+1 เห็นด้วยเลยครับ ผมอยากเห็นแนวนี้มากๆ เห็นบางช่วงในบุพเพฯ ผมยังชอบเลย

ช่อง 7 ทั้งภาพทั้งโปรดักชั่นอย่างกาก บทก็เชย แต่ก็กำไรเยอะกว่าช่องอื่นมาก มันก็เลยย่ำอยู่ที่เดิม

ช่อง ONE บทน้ำเน่าเหมือนกัน แต่งานภาพแจ่มกว่าเยอะ

ก็ของมันยังมีคนดู มี่คนสนับสนุนมันก็อยู่ต่อได้หมดแหละ

อยากให้เลิกยืนเรียงหน้ากระดานแล้วพูดสักที โคตรเชย

เคยคุยกับค่ายๆนึง ทางค่ายบอกว่าหลักๆคือ "งบ"

ถ้าเงินลงทุนมันถึง คิดเหรอว่าไทยจะทำละคร,ซีรี่ย์,หนังเจ๋งๆออกมาไม่ได้ แต่เพราะงบไม่มีแล้วก็มันไม่ได้เงินมากพอ เลยต้องวนลูปทำแต่สิ่งที่มันขายได้คือละครห่วยๆออกมา รีเมควนไปซ้ำๆ เพราะงั้นสิ่งที่เห็นคนทำกันอยู่ปัจจุบันมันก็มีแค่ 1.สิ่งที่ขายได้ชัวร์ซึ่งมันก็ตลาดเดิมๆ 2.เหล่าผู้กล้าที่อยากทำอะไรใหม่ๆซึ่งวันนึงเรื่องรายได้ก็จะบีบให้กลับไปทำแบบข้อ 1

ตราบใดที่รัฐบาลไม่อุดหนุนงบ ทำเป็นโครงการจริงจังขึ้นมาก็ยากครับ คนทำละครเขาก็ต้องทำเซฟต้นทุนตัวเอง จะให้ไปลงทุนแนวใหม่ ๆ ที่ไม่รู้ว่าจะขายได้มั้ยมันไม่มีใครทำกันหรอกครับ เว้นแต่เจ้าของเงินนั้นลงเงินมาแบบไม่ได้คาดหวังสิ่งตอบแทนเป็นกำไร

อย่างเกาหลีรัฐบาลก็อุดหนุนมานานมากแล้วครับ มันถึงพัฒนามาไกลขนาดนี้ ถ้าไม่มีเงินแบบไม่หวังกำไรให้ใช้ก็ไม่มีใครอยากออกจากเซฟโซนหรอก ขาดทุนขึ้นมาใครรับผิดชอบล่ะ

รวม ๆ แล้วมันจะโทษผู้จัดไม่ได้หรอก เพราะคนลงเงินเขาหวังกำไร มันก็ต้องทำอะไรที่มีแนวโน้มจะขายได้แน่นอนไม่ขาดทุน ต้องโทษรัฐบาลโน่นแหละที่ไม่สนับสนุนจริง ๆ จัง ๆ อยากให้ด้านไหนเจริญก็ต้องมีเงินไปสนับสนุน ไม่ใช่ทำโครงการมาเพื่อหักค่าหัวคิวกินงบกันเอง

ชอบแบบไทย
ๆครับ ถ้าอยากดํแบบเกาหลีก็เลือกดูเกาหลีไป

ใช่ว่าละครไทยจะขายไม่ได้ซีรีย์วายก็ขายได้ทั่วโลกละครไทยขายได้ในแถบอาเซียนจีนเกาหลีญี่ปุ่นนิดๆหน่อยๆแต่อเมริกาใต้ที่เข้าคลั่งละครไทยมากที่มันไม่ดังเพราะว่าไม่มีซับอังกฤษให้เขาอ่านเขาต้องไปหาของเถื่อนดู

-ซีรีย์วายไทยเป็นตัดจุดกระแสโลก(แต่ใกล้โดนจีนกลบแล้ว) ที่แปลกใจคือไม่ได้ดูทีวีนาน ช่วงนี้ว่างๆเปิดเล่นๆ ช่อง 3 ละครวายเพียบเลย
-หนัง GTH สมัยก่อนดังใน SEA อยู่ ลองดูพวกหนังดังๆในไทยคอมเม้นอังกฤษเพียบ สมัยนี้ดรอปๆไป

สรุปไม่ถึงกับไม่พัฒนา พัฒนาอยู่เรื่อยๆแต่ไปไม่สุดมากกว่า ดังแล้วต่อยอดไม่ได้จนกระแสค่อยๆโดนกลบไปเอง

