คำเตือนบทความยาวมาก เปลือง 4G เด้อ
.
จบไปแล้วสำหรับฤดูกาล 2022 จากช่วงต้นฤดูกาลที่ผมคาดการณ์ไว้มีทั้งผิดไปไกล เช่น เดาว่า Giants จะได้รองบ๊วยตามมาด้วย Seahawks, เดาว่า Rams/Colts/Packers จะได้แชมป์กลุ่ม, Broncos จะได้ wildcard และที่เดาถูกแบบใกล้เคียง เช่น Jaguars จะได้เข้ารอบ playoff, Bears จะได้ดราฟต์ใน top5, Lions จะเป็นทีมที่ผลงานดีในปี 2022 เป็นต้น ถือว่าเดาสนุกๆ กันไป ตอนนี้มาลองมาเดาถึงแต่ละทีมในช่วงปิดฤดูกาลแบบสั้นๆ กันดีกว่า
คราวนี้ขอไล่ตามลำดับดราฟต์นะครับ
.


Chicago Bears
.

.
สถิติปี 2022 : 3-14
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 2 สิทธิ์ >> R1(1), R2(54)(from Baltimore)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- ทีมรับยวบ หลักๆ คือขาด Edge Rusher ปีนี้ทีมเก็บ sacks ได้น้อยที่สุดของลีก(20 ครั้ง) เพราะทีมเพิ่งปล่อย 2 ตัวหลักอย่าง Khalil Mack กับ Robert Quinn ออกจากทีม
- แนวบุกปกป้อง QB ไม่ดีมากนัก ปีนี้ Justin Fields โดนไป 55 sacks มากที่สุดของลีก เท่ากับ Russell Wilson ของ Denver Broncos
- ยังต้องหา WR no.1 ต่อไป Darnell Mooney ปีนี้ลงสนามไม่เต็มฤดูกาล ส่วน Chase Claypool ที่เทรดมาจาก Steelers ดูยังพึ่งพาไม่ได้มากเท่าไหร่ ปีนี้พวกเขาไม่มีปีกที่รับบอลเกิน 500 หลา
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
ถ้าพูดถึง Bears ที่ผ่านมาเรามักจะนึกถึงทีมที่มีเกมรับที่โดดเด่นคอยแบกทีมบุกเอาไว้ เชื่อว่าทีมน่าจะโฟกัสไปที่ทีมรับเป็นหลัก ส่วนตำแหน่ง WR ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สื่อมองว่าไม่มีปีกนอกคู่ใจให้กับ Justin Fields แม้ว่าเพิ่งจะเทรดเอาตัว Chase Claypool มาก็ตาม ช่วงนี้กระแสหลักๆ เทไปว่าปีกนอกคนดังอย่าง DeAndre Hopkins เป็นตัวเลือกน่าสนใจ แต่ผมมองว่า Hopkins นั้นอายุขึ้นหลัก 30+ แล้ว เจ้าตัวน่าจะมองหาทีมที่มีโอกาสพาเขาประสบความสำเร็จในช่วงเวลา 1-3 ปีนี้มากกว่า เพราะน่าจะเป็นช่วงสุดท้ายที่จะมีโอกาสประสบความสำเร็จแล้ว แต่ Bears นั้นอยู่ในช่วงที่ต้องสร้างทีมอีกซักระยะ ดังนั้นตัวเลือกที่เป็นไปได้มากกว่า สำหรับการมาเป็นปีกนอกมือ 1 ของ Bears คือ Brandin Cooks ปีกนอกของ Texans ที่มองหาโอกาสในการย้ายทีมอยู่เหมือนกันในเวลานี้ ซึ่ง Bears อาจจะจ่ายเป็น สิทธิ์ดราฟต์รอบ 4 ของปีนี้พ่วงด้วยรอบ 2 หรือ 3 ของปี 2024
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
ปีนี้ตัวหลักของทีมหลายคนที่หมดสัญญาอาจจะถูกปล่อย เพราะผลงานไม่น่าประทับใจ ถ้าจะมีซักตำแหน่งที่คิดว่า Bears น่าจะต่อสัญญาน่าจะเป็น Nicolas Morrow ตัว LB ประสบการณ์ที่ปีนี้เพิ่งทำ Career High เอาไว้เป็นตัวหลักในการประคองแผง linebacker ที่ต้องเรียกว่ามีแต่เด็กประสบการณ์น้อยๆ ทั้งนั้น แต่คนที่ผลงานดีอย่าง David Montgomery ส่วนตัวผมมองว่า Bears อาจจะไม่ต่อสัญญา ส่วนหนึ่งเพราะปัญหาอาการบาดเจ็บ และตอนนี้พวกเขามี Khalil Herbert อยู่ซึ่งผลงานน่าประทับใจมา 2 ฤดูกาลติดต่อกันแล้ว และสามารถก้าวขึ้นมาเป็นมือ 1 แทนได้ในฤดูกาลหน้า ซึ่ง Bears อาจจะมองหา RB ใหม่จากการดราฟต์
