งานสบาย! เบนซ์เบิ้ลโทษ 'ราชัน' จัดหนักบ๊วย 4-0 ยังตาม 8 แต้ม
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เป็นงานสบายไร้ปัญหาเลยสำหรับ เรอัล มาดริด เมื่อพวกเขาเปิดบ้านถล่มเอาชนะทีมบ๊วยอย่าง เอลเช่ ไปเละเทะ 4--0 โดยได้ มาร์โก อเซนซิโอ้ เบิกสกอร์ตั้งแต่ต้นเกม ก่อนที่ คาริม เบนเซมา จะมาเหมายิงจุดโทษ และสุดท้ายเป็น ลูก้า โมดริช ที่ลงเป็นสำรองยิงปิดกล่องท้ายเกม ทำให้ราชันชุดขาวเก็บเพิ่มเป็น 48 คะแนนจาก 21 นัด รั้งรองจ่าฝูงลาลีก้าตามหลังบาร์เซโลน่า 8 แต้มเท่าเดิม
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-3
2.
ดานี่ การ์บาฆาล

68'
7.5
12.
เอดูอาร์โด้ คามาวินก้า
7.5
19.
ดานี่ เซบาญอส

68'
7.5
15.
เฟเด้ บัลเบร์เด้

68'
7
21.
โรดรีโก้

81'
8
9.
คาริม เบนเซม่า

78'
8
ตัวสำรอง
16.
อัลบาโร โอดริโอโซล่า

68'
6
10.
ลูก้า โมดริช

68'
7
18.
โอเรลิแย็ง ชูอาเมนี่

68'
6.5
24.
มาเรียโน่

78'
6
33.
อาร์ริบาส

81'
6
ลาลีก้า
สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
พุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565
กรรมการ ริคาร์โด้ เด บูร์โกส
เรอัล มาดริด
4
0
เอลเช่
1-0 อเซนซิโอ้ 8'
2-0 เบนเซม่า 31' (Pen.)
3-0 เบนเซม่า 45+1' (Pen.)
4-0 โมดริช 80'
มิลิเตาซัดแถวสองได้เสียว
เริ่มเกมเป็นมาดริดที่เปิดเกมบุกเข้าใส่ทันที และจังหวะนี้ได้ลุ้นเลยเมื่อมิลิเตาพักบอลบอลแถวสองหน้ากรอบเขตโทษก่อนวางเท้าตะบันด้วยขวาเต็มข้อพุ่งแรงแล้วหลุดสามเหลี่ยมออกไปแบบหวุดหวิด
มาไว!อเซนซิโอ้พลิ้วหลุดซัด 1-0 ราชันเฮ
ราชันชุดขาวมาได้ประตูออกนำเร็ว จากจังหวะที่อเซนซิโอ้รับบอลจากการ์บาฆาลก่อนกนะชากลากลุยแหวกแนวรับทีมเยือนเข้าไปแปด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษพุ่งเรียดตุงตาขาายไปเลย 1-0 ทันที
เบนซ์หลุดแปติดเซฟบาเดีย
มาดริดน่าได้ประตูที่สองจากจังหวะที่โรดรีโก้ได้บอลทางริมกรอบฝั่งซ้าย เขาลากจี้ก่อนจ่ายหักข้อให้เบนเซม่าหลุดไปเอียงตังแปด้วยขวาเน้นๆ แต่บอลพุ่งไปติดเซฟบาเดีย
บัลเบร์เด้แปเกือบมุดเสา
อีกครั้งของมาดริด เป็นจังหวะที่เบนเซม่าได้บอลที่หน้ากรอบเขตโทษก่อนโดนแหย่เท้าสกัด แต่บอลยังกลิ้งมาเข้าทางบัลเบร์เด้ที่แปเร็วด้วยซ้ายทันที บอลพุ่งเรียดจะเบียดเสาซ้ายมืออยู่แล้วแต่บาเดียงยังทิ้งตัวปัดออกหลังได้หวุดหวิด
เบนซ์ส่องโทษไม่พลาด 2-0 ราชันหนี
แล้วทำไปทำมาราชันมาได้จุดโทษจากจังหวะที่เบนเซม่าขึ้นโหม่งแล้วบอลไปโดนแขนโรโก้ ผู้ตัดสินเป่านกหวีดทันที ก่อนที่เบนเซม่าจะรับหน้าที่สังหารเอง เขาจัดการแปด้วยขวาพุ่งแรงเสียบมุุมขวามือ หมดสิทธิ์สำหรับบาเดียที่ไปผิดทาง 2-0 สำหรับเจ้าถิ่นไปเลย
โอกาสแรกของเอลเช่ยังไม่ตรงกรอบ
เอลเช่มาได้โอกาสลุ้นครั้งแรกในเกมนี้ จากจังหวะเตะมุมทางฝั่งขวาที่กัมเบาเปิดไปตรงกลางให้กอนซาเลซขึ้นโหม่งคนเดียว แต่บอลก็พุ่งหลุดข้ามคานไป
เบนซ์เบิ้ลโทษ 3-0 ราชันพักกครึ่งสบายใจ
