"อเล็กซ์ สก็อตต์" แข้งลีกรองที่คีน,เป๊ปยังซูฮก
แม้ถูกยกย่องเรื่องฝีเท้ามาได้สักระยะแล้ว แต่เกม เอฟเอ คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่ บริสตอล ซิตี้ เปิดบ้านแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-0 กลับทำให้มิดฟิลด์วันเดอร์คิดอย่าง อเล็กซ์ สก็อตต์ ถูกจับตามองมากกว่าที่เคยเป็น
สุดยอดกุนซืออย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ถึงกับหลุดปากชม สก็อตต์ ว่าเป็น "แข้งที่น่าเหลือเชื่อ" ขณะที่ รอย คีน ตำนานกองกลาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เยินยอว่า "เป็นนักเตะระดับท็อปที่เล่นได้เหมือน แจ็ค กรีลิช"
สก็อตต์ เกิดที่ เกิร์นซี่ย์ ซึ่งเป็นเกาะในช่องแคบอังกฤษ นอกชายฝั่งนอร์มังดี ตอนอายุ 16 ปีเขาเซ็นสัญญากับ เกิร์นซี่ย์ เอฟซี ทีมนอกลีก แต่เล่นไปไม่กี่นัด บริสตอล ซิตี้ ก็ดึงเข้าอะคาเดมี่ของตัวเองช่วงต้นปี 2020
หลังจากได้โอกาสชิมลางเกมแชมเปี้ยนชิพไป 3 นัดในซีซั่น 2020/21 ฤดูกาลถัดมา สก็อตต์ ก็กลายเป็นแกนหลักในทีมของ ไนเจล เพียร์สัน แถมยังไปคว้าแชมป์ยูโร ยู-19 ร่วมกับทีมชาติอังกฤษในปี 2022 โดยเป็นตัวหลักแดนกลางร่วมกับ คาร์นี่ย์ ชุควูเมก้า ที่ตอนนี้สังกัด เชลซี
มาซีซั่นนี้ สก็อตต์ ที่สวมเบอร์ 7 ก็ยังเป็นเสาหลักของ บริสตอล ซิตี้ เคียงข้างเซนเตอร์แบ็คอย่าง ซัก ไวเนอร์ โดยเล่นครบทั้ง 32 เกมแชมเปี้ยนชิพ แถมออกสตาร์ทตัวจริงทุกนัด พร้อมทำไป 5 แอสซิสต์
ตำแหน่งถนัดของดาวเตะวัย 19 ปีคือมิดฟิลด์ตัวกลาง แต่เขาสามารถโยกไปเล่นกลางรับหรือกลางรุกได้อย่างไม่เคอะเขิน รวมถึงปีกขวาด้วย
นอกจากความสารพัดประโยชน์แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ สก็อตต์ กลายเป็นแข้งสุดพิเศษ จนเรียกความสนใจได้จาก สเปอร์ส, เวสต์แฮม, นิวคาสเซิ่ล, แมนฯยู และอีกหลายสโมสร คือวิสัยทัศน์ในการเล่นของเขา
เมื่อต้องเล่นมิดฟิลด์ตัวรับแบบที่พา "สิงโตคำราม" คว้าแชมป์ยูโร รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี สก็อตต์ รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เขาต้องหยุดการแมนมาร์คใส่ผู้เล่นฝั่งตรงข้ามและใช้มันสมองในการมองหาวิธีป้องกันในรูปแบบอื่น
สก็อตต์ ยังมีความสามารถในการเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงสิ่งที่ต้องการจากตนเองในแต่ละบทบาทที่แตกต่างกัน ภายในโครงสร้างของระบบทีม
หากว่า สก็อตต์ ต้องเล่นเป็นกลางรุก เขาจะพาตัวเองเข้าไปอยู่ในช่องว่างทั่วสนามเพื่อรับบอลไปเล่นงานคู่แข่ง แต่หากใช้เขาในบทบาทมิดฟิลด์ตัวกลาง เขาจะคุมเกมอยู่ข้างหลัง เพื่อมองหาช่องในการจ่ายบอล
ความสามารถในการครองบอลของ สก็อตต์ นั่นยอดเยี่ยมมาก ค่าเฉลี่ยการลากพาบอลขึ้นหน้า รวมถึงการเลี้ยงหลบคู่แข่งสำเร็จของเขา นั่นมีแรงค์เปอร์เซนไทล์ที่ 83 และ 81 ตามลำดับ เมื่อเทียบกองกลางร่วมลีก