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ปีนี้ cap space ของ Bears มีมากถึง $118.1 million เรียกว่าเป็นทีมเดียวในลีกในเวลานี้ ที่มีเกิน $100 million น่าจะมีการเสริมตัวสำคัญๆ ได้หลายตำแหน่ง หลักๆ เลยยังไงก็ต้องมอง DLine ก่อนเลย ปีนี้ไม่ใช่ปีที่มี Edge Rusher ตัว Top ดีๆ หลุดเข้าสู่ตลาด free agent ดังนั้น Bears อาจจะมองหา Interior Defensive ดีๆ ในตลาดแทน เช่น Javon Hargrave, Da’Ron Payne, Sheldon Rankins, Larry Ogunjobi หรือ Shy Tuttles ซึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีโอกาสมากกว่าในการจะเข้ามารับสัญญาก้อนใหญ่ๆ ซึ่ง Bears สามารถมอบให้ได้ ส่วนตำแหน่ง Edge Rusher อาจจะเป็นการมองหาตัวที่พอจะใช้งานได้ แต่อาจจะเป็นการให้สัญญาระยะสั้นๆ ไปก่อน เช่น Samson Ebukam หรือ Marcus Davenport
.
นอกจากนี้น่าจะเป็นการหาผู้เล่นประสบการณ์โดยเฉพาะในตำแหน่ง LB เข้ามาเสริม เพราะว่าพวกเขาเพิ่งจะเทรด Roquan Smith ออกไป ทำให้แผง LB ยวบไม่เยอะ ทำให้แกนหลักเหลือเพียง Nicolas Morrow กับดาวรุ่งอย่าง Jack Sunborn ซึ่งอาจจะเป็นการไปเอา Anthony Barr, Anthony Walker Jr., Kwon Alexander หรืออาจจะรวมถึงตัวประสบการณ์สูงอย่าง Kyle Van Noy ด้วย
แต่ถ้าถามผมว่า Bears จะมีเซอร์ไพรส์อะไรให้แฟนๆ ได้ตื่นเต้นบ้าง ผมว่า Bears เป็นทีมที่น่าลุ้นมากว่าพวกเขาจะเข้าไปร่วมชิงตัว Josh Jacobs มาร่วมทีม แน่นอนว่าในช่วงหลัง Bears ไม่ได้เป็นทีมที่โดดเด่นในเรื่องเกมขว้างอยู่แล้ว อาวุธหลักของพวกเขาคือเกมรับกับเกมวิ่ง การมีทั้ง Josh Jacobs+Khalil Herbert แถมยังมี QB สายวิ่งอย่าง Justin Fields มันทำให้ทีมสามารถเรียกแผนวิ่งหลอกฝั่งตรงข้ามได้ง่าย เพราะด้วยความที่ว่ามีตัวที่สามารถวิ่งได้หลายคน แถมยังมีแผนขว้างมาคอยสลับ(ถ้าได้ Cooks+Mooney+Claypool) Bears ก็อาจจะกลายเป็นทีมที่มีเกมบุกสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับแฟนๆ ในฤดูกาล 2023 ได้
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
ปีนี้จากลำดับดราฟต์แล้ว ในตอนนี้ส่วนตัวผมไม่คิดว่าจะมีใครสู้ราคาเพื่อขึ้นมาเทรดกับ Bears เพราะมันมีมูลค่าที่ต้องจ่ายมากเกินไป แถม QB คลาสนี้ไม่ได้ถือว่าโดดเด่นในระดับอย่าง Andrew Luck หรือ Trevor Lawrence ที่แบบการันตี no.1 pick มาตั้งแต่อยู่มหาลัยปี 1 ในกรณีที่ว่าถ้าทีมลำดับที่ 1 ไม่ต้องการ QB ทีมลำดับถัดไปต้องแย่งกันเอาเป็นเอาตายเพื่อจะขึ้นมาเก็บอะไรทำนองนั้น แม้ว่ามีหลายทีมที่ต้องการ QB ไม่ว่าจะเป็น Texans, Colts, Seahawks, Falcons, Lions, Panthers, Saints, Titans, Jets หรือแม้แต่ Commanders
.
