ลุ้นสมัย 5!! วินิซิอุส ซัดนำร่อง 'ราชัน' ถล่มอัล อาห์ลี 4-1 ลิ่วชิงแชมป์โลก
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
แม้จะไม่ใช่งานง่ายเสียทีเดียวแต่ เรอัล มาดริด ก็นปิดจ็อบได้ตามเป้าเมื่อพวกเขาจัดการถล่ม อัล อาห์ลี 4-1 จากการเรียงหน้ายิงของ วินิซิอุส จูเนียร์, เฟเด้ บัลเบร์เด้, โรดรีโก้ และ อาร์ริบาส ทำให้ทีมราชันชุดขาวผ่านเข้าไปลุ้นแชมป์สโมสรโลกสมัยที่ห้า โดยจะไปเจอกับอัล ฮิลาล ตัวแทนจากเอเชียในนัดชิงชนะเลิศ
อัล อาห์ลี
Starting Formation: 4-5-1
14.
ฮุสเซน เอล-ชาฮัต

75'
15.
อาลิอู เดียง

61'
19.
อัฟชา

88'
10.
โมฮาเหม็ด เชริฟ

61'
ตัวสำรอง
8.
ฮัมดี ฟาธี

61'
27.
ทาเฮอร์ โมฮาเหม็ด

75'
23.
เพอร์ซี ตาอู

61'
7.
คาห์ราบา

88'
ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก รอบรองชนะเลิศ
สนาม ปรินซ์ มูลาย อับดัลเลาะห์
อังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566
กรรมการ อันเดรส มาตันเต้
อัล อาห์ลี
1
4
เรอัล มาดริด
0-1 วินิซิอุส 42'
0-2 บัลเบร์เด้ 46'
1-3 โรดรีโก้ 90+2'
1-4 อาร์ริบาส 90+8'
เรอัล มาดริดวันนี้จะไม่ทีเบนเซม่าที่ไม่ฟิต ทำให้ในระบบ 4-3-3 แนวรุกเป็น โรดรีโก้ ที่ยืนค้ำโดยที่ วินิซิอุส,บัลเบร์เด้ คอยหนุนขนาบข้าง แนวรับได้ อลาบา กลับมายืนเซนเตอร์กับ รูดิเกอร์ แต่ในตำแหน่งผู้รักษาประตูเป็น ลูนิน ที่ได้โอกาสลงแทน คูร์กตัวส์ ที่มีอาการบาดเจ็บ
อัล อาห์ลีในระบบ 4-5-1 ให้ เชริฟ ยืนเป้นความหวังค้ำหน้า โดยมี มักดี้,อับเดลคาแดร์,เอล ชาฮัต คอยหนุน
รูดิเกอร์โขกเตะมุมทักทายก่อน
มาดริดครองบอลบุกมากกว่าในช่วงต้นเกมแต่ต้องรอนานทีเดียวกว่าจะมีโอกาสลุ้นครั้งแรก โดยเป็นจังหวะเตะมุมทางฝั่งซ้ายที่โมดริสเปิดไปในกรอบให้รูดิเกอรืได้โหม่งแต่ก็ตรงตัวเข้ามือเอล-เชนาวี
เชริฟหลุดซัดข้ามคาน
โอกาสลุ้นของอัล อาห์ลีบ้าง เป็นจังหวะสวนกลับเร็วแล้วเชริฟได้บอลหลุดไปยิงทางกรอบฝั่งซ้าย แต่เขาซัดด้วยซ้ายหลุดกรอบไป แม้ผู้ตัดสินจะยกธงล้ำหน้าแต่ภาพช้าโชว์ให้เห็นว่าเขาไม่ล้ำ
โรดรีโก้แปหลุดกรอบ
โอกาสลุ้นอีกครั้งของมาดริด เป็นจังหวะที่บัลเบร์เด้ได้บอลหลุดมาทางริมกรอบฝั่งขวาก่อนเปิดพุ่งไปที่เสาแรกแล้วเป็นโรดรีโก้ที่แปด้วยซ้ายหลุดกรอบไป
อับเดลโมเนมโขกข้ามคาน
อัล อาห์ลีก็มีโอกาสตอบโต้มากขึ้นแล้วจังหวะนี้อัลเดลคาแดร์เปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษให้อับเดลโมเนมได้โหม่งแต่ก็พุ่งหลุดข้ามคานไป
