เข้ารอบผ่านธูป!! ‘หงส์’ นึกว่าใสนำ 2-0 คาบ้าน 5-2
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
แฟน ลิเวอร์พูล หลงอยู่ในความฝันอยู่ 10 นาทีกว่าๆจากการโชว์ฟอร์มสุดสะเด่าขึ้นนำโคตรทีมอย่าง เรอัล มาดริด ถึง 2-0 แต่ความผิดพลาดของแนวรับยังเน่าไม่เลิกโดน “แชมป์เก่า” จัดให้จุกๆ 5 เม็ดรวดแพ้คาบ้าน 5-2 ก่อนไปเจอกันใหม่ที่ ซานติอาโก้ เบร์นาบิว
ลิเวอร์พูล
Starting Formation: 4-3-3
2.
โจ โกเมซ

73'
5
66.
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
6.5
43.
สเตฟาน บายเซติช

85'
6
14.
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

73'
6
18.
โคดี้ กัคโป

64'
6.5
27.
ดาร์วิน นูนเญซ

64'
6.5
ตัวสำรอง
7.
เจมส์ มิลเนอร์

73'
6
20.
ดิโอโก้ โชต้า

64'
6
9.
โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่

64'
6
15.
อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน
19.
ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์

85'
6
32.
โจเอล มาติป

73'
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีม นัดแรก
สนาม แอนฟิลด์
อังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566
กรรมการ อิสต์วาน โควัคส์
ลิเวอร์พูล
2
5
เรอัล มาดริด
1-0 ดาร์วิน นูนเญซ 4'
2-0 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 14'
2-1 วินิซิอุส จูเนียร์ 21'
2-2 วินิซิอุส จูเนียร์ 36'
2-3 เอแดร์ มิลิเตา 47'
2-4 คาริม เบนเซม่า 55'
2-5 คาริม เบนเซม่า 67'
เยอร์เก้น คล็อปป์ ตัดสินใจส่งนักเตะชุดเดิมจากเกมก่อนลงสนามครบ หลังดาร์วิน นูนเญซ เรียกฟิตกลับมาทันทำให้ยืนหน้ากับ โคดี้ กัคโป และโม ซาลาห์ ด้านเรอัล มาดริด วางให้ คาริม เบนเซม่า กลับมายืนหน้าเป้า โดยมีวินิซิอุส และโรดรีโก้ คอยเสริมในตำแหน่งริมเส้นทั้งสองฝั่ง
หงส์นำไว! หนูนไขว้อย่างหล่อ 1-0
หงส์แดง ได้โอกาสแรกแล้วมาได้ประตูนำเลย ซาลาห์ได้บอลทางขวาก่อนลากจี้เข้าหากรอบเขตโทษก่อนเปิดเรียดไปให้ นูนเญซโฉบมาไขว้ด้วยเท้าซ้ายเข้าไปตุงตาข่ายอย่างงาม VAR เช็คแล้วไม่ล้ำหน้า 1-0!!!
บังโมแหวกสวยยิงออกเอง
เกมสวนกลับของลิเวอร์พูล เกือบลุ้นประตูอีกที กัคโป พลิกบอลหนีคามาวินก้าจากแดนตัวเองได้สวยก่อนไหลมาให้ ซาลาห์ ลากแหวกเข้ากรอบเขตโทษด้านขวาก่อนแปหลุดเสาแรกไปเองแบบน่าเสียดาย
คูร์กตัวส์เหวอ!บอลลั่นเสร็จบังโม 2-0
คูร์กตัวส์ พลาดเองทำให้เสียประตูไปอีกลูก คาร์บาฆาล ตัดบอลคืนหลังมาให้นายด่านเบลเยี่ยมจับแล้วบอลไปโดนเข่าตัวเองบอลกระดอนมาให้ซาลาห์จิ้มเข้าไปหน้าตาเฉย 2-0!!!
คมจัด!วินิซิอุสโยกยิงราชันตาม 1-2
ราชันชุดขาว มาตีไข่แตกได้เหมือนกัน ต้องชม วินิซิอุสที่ได้บอลในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนโยกหนีโกเมซแล้วสับด้วยขวาบอลพุ่งหนีมืออลิสซอนเข้าไปทางเสาไกลอย่างคม 1-2!!!
หนูนซ้ำจ่อติดบล็อคคาร์บาฆาล
ลิเวอร์พูล เกือบได้อีกแล้ว เฮนเดอร์สันเบิ้ลมาให้ซาลาห์พยายามยิงแต่ไม่ได้บอลมาถึงนูนเญซล้มตัวยิงไปติดบล็อคของคาร์บาฆาลระยะแค่ 3 หลา
