รู้สึกยังไง แล้ว แก้ปัญหายังไง

ตอนนี้รู้สึกไม่ดีเลยครับ เหมือนหัวหน้าที่เคารพรักจะเอาไอเดียเราไปมีส่วนร่วม ซึ่งมันเป็นของใหม่ของบริษัท เอาประสบการณ์ที่เก่าๆมา apply ซึ่งหัวหน้าและนายไม่เคยทำหรอกเพราะ business type มันต่างกัน

ซึ่งงานนี้ถ้าให้เทียบ ผม98% เขา2% / 2% ที่ว่านี้คือเอาให้เขาดูว่าเวิร์คมั้ย(ซึ่งเขาไม่มีไอเดียอะไรเพิ่ม) + ให้เขาก็เอาไปส่งเมลให้นายพิจารณา

พอถึงวันประชุมนำเสนอ (ผมเป็นคนทำพรีเซนต์) แกก็เป็นคนนำเสนอเองเลย ซึ่งเอาจริงๆผมไม่ติดใจอะไรนะตอนแรกเพราะสนิทกัน หลายๆงานแกก็ให้ผมส่งเมลหานายเองเลย หรือ บางงานแกก็บอกให้ว่าเป็น credit ของผมนะ ผมก็ไว้ใจแกตลอด ยังเคยเอาไปเล่าให้แฟนฟังเลยว่า หัวหน้าดีมาก ให้เครดิตตลอด

จนมารอบนี้ ทั้งตอนพรีเซนต์ ตอนถามตอบ แกพูดเหมือนเป็นไอเดียแกเลย และไม่มีพูดซักคำว่าผมเป็นคนคิดหรือต้นไอเดีย ถึงในตอนประชุมผมจะมีแทรกๆอธิบายเพิ่มเติมบ้าง

ในที่ประชุมนายก็ให้มีการปรับแก้นิดหน่อย เขาก็เอาไฟล์ผมไปแก้แล้วส่งนายเลย ทั้งที่ตอนออกมาบอกผมว่าเดี๋ยวให้ผมดูก่อน

สรุปนายก็ approve ให้ผ่านและบอกมาว่า "your idea so interesting, agree with you" ซึ่งในเมลนั้นไม่มีชื่อผมเลย

ตอนนี้ผมรู้สึกไม่ดีเลย แล้วเริ่มมองหัวหน้าคนนี้เปลี่ยนไป แต่ก็ยังสองจิตสองใจเพราะบางทีแกก็อ๊องๆ อาจจะไม่ได้ตั้งใจไรงี้

ตอนนี้ก็กำลังดูท่าทีอยุ่ว่าแกจะยังไงต่อ เพราะนายก็ให้ผ่านมาอาทิตย์กว่าละ ก็ยังไม่เห็นแกทำไรต่อ ผมก็นิ่งๆเลยไม่มีใจจะทำ ตอนแรกกะอยู่ที่นี่ยาวๆ พอเจอเหตุการณ์นี้เลยมีความคิดจะเปลี่ยนงานเลยเนี่ย

หลังจากนี้ส่ง mail งานสำคัญๆ ให้หัวหน้า อย่าลืมCc ให้นายรับทราบเลยครับ

ลองคิดแบบนี้ดูนะครับ
1.ถ้าคุณมีหัวหน้าเเล้วต้องขึ้นตรงกับเขา ผมมองว่าก็ไม่ผิดที่เขาจะเอาผลงานคุณไปนำเสนอ
เพราะว่าคุณเป็นลูกน้องในสายงานเขาไงครับยังไงมันก็ต้องผ่านเขาอยู่ดี

2.ถ้าคุณไม่ได้ขึ้นตรงกับเขา คุณสามารถนำเสนอผลงานของคุณได้เอง อันนี้น่าจะไม่โอเครเพราะเหมือนเอาผลงานเข้าตัวเองอย่างเดียว