แล้วจริงๆผมเห็นพูดกันแทบทุกเรื่องเลยว่าให้รัฐบาลสนับสนุนอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งก็ถูกส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งคือประชาชนก็ต้องสนับสนุนด้วย ไม่ใช่หนีไปเสพของนอกแล้วบอกให้รัฐบาลสนับสนุนอย่างเดียว เกาหลี ญี่ปุ่น หรือแม้แต่จีนสมัยของกากๆประชาชนก็ไม่หนีไปใช้ของนอก ของในประเทศห่วยยังไงก็ใช้ ใช้ไปด่าไปก็ใช้ จนเม็ดเงินมันเยอะพอสนับสนุนให้คนเก่งๆมาแข่งขัน

ญี่ปุนสมัยผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ๆก็ไม่ต่างจากจีนสมัยก่อน แต่ประชาชนก็ช่วยกันใช้ ใช้ไปด่าไปอย่างที่บอกแต่ยังไงก็ใช้
จีนไม่ต้องพูดถึง อะไรดีก๊อปหมด ก๊อปปุ๊บคนจีนด้วยกันแห่อุดหนุนทันที ตอนนี้จีนก็เดินตามรอยญี่ปุ่นค่อยๆพัฒนาจนคุณภาพเริ่มสู้ยุโรปได้
เกาหลีที่พูดถึงรัฐบาลเขาสนับสนุนจริง แต่คนในประเทศก็ชาตินิยมเต็มที่เหมือนกันตั้งแต่ kpop gen1 วัฒนธรรมเสพสื่อคลั่งกว่าบ้านเราเยอะ พูดถึงพวกเทคโนโลยีต่างๆก็เห็นชัดเหมือนกัน ยุโรปมีอะไรเกาหลีทำตามแล้วคนเกาหลีก็แห่ไปใช้กันหมด

สรุปทุกเรื่องถ้าหวังให้รัฐบาลช่วยจนมันดีแล้วค่อยบริโภคคงยาก ประชาชนก็ต้องช่วยกันเหมือนกัน ไม่ใช่บอกว่ามันไม่ดีเลยไปบริโภคของนอกแล้วมาบอกว่าก็ของไทยมันห่วยช่วยไม่ได้แบบนั้นมันก็ไม่มีทางดีขึ้นหรอก อยากให้ดีเหมือนเขานอกจากจะหวังให้รัฐบาลสนับสนุนเหมือนเขาแล้วก็ต้องชาตินิยมเหมือนเขาด้วยเหมือนกัน

คิดว่ามันขายได้อยู่กับผู้ชมในกลุ่มที่ชื่นชอบเรื่องดารา หรือดูทีวีทุกวันครับ

ชีวิตบางคนคือตั้งแต่เข้ายุคโซเชียลมีเดีย ยุคสมาร์ททีวี ก็ไม่ได้ดูพวกละครอีก
มันขึ้นกับการใช้ชีวิต อะไรที่เราไม่ชอบ คนอื่นอาจจะชอบ เรื่องปกติเลยครับ

ผมเองก็เลิกสนใจละครไทยนานแล้ว หนังรักไทยก็ไม่ดูแล้ว ดูแต่พวกตลกเอา
ผมก็ยังเห็นเขาทำออกมาเรื่อย ๆ แปลว่ามันมีคนชอบ มีคนตอบรับอยู่ครับ

เพราะคงไม่มีใครหลับหูหลับตาเอาเงินล้านมาตำน้ำพริกละลายแม่น้ำแน่นอน

ชื่อบอกอยู่แล้วว่าละคร เค้าไม่ได้หวังขายนอกครับ
เค้าขายคนไทย คนทั่วไป คนสูงวัยที่บ้าน และขายได้อยู่ได้ครับ

ส่วนถ้าอยากเห็นอันที่ส่งออกจริงต้องไปดูซีรีวายกับเลสครับ
ลองเสิร์ช freen becky ดู ตอนนึงวิวเป็นสิบล้านในยูทู้บ
ไม่มีเม้นคนไทยสักคน

พวกดาราซีรี่ย์วายชายไทย งานวันเกิดทีของขวัญมูลค่าเป็นสิบล้านครับ จากแฟนคลับจีน

ผู้ผลิตละครไทย ซีรี่ย์ไทยเค่าหา niche ของตัวเองเจอแล้วครับ

ท่านแค่ต้องเปิดตา เปิดหัวให้กว้าง
ท่านไม่เห็นใช่ว่ามันไม่มีครับ

งานเขียนไทยมันไม่ค่อยมีเจ๋งๆให้ทำด้วยมั้งครับ

ก็ปัญหางูกินหางเดิมๆ ที่พูดกันมาไม่รู้กี่ปีต่อกี่ปีแล้ว

ทีมงานทำละคร: ไม่มีทุนไง เสนออะไรเจ๋งๆไปก็โดนนายทุนปฏิเสธ

นายทุน: จะให้เงินก็ต้องหวังกำไรให้คุ้มความเสี่ยง แต่มันไม่คุ้มไง ต่อให้หนังที่กำไรสูงๆของไทย
กำไรที่นายทุนจะได้ยังอยู่แถวๆ 10% เองมั้ง อย่างเก่งๆก็เห็นแถวๆ 15% แค่นั้นเอง
แต่ถ้าแป๊กมาเหลือ0เลยนะ ถ้ามองแค่มิตินี้ เอาเงินไปเล่นหุ้นปั่น เล่นเหรียญยังน่าจะดูดีกว่าอีกมั้ง

