช้คนละเบอร์

เป็นวิธีการคิดเพื่อตัดกำลังทักกี้นั่นแหละโดยอ้างเหตุผลป้องกันการซื้อเสียงถึงเกิดกฏแปลกๆนี่มา และมันได้ผลนะ เพราะทุกครั้งที่เลือกตั้งใหญ่แบบคนละเบอร์พรรคของทักกี้คะแนนลดลงทุกครั้ง(233/136)

ส่วนเลือกตั้ง48-54ใช้เบอร์เดียวกันทั่วประเทศ ผลคือคะแนนท่วมท้น 377 กับ 265 ตามลำดับ

บัตรใบเดียวก็แลนด์สไลด์ง่ายไงครับ คนจำง่าย พรรคไหนเด่นคนก็กาเลขนั้น แต่ถ้าให้แต่ละพื้นที่ใช้เลขไม่เหมือนกัน พวกที่กาผิดคะแนนมันก็กระจายๆออกไป ไม่มีพรรคไหนเด่นๆขึ้นมา

ถ้าเคยทำงาน Research จะเข้าใจครับ พวกการออกแบบคำถาม แบบฟอร์ม ตัวเลข รูปภาพ ลำดับคำถาม พวกนี้มีผลต่อคำตอบมากๆๆๆ

ถ้ากกต.จริงใจจริงๆ ก็ต้องใส่ชื่อผู้สมัคร+ชื่อพรรค+โลโก้+เบอร์ ในบัตรเลือกตั้งเพื่อกันคนสับสนแต่มันก็ไม่ทำ / แล้วทำไมไม่ทำ ก็มันจะโกงไงครับ

ตอนนี้เราจะเห็นสารพัดวิธีทำให้การเลือกตั้งทำได้ยากที่สุด สับสนที่สุด ใครยังอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ก็แล้วแต่เลย

1 เบอร์ 1 พรรค ง่ายดี

เอาแบบไม่โลกสวยไม่มีอะไรเลย​ เผื่อลื่นไหลได้ตามสถานะการณ์​หรือเอาหยาบๆคือพร้อมโกงนั่นเอง

จริงอย่างที่ท่านว่า ที่ 2 ครั้งนั้นเป็นครั้งที่เพื่อไทยได้คะแนนลดลง

แต่กติกาแบบ สส.เขตคนละเบอร์ มันน่าจะสร้างความสับสนให้กับทั้งคนที่จะเลือกฝั่งพรรคทักกี้และฝั่งตรงข้ามนะครับ เผลอๆฝั่งเลือกลุงน่าจะเป็นคน Gen รุ่นอายุมากกว่าที่สับสนง่ายกว่าซะอีก บัตรเสียก็ควรจะเกิดกับทั้งสองฝั่งคละๆกันไป .. คะแนนของพรรคพลังประชาชนที่ลดลงในปี 50 อาจจะมาจากที่ตอนนั้นกระแสเสื้อเหลือง+แอนตี้ทักษิณกำลังแรง คนไทยแบ่งเป็นสองฝ่ายชัดเจน, ปี 62 ยังมีกองเชียร์ลุงอยู่พอสมควร กระแสลุงยังไม่ตกต่ำอนาถแบบตอนนี้ แล้วกำเนิดพรรคอนาคตใหม่มาตัดกำลังเพื่อไทยไปอีก

ถ้าเลือกได้ก็อยากจะให้กลับมาเลือกแบบเบอร์เดียวทั้งพรรคทั้งคนและทุกเขตเหมือนกันครับ มันเข้าใจง่ายดี แม้ว่าพรรคที่จับฉลากได้เบอร์ 1-5 จะได้เปรียบพรรคที่จับได้เบอร์ 11 มากก็ตาม

ขออธิบายเพิ่มเติมครับเล็กน้อยนะครับ กติกาที่ว่ามันส่งผลเสียกับคนที่ลงเลือกตั้งครับ แต่มันส่งผลดีกับคนที่ไม่ต้องการให้มีเลือกตั้งครับ

จะยึดอำนาจก็ง่ายเพราะเมื่อพรรคไม่แข็งแรงมีหลายพรรคความวุ่นวายก็เกิดง่าย จะดีลอะไรก็ได้เพราะพรรคแต่ละพรรคมันไม่แข็งแรงส่งคนไปคุมได้สักพรรค2พรรคก็สบาย คนกลุ่มนี้มากกว่าครับที่ได้ประโยชน์สูงสุด