อลาบาเดี้ยงอีกนาโช่ต้องยืนแบ็คซ้าย
มาดริด ต้องเปลี่ยนตัวเร็วคนแรก อลาบา มีอาการเจ็บเล่นต่อไม่ไหวต้องให้ นาโช่ ลงมาปักหลักแทนเพราะไม่เหลือใครแล้วในตำแหน่งแบ็คซ้าย
คราวนี้ไม่ยอม!อลิสซอนปัดลูกยิงวินิซิอุส
จังหวะต่อเนื่องจากเตะมุมของมาดริด เกือบได้ลูกตีเสมอ วินิซิอุสอีกแล้วที่ได้บอลก่อนโยกยิงเหมือนประตูก่อนแต่คราวนี้ อลิสซอนพุ่งไปปัดทิ้งมือเดียว
พ่อหมีพลาดบ้าง!เตะติดวินิซิอุส 2-2
คราวนี้กลายเป็นอลิสซอนที่พลาดบ้าง โกเมซ คืนหลังไปให้นายด่านแซมบ้าไม่ยอมเตะเคลียร์แต่พยายามแปบอลไปติดวินิซิอุสที่วิ่งตามมาบังทางเอาไว้ก่อนกระดอนเข้าประตูไปเลย 2-2!!!
เทรนท์ฟรีคิกตรงคูร์กตัวส์
หงส์แดง มาได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษระยะเกือบ 25 หลา เป็นทางเทรนท์ ก้าวเข้ามาปั่นบอลข้ามกำแพงแล้วแต่บอลไปตรงตัวคูร์กตัวส์
ร็อบโบ้เซฟหงส์ไม่งั้นโดนอีก
เกมสวนกลับของมาดริด เกือบได้ประตูเลย คูร์กตัวส์ขว้างมาให้ บัลเบร์เด้ก่อนแทงให้เบนเซม่าทะลุช่องต่อมาให้ วินิซิอุสหลุดเข้ากรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนเปิดไปทางเสาไกลจะให้โรดรีโก้ แต่ยังมีโรเบิร์ตสันตามลงมาขวางเอาไว้ทันแบบหวุดหวิด
มิลิเตาโขกตุง!ราชันนำ 3-2
ฟรีคิกของมาดริดสุดเส้นหลังด้านซ้าย โมดริช เปิดมาให้ มิลิเตา วิ่งจากเสาสองเข้ามาหวิดหน้ากรอบหกหลาแบบไม่มีใครประกบเข้าไปเลย 3-2!!!
แฉลบโกเมซ! เบนเซม่าซัด 4-2
ลิเวอร์พูลมาซวยเสียประตูไปอีก เบนเซม่าทำชิ่งหนึ่งสองกับโรดรีโก้ก่อนยิงหมือนจะเบาแต่ไปแฉลบโกเมซเปลี่ยนทาง อลิสซอนผวาไปแล้วบอลตุงตาข่าย 4-2!!!
รูดิเกอร์หวดเต็มไม่ตรงกรอบ
บายเซติชดักบอลได้แต่โดน รูดิเกอร์ ที่เติมขึ้นมาวิ่งเข้าหวดด้วยขวาเต็มแรงทว่าบอลหลุดออกหลังไม่ตรงกรอบ
บายเซติชลองส่องไกล
จังหวะต่อเนื่องจากเตะมุมที่บอลหลุดอกมานอกกรอบเข้าทางของบายเซติช พยายามวิ่งเข้ามาแปด้วยขวาบอลพุ่งสวยแล้วแต่หลุดเสาขวามือออกไปแบบได้ลุ้น
เละตุ้มเป๊ะ! เบนเซม่าอย่างนิ่งราชัน 5-2
ราชันชุดขาว หยุดไม่อยู่จริงๆ มาได้ประตูเพิ่มอีกจากการสวนกลับเร็ว โมดริชลากหนีบายเซติชจากกลางสนามก่อนที่ วินิซิอุส ให้บอลไปที่เบนเซม่าหลุดโล่งก่อนลากหนีอลิสซอนแล้วยิงเข้าประตูไป 5-2
หงส์หมดใจเจาะไม่ไหว
เกมเข้าสู่ 10 นาทีสุดท้ายแล้วเหมือนลิเวอร์พูล ถอดใจเพราะเจาะไม่เข้าจริงๆ สวนมาดริด ก็ตั้งรับรอสวนกลับด้วยความเคี่ยวแบบเดิม
หงส์จองตั๋วตกรอบแพ้ 2-5
กรรมการเป่านกหวีดหมดเวลาไปพร้อมกับการหมดสภาพของลิเวอร์พูล ที่โดนมาดริด บุกยำใหญ่ 5-2 ก่อนกลับไปเก็บงานในบ้านตัวเองกลางเดือนหน้า
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-3
4.
ดาวิด อลาบา

27'
6
12.
เอดูอาร์โด้ คามาวินก้า
6.5
10.
ลูก้า โมดริช

86'
8
9.
คาริม เบนเซม่า

86'
9
21.
โรดรีโก้

81'
8
ตัวสำรอง
8.
โทนี่ โครส

86'
6
19.
ดานี่ เซบาญอส

81'
6
6.
นาโช่

27'
7
11.
มาร์โก อเซนซิโอ

86'
6
แก้ไขล่าสุดโดย ZONG'TEEN เมื่อ Wed Feb 22, 2023 04:59, ทั้งหมด 21 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