ถามว่าทำไม หลักๆ เลยคือที่ผ่านมาเราไม่ได้เห็นการเทรดขึ้นลำดับที่ 1 เพื่อตั้งใจจะขึ้นมาเก็บ QB มานานมากแล้ว ครั้งสุดท้ายคือ Rams เทรดขึ้นมาในปี 2016 ส่วนหนึ่งเพราะทีมมีแผนจะย้ายไป LA ด้วย น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของการตลาดของทีม ถ้าย้อนขึ้นไปไกลกว่านั้นอีกก็จะเป็นปี 2004 ที่เทรดเจ้าปัญหาของกรณี Eli Manning ดังนั้นเรียกว่าในช่วงกว่า 20 ปีที่ผ่านมาแทบไม่มีการเทรดขึ้น no.1 pick เลย ดังนั้นผมเลยค่อนข้างเชื่อว่าสุดท้ายแล้ว Bears คงต้องเลือกผู้เล่นเองในลำดับที่ 1 ซึ่งส่วนตัวผมมองว่า Bears คงจะดราฟต์ Jalen Carter, DT ของ Georgia Bulldogs เพราะที่ผ่ามมาไม่มีเด็กจาก Alabama Crimson Tides ที่ถูกดราฟต์ในลำดับที่ 1 มานานกว่า 75 ปีแล้ว นับตั้งแต่ Harry Gilmer ถูกเลือกในปี 1948 ซึ่งเป็นเด็กจาก Alabama คนเดียวในประวัติศาสตร์ที่ถูกดราฟต์ในลำดับที่ 1

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Houston Texans
.

.
สถิติปี 2022 : 3-13-1
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 3 สิทธิ์ >> R1(2), R1(12), R2(34)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- ยังไม่มีแนวทางชัดเจนในการสร้างทีม หลังจากล่าสุดเพิ่งปลด Lovie Smith ไปก็เหมือนทีมกำลังจะเริ่มนับ 1 ใหม่อีกครั้ง ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเข้ามาเป็น HC คนใหม่
- ขุมกำลังเดิมที่มียังต้องปรับปรุงอีกเยอะ แต่พวกเขาไม่ได้มี cap space มากเหมือน Chicago Bears ($46.7 million) อาจจะทำให้พวกเขาอาจจะต้องเลือกว่าทีมจะสร้างทีมฝั่งทีมรุก หรือทีมรับก่อน
- ไม่มี franchise quarterback
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
อันที่จริง Houston Texans ในอดีตเป็นทีมที่คล้ายๆ Chicago Bears คือเป็นทีมที่เกมรับเด่น โดยเฉพาะในตำแหน่ง front 7 แล้วมีสตาร์ในแนวรุกเป็นตำแหน่งปีกที่โดดเด่นกับ QB ที่อาจจะไม่เด่นมาก(เพิ่งจะมามี Deshuan Watson ที่เด่นกว่า QB ที่ผ่านๆ มา) ตรงนี้น่าสนใจว่าทีมจะหันกลับไปสู่แนวทางเดิมหรือไม่ เพราะอย่าลืมว่าในเวลานี้ปัญหาของพวกเขาไม่ใช่แค่ QB แต่มันรวมถึงแผง OL อาวุธชุดปีกนอก-ในด้วย ปีกนอกตัวสำคัญอย่าง Brandin Cooks ก็ส่อแววไม่อยากอยู่ต่อ ก็แปลว่าปีกนอกแกนหลักก็จะเหลือแต่ Nico Collins คนเดียว ส่วนดาวรุ่งอย่าง John Metchie III ที่ดราฟต์มาแล้วพบว่าเป็นลูคีเมียไม่รู้ว่าจะกลับมาเล่นอยู่ไหม ดังนั้นผมว่าทีมอาจจะต้องมองว่าพวกเขาควรจะสร้างทีมรับกับแผง OL และองค์ประกอบอื่นๆ รอบๆ ก่อน และฤดูกาลหน้าก็พึ่งพา QB ประสบการณ์อย่าง Jacoby Britsett, Andy Dalton หรืออาจจะไปเทรดเอา Ryan Tannehill มาขัดตาทัพชั่วคราวไปก่อนซักปีน่าจะดีกว่า
