ใน 22 ปีที่เวงเกอร์คุมทีม
เขาเป็นผู้จัดการทีม ที่ได้แชมป์ลีกสูงสุดมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของอาร์เซน่อล รวมถึงเป็นผู้จัดการทีมคนเดียวในพรีเมียร์ลีก ที่พาทีมคว้าแชมป์แบบไร้พ่าย
ปั้นดาวเตะระดับโลกขึ้นมาประดับวงการทั้ง เธียร์รี่ อองรี, ปาทริก วิเอร่า , โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, เชส ฯลฯ
ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 1998-99 และ 1999-00 อาร์เซน่อลขออนุญาต สมาคมฟุตบอลอังกฤษ เปลี่ยนไปใช้เวมบลีย์ เพื่อรองรับแฟนๆ ในแต่ละเกมที่เล่นในเวมบลีย์ มีคนเข้ามาดูราวๆ 7 หมื่นคน เพราะไฮบิวรี่ มีความจุ 38419 ที่นั่ง ถ้าเทียบกับทีมอื่นๆ แมนฯยูไนเต็ด เวลานั้น โอลด์แทรฟฟอร์ด ความจุราว 6 หมื่นที่นั่ง , บาร์เซโลน่า ความจุ 9 หมื่น , เรอัล มาดริด ความจุ 8 หมื่น
ในปี 2000 บอร์ดบริหาร จึงตัดสินใจว่า สมควรแก่เวลาแล้วที่อาร์เซน่อล ต้องย้ายสนาม ไปหาสนามที่ใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับแฟนๆ และที่สำคัญ เพื่อโอกาสทำรายได้ที่มากขึ้นด้วย
ค่าก่อสร้างสนามทั้งหมด พุ่งไปถึง 410 ล้านปอนด์ ปัญหาคืออาร์เซน่อล มีสินทรัพย์ทั้งหมดที่พอจ่ายได้ อยู่ที่ราวๆ 150 ล้านปอนด์เท่านั้น อีก 260 ล้านปอนด์ ต้องไปกู้ยืมธนาคารมา
มันส่งผลให้อาร์แซน เวนเกอร์ ต้องใช้เงินอย่างประหยัดมัธยัสถ์มากๆ
4 ปีสุดท้ายของไฮบิวรี่ เวนเกอร์ ใช้เงินซื้อนักเตะในช่วงซัมเมอร์ดังนี้
ฤดูกาล 2002-03 = 6.6 ล้านปอนด์
ฤดูกาล 2003-04 = 1.75 ล้านปอนด์
ฤดูกาล 2004-05 = 1.88 ล้านปอนด์
ฤดูกาล 2005-06 = 22.4 ล้านปอนด์
จะมีฤดูกาล 2005-06 ได้ใช้เงินซื้อนักเตะเยอะหน่อย แต่นั่นก็เป็นเพราะพวกเขาได้เงินจากการขาย ปาทริก วิเอร่า ,เดวิด เบนท์ลีย์ และ เจอร์เมน เพนแนนท์ ออกจากทีม ใช้เงินสุทธิไม่ถึง 5 ล้านปอนด์
ในฤดูกาล 2003-04 ที่อาร์เซน่อลได้แชมป์แบบไร้พ่าย ในช่วงซัมเมอร์ ใช้เงินซื้อนักเตะ 1.75 ล้านปอนด์
ถ้าคุณเป็นทีมระดับแย่งแชมป์ แต่มีเงินให้ซื้อนักเตะไม่ถึง 10 ล้านปอนด์ต่อปี คือคุณจะทำอย่างไร อย่าว่าแต่แย่งแชมป์เลย ไม่มีเงินซื้อใครมาเสริมทัพแบบนั้น ประคองตัวให้ติดท็อป 5 ท็อป 6 ทุกๆปีก็ยากแล้ว
"เวนเกอร์ ได้รับข้อเสนอจากทีมอื่นตลอดเวลา" เดวิด ดีน อดีตผู้บริหารสโมสรอาร์เซน่อลเผย