นายทุน: ถ้ามองไกลออกไปหน่อย สิ่งที่จะสร้างรายได้ต่อจากหนังได้ก็คือนักแสดงในสังกัดที่ดังจากหนัง/ละคร
แต่เดี๋ยวนี้นักแสดงพอหมดสัญญา ก็มักจะออกเป็นอิสระกัน เพราะรับงานได้หมด
เผลอๆทำ Youtube ทำชาแนลของตัวเอง ขายของนู้นนี่ หาเงินได้เยอะกว่าอยู่ค่ายอีก แถมอิสระด้วย

ในมุมนักแสดง ก็ต้องบอกว่าก็อยากเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง ที่ผ่านมาก็ทำงานแลกค่าตัวหนิไม่ได้เล่นฟรี
ในมุมนายทุนก็อ่าว กูอุตส่าลงทุนให้เอ็งดัง ก็เพื่อให้เป็นตัวทำเงินทำทองให้
เมื่อเป็นแบบนั้น นายทุนจะให้เงินทุนแต่แรกน้อยลง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

คนดูกลุ่มนึง: ก็ยังชอบดูหนังดูละครแบบเดิมๆ

คนดูกลุ่มนึง: รู้สึกละครไทยมันห่วย ก็ไปดูซีรี่ย์ต่างประเทศที่โดยรวมๆแล้วดีกว่าในเกือบจะทุกมิติ
ตัวเลือกก็มีไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยเรื่องต่อปี

คนดูกลุ่มนึง: ไม่ดูหนังไทยเพราะโดยรวมๆแล้วมันห่วย จะ Avengers หรือหนังไทยก็จ่ายเงินเท่ากัน

แน่นอนว่านานๆทีมันก็จะมีหนังไทยดีดี ละครดีดีซักเรื่องแหละ แต่มันก็ได้เท่านั้น

เป็น One-hit wonder นานๆทีก็จะมีซักเรื่อง แต่ก็ไม่ได้แก้ไขอะไรได้หรอก

ลูปนี้มันก็ควรจะต้องวนอยู่อย่างงี้แหละ ถ้ายังไม่มีใครที่มีกำลังมากๆมาแก้ไขตรงนี้

ด่าเรื่องนี้ไป ก็เหมือนด่าตำรวจรับส่วยนั่นแหละ ด่าไปก็เท่านั้น โครงสร้างมันพังไง

มันไม่พัฒนาเพราะมันขายได้เนี่ยแหละครับ

คือขายได้ในตลาดเดิม ๆ ลงทุนน้อย การันตีกำไร แล้วทำวนอยู่แบบนี้ก็ยังขายได้ พวกผู้จัดเก่า ๆ มันถึงได้ยังมีอิทธิพลอยู่ได้ แล้วก็ทำแต่แบบเดิม ๆ ออกมาวันขายอยู่นี้แหละ

คือถ้าจะให้ละครไทยหรือหนังไทยพัฒนา มี 2 ทางคือเปลี่ยนจากหัว ไม่ก็เปลี่ยนจากหาง จริง ๆ ละครหรือหนังไทย คนทำที่มี potential มันมีอยู่ครับ แต่ไม่ได้รับการสนับสนุนถ้ารัฐมีคนมีวิศัยทัศน์เข้ามาช่วยก็ยกระดับได้ ส่วนที่อ่อนที่สุดของวงการภาพยนตร์ไทยคือคนเขียนบท ถ้าจะพัฒนาส่วนนี้รัฐก็ต้องให้การสนับสนุนอย่างจริงจังตั้งแต่การประกวดบท การให้ทุน การสร้าง workshop ที่มีคุณภาพ

หรือเปลี่ยนจากหางคือผู้บริโภค ถ้าละครหรือหนังแบบเก่า ๆ มันขายไม่ได้เลย ทำออกมาเท่าไหร่ก็ไม่มีคนดู ทำออกมาเท่าไหร่ก็ขาดทุน พวกนายทุน ผู้จัดมันก็จะต้องปรับตัวตามไปเอง

คือเราอยู่ในโลกทุนนิยมอะ อะไรที่ขายได้ก็ได้ไปต่อ อะไรที่ขายไม่ได้ก็ล้มหายไปเอง แค่นั้นแหละ ต่อให้พวกหนัง propaganda ที่ได้ทุนจากรัฐเผด็จการก็ไม่รอดหรอก

พึ่ง2จบ สนุกดี ซึ้งๆ น่ารักๆ

แคสต์นักแสดงให้เหมาะกับบทไม่ได้เหรอ อย่างตัวละครคาแรคเตอร์โคตรเถื่อน แต่นักแสดงหน้าละอ่อนขาวใสเนียนกริ๊บ