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
คล้ายๆ Bears คือตัวหลักที่หมดสัญญาหลายๆ คนฟอร์มไม่ได้โดดเด่น หลายคนเจ็บมากกว่าได้ลงสนาม แต่มีอยู่ 1 คนที่ Texans ควรรั้งเอาไว้กับทีมก็คือ Jonathan Owens, FS ที่พอจับคู่กับ Jelen Pitre แล้วผลงานไม่เลว ซึ่งเจ้าตัวน่าจะกินสัญญาไม่แพงด้วย และอาจจะรวมไปถึง Jordan Akins ปีกในตัวอะไหล่ที่มีประสบการณ์อยู่กับทีมมานาน ซึ่งผลงานอาจจะไม่โดดเด่นมากแต่ก็เป็นทางเลือกในการเป็นอาวุธให้กับทีมได้ ยิ่งในช่วงที่ทีมแทบไม่เหลืออาวุธในตำแหน่ง pass casher อย่างในเวลานี้
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ปีนี้หลักๆ ทีมน่าจะเสริมทัพในตำแหน่ง RT และ WR เป็นหลัก อาจจะเป็นการเอา Germain Ifedi มาใช้ชั่วคราวในตำแหน่ง RT ไปก่อนก็ได้แล้วค่อยหาดาวรุ่งในการดราฟต์มาเติมเพิ่ม ส่วน WR นี่ไม่ค่อยน่าห่วงเพราะในตลาด FA มีตัวเลือกระดับกลางๆ เกรด B/B+ ให้เลือกเพียบ ถ้ามองพวกมีประสบการณ์เอามาให้ QB ดาวรุ่งพึ่งพา Marvin Jones Jr., Nelson Agholor หรือจะไปเทรดปีกนอกอย่าง Corey Davis หรือ Curtis Samuel ซึ่งกับทีมเดิมพวกเขาหล่นไปเป็นปีกนอกมือ 3 แล้ว มาเป็นตัวหลักที่ Texans ก็น่าจะเป็นการเทรดที่จ่ายไม่แพง อาจจะเสียแค่รอบ 5 หรือ 6 ก็น่าจะเทรดได้สบายๆ
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
ปีนี้จากลำดับดราฟต์แล้วคิดว่ายังไง QB ทุกคนในคลาสก็น่าจะยังอยู่ครบหลังจากดราฟต์ no.1 ผ่านไปแล้วซึ่งตรงนี้น่าสนใจ ถ้ากรณีว่า Chicago Bears ไม่ได้เทรดกับใครก่อน แล้ว Chicago Bears ไม่หยิบ Will Anderson Jr. ในลำดับแรกด้วย ส่วนตัวผมเชียร์ให้ Houston Texans หยิบ Will Anderson Jr. ในลำดับที่ 2 มากกว่า Bryce Young เพราะอย่าลืมว่าพวกเขายังมีสิทธิ์ในลำดับที่ 12 ที่ได้มาจาก Cleveland Browns อยู่ (และมีอีก 3 สิทธิ์ 2/33, 3/65, 3/73)ซึ่งจากตรงนั้นมันสามารถเทรดขึ้นมาแถวๆ ลำดับ 5-8 ได้ ซึ่งกรณีว่าไม่เอา Bryce Young พวกเขาก็ยังสามารถเลือก C.J. Stroud หรือ Will Levis ได้ ซึ่ง QB อย่าง Bryce Young หรือ C.J. Stroud ก็เห็นจากฤดูกาลที่ผ่านมาว่าเมื่อ Pocket แตก พวกเขาเอาตัวรอดได้ไม่ดีเท่าไหร่ ส่วน Will Levis นั้นแม้จะไม่ดังเท่า 2 รายแรก แต่สื่อมองว่ามีประสบการณ์ได้เล่น กับโค้ชมหาวิทยาลัยที่ทำทีมในระบบเดียวกับลีกอาชีพ จึงน่าจะสามารถปรับตัวเข้ากับ NFL ได้เร็ว ดังนั้นสมมติในกรณีว่า Texans ได้ Will Anderson Jr.+Will Levis จากนั้นก็มองหา OL, LB และ DB ในรอบกลางและท้ายน่าจะเป็นทางที่น่าจะดีกว่า
.