ชูอาเมนี่ส่องไกลติดเซฟ
ตัดมาเป็นโอกาสลุ้นของราชันชุดขาว จังหวะที่ชูอาเมนี่รับบอลจากวินิซิอุสก่อนได้เหลี่ยมซัดไกลด้วยขวาจากนอกกรอบ แต่บอลก็ยังพุ่งไปติดเซฟของเอล-เชนาวี
วินิซิอุสแปหลุดเสาสอง
มาดริดมาต่อเนื่อง คราวนี้เป็นจังหวะที่โรดรีโก้แทงบอลให้วินิซิอุสหลุดเข้าไปในกรอบฝั่งซ้าย เขาแต่งหนึ่งที่ก่อนแปสวนตัวเอล-เชนาวีหลุกเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย
โรดรีโก้หลุดชิพชนเสาน่าเสียดาย
อีกครั้งที่น่าได้สุดๆของมาดริด จังหวะที่โรดรีโก้ได้บอลทางริมกรอบฝั่งซ้ายก่อนที่จะพลิ้วหนีตัวประกบเข้าไปยกบอลข้ามเอล-เชนาวี แต่โชคไม่ดีไปชนเสาเด้งออกหลังอย่างน่าเสียดาย
อัล อาห์ลีตอบโต้เรื่อยๆเหมือนกัน
อัล อาห์ลีครองบอลน้อยกว่าแต่ก็ตอบโต้ได้เรื่อยๆอยู่เหมือนกัน จังหวะนี้อับเดลโมเนมโหม่งชงให้เอลชาฮัตได้ยิงมุมแคบไปติดเซฟลูนิน
บัลเบร์เด้วอลเลย์ติดเซฟ
มาดริดยังพยายามบุกเรื่อยๆเพื่อเอาประตูขึ้นนำ จังหวะนี้บัลเบร์เด้ได้โอกาสวอลเลย์ทางดรอบฝั่งขวา แต่บอลก็ยังไปตรงตัวติดเซฟเอล-เชนาวี
มีเฮง!วินิซิอุสรับโชคหลุดซัดไหม่เหลือ 1-0 ราชันนำ
แล้วประตูแรกของเกมก็มาจนได้และเป็นมาดริดที่ออกนำไปก่อน จากจังหวะที่โครสตักบอลไปหน้ากรอบเขตโทษ ตอนแรกเหมือนจะไม่มีอะไรแต่เมตวาลีดันหวดวืดทำให้บอลเลยไปถึงวินิซิอุสหลุดไปซัดไม่เหลือ 1-0 ทันที
นาโช่เติมซัดหลุดกรอบ
ก่อนจบครึ่งแรกมาดริดสวนกลับเร็วแล้วได้จบจากจังหวะเติมขึ้นมายิงหน้ากรอบเขตโทษของนาโช่ แต่บอลก็ุพุ่งเรียดหลุดกรอบออกหลังไป
สุดท้ายจบครึ่งแรกเป็นมาดริดที่นำไปก่อน 1-0 จากลูกยิงในช่วงท้ายของวินิซิอุส ฝั่งอัล อาห์ลีครองบอลน้อยกว่าก็จริงแต่พวกเขายังมีโอกาสลุ้นพอสมควรเพียงแต่ยังไม่คมเอง
บัลเบร์เด้ซ้ำล่อเป้าไม่เหลือ 2-0 ราชันเริ่มครึ่งหลังเพอร์เฟคท์
เริ่มครึ่งหลังมาไม่ทันไรราชันชุดขาวมาได้ประตูที่สองเลย จังหวะที่ทำเร็วขึ้นมาโมดริชแทงบอลทะลุช่องให้โรดรีโก้หลุดไปยิงในกรอบเขตโทษติดเซฟเอล-เชนาวี บอลกระฉอกออกมาเข้าทางบัลเบร์เด้ที่แต่งหลอกหนึ่งทีก่อนยิงล่อเป้าเข้าไปไม่เหลือ 2-0
เอล ชาฮัตซัดหลุดเสาสอง
ิอัล อาห์ลีได้ลุ้นตีไข่แตกเหมือนกัน จากจังหวะที่เอล ชาฮัตได้บอลหลุดไปทางกรอบฝั่งขวาก่อนที่เขาจะวางเท้าซัดด้วยขวาพุ่งหลุดเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย
ชูอาเมนี่ส่องไกลตรงตัวเอล-เชนาวี
มาดริดยังเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่า จังหวะนี้ชูอาเมนี่ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษก่อนแต่งแล้วซัดด้วยขวาเน้นๆ บอลพุ่งตรงกรอบแต่ก็ยังไปตรงตัวติดเซฟเอล-เชนาวี
