ยุโรปต้านไม่ไหว! รัสเซีย-ไทย เงินทุนสำรองแซงหน้าตะวันตก รวยทองคำมากสุดในอาเซียน ขึ้นแท่นเจ้าหนี้รายใหญ่ IMF
.
07 กุมภาพันธ์ 2566 – รัสเซียส่งออกก๊าซมหาศาล รายมีได้เข้าประเทศไม่หยุด ยุโรปวิกฤตหนักเศรษฐกิจดิ่งลงเหว ด้านไทยขึ้นแท่นเสี่ย เป็นเจ้าหนี้ IMF ก้อนโต

Blockdit World update ได้รายงานเรื่องนี้เอาไว้ว่า …..ตั้งแต่สหรัฐ และยุโรป ทำสงครามเศรษฐกิจ และสงครามอาวุธมาเกือบ 1 ปี ไม่รู้ทำไมรัสเซีย ก็มีมิตรประเทศนานาชาติเพิ่มขึ้นมากอย่างผิดปกติ การส่งออกสินค้าก็รุ่งเรืองขึ้น รายได้เข้าประเทศมากขึ้น คลังล้นทะลักตามไปด้วย รัสเซีย มีรายได้หลักจากส่งออกพลังงานราวกว่า 40% ของรายได้นำเข้า

โดยรัสเซียส่งออกน้ำมัน 3.6 ล้านบาร์/วัน เพิ่มขึ้น 16% สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย.2565 ปีที่ผ่านมา ลูกค้ารายใหญ่ 3 ชาติแรกคือ จีน อินเดีย ตุรกี นำเข้าไปกลั่นแล้วส่งออกเป็นน้ำมันดีเซล เบนซิน ให้สหรัฐ และยุโรป

Federal Statistics Service Rosstat รายงานว่าปี 2565 รัสเซียผลิตก๊าซเหลว (LNG) เพิ่มขึ้น 8.1% มากเป็นประวัติการณ์ 32.5 ล้านตัน นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ระบุว่า ส่งออกก๊าซเหลว LNG ได้เพิ่มขึ้น 8% จำนวน 46,000 ล้านลูกบาศก์เมตร

ทำให้ฐานะการเงินรัสเซียมั่นคงขึ้น ขยับอันดับชาติมหาเศรษฐีที่มี เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ (International Reserve) มากจากเดิมอันดับ 5 เลื่อนขึ้นมาอยู่อันดับ 4

ณ วันที่ 27 ม.ค.2566 ธนาคารกลางรัสเซีย ประกาศว่ามีเงินทุนสำรองของชาติ 597,700 ล้านดอลลาร์ (20.78 ล้านล้านบาท) ทิ้งห่างสหรัฐ ยุโรป ไกลสุดกู่ อันดับตกลงไปอยู่ที่ 13 -15 ของโลก

ยิ่งอังกฤษ ชาติคนเคยรวย ชื่อหลุดหายจากชาติเศรษฐีเงินทุนสำรองของชาติ 15 อันดับแรกของโลกไปแล้วเรียบร้อย ที่น่าแปลกใจคือ ในท่ามกลางชาติตะวันตกอ่วมบักโกรกกลายเป็นอดีตคนเคยรวยไปตามๆ กันนั้น ไทยกลับมีฐานะมั่นคงและมีเสถียรภาพ ณ วันที่ 13 ม.ค.2566 ธนาคารแห่งประเทศไทย รายงานว่า

ไทยมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมากมายถึง 8.49 ล้านล้านบาท (244,218 แสนล้านดอลลาร์) ทิ้งห่างสหรัฐ ที่ทรัพย์สินน้อยกว่าไทยมาก โดยในส่วนเงินทุนสำรองของไทยนี้เป็นทองคำจำนวน 494,783 ล้านบาท ทองคำรวยมากที่สุดในกลุ่มอาเซียน

