เช่น

เล็งรถฮอนด้า โตโยต้า
หรือขนาดเคสมือถือ มีลายให้เลือกมากมาย ก็ตัดสินใจไม่เด็ดขาดว่าจะเอาสีอะไรดี

หาข้อเปรียบเทียบ ดูยูทูป ข้อมูลละเอียดยิบ แต่ก็ตัดสินใจจริงๆยากมาก

แบบนี้ถือเป็นโรคป่วยชนิดหนึ่งไหมครับ

อย่างCasetify มันลดราคา วันนี้25% ผมทักไปหาน้องมันเลยสั่งด้วย
5นาที มันส่งลิงค์ลายที่เลือกมาให้ตัดสินใจได้แค่5นาที
ส่วนผมดูเล็งตั้งแต่3วันก่อน -*-

ถ้าเรื่องรถนี่ไม่ต้องพูดถึง ตัดสินใจช่างใจเป็นปี
อย่างรถCross ก็ช่างใจMinorchange จะมีAuto brake holdไฟฟ้าไหม ข่าวกรองว่าไม่น่ามี
ใจก็เอนเอียงจะย้ายไปHRV เพราะมีครบ ก็ช่างใจอีก เพราะในกลุ่มบ่นตลอดว่ามีเสียงลมบ้าง
ขนาดแค่สีรถ ยังเลือกยาก จะเอาสีไหนดียังยาก
สรุปรออย่างนี้ทั้งปีเพราะไม่เด็ดขาดกับการตัดสินใจ
(แต่เรื่องอาหารการกินผมได้หมด ได้หมดคือได้หมดจริงๆแต่ไม่เน้นแป้งเพราะอ้วน)

หรือสีผ้าม่าน มู่ลี่งี้ผมเปิดแคตตาล็อคดู10วันดูแล้วก็มาคิดๆทบทวน เอามาเทียบกับสีผนังไปมา
หรือกระเปื้องพื้น ผมเดินห้างดูกระเปื้อง10วันเดินดูวนไปมาเป็นชั่วโมงๆวันนึง เดินจนปวดขา


อย่างนี้เขาเรียกเป็นโรคไหมครับ?

ปล.ตัดสินใจยากเรื่องเงินไม่เกี่ยว

เป็นคนช่างเลือก

เหมาะกับการลงทุนในตลาดหุ้นครับ

ส่วนผมง่ายมาก

บ้าน คุยกับน้อง อาทิตย์นึงผ่านไปโฆษณาเด้ง สุดสัปดาห์เข้าไปดู ดูเสร็จจองเลย

รถ นั่งดูมาเป็นปีๆ มีจังหวะออกรถดันไปตรงกับ kicks เปิดตัว แล้วชอบ juke เป็นทุนเดิมก็ไปลองเทสไดรฟ์แล้วจองเลย

การตัดสินใจง่ายหรือยาก
ขึ้นอยู่กับราคาของสินค้า

สัมพันธ์กับ เงินรายได้

ถ้ายอดน้อยก็ตัดสินใจเร็ว

ถ้าเกินตัวก็ตัสินใจยาก

ดีแล้วครับ

ลองไปยืนหน้าตู้ดูครับ ถ้าโดนเชียร์แล้วยังไม่ถูกใจ
เลือกไม่ได้สักทีให้ปรึกษา warittuta

ใครๆ ก็อยากได้ของที่ดีที่สุดให้ตัวเองครับ
เป็นปกติมนุษย์

ผมก็เป็น เลือกแล้วเลือกอีก

เป็น purchase behavior ครับ

เป็นทุกคน

ดีแล้วครับ การซื้อที่มีการผ่านกระบวนการทางความคิด ต่อให้ตัดสินใจผิดโอกาสก็จะน้อยกว่า คนซื้อด้วยอารมณ์ครับ

เหมือนผมเลยครับ ซื้อเสื้อผ้า-รองเท้า-ของใช้ ลังเลมากเสียดายตังค์

แต่ซื้อเหล้า-เบียร์ ควักไม่อั้น

ถ้ารู้เยอะ ก็จะคิดเยอะ เป็นปกติครับ

ผมว่าดีนะ ผมเป็นล่าสุด 2.2 นั่งหาเครื่องดูดฝุ่นทั้งคืน ทั้งคืนแบบที่ไม่ได้นอนเลย สรุปของหมด ไม่เสียตังเลย

ผมก็เหมือนท่านเลย คิดเป็นชาติจะซื้ออะไรทีนึง555 ผมต้องหาข้อมูลจนกว่าจะมั่นใจค่อยกดอะ บางทีหาข้อมูลเยอะจัดจนขี้เกียจหาไปเลย ไม่ได้ซื้อสักที

ผมอยากแนะนำให้ทำตารางเปรียบเทียบครับ

บางอย่างถ้าไม่เขียนอธิบายออกมาแล้วให้คะแนนลงไป มันก็ตัดสินใจยาก
การให้คะแนน ก็แล้วแต่เราเลย ว่าเราเน้นเรื่องอะไร เช่น ซื้อรถ ใส่ใจเรื่องประหยัดน้ำมัน ก็ให้ 3 คะแนน
เรื่องอื่นๆก็ให้ 1 คะแนน อันที่ได้คะแนนมากกว่า ก็อาจจะดีกว่าครับ
ใส่ใจเรื่องรูปโฉม ก็ปรับเรื่องความชอบรูปโฉมเป็น 3 คะแนน ให้คะแนนอื่นๆ 1 คะแนน อะไรแบบนี้น่ะครับ

ผมเคยทำตารางแบบนี้ ตอนเปลี่ยนงาน มันใช้ได้ค่อนข้างดีเลยครับ
มันสามารถลบอคติที่มันบังตาเราได้ ช่วยให้ตัดสินใจได้เป็นกลางดีครับ