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
.

Arizona Cardinals
.

.
สถิติปี 2022 : 4-13
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 2 สิทธิ์ >> R1(3), R2(35)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- อาการบาดเจ็บของ Kyler Murray ช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล และการขาดหายไปของ DeAndre Hopkins ปีกนอกมือ 1 ช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล
- การเรียกแผนสุ่มเสี่ยงเกินไปของ Kliff Kingsbury ทำให้ปีนี้พลาดค่อนข้างบ่อย
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
ตอนนี้ปัญหาใหญ่คือใครจะมาแทน Kliff Kingsbury แล้วคนที่มาแทนจะใช้งาน Kyler Murray อย่างไร ตอนนี้หลายๆ กระแสมองไปที่ Shane Steichen, OC ของ Philadelphia Eagles หลักๆ เลยน่าจะด้วยเหตุผลว่าปัจจัยของทั้ง 2 ทีมคล้ายๆ กัน Eagles มี Jalen Hurts ขณะที่ Kyler Murray ก็แทบจะเป็น QB dual-threat ที่เล่นสไตล์คล้ายคลึงกัน ดังนั้น Shane Steichen ก็มาถึงก็แทบจะเอาประสบการณ์ที่มีมาสร้างทีมใหม่ได้แทบจะทันที แต่กลับกันถ้าเกิดว่า HC คนใหม่ไม่ใช่ Shane Steichen ขึ้นมา แนวทางการเล่นของ Kyler Murray จะไปในทิศทางไหน
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
Zach Allen น่าจะเป็นชื่อแรกที่นึกออก ถามว่าทำไม Zach Allen เป็นตัวหลักในแผง DL ของทีมชุดปัจจุบันซึ่งเคียงข้างด้วย J.J. Watt ซึ่งรายหลังประกาศรีไทร์แล้ว ถ้าเสียแกนหลักซ้าย-ขวาออกไปพร้อมๆ กัน ผมว่ามีผลเยอะแน่ๆ กับเกมรับในฤดูกาลใหม่ Zach Allen เพิ่งทำสถิติ 35 quarterback pressures กับอีก 8.3% pressure rate ซึ่งเป็น Career High ของเจ้าตัวด้วย ที่เหลือคือการต่อสัญญากับบรรดาแกนหลักในแผง OL ให้ได้อย่างน้อยก็ 1-2 คน หรืออย่างน้อยๆ ก็รั้ง Kelvin Beachum หรือ Will Hernandez คนใดคนหนึ่งให้อยู่กับทีมต่อไป เพราะตัวหลัก 5 คนในแผง OL หมดสัญญาพร้อมๆ กันถึง 4 คน มีเพียง D.J. Humphries คนเดียวที่มีสัญญาเหลืออยู่กับทีม
.
Byron Murphy Jr. ตัวคุมปีกดาวรุ่งที่ดราฟต์มาในรอบ 2 ของปี 2019 มาตอนนี้ครบ 4 ปีรุกกี้แล้ว แม้ปีนี้จะได้ลงสนามเพียง 9 เกม แต่ก็เป็นอีกคนที่สมควรได้รับสัญญาฉบับใหม่ ที่ผ่านมาเขาเป็นตัวคุมปีกที่ไว้ใจได้มากที่สุดของทีม ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาเขาทำไปถึง 34 pass breakup แต่ทีมก็ต้องยอมรับว่าสัญญาฉบับใหม่คงมีมูลค่าสูงไม่น้อย และถ้าทีมไม่สู้ราคาก็จะมีทีมอื่นพร้อมจะเข้ามารับไปใช้งานต่อค่อนข้างแน่ และสำคัญที่สุด คือเตะ Robbie Anderson ทิ้งไปซะ ไม่รู้ไปเทรดมาทำไม เทรดมาแล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรเลย เตะทิ้งไปก็จะได้ cap space มาอีก $12 million แบบไม่มี deadcap ด้วย
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
เวลานี้ดูเหมือนช่วงที่ Kliff Kingsbury อยู่จะมีสิ่งหนึ่งที่ส่งต่อให้ Cardinals ชุดปัจจุบันดูดีแบบคนไม่ค่อยจับตา นั่นก็คือแผง Middle Linebacker 2 ดาวรุ่งที่ลงทุนดราฟต์มาในรอบแรก 2 ปีซ้อนอย่าง Isaiah Simmons และ Zaven Collins ดูไปต่อได้ เหลือเพียงแค่ตำแหน่ง EDGE ที่ต้องบอกว่าที่ผ่านมานับตั้งแต่เสียตัวหลักอย่าง Chandler Jones และ Haason Reddick พวกเขายังหาคนมาทดแทนไม่ได้ ดังนั้นน่าจะเป็นตำแหน่งที่ทีมอาจจะตัดสินใจมองหาตัวประสบการณ์มาประคองเด็กอย่าง Myjai Sanders และ Cameron Thomas ไปก่อน Justin Houston เป็นตัวเลือกที่ดี หรือถ้าจะวัดดวงหน่อยก็น่าจะเป็น Jadeveon Clowney ของ Browns เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากเช่นกัน
.