แต่ที่น่าทึ่งคือ ปัจจุบันไทยเป็น “เจ้าหนี้” กองทุน IMF มากถึง 43,872 ล้านบาท นอกจากชาวจะวันตกจะเรียกจีนว่า “เสี่ย” แล้ว ไทยนี่แหละคือเสี่ยน้อย ผู้ให้กู้กินดอกเบี้ยจาก IMF ที่ไปปล่อยกู้ให้ชาติทั่วโลก รวมทั้งชาติในยุโรปในขณะนี้ด้วย

อ่านข่าว:https://www.thaimoveinstitute.com/74186/?anm=

พ่อผมแชร์ข่าวนี้ลงในกลุ่มลูกค้าของผม ซึ่งพ่อผมนี่สลิ่มจ้าเลย กลัวว่าข่าวนี้จะเป็น fakenews แล้วทำให้ลูกค้าเข้าใจผิดกัน

พี่ๆท่านไหนมีข้อมูลในส่วนนี้แชร์บ้างครับ ผมพยายามหาข้อมูลในเรื่องนี้แล้ว แต่ไม่มีเลยครับ

ดูสไตล์การเขียนแล้ว ทีมเดียวกัน ไทยมูฟกะเวิร์ลอัพเดท
เขียนเองแชร์เอง อ่านกันเอง

เอิ่ม....... เชื่อแบบนั้นจริงๆ เหรอ ?

ยังกู้ชาวบ้านเป็น หมื่นๆ ล้านมาอุดน้ำมัน อุดกระเป๋าผู้เสียผลประโยชน์ อยู่เลย

อ่านแล้วขำหวะ

เพราะลุงๆบริหารประเทศสินะ รวย รวย รวย

เราเอาเงินไปให้ imf กู้ เราก็เป็นเจ้าหนี้ IMF แล้วครับ ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย ก็เหมือนเรามีบัญชีเงินฝาก อยุ่ 2000 บาท เราก็เป็นเจ้าหนี้แบงค์แล้วนะครับ แล้วแค่ 5หมื่นล้านบาทเอง ถือว่าน้อยมากๆนะ อย่างกองทุนสำรองระหว่างประเทศของเราก็ 10ล้านล้านล่ะ ไม่รวมในประเทศอีก

IMF เป็นเจ้าหนี้อเมริกา{}ไทยเป็นเจ้าหนี้ IMF

นิทานเรื่องนี้บิ๊วสลิ่มจน Extremely Cum น้ำพุ่งกระจายเลย

Mr. IMF เอาเงินกองกลางไปให้กู้
อาจจะมีเงินเราอยู่ 0.01%
ถ้าจะภูมิใจว่าเป็นเจ้าหนี้ก็ว่าอะไรไม่ได้

มีโอกาสจริง แต่ใช้คำเว่อเกินไปอะ

เหมือนเล่น sim city พอเงินเขียวก็นั่งดูเฉยๆ อะ เงินเต็มคลังแต่เล่นเกมบริหารเมืองคือมันต้องพัฒนาเมืองไง ไม่ใช่เอาเงินมาอวดแต่ประชาชนอยู่ล้าหลัง 20-30 ปี

Not a chance cite สักอันก็ยังไม่มีมโนเองทั้งนั้น Blockdit มันไม่ใช่ Cite ใครๆก็เขียนได้

คุณต้องเข้าใจก่อนว่า "เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ" คืออะไร เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ คือเงินหรือสินทรัพย์ต่างชาติ ที่ธนาคารกลางแต่ละประเทศถือครองไว้ อย่างของไทยก็คือแบงค์ชาติ สินทรัพย์ที่ว่าก็อย่าง ทองคำ เงินตราต่างประเทศ พันธบัตรต่างประเทศ สินทรัพย์สมทบทุน IMF, สิทธ์ถอนเงินพิเศษจาก IMF(SDR)

