ชื่นชมทั้งคู่ครับ ถ้าเป็นประโยชน์ต่อสังคม ไม่ว่าแนวทางใด เล็ก หรือใหญ่ ก็ขอปรบมือให้ครับ

ประเด็นมันไม่อยู่ที่ใครพูดได้น่าสนใจกว่า

แต่ที่ผมจะสื่อคือ ส.ส.ได้อภิปรายในสภา ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี สืบเนื่องจากนั้น ส.ส.ฝ่ายค้าน เข้าชื่อให้ประธานสภาส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญ

ต่อมาวันนี้ศาลได้มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่

ไม่มีชูวิทย์ในสมการเรื่องนี้เลย ชูวิทย์พึ่งมาพูดไม่กี่วันเอง

ประเด็นจริงๆยิ่งกว่าก็คือ พรรคก้าวไกลต้องทำการประชาสัมพันธ์ผลงานแต่ละเคสให้หนักกว่านี้

เหมือนเคสที่คุณโรมอภิปราย โรฮิงยา ปวีณ ฯลฯ ซึ่งทำได้ดี

แต่เคสอื่นกลับไม่ค่อยโปรโมตให้แมส

ช่วยกันครับ ตู่หลุดนายกเมื่อไหร่ต้องเอาทรัพย์สินมาแฉทั้งหมด บางทีอาจฝากญาติไว้ ต้องไล่เปิดเผยให้หมด

แปลว่ามีปัญหาการนำเสนอครับ ก็เหมือนเรา present เรื่องเดียวกันแต่คนพูดคนละคน ทำไมคนถึงรู้จากอีกคนมากกว่า ก็ต้องดูสาเหตุ เช่น การเล่นกับสื่อ กับ การทำไงให้สปอตไลท์ส่องลงมาที่ก้าวไกล ไม่งั้นก็ไม่มีไรจดจำ ผมว่าต้องพยายามอีกเยอะ สักวันก้าวไกลจะต้องเป็นผู้นำเหนือเพื่อไทยได้ ถึงผมจะโปรเพื่อไทยก็ตาม

เอาแบบหักมุม ก้าวไกลแอบส่งข้อมูลให้ชูวิทย์แฉ ตั้งแต่กรณีบ่อนไรงี้

ขอแค่เล่นงานมันได้เถอะ จะใครก็ได้

น่าจะด้วยความน่าสนใจในตัวแต่ละบุคคลไม่เท่ากันแหละ แต่อย่างน้อยปชชก็ได้ประโยชน์

ก็พูดแล้วมันเสียงไม่ดัง พอชูวิทย์พูดแล้วเสียงมันดัง

คนจะสนใจอภิปรายสักกี่คนเชียว เพราะมันน่าเบื่อ ประเทศถึงเป็นงี้ไงคนที่สนใจจริงเป็นส่วนน้อยมากๆ
ส่วนชูวิทย์มันแมสกว่า มีดราม่า สำนักข่าวทุกสำนักชอบ

ก้าวไกล ก็ได้ประโยชน์ ถ้าคิดในอีกมุม อย่างน้อย ก็ ทำให้ คน ออกมาให้ข้อมูลว่า ก้าวไกล ก็ อภิปรายไปก่อนแล้วนะ


คิดบวก ก็ดีเหมือนกันนะ เฮียชู แก ขยี้ ให้เพิ่ม ก้าวไกล ก็ ทำ pr แบบสุภาพ ตีกินหน่อยก็ได้ การเมือง ก็คือ การเมือง

การโฆษณา ไม่ใช่สิ่งผิดสะหน่อย ยิ่ง ทำมาจริงๆสะด้วย