ที่สำคัญอีกอย่างคือถ้าทีมเทรด DeAndre Hopkins ออกไปตามข่าวจริง Marquise Brown ก็จะขยับขึ้นมาเป็นปีกมือ 1 แทน แต่ปัญหาคือปีกนอกคนอื่นๆ ที่เหลือไม่มีใครไว้ใจได้เลยไม่ว่าจะเป็น Rondale Moore, Greg Dortch หรือแม้แต่ Pharoh Cooper ดังนั้นพวกเขาอาจจำเป็นต้องมองหาปีกเข้ามาเสริม ซึ่งต้องยอมรับว่าปีนี้ตัวเลือกในตลาดที่ดูเหมาะกับการเล่นของ Kyler Murray นั้นไม่ค่อยมีเลย ที่พอเป็นไปได้บ้างก็น่าจะเป็น Olamide Zaccheaus หรือ Darius Slayton
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
จากลำดับการดราฟต์ สิ่งแรกที่ Cardinals ต้องภาวนาคืออย่ามีใครเลือก Jalen Carter ไปก่อน เพราะเขาคือคนที่เหมาะที่สุดที่จะมาแทนการจากไปของ J.J. Watt แต่กรณีสมมติว่า Jalen Carter ไม่อยู่แล้ว การตัดสินใจดราฟต์ OT อย่าง Peter Skoronski ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการเลือก Brian Bresee หรือ Myles Murphy จาก Clemson อันนี้ผมมองในมุมว่า Clemson เล่น Defensive Schemes 4-3 แล้วก็อาจจะเทรดขึ้นมาท้ายรอบแรกเพื่อเก็บปีกนอกอย่าง Josh Downs หรือ Jalin Hyatt ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
กับอีกกรณีคือ เปิดรับข้อเสนอขอเทรดจากทีมอื่นๆ ซึ่งผมเชื่อว่าลำดับ 3 ของ Cardinals น่าจะถูกจับตามองมากที่สุดในการดราฟต์ครั้งนี้ ด้วยเหตุผลว่าเป็นลำดับที่ทีมอื่นๆ สามารถต่อรองได้ เป็นลำดับที่กดดันทีมอย่าง Indianapolis Colts แถม Cardinals ไม่มีความต้องการดราฟต์ QB ดังนั้นการที่ Chris Ballard, GM ของ Indianapolis Colts เปรยๆ ว่าเขาพิจารณาความเป็นไปได้ในการเทรดอัพเพื่อคว้าตัว QB นั้น เขาน่าจะไม่ได้หมายถึงลำดับที่ 1 ของ Bears แต่น่าจะเป็นลำดับที่ 3 ของ Cardinals เพื่อการันตีคนที่ตัวเองต้องการมากกว่า ซึ่งเราอาจจะได้เห็นการเทรดสลับลำดับระหว่าง Colts กับ Cardinals ก่อนวันดราฟต์จะเริ่ม ซึ่งการสลับกันไม่กี่ลำดับในช่วง top5 เป็นสถานการณ์ที่เราเห็นบ่อยครั้งในระยะหลังๆ คือ เทรดเพื่อการันตีลำดับของตัวเอง เช่น ปี 2017 Bears(3)-Niners(2) ที่ Bears ขึ้นไปเก็บ Mitchell Trubisky, ปี 2019 Jets(6)-Colts(3) ที่ Jets ขึ้นไปดราฟต์ Sam Darnold เป็นต้น

Indianapolis Colts
.

.