ก่อนจบครึ่งแรกมาดริดมาได้จุดโทษอีกลูกจากจังหวะที่โรดรีโก้โดนกอนซาเลซสกัดล้มในกรอบเขจตโทษ เป็นเบนเซม่าที่รับหน้าที่สังหารเหมือนเดิม คราวนี้เขาจัดการแปเน้นไปทางมุมขวามือ บาเดียพุ่งไปผิดทางแล้วปัดโดนปลายมือแต่บอลก็แรงพุ่งตุงตาข่ายไปแบบเด็ดขาด 3-0
สุดท้ายจบครึ่งแรกเป็นมาดริดที่เหนือกว่าชัดเจนและออกนำไปก่อนแบบท่วมท้นถึง 3-0
โรดรีโก้หลุซัดติดเซฟบาเดีย
ครึ่งหลังยังเป็นมาดริดที่ลุยต่อเนื่องและได้โอกาสจากจังหวะที่เบนเซม่าทำชิ่งให้โรดรีโก้สปอีกหลุดไปยิงในกรอบฝั่งซ้าย เขาซัดด้วยซ้ายไปติดเซฟบาเดีย
เบนซ์ส้มหล่นฉกยิงติดเซฟ
อีกครั้งของมาดริด จากจังหวะที่โรโก้ไปลื่มเสียบอลหน้ากรอบเขตโทษตัวเอง เป็นเบนเซม่าที่ฉกได้ก่อนซัดด้วยขวา บอลพุ่งเรียดตรงกรอบแต่ไปติดเซฟบาเดีย
เบนซ์แปหลุดเสาสอง
โอกาสของมาดริดยังมาเรื่อยๆ คราวนี้เป็นจังหวะที่อเซนซิโอ้ได้บอลหลุดไปถึงเส้นหลังฝั่งขวาก่อนเปิดเรียดหักกลับไปกรอบเขตโทษให้เบนเซม่าแปด้วยขวาแต่บอลก็ปลิ้นหลุดเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย
คามาวินก้าพลิกยิงหลุดกรอบ
มาดริดบุกอยู่แทบจะฝ่ายเดียวแล้วจังหวะนี้คามาวินกาได้บอลหน้ากรอบเขตโทษก่อนพลิกแล้วซัดด้วยซ้ายพุ่งเรียดแรงหลุดกรอบไปนิดเดียว
อเซนซิโอ้ฟาดติดเซฟบาเดีย
มาดริดน่าได้อีกแล้วจากจังหวะที่อลาบ้าเติมหลุดไปถึงเส้นหลังฝั่งซ้ายก่อนที่จะบรรจงตักบอลไปตรงกลางให้อเซนซิโอ้กระโดดวอลเลย์ บอลเด้งพื้นตรงกรอบแต่ก็ยังไปติดเซฟบาเดีย
โมดริชกดเข้าข้อ 4-0 ราชันบวกเพิ่มท้ายเกม
มาดริดตัดบอลได้ก่อนทำเร็ว โรดรีโก้กระชากมาแล้วไหลให้คามาวินก้าทางกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เขาจับหนึ่งทีก่อนจ่ายต่อกะให้อเซนซิโอวิ่งมาซัดแต่โดนแนวรับเอลเช่สะกิดขัดจังหวะเล็กน้อย แต่บอลก็ยังเลยมาเข้าทางโมดริชที่จับหนึ่งทีก่อนกดด้วยขวาเต็มข้อพุ่งแรงตุงตาข่ายเด็ดขาด 4-0
โรดรีโก้ซัดยังไงก็ไม่ผ่าน
มาดริดยังมีโอกาสบวกเพิ่มอีกจากจังหวะที่โรดรีโก้รับบอลจากโมดริชแล้วซัดด้วยซ้ายหน้ากรอบเขตโทษแต่ก็ยังติดเซฟบาเดีย
เอลเช่ยังพยายามตีไข่
ท้ายเกมเอลเช่ยังพยายามลุ้นตีไข่แตก จังหวะนี้โมเรนเต้ได้บอลมาที่หน้ากรอบเขตโทษก่อนซัดด้วยขวาพุ่งแรงหลุดข้ามคานไป
ราชันปิดจ็อบถล่ม 4-0 ตาม 8 แต้ม
สุดท้ายจบเกมเป็นมาดริดที่เอาชนะไปแบบสบายๆ 4-0 ทำให้พวกเขายังรั้งรองจ่าฝูงและกลับมาตามหลังบาร์เซโลน่า 8 แต้มตามเดิมหลังจากแข่งไป 21 นัดเท่ากัน
เอลเช่
Starting Formation: 5-3-2
3.
เอนโซ่ โรโก้

57'
5
4.
ดิเอโก้ กอนซาเลซ

73'
5
16.
ฟีเดล

58'
5.5
8.
ราอูล กูตี

58'
5.5
18.
แรนดี้ เอนเตก้า

66'
6
ตัวสำรอง
5.
กอนซาโล แวร์ดู

57'
6
11.
โฆเซ่ อันโตนิโอ โมเรนเต้

58'
6
12.
ปาเป้ ดิย็อป

58'
5.5
9.
ลูคัส โบเย่

66'
6
24.
ปอล ลิโรล่า

73'
6
แก้ไขล่าสุดโดย MEGITSAMA เมื่อ Thu Feb 16, 2023 05:09, ทั้งหมด 2 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