สรุป ดูที่การบังคับบัญชาครับ เพราะอย่าลืมนะครับว่าเวลาประเมินผลงานประจำปี หรืออะไรต่างๆ หัวหน้าคุณคือคนประเมิน มันอยู่ที่ปลายปากกาครับ
ถ้าหัวหน้าคุณได้ดี เขาเห็นว่าคุณช่วยเค้าให้ได้ดี คุณก็โตได้ตามเค้าแหล่ะครับ อันนี้ผมแค่อยากให้มองในมุมนี้นะ เเต่ถ้าจะมองในมุมโดนแย่งผลงานก็ไม่ผิด

ปกติก็ cc อยุ่แล้วหละครับ

แต่พอเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ผมเลยไล่กลับไปดูเมลเก่าๆ

อันไหน issue สำคัญ(แต่งานผม) แกจะคอยส่งเมลตอบโต้นายแทนผมบางครั้ง แต่ก่อนผมคิดว่าช่วยเหลือกัน เหมือนเป็นแบ็คให้เราแบบเขาช่วยคิดมาแล้วนะไรงี้ ผมก็อุ่นใจ

เจองี้ เริ่มคิดลบเลย

โดนเคลม 100%

เคยโดนเปิดคอมแล้วปริ้นท์ไปเลย 100% สาเหตุเพราะประธานอยากทราบแผนทั้งหมดวันนั้น

แล้วผมลาพักร้อนพอดี

ผมก็คิดแบบนี้มาตลอดแหละครับ ผมก็เลยเสนอเขา แล้วให้เขาเสนอนายอีกที ไม่ได้ตะหงิดใจอะไร

แต่คือไม่มี mentioned ผมเลยแม้แต่น้อยในที่ประชุม ทั้งที่แต่ก่อนงานเล็ก งานกลาง คือ ให้เครดิตผมตลอด แต่พองานใหญ่ทำไงเงียบอะ ผมจะขอได้หน้าในงานใหญ่ๆบ้างไม่ได้หรอ

แล้วอีเมลที่นาย approve กลับมา ถ้าเขาพิมพ์ว่า "your team" ผมจะไม่ติดใจอะไรเลยนะ

เคยแต่โดนยัดไอเดียหัวหน้ามาแทนอ่ะครับ บอกว่าต้องทำยังงี้ๆ พอทำละCEOเรียกไปคุย แม่งเงียบบบอกไม่ได้สั่ง ฟ้ากกก

เคยครับ และโมโหมากด้วย
ผมเคยทำงานสาขาของแบงค์รัฐแห่งนึง ดีลกับพวกสหกรณ์ออมทรัพย์ของหน่วยงานรัฐได้หลายที่
ก็ตกลงกันกับหัวหน้าว่า ถ้าได้มารวมๆกัน 100กว่าM ที่ละ 50M จะเอามาเฉลี่ยๆผลงานกันให้น้องๆในทีม Kpi จะได้ถึงเป้าปีทุกคน ไม่ต้องเหนื่อยขายประกันยาวยันสิ้นปี
ทีนี้พอถึงวันเปิดขายจริงมันได้ยอดตามเป้าแหละครับ แต่ผู้การเสนอหน้าเอาใบแอพไปใส่รหัสรองฝั่งสินเชื่อที่ตัวเองสนิท แล้วอ้างว่าเค้าต้องใช้ Kpi เยอะกว่า แบ่งๆกัน
ทั้งๆที่ผมกับรองฝั่งบริการ ดีลกันมาครึ่งปี หัวหน้าผมก็สู้นะ ร้องไปถึงเขต แต่ทำไงได้ผู้การคนนี้มันลูกรักเขต ไปฟ้องว่าผมอารยะขัดขืน กระด้างกระเดื่อง ให้ผมย้ายไปช่วยสาขาอื่น ทีละเดือน-2เดือน ผมทนไม่ไหวทำเรื่องไปสัมภาษณ์เข้า สนญ.จนเค้ารับ
แต่เขตไม่เซ็นปล่อยตัวให้ ปลายทางรับแต่ต้นทางไม่เซ็นผมก็ย้ายไม่ได้ ต้องโดนมันจับย้ายไปนู่นไปนี่เรื่อยๆ ผมก็ไม่อยากยื่นเรื่องสหภาพให้มันกระทนคนอื่นหลายทาง ช่างแม่งละ ออกไป จบๆ ประสาทเสีย