พวกเงินตรา/สินทรัพย์ต่างประเทศมาจากไหน ก็มากจากการค้าขายส่งออก อย่างบริษัทส่งออกสินค้าได้เงินตราต่างประเทศ พอจะเอามาใช้ในประเทศก้ต้องมาแลกเป็นเงินบาทกับธนาคารกลาง เงินตราต่างประเทศตรงนี้ก็จะเข้าไปเป็นเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ หรือธนาคารกลางอาจเข้าไปถือพันธบัตรรัฐบาลต่างประเทศไว้ก็ได้ คือชาติที่ส่งออกเยอะๆ มีแนวโน้มจะถือครองเงินตราต่างชาติเยอะอยู่แล้วแหละ

เงินตราต่างประเทศพวกนี้มันจะมีประโยชน์ในการช่วยเป็นหลักค้ำประกันเวลาเราจะพิมพ์เงินเพิ่ม เอาไปไว้จ่ายเวลานำเข้าของจากต่างประเทศโดยคนที่จะนำเข้าของก็เอาเงินบาทมาแลกเงินตราต่างประเทศตรงนี้เพื่อไปจ่ายค่าสินค้า หรือเอาไปชำระหนี้ของรัฐที่ต้องจ่ายเป็นเงินตราต่างประเทศ และเป็นบัฟเฟอร์ป้องกันการผันผวนของค่าเงินในประเทศด้วย

ส่วนเรื่องเป็นเจ้าหนี้ IMF เราต้องเข้าใจกลไกของ IMF ก่อน กลไกการทำงานของ IMF มันจะคล้ายๆระบบสหกรณ์ โดยสมาชิก IMF จะได้สิทธิ์ที่เรียกว่า"สิทธิ์ถอนเงินพิเศษ (Special Drawing Right : SDR) โดยทุกชาติจะได้เริ่มต้นเท่ากัน แต่สามารถเพิ่มได้โดยการเอาสินทรัพย์ที่เป็นเงินทุนสำรองมาเข้ากองทุน เป็นสินทรัพย์สมทบทุนIMF โดยยิ่ง SDR มาก ก็จะมีน้ำหนักในการโหวตนโยบายต่างๆของ IMF มาก และหากมี SDR สูงถึงจุดนึง IMF จะจ่ายดอกเบี้ยให้ กลับกัน ชาติที่ขาดสภาพคล่อง ต้องการเงินก็สามารถเอาแต้ม SDR ของตนเองมาแลกได้ โดยจะมีอัตราแลกเปลี่ยนว่า 1 SDR จะแลกเป็นเงินได้เท่าไหร่ ซึ่งเงินที่เอาไปแลกไม่ใช้่เงินของ IMF โดยตรง แต่คือสินทรัพย์สมทบทุนที่ชาติสมาชิกเอามาฝากเอาไว้นั่นแหละ ซึ่งหากเอา SDR มาแลกเงิน ค่า SDR ของชาตินั้นๆจะลดลง เมื่อลดถึงจุดนึง ชาตินั้นต้องจ่ายดอกเบี้ยให้กับ IMF

เรื่องที่ว่าเราเป็นเจ้าหนี้ IMF ที่จริงคือเราเอาสินทรัพย์ไปฝากกับ IMF เป็ฯสินทรัพย์สมทบทุน พอถึงระดับที่ IMF จ่ายดอกเบี้ยให้ครับ

เด่วนะ มันไม่ใช่ผลงานรัฐบาลอะไรหรอก เรื่องเงินทุนสำรองเราเคยมีบทเรียนมาแล้วสมัยต้มยำกุ้ง จึงให้น้ำหนักเรื่องนี้เป็นกรณีพิเศษ มันสะสมมาเรื่อยๆ แล้วการนำเงินไปให้ IMF บริหารการปล่อยกู้ก็ไม่น่าแปลกใจอะไรเพราะความเสี่ยงมันต่ำมาก ยังไงก็ปลอดภัยในระดับนึง ไม่แปลกเลย แต่ตัวเลขอาจไม่ใช่อะไรขนาดนั้นก็เป็นได้