สถิติปี 2022 : 4-12-1
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 2 สิทธิ์ >> R1(4), R2(36)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- ยังหา franchise quarterback ไม่เจอ 8 ปี เปลี่ยน 8 คน ปีหน้าจะเป็นคนที่ 9 ชัวร์ 100%
- ปีนี้มีปัญหาตัวผู้เล่นหลักบาดเจ็บหลายคน โดยเฉพาะการขาดหายไปของ Jonathan Taylor และ Shaquill Leonard, Kenny Moore
- แนว OL มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา โดยเฉพาะตำแหน่ง LT กับ RG ส่งผลกับการเปิดทางวิ่งในปีนี้ค่อนข้างมาก แถมปีนี้ผลงานของ Ryan Kelly กับ Quenton Nelson ดูดรอปลงจากปีก่อน
- ปีนี้บรรดา Defensive back ผลงานไม่ค่อยดี
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
ต้องบอกว่านับตั้งแต่เปลี่ยนจาก Baltimore Colts มาเป็น Indianapolis Colts ในปี 1984 พวกเขาดราฟต์ QB ในรอบแรกเพียงแค่ 3 ครั้ง ที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ ทั้ง 3 ครั้งดราฟต์ด้วยสิทธิ์ลำดับที่ 1 ทุกครั้ง ไล่ตั้งแต่ Jeff George(1990), Peyton Manning(1998) และ Andrew Luck(2012) มันเลยชวนให้คิดไม่น้อยว่าหรืออาจจะยังไม่ถึงเวลาที่ Indianapolis Colts จะดราฟต์ QB ในรอบแรกในปีนี้ พวกเขาอาจจะยึดรูปแบบเดิมไปต่ออีกปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเข้ามาเป็น HC คนใหม่ของทีม ตัวเต็งก่อนหน้านี้คือ Jim Harbaugh กับ Ben Johnson ทั้งคู่ก็ประกาศแล้วว่าจะอยู่ที่เดิมต่อ ส่วน Eric Bieniemy นี่คงไม่มีวาสนาได้คุมทีมแล้วล่ะสัมภาษณ์มากี่ปี กี่ทีมแล้วก็ไม่ได้งานซักที ทำให้ตัวเลือกที่ดูเป็นไปได้ก็จะเหลือแค่ Leslie Frazier หรือเซอร์ไพรส์หน่อยก็ Dan Quinn ซึ่งเป็นโค้ชสายเกมรับทั้งคู่ และถ้าเป็นแบบนี้ก็มีโอกาสสูงที่ Colts จะมองหา QB ในตลาดแทนที่จะดราฟต์เอง ตรงนี้ถ้าเป็น Dan Quinn ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ Colts จะให้โอกาส Matt Ryan อีกปีแต่ถ้าเป็น Leslie Frazier ก็อาจจะเป็น Mitchell Trubisky หรือล่าสุดมีข่าวกับ Rich Bisaccia อดีตโค้ชขัดตาทัพของ Raiders ช่วงที่ปลด Jon Gruden ออกไป ซึ่งปัจจุบันทำงานเป็นหัวหน้าโค้ชทีมพิเศษของ Packers ซึ่งถ้าเลือกรายนี้ก็อาจจะเอา Derek Carr มาใช้งาน ซึ่งทั้งหมดก็ไม่แน่ HC คนใหม่อาจจะตัดสินใจแทงก์เพื่อเอา 2024 no.1 pick เพื่อเลือก Caleb Williams ไปเลยทีเดียวก็เป็นไปได้มากเช่นกัน เพราะดูแล้วถ้าเจ้าตัวไม่บาดเจ็บก็มีโอกาสสูงที่จะเป็น no.1 pick แบบนอนมาในฤดูกาลหน้า เพราะยังไม่เห็นคู่แข่งแบบจ๋าๆ ที่จะมาเทียบกับเจ้าตัวได้ในฤดูกาลนี้ ซึ่งก็เข้าทางกับรูปแบบที่ Colts ชอบดราฟต์
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
