คนรวยนิยามสำหรับผมคือคนที่สามารถมีเงิน 10 M up แบบสบายๆ มี Passive Income 50,000 ขั้นต่ำ + ปัจจัย 4 บ้าน รถ ครบ ไม่ทำงานก็อยู่ได้

วันนี้ผมมีโอกาสไปเจอ คน ที่เขาว่าตัวเองเริ่มจาก0 แล้วมีทรัพย์สิน 100M อยู่ๆเขาเหงาก็ชวนคุย ตอนแรกนึกว่าซุยขิงจริงวะ และลองเทียบกับที่เคยได้ยินมาก็เออแหะ

1.ซื้อความรู้ การศึกษา เทคนิคจากคนเก่ง หรือทำตัวเองให้ไปอยู่กับคนเก่งแล้วเอาสิ่งนั้นไปขายต่อ มันจะทำให้ตัวเองมั่นคง หาเงินเมื่อไหร่ก็ได้

2.ประกัน เพื่อลดความเสี่ยงแม้เงินจะสูญเปล่าก็คิดซะว่าซื้อชีวิตรึโรคภัย

3.ซื้อสิ่งที่สร้างระบบ หรือ สิ่งอำนวยความสะดวกที่ลดระยะเวลาทำงาน

4.ซื้อ หรือสร้างสิ่งที่สร้างรายได้อัตโนมัติ หรือ สินทรัพย์ตัวเอง


แต่ผมไม่ได้อยู่ในสังคมที่มีแต่คนรวย และผมก็เห็นสิ่งแบบนี้คนทั่วไปก็ทำนิเลยสงสัยว่ามันได้ผลจริงรึครับ

ซื้อเบียรครับ โชนนนนนนน

หยอกๆ ซื้อความรู้ครับ ลงทุนกับความรู้ไม่เคยเสียหายครับ

LV Prada Dior Chanel Celine คนรวยซื้อเพราะมีเงินเหลือๆ คนอยากรวยซื้อเพราะจะได้ดูรวย คนฐานะปานปานกลางไม่ซื้อเพราะเอาตังไปลงทุน+ทำอย่างอื่นคุ้มค่ากว่า

อะไรที่มันลดเวลา หลักเลี่ยงความวุ่ยวายในชีวิตประจำวันได้ แทบไม่เสียดายเงินเลย

- ประกันอันนี้สำคัญจริง จ่ายทิ้งปีๆ นึงเป็นแสนๆ แลกกับเป็นอะไรขึ้นมาเข้าที่ๆ ดีที่สุดที่ตัวเองไหว รักษาแล้วจบให้ไว ยืดเยื้อให้น้อยที่สุด จะได้เอาเวลาไปหาเงินต่อ

- ของใช้หลายๆ อย่าง สำหรับเรามันมีประโยชน์น้อยมาก จนคิดว่า จะซื้อมาทำบ้าอะไร แต่สำหรับคนที่ยอมเสียเงินซื้อมา บางทีถ้ามันช่วยเคลียให้สมอง ความคิด จิตใจ เค้าโปร่งได้ แม้แต่ 1% เค้าก็ยอม
จะเห็นว่า คนรวยๆ หลายๆ คน บางทีจะมีของอะไรสักอย่างที่ดูไม่มีประโยชน์อะไรเลย แต่เค้าสบายใจที่มีมันไว้
ตราบใดที่เค้าสามารถหาเงินได้มากกว่า ของที่ซื้อมา ไม่ว่ามันจะราคาเท่าไหร่ก็ตาม มันก็ทำให้เค้ายินดีที่จะซื้อมา ( ยกตัวอย่าง อุปกรณ์เสริม Apple ทั้งหลาย ขาตั้งจอหลักหมื่น ที่รองเมาส์ ผ้าเช็ดจอ ที่ชาร์ต อะไรพวกนี้ ที่ราคามันดูไม่สมเหตสมผลกับคนเงินน้อย / เฟอนิเจอร์หลักแสน / ของประดับตกแต่ง / ของยึดเหนี่ยวจิตใจต่างๆ )

Rolexครับ

คอร์สหุ้น หนังสือ
กับพวกอสังหา พี่ที่รู้จักแปปๆคอนโดงอกอีกละ

คนรวยจริงๆเค้าซื้อความ Exclusive มากกว่าของแพง ที่คนทั่วไปถ้ามีเงินก็ซื้อได้ อย่าง แบรนด์หรูๆที่รู้ๆ