ก็น่าเห็นใจท่านอยู่ครับ...ยังไงก็ถ้าไม่ไหวก็ลาออกครับ

แต่สำหรับผมนะคือด้วยความที่ผมอะไม่ได้อยากได้หน้าอะไรเลยทำงานก็ทำงานให้มันได้งานจริงๆ
ผมเน้นแค่อย่างเดียว ถึงเวลาประเมินเงินผมต้องขึ้น เกรดผมต้อง A B เท่านั้นถ้าผมทำผลงานได้เยอะในปีนั้นผมไม่สนนะ ว่าใครจะเครมผลงานยิ่งเป็นหัวหน้าผมยิ่งไม่สนเลย เเต่ตอนประเมินคุณต้องเห็นค่าฉันนะ อะไรแบบนี้ ไม่งั้นก็จบกันตรงนี้ 555

ทำทุกอย่าง ยกเว้นตอนพรีเซน
ดีเสมอตัว ผิดไปแก้มา

ทำงานเสร็จแล้วส่งให้พี่ในกลุ่มงานดู แกเอาไปส่งหัวหน้าบอกว่าผมทำเสร็จแล้วครับ

แต่เวลางานผิดพลาดมาจะรู้ทันทีว่าใครทำ

นายผมไม่ค่อยให้เครดิต ไม่ค่อยชม แต่ก็ไม่ค่อยว่าเหมือนกัน จนผมชิน แต่เค้าจะให้เป็น reward คืน โดยที่ผมไม่เคยร้องขอเป็นประจำในรูปแบบเงินพิเศษ บางเดือนมีเงินอะไรก็ไม่รู้เข้ามา เค้าก็ไม่ได้บอกว่าค่าอะไร ผมก็ไม่ได้ถาม (ซึ่งผมก็ไม่ค่อยดู slip เงินเดือนว่าได้เท่าไหร่ มานานหลายปีแล้ว เพราะเงินเข้าไม่เท่ากันในแต่ละเดือน) บางครั้งก็ให้ไปเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งผมมองว่าการให้เครดิต หรือการให้คุณค่าของเรากลับอาจจะมาในรูปแบบอื่นก็ได้ แต่กว่าผมจะได้ benefit พวกนี้ก็ใช้เวลานานอยู่กว่าจะ proved ความสามารถของตัวเอง ผมอยากให้มองเหมือนนักฟุตบอล ถ้าเราลงสนามแล้ว โชว์ฟอร์มได้ดี ยิงประตูได้เยอะ คุณค่า และค่าตัวของเราก็เพิ่มขึ้นมาเอง โดยที่เราไม่รู้ตัว ถ้าคุณเป็นตัวหลักที่ทีมขาดไม่ได้ บางครั้ง benefit มันอาจจะมากเกินกว่าที่เราจะคิดก็ได้ ซึ่งบางทีเรื่องพวกนี้อาจจะต้องใช้เวลาในการ proved นะครับ อาจจะไม่ใช่ case by case

ถ้ามองในมุมมองท่านก็ดูชะโลมจิตใจดีครับ วัดกันที่ปลายปี

แต่ผมโดนพี่ๆผู้ใหญ่สอนมาตลอดว่าทำงานต้องมีสปอร์ตไลท์ ทำงานที่มันมีคุณค่าต่อบริษัท เลยอาจจะมีมุมมองอีกแบบต่างจากท่าน

ส่วนเรื่องประเมินมันมีกรอบชัดอยู่แล้วครับสำหรับสายงานผม (BD) เลยไม่ได้ซีเรียสประเมินปลายปีเท่าไร อยากทำงานคุณค่าให้บริษัทเห็นมากกว่า

แต่ยังไงก็จะเอามุมมองท่านไปลองคิดดูครับ

เคยแต่โดน ฆ่าตัดตอนครับ

แบบปั่นนาย เอาข้อเสียเราไปคุย
โกหกกับเรา เพื่อที่เค้าจะได้ตำแหน่ง ประมาณนี้