เครดิต: กลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส

เอามาลงให้ดูแบบคิดไม่ถึงว่า สมัยก่อน สมัยสมบูรณาสิทธิราช จะฟรีสปีชขนาดนี้ ให้อารมณ์แบบพวกกษัตริย์ในต่างประเทศ

น่าสงสารพระนาง

ทพจร

propaganda ในไทยมันพีคๆช่วง 50-60 ปีที่ผ่านมานี้เองครับ

สมัยก่อนชิลกว่านี้เยอะ (ว่ากันว่าสมัย K8 จะลงสมัครประธานาธิบดีด้วยซ้ำ)

เค้าเลยมาเอาคืนยุคนี้ไงท่าน
โดนลูบคม หยามเกียรติยศ ขนาดนั้นในยุคร.7
คนในนั้นคงโกรธแค้นมากๆนั่นแหละ
และส่งต่อรุ่นสู่รุ่นมาถึงทุกวันนี้แหละ
เค้ากำลังจะยึดอำนาจที่เคยมีนับร้อยปีคืนกลับ ก็แค่นั้นเอง

ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ ไม่ได้หยามเกรียติ แต่เรียกว่า "เป็นคนของประชาชนแท้จริง" วิจารณ์ได้ ผมว่าแบบนี้ดูน่าเลื่อมใสกว่าสมัยนี้ ให้อารมณ์กษัตริย์ต่างประเทศ ตรงตามกลุ่มเด็กปัจจุบันต้องการเป๊ะๆ

น่าจะหมายถึงที่โดนยึดที่ ทุบวัง ไรงั้นมากกว่านะครับ

พึ่งมาทำให้แตะต้องไม่ได้ยุคหลังนี่แหละ ถอยหลังลงคลองอย่างแท้จริง หลายอย่างที่คุยว่าแสดงความเป็นไทยช้านาน เอาจริงๆ เกิดขึ้นปฎิวัติ หลังจอมพล ป. หลังสงครามโลก แต่ดันเอาไปสร้างเสริมเติมแต่งประวัติศาสตร์แบบretroactive ว่านี้แหละความเป็นไทย ห้ามแตะต้อง

ในข่าวปี 2492 ครับ ไม่ใช่ 2452 ลองไปขยายในรูปดู
ตรงกับยุคจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกฯ หนสอง

พระนางเธอลักษมีลาวัณ เป็นพระวรราชชายาใน ร.6 (ยศก่อนหน้าเป็นพระนางเธอ คือพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าลักษมีลาวัณ) ที่บอกพระมเหสีนี่เป็นการพาดหัวเพื่อเรียกเรตติ้งข่าวเท่านั้นเพราะภายหลัง ร.6 ทรงสถาปนาพระมเหสีอีก 2 พระองค์
การลงข่าวเลยออกมาประมาณเดียวกับพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ กำกับหนัง หรือพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ (พี่น้องต่างมารดากับพระนางเธอ) ทรงงานการเมือง คือทำได้ปกติ

ต่อมาพระองค์สิ้นพระชนม์เพราะถูกคนสวนฆาตกรรมชิงทรัพย์สิน
https://www.silpa-mag.com/history/article_39406

แต่ถ้าไม่ได้คณะราษฎรปฏิวัติ สายมหิดลก็ไม่ได้มาครองราชย์แบบปัจจุบันนะ

ขอบคุณครับ ผมพยายามแกะจากรูป แต่ผิดไป

จะพีคกว่าถ้าบอกว่า พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ พี่น้องต่างมารดากับพระนางเธอลักษมีลาวัณ เนี่ย ร่วมงานกับคณะราษฎรตั้งแต่สมัยเป็นที่ปรึกษา ยันได้เป็นรัฐมนตรี (เพราะว่า รธน.2475 ห้ามให้ ม.จ.ขึ้นไป ลงการเมือง เลยต้องเลี่ยงไปทำตำแหน่งอื่น มาเลิกข้อห้ามนี้ตอน รธน.2489)

https://www.posttoday.com/politic/report/581322

พระนางเธอแค้นเคืองจริงป่านนี้ฟ้องสื่อนานแล้วครับ ไม่ทำแค่แต่งกลอนตอบโต้และรับว่าพระองค์อารมณ์ร้าย และตอนนั้นยังไม่มี ป.อาญา มาตรา 112 ที่ขยายการตีความไปถึงพระมเหสีและรัชทายาท (ซึ่งพระนางก็ไม่ได้เข้าข่ายนั้นอยู่ดี)
แต่ลงข่าวดังขนาดนี้ สุดท้ายฆาตกรที่ก่อเหตุ ก็ยังไม่รู้อีกว่าพระนางเป็นใคร คิดว่าเป็นแค่ผู้ดีแก่ๆ คนหนึ่ง

เสริม: ที่บอกว่าจะไม่ได้ขึ้น เพราะคาดกันว่าสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต ที่ตอนนั้นมีบทบาทมาก คุมกระทรวงสำคัญๆ จะได้ขึ้นมากกว่าหาก ร.7 ประสงค์จะตั้งเป็นรัชทายาท แต่ไม่ได้ดูว่า ตามกฎมณเฑียรบาลฯ ยังไงสายสกุลมหิดลก็ได้ขึ้นถัดจาก ร.7
และ ร.7 ก็ไม่ทรงสถาปนาเชื้อพระวงศ์ใดเป็นรัชทายาทตลอดเวลาครองราชย์

ต่อให้ไม่เกิดเหตุนี้ ก็ยากจะเดาได้ว่า ร.7 จะตัดสินพระทัยอย่างไรอยู่ดี เพราะไม่มีวี่แววจะตั้งใครขึ้นมารับช่วงต่อเลย

ใช้เจ้าของบ้านที่โดนปล้น ฆ่ารึเปล่าครับ

สมัยเรียนนั่งรถผ่านทุกวัน ยังสงสัยบ้านใครทำไมสวยจังอยุ่ริมถนนพญาไทเนี่ยนะ

https://www.bkkvariety.com/327
ใช่ครับ

แต่ไม่แน่ใจที่คุณว่า ใช่ก่อนที่ศูนย์แบพติสต์จะรื้อวัง สร้างอาคารหลังใหม่รึเปล่า

ไม่ต้องย้อนไปไกล ก็Free Speechได้ครับ

ไม่เกิน 20-30 ปีก่อนหน้านี้ อะไรที่นินทากันในกลุ่มนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องที่ห้ามพูดอะไร นินทากันได้ทั่วไป และเป็นเรื่องที่แทบจะเรียกว่าคน Generation X พอจะรู้อยู่แล้วด้วยซ้ำไป แค่ว่ารู้แล้วจะ"คิด"อะไรต่อหรือเปล่า

ที่มันมาปั้นกันหนักๆ ก็คือแค่ช่วง 15-20 ปีนี้ ช่วงที่รัชกาลก่อนมีสภาพที่เริ่มออกงานไม่ไหว แค่นั้นเอง
อย่างข่าวนี้ เมื่อก่อนก็มีให้อ่านได้ทั่วไป รวบรวมข่าวบุบพระเศียร ผมยังมีเป็นหนังสือเลย