เบนซ์

วางตัวอยู่ในศีล5 ไม่ต้องเคร่งแต่สม่ำเสมอ เวลาพูด หรือ เตือนคนในครอบครัวจะมีน้ำหนักในคำพูดมากขึ้นด้วย แล้วก็สร้างผลงานเด่นชัด ให้โบนัสกับตนเองและครอบครัว ไม่ลุ่มหลงอบายมุข มันก็จะวนๆไปตามนี้ แล้วก็หาซื้อ ของบางอย่างเพื่อประหยัดเวลา อะไรที่ทำแล้วลำบากลงบันทึกส่งต่อ อธิบายให้ลูกฟัง จะไม่ทำผิดหรือลำบากตามเรา ส่งต่อองค์ความรู้ให้ทายาท ปล. ผมกำลังทำอยู่แต่ต้องรอผลอีก20ปีอ่ะ ยังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงครับ

5.ซื้อความสะดวกสบาย เช่น ฤดูฝุ่นตอนนี้ติดเครื่อง PPV ตอนโควิด สร้างห้อง Negative ติดโควิดหรือเป็นหวัดกักตัวในบ้านชิวๆ ซื้อ Alphard มีคนขับ เที่ยวต่างประเทศบินBC โรงแรมเป็น SLH ไม่ต้องวุ่นวาย
6.ซื้อสังคม คุณภาพชีวิต เอาตัวเราไปอยู่ในสังคมคุณภาพที่ดึงคนคล้ายๆกันมาอยู่ด้วยกัน

ตอบให้เลยครับ ว่าได้ผลจริง แต่ไม่เสมอไปครับ อย่างเช่นสินทรัพย์ที่เป็น Passive income ถ้าเราไม่ดูแล หรือเลือกไม่ดี หรือเราไม่เชี่ยวชาญเ้านนั้น ก็สามารถล้มเหลวได้ครับ

ตอบในฐานะที่มก้อนดังกล่าวแต่ก็ว่าตัวเองไม่รวยยเพราะยังไม่มีอิสระทางการเงินอย่างจริงๆ

ผมว่าที่บอกมาบางอย่าวก็ถูกครับ ซื้อประกัน ไม่ได้ทำให้รวยขึ้นแต่เราจะไม่จนลงเพราะความซวย โดยเฉพาะสุขภาพ งงมากซื้อประกันรถชั้น1 เท่าๆไหร่ก็จ่าย แต่ร่างกายตัวเอง เอาถูกๆ ประกันสังคม office ก็ได้ อารมณ์ ทำแค่ พรบ หรือ ชั้น3 ก็พอ รถพังเปลี่ยนได้ ซื้อรถใหม่ได้ ร่างพังซ่อมยากกว่าเยอะ

ถ้ารวยแล้วกระจายความเสี่ยงครับ ลงทุนสินทรัพย์หลากหลาย คนรวยมักลงทุน คนชั้นกลางก็รอวันที่1 16 ไปสิ

ซื้อสังคมให้ลูกครับ เรียน รร ดีๆ บ้าน คอนโดที่สภาพแวดล้อมดีกับเด็ก เท่าที่เห็นนะ ชั้นกลางส่วนใหญ่ เอาสะดวกใกล้บ่าน ไม่แพง คนมีตังค์ ก็ซื้อบ้านใหม่ใหล้ รร ดีๆ

คอร์สเรียนตอนเด็กๆผมว่าสำคัญพอเริ่มโตมาผมรู้สึกไร้สาระ เพราะคนเก่งจริงประสบความสำเร็จในไทย 10% เค้าไม่พูดหรอกครับ นอกจากมีผลประโยชน์แอบแฝง ขณะที่ 90% ที่เหลือโม้

หนังสือนะ ผมว่าคนชั้นกลางเอาเวลาไปหาเงิน แต่คนรวยว่างไง อ่านหนังสือ แล้วเองวิธีไปทำงาน ส่วนตัวไม่ค่อยแนะนำหนังสือไทย ถ้าไม่ลอกเค้ามาก็จะเป็นปะเภทเขียนหนังสือแล้วรวย เปนidol แต่เมืองนอกคือคุณประสบความสำเร็จค่อยเขียนหนังสือ

ผลงานศิลปะ