ไม่แปลกที่ สก็อตต์ จะเรียกฟาวล์ได้บ่อย เพราะคู่แข่งต้องใช้มันเพื่อหยุดเขา ซึ่งสกิลแบบนี้คล้ายคลึงกับ กรีลิช ที่เป็นไอดอลของเขาด้วย เพราะทั้งคู่โดดเด่นในเรื่องการลากทะลวงขึ้นไปเพื่อหาช่องจ่ายที่หน้าเขตโทษ
แต่ สก็อตต์ มีความเป็นตัวรับมากกว่าขวัญใจตัวเอง เมื่อโดยรวมในซีซั่นนี้เขามีการแย่งบอลคืนเฉลี่ย 5.25 ครั้งต่อ 90 นาที โดย 46.7% มาจากแดนฝั่งตรงข้าม นอกจากนี้เขายังดวลชนะเมื่อต้องเป็นฝ่ายป้องกันถึง 5.95 ครั้งต่อ 90 นาที ซึ่งเป็นอัตราชนะที่สูงถึง 76.5% อันแสดงให้เห็นถึงการตามกัดไม่ปล่อยและความชาญฉลาดของเขาเมื่อทีมต้องเป็นฝ่ายตั้งรับ
ในยามที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีม ลิเวอร์พูล โรยราลงไปมาก ทำให้มีการพูดถึงมิดฟิลด์ตัวกลางทางเลือกใหม่ของทีมชาติอังกฤษที่จะมาเป็นแบ็คอัพให้กับ จู๊ด เบลลิ่งแฮม ของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
ซึ่งในระยะสั้น โอกาสคงตกไปอยู่กับ เจมส์ วอร์ด เพราส์ เจ้าพ่อลูกนิ่งแห่ง เซาแธมป์ตัน หรือ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ของ เชลซี ที่ถูกเรียกมาติดบ้าง
แต่หากมองในระยะยาวแล้ว หากเอาแค่ในรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี สก็อตต์ ก็ถือเป็น 1 ใน 7 ตัวท็อปที่น่าสนใจร่วมกับ ชุควูเมก้า, เจค็อป แรมซี่ย์ (แอสตัน วิลล่า), เจมส์ แม็คอาตี้ กับ ทอมมี่ ดอยล์ (แมนฯซิตี้ ปล่อยยืมให้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด), ไทเลอร์ มอร์ตัน (ลิเวอร์พูล ปล่อยยืมให้ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส) และ ชาร์ลี ปาติโน่ (อาร์เซน่อล ปล่อยยืมให้ แบล็คพูล)
หากไม่นับ ชุควูเมก้า และ แรมซี่ย์ ที่เล่นบนลีกสูงสุดแล้ว เรตติ้งจาก WhoScored ที่ประเมินการเล่นจากทุกมิติของนักเตะ ปรากฏว่า สก็อตต์ เป็นตัวท็อปของลีกแชมเปี้ยนชิพในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางที่อายุไม่เกิน 23 ปี โดยได้ไป 6.88 คะแนน ตามมาด้วยสองเด็กปั้นของ "เรือใบสีฟ้า"
ด้วยคุณภาพการเล่น ด้วยสถิติ ด้วยเรตติ้ง ด้วยความน่าจะเป็นเกี่ยวกับโอกาสในทัพ "สิงโตคำราม" บวกกับการที่ยังอยู่ภายใต้สังกัดทีมกลางตารางของลีกแชมเปี้ยนชิพ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ สก็อตต์ เป็นแข้งเนื้อหอม
วูล์ฟแฮมป์ตัน เคยพยายามล่า สก็อตต์ เมื่อหน้าหนาว แต่สู้ราคา 25 ล้านปอนด์ไม่ได้ แต่เพราะซัมเมอร์นี้เขาจะเหลือสัญญาอีกแค่ 2 ปี ทำให้เชื่อกันว่าด้วยข้อเสนอแค่ 20 ล้านปอนด์อาจพอง้างใจ บริสตอล ซิตี้ ให้ปล่อยตัวได้ เว้นแต่มีการประมูลจากหลายสโมสรที่อาจทำให้ราคาพุ่งขึ้น
ดังนั้นคงเหลือเวลาอีกไม่นานที่เราจะได้เห็น "เดอะ เกิร์นซี่ย์ กรีลิช" ขึ้นมาโลดแล่นบนพรีเมียร์ลีก จับตามองเด็กหนุ่มคนนี้ได้เลย อนาคตไกลแน่
https://www.facebook.com/torthehitman