ภรรยา ผมเป็นครูไม่มีเลยนะครูไปเที่ยว มีแต่พาเด็กไปทัศนศึกษา เพราะ เขาให้งบส่วนนี้มา

ขึ้นหัวว่าดูงานทุกหน่วยงานนั่นแหละครับ รู้กัน

ก่อนจะทำเรื่องของบ ก็ต้องมีโครงการอยู่แล้ว ว่าจะเอาไปทำอะไร

- ก่อนยุคโทนี่ ไม่ค่อยมีโครงการนั่นนี่ ไม่มีโครงการพิเศษ
- ยุคโทนี่ มีการศึกษาขั้นพื้นที่ เขตพื้นที่การศึกษา การบูรณาการระหว่างหมวดวิชา มีงบพิเศษเข้ามา โครงการพิเศษเข้ามา เช่น งานระหว่างเขตพื้นที่การศึกษา ตั้งงบพิเศษได้ ก็จัดไป อาจจะเริ่มจากจัดงานนิทรรศการระหว่างโรงเรียน มีการตั้งงบไปเตรียมการ เดินทางได้ หรือ บูรณาการระหว่างหมวดวิชา ก็จำเป็นต้องร่วมงานสัมมนา งานแข่งขัน
- ยุคปัจจุบัน โครงการพิเศษเริ่มแผ่วแล้ว เนื่องจากงบน้อยลง ยังไงก็ต้องตัด ตัดทั้งงบ แล้วเป้าหมาย และคณะกรรมการ งบต่างๆที่จะผ่านได้ จะเป็นงบสำคัญ งบเกี่ยวกับการศึกษาจริงๆ


จึงมองว่าปัจจุบันการดูงานต่างๆไม่น่าใช่งบกลางนะครับ
แต่อาจจะเป็นได้จากวิธีการอื่นๆ โรงเรียนจัดกิจกรรม เช่น งานเลี้ยงครู งานเลี้ยงจบการศึกษา งานเดินวิ่งการกุศล กิจกรรมกีฬา งานสอนพิเศษ ขายของที่ระลึก หรือ... ละไว้ละกันครับ เงินส่วนนี้ก็มีความเป็นไปได้

สาเหตุคือความโง่ของระบบที่ว่าถ้างบเหลือ = เงินพอใช้ ดังนั้นปีหน้าให้เท่ากับที่ใช้ (ลดงบลง)

คืออย่างหน่วยงานผม สมมุตินะ อยากซื้ออุปกรณ์ราคา 2 ล้านบาท แล้วปีนี้งบได้มา 10 ล้าน ใช้ 9 ล้าน เหลือ 1 ล้าน ปีหน้าใช้เท่าเดิม แล้วเหลืออีก 1 ล้าน รวมเป็น 2 ล้านเท่าเดิมไม่ได้

ที่จะได้คือ งบ 10 ล้าน ใช้ 9 ล้าน 1 ล้านนั้นต้องคืน แล้วปีหน้าเอาไป 9 ล้านพอ

ส่วนถ้าอยากได้อุปกรณ์ 2 ล้าน ต้องใช้เงินแค่ 8 ล้านแล้วเอา 2 ล้านนั้นซื้อ หรือ ทำเรื่องขอซื้อ 2 ล้านแยกต่างหาก แต่ขึ้นกับผู้ใหญ่คนอื่นว่าจะให้หรือไม่ให้

ตาม พรบ งบประมาณมันล็อกไว้แล้วอะสิ ว่าหลังสิ้นสุดวัตถุประสงค์ หรือไม่มีเหตุให้ต้องใช้แล้ว ให้ส่งคืนคลังโดยไว

อสม

เพื่อนเป็นครูโรงเรียนชนบทแถวบ้านนอก มันก็บอกแบบ จขกท เหมือนกันครับ ถ้าปีนี้ใช้งบไม่หมด ปีหน้างบจะโดนลดลงไปอีก

อสม มีงบเที่ยวให้ครับ

เพื่อนครูของจานก็ไม่ได้เข้าใจผิดขนาดนั้นหรอกครับ การโดนลดงบมีจริง แต่ไม่ได้ถูกลดจากส่วนกลาง พวกกระทรวงหรือเขตพื้นที่การศึกษาตัดงบ

โรงเรียนยังคงต้องได้ค่าอุดหนุนรายหัวเต็มเหมือนเดิมตามจำนวนนักเรียนไม่มีตัด

แต่การลดงบที่เข้าใจกันในหมู่ครูคือ มาจากระบบบริหารภายในโรงเรียนเองที่มองว่าปีก่อนใช้ตังเหลือปีนี้เกลี่ยเปอร์เซ็นให้ฝ่ายนี้ลดลง
เช่น แต่เดิมฝ่าย A B C ใช้งบอยู่ 10 20 70 แต่ปร่ากฎว่ากิจกรรมจัดซื้อจัดจ้างต่างๆของงาน C ใช้จริงแค่ 65 ปีงบถัดไปฝ่ายบริหารก็เกลี่ยไปลงฝ่ายอื่น แล้วเหลือ C แค่ 65 แบบนี้ตัดกันได้ เป็นอำนาจบริหารในหน่วย รร เอง ดังนั้นแล้วมันก็ 100 เท่าเดิม แค่ถูกเกลี่ยไปทำกิจกรรมโครงการจำเป็นอื่นๆ