คามาวินก้าทำเสียโทษ!มาลูลสังหารไม่พลาด 2-1
แล้วทำไปทำมาเรอัล มาดริดมาเสียจุดโทษ จากจังหวะที่คามาวินก้าเข้าบอลพรวดแล้วใช้มือไปเหนี่ยวอัล ชาฮัตล้มในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่านกหวีดพร้อมชี้ไปจุดโทษทันที
เป็นมาลูลที่รับหน้าที่สังหาร เขาจัดการสืบเท้าแปด้วยซ้ายพุ่งเสียบเสาซ้ายมือ หมดสิทธิ์สำหรับลูนินที่ไปผิดทาง 2-1 อัล อาห์ลีมีหวังขึ้นมาแล้ว
อัฟชาซัดข้ามคาน ราชันเกือบวูบ
อัล อาห์ลีเกือบได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่อัล ชาฮัตเปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษให้อัฟชาตวัดเท้ายิงเน้นๆพุ่งข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
ราชันเกือบโดนตีเจ๊า
อัล อาห์ลีเกือบได้ประตูตีเสมออีกแล้ว จากจังหวะที่มาลูลเปิดบอลจากทางฝั่งซ้ายไปที่เสาแรกให้ตาแฮร์ โมฮาเหม็ดโฉบโหม่ง บอลพุ่งตรงกรอบแต่ลูนินยังขยับมาปิดเสาและรับเอาไว้ไห้
โมดริชพลาดโทษ!แปติดเซฟเอล-เชนาวี
มาดริดมาได้จุดโทษในช่วงท้ายเกมเพื่อตอกฝาโลง โมดริชรับหน้าที่สังหารแต่เขาดันแปด้วยขวาไปติดเซฟเอล-เชนาวี ทำให้อัล อาห์ยังมีหวังในช่วงเวลาที่เหลือ
โคตรเนียน!โรดรีโก้ทำชิ่งกับเซบาญอสหลุดยิงล่อเป้า 3-1
แล้วสุดท้ายมาดริดมาได้ประตูตอกฝาโลงปิดเกมเป็น 3-1 จากจังหวะความสุดยอดที่โรดรีโก้เล่นชิ่งกับเซบาญอสก่อนหลุดเดี่ยวไปยิงสวนตัวเอล-เชนาวีไม่มีพลาด
ลงปุ๊บยิงปั๊บ!อาร์ริบาสซัดปิดฉาก 4-1
ราชันชุดขาวมาได้ประตูย้ำชัยชนะเป็น 4-1 จากผลงานของ อาร์ริบาส ดาวรุ่งที่เพิ่งถูกเปลี่ยนตัวลงไปไม่กี่วินาที เขาจับบอลซัดในกรอบเขตโทษพุ่งเรียดเสียบเสาคมกริบ
ราชันฉลุยลุ้นแชมป์สมัย 5
จบเกมมาดริดถล่มเอาชนะไป 4-1 ทำให้พวกเขาผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับอัล ฮิลาลได้สำเร็จ พร้อมกับลุ้นแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 5
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-3
8.
โทนี่ โครส

78'
10.
ลูก้า โมดริช

90+5'
21.
โรดรีโก้

90+5'
20.
วินิซิอุส จูเนียร์

90+8'
ตัวสำรอง
24.
มาเรียโน่

90+5'
16.
อัลบาโร โอดริโอโซล่า

90+5'
19.
ดานี่ เซบาญอส

78'
33.
อาร์ริบาส

90+8'
แก้ไขล่าสุดโดย MEGITSAMA เมื่อ Thu Feb 09, 2023 04:15, ทั้งหมด 9 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