"บาร์เซโลน่า ,เรอัล มาดริด, ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ,บาเยิร์น มิวนิค , เชลซี ,แมนฯซิตี้ ,แมนยูไนเต็ด รวมถึง ทีมชาติอังกฤษ แต่เขาไม่ย้ายไปไหน เขาเลือกจะอยู่กับอาร์เซน่อลต่อไป เพื่อฝ่าฟันวิกฤติไปด้วยกัน"
ในปี 2006 พวกเขายอมขายชื่อสนาม ให้กับสายการบินเอมิเรตส์ และเปลี่ยนชื่อเป็นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในสัญญา 15 ปี ได้เงินเฉลี่ยปีละ 6.6 ล้านปอนด์ แต่แน่นอน เงินก็ยังไม่เพียงพอต่อการใช้หนี้ให้กับธนาคาร มีการคำนวณว่า ถ้าอาร์เซน่อล ได้เข้าไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกทุกปี จะมีเงินเอามาจ่ายหนี้ ได้ปีละ 35 ล้านปอนด์โดยประมาณ ซึ่งอีกแค่ 7-8 ปี ก็จะปลดหนี้ได้หมด
เมื่อเงินไม่มี ก็คือไม่มี เขาจึงหันมาปั้นนักเตะดาวรุ่งแทน เมื่อดาวรุ่งที่ปั้น มีชื่อเสียงประมาณหนึ่งแล้ว ก็ขายปล่อยออกไป ให้ได้ราคาดีที่สุด เพื่อนำเงินก้อนนั้น มาซื้อผู้เล่นที่จำเป็นมาเสริมทัพ
ตั้งแต่ย้ายสนามมา จนถึงปี 2013 ในขณะที่ทีมอื่นซื้อนักเตะกันโครมๆ แต่อาร์เซน่อล ไม่เคยซื้อนักเตะ ราคาแพงเกินกว่า 15 ล้านปอนด์แม้แต่คนเดียว
แต่มันก็น่าทึ่งที่เขา ยังประคองทีม ให้จบท็อปโฟร์มาได้ตลอด นั่นทำให้สโมสรยังคงมีเงินไปจ่ายหนี้ธนาคารได้ทุกปี ไม่มีขาดตกบกพร่อง
ในช่วง 22 ปีของเวนเกอร์ กับอาร์เซน่อล
ช่วงที่ทีมติดหนี้สินจากการสร้างสนาม(2002) เขารู้ว่า "เพื่อทีม" เขาต้องอยู่ต่อ
ถ้าอยากให้ทีมเดินหน้าต่อไป เขาจะทิ้งสโมสรไม่ได้ เพราะไม่อย่างนั้น ทีมจะตกต่ำไปไกลยิ่งกว่านี้
และในวันนี้(2018) "เพื่อทีม" เขาต้องไป ถ้าอยากให้ทีมเดินหน้าต่อไป เขาต้องยอมลาทีมไป
ไม่ว่าการอยู่ต่อในวันนั้น หรือการจากไปในวันนี้ ของอาร์แซน เวนเกอร์ เขายึดถือผลประโยชน์ของสโมสรเป็นสำคัญที่สุด
สู้ไปด้วยกันในวันลำบาก และ ยอมตัดใจเพราะต้องการให้อีกฝ่ายมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม
#OneArseneWenger
พอดีอ่านเจอบทความเก่าที่เคยเซพเก็บไว้ (ต้นยาวมาก ผมพยายามย่อแบบสั้นๆครับ)
ต้นฉบับ
Spoil
https://www.facebook.com/1763193370562572/posts/pfbid0LZgY9ZSQ6quM6HUR4jnW25Yv5mDtvzBxQQ2cGUz6ykg5C8iEsR9gUavbessn4qhpl/
ปล.ผมเห็นว่าเนื้อหายาว เลย ใส่ในหัวข้อ "บทความ" แต่มันไม่ขึ้นในกระทู้ไหนเลย
บทความคืออะไร ใครรู้ช่วยอธิบายหน่อยครับ