แต่เรื่องงบศึกษาดูงานมักจะถูกเขียนไว้ในแผนของฝ่ายบุคคลตั้งแต่ตอนร่างแผนละครับ มันจะไม่ออกมาแบบ ตังเหลือพวกเราเที่ยวกันเถอะ แต่มันจะมาแบบ สิ้นปีไปเที่ยวกัน แล้วตังเหลือเท่าไหร่ค่อยเอาไปลงโครงการอื่นๆ
เช่น มี 2 ล้าน กันไว้เที่ยวก่อนเลย 4 แสน แล้วค่อยมาร่างแผนที่เหลืออีกล้านหกว่าพอจะซื้อครุภัณฑ์ วัสดุสำนักงานอะไรทีหลัง

เลยเป็นเหตุให้เวลาซื้อของอะซื้อรีดกันจนหมดทุกบาท เพราะไม่งั้นปีหน้า ผอ จะตัดเหลือเท่าที่เคยซื้อ ย้ำว่าคนลดงบ ไม่ใช่ส่วนกลาง ต้องซูมเข้าไปดูระดับจุลภาค

อื่นใดสำหรับหนูคิดว่าการรีดทุกบาทนี้แม่งเป็นมายเซ็ทที่ปัญญาอ่อนมากๆ

เรื่องใช้งบน้อยทำให้ปีต่อไปน้อยลงนี่เป็นหนึ่งในเรื่องตลกของระบบราชการที่ได้ยินมาหลายสิบปีละ ถ้าปีนี้ใช้น้อยก็ควรจะน้อยไปสิ ปีหน้ามีเรื่องให้ใช้เยอะก็ต้องขอได้สิ เป็นระบบที่ไม่มีเหตุผลอะไรเลย งี่เง่าเต็มสิบ
การใช้เงินพวกราชการนี่หค มานานมากแล้วไม่ใช่แค่ดูงาน ขยันออกงบสร้างป้ายกันชิบหาย ถ้าเอาแบบของหนักๆก็สร้างอาคารที่ฟังค์ชั่นกว้างๆ อาคารอเนกประสงค์ หอประชุมใหญ่ หอประชุมเล็ก ใช้ชื่อกันการตรวจสอบเป็น อาคารเฉลิมพระเกียรติ เขียนให้ดูมีสาระ ก็อาคารศูนย์เรียนรู้ พิพิธภัณฑ์ สร้างมากลางหน่วย กลางมหาลัย ที่แทบไม่มีคนไปใช้งานแล้วก็ปล่อยโทรมไป ตอนสร้างก็ออก tor กำหนดส่งไม่กี่วัน ประกาศเย็นวันศุกร์ ติดต่อขอข้อมูลได้อีกทีบ่ายวันจันทร์ หายไปละ 3 วัน ถ้าไม่เตรียมแบบไว้ก่อนใครจะทำทัน

เรื่องจริงครับ​ เพื่อนเป็นข้าราชการหลายคนก็พูดแบบนี้​ ใช้งบไม่หมด​ ปีหน้าจะโดนลดงบ

มันก็ไม่มั่วซะทีเดียวครับ ไม่ใช่แค่โรงเรียน ในบริษัท อุตสาหกรรม ระดับท๊อปจนถึงระดับทั่วไป ที่ผู้บริหารทำงานละเอียด เมื่อเราวางงบไว้ ไม่ว่าจะเป็น Yearly budget, CAPEX or Project Budget ต้องพยายามใช้ให้ตามงบ แต่ห้ามเกิม โดยปกติ ห้ามเกิน 10% ครับ และถ้าเราใช้เหลือบ่อยๆ เราจะถูกหมายหัว ว่าต่อไปเราจะได้งบที่ถูกหั่นลงมา เวลาขออนุมัติงบ ครับ เพราะ ผู้บริหาร เค้าก็จะจำได้ครับ ไอ้นี่มาอีกละขอเงินเยอะแล้วเหลือ แล้วเอาเงินเหลือมาขอปรับปีบ้าง ขอเพิ่ม โบนัสบ้าง อะไรแบบนี้ครับ

หลายหน่วยงานครับ แถมโดนสอบด้วย ทำไมตั้งงบแล้วเหลือ

ส่วนมากตั้งไว้เผื่อ ไม่งั้นโดนลดงบในปีถัดไป แล้วพอมีงานที่ต้องใช้งบ ต้องไปขอยากอีก

ระบบเฮงซวยจริงแบบนี้

ถ้าอิงจากหน่วยงานพี่ผมนะ งบประมาณให้มาแล้วต้องพยายามจัดสรรงบให้พอดีอย่าขาดเยอะอย่าเหลือ ไม่งั้นปีหน้าถ้าเหลือก็จะโดนตัดลดลง ส่วนใหญ่ก็หาเรื่องทำจนงบมันไม่พอ เวลาของบปีหน้ามันมีโอกาสได้เพิ่มไง ก็เป็นช่องให้งบถูกเอาไปทำอะไรที่มันไม่เหมาะสม

อย่าแปลกใจแกบอกทุกหน่วยงานก็แบบนี้ เพราะงั้นเงินภาษีถูกใช้ไปแบบสุรุ่ยสุร่ายจริงๆ ดูงาน จัดอบรมนี่คือหลักๆที่เห็นทำกัน