Yannick Ngakoue กลับมาสู่ฟอร์มที่ดีอีกครั้ง ปีนี้ทำไปถึง 9.5 sacks เชื่อว่าค่าจ้างฉบับใหม่น่าจะไม่สูงไปกว่าฉบับเดิมแบบก้าวกระโดด และเจ้าตัวน่าจะยอมรับสัญญาระยะสั้น 2-3 ปี ซึ่ง Colts น่าจะจ่ายได้(~$15,000,000/ปี) การจับคู่ของเขากับดาวรุ่งอย่าง Kwity Paye นั้นทำให้เกมรับของทีมโดยเฉพาะแผง DL นั้นลงตัว(รวมถึงแกนหลักอย่าง DeForest Buckner และ Grover Stewart) ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ถ้า Shaquill Leonard ไม่บาดเจ็บ เกมรับของพวกเขาก็น่าจะแข็งแกร่งไม่แพ้ปีก่อนๆ ดังนั้นปีนี้จึงถือว่าดวงแตกไปปีหนึ่ง อีกคนที่ควรเก็บไว้คือ Chase McLaughlin ตัวเตะที่ผลงานปีนี้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ส่วน Bobby Okereke นั้นเป็นทางเลือกที่ดีในการจะรักษาไว้ แต่ที่ผ่านมา Colts มักจะปล่อย LB ออกจากทีมเพราะมักจะปั้นคนใหม่ขึ้นมาทดแทนได้เสมอ ซึ่งดูแล้ว Bobby Okereke ก็อาจจะต้องเก็บข้าวของย้ายออกไปเหมือน Anthony Walker Jr. เพราะเวลานี้ Zaire Franklin น่าจะพร้อมเสียบแทนที่เขาแล้ว แล้ว Colts อาจจะให้สัญญาฉบับถูกๆ กับ E.J. Speed เพื่อเป็นตัวอะไหล่แทน
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
. ปีนี้ตำแหน่งที่ดูแล้ว Colts อาจจะลงไปเล่นในตลาด free agent น่าจะเป็น OG, CB และ WR ด้วยว่า Will Fries นั้นผลงานไม่ดีนักในการขึ้นมาแทนที่ Mark Glowinski และปีนี้เป็นปีที่มี Guard ดีๆ เข้าตลาดค่อนข้างมาก ตัวที่น่าสนใจที่คิดว่า Colts อาจจะไปเอามาก็น่าจะเป็น Nate Davis, RG ของทีมคู่แข่งอย่าง Tennessee Titans ซึ่ง Titans น่าจะไม่มี cap space มากพอจะให้สัญญาฉบับใหม่กับเขาได้ ตัวคุมปีกซักคนที่รับสัญญาไม่เกินปีละ $2,000,000 มีให้เลือกเพียบเลย เอามาเป็นตัว Rotation เพราะยังไงตัวหลักของทีมก็เป็น Stephon Gilmore กับ Kenny Moore III แล้วดาวรุ่งอย่าง Isaiah Rodgers Sr. ก็กำลังพัฒนาขึ้นมา ส่วนตำแหน่งปีกก็คล้ายกันคือตัวหลัก เป็น Michael Pittman Jr. กับ Alec Pierce ทีมอาจจะมองหาปีกมือ 3 มากประสบการณ์อีกซักคน อาจจะเป็น DeAndre Carter, Breshad Perriman หรือ Byron Pringle ก็ไม่เลว
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
มองเป็นสองมุม มุมแรกคือตามที่ผมเดาข้างต้นคือกรณี Colts ตัดสินใจใช้ Matt Ryan ต่ออีกปี หรือเซ็นต์ QB มาจากตลาด free agent แล้วเข้าสู่แทงก์ซีซั่นแบบตรงๆ เพื่อเอา Caleb Williams ในปีหน้า ในรูปแบบนี้ตัวเลือกที่ดีอาจจะเป็น Peter Skoronski หรือ Parris Johnson Jr. ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดี แม้ว่าทีมจะเพิ่งดราฟต์ Bernhard Raimann มาเมื่อปีที่แล้ว แต่เชื่อว่า Peter Skoronski มีภาษีดีกว่าในการจะมาเป็นตัว LT ใช้งานยาวๆ หรืออีกกรณีคือเอา Myles Murphy มาแล้วตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับ Yannick Ngakoue ก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสม แต่อีกกรณีคือ Colts หักแนวทางเดิมๆ ตัดสินใจดราฟต์ QB ไปเลย แน่นอนว่า Bryce Young กับ C.J. Stroud เป็นตัวเลือกที่แฟนๆ ชอบ แต่ผมว่า Chris Bullard น่าจะดราฟต์ Will Levis ในลำดับที่ 4 มากกว่า

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Seattle Seahawks(via Denver Broncos)
.

.
สถิติปี 2022 : 9-8
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 4 สิทธิ์ >> R1(5)(from Denver), R1(20), R2(38)(from Denver), R2(52)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- ไม่เชิงว่าเป็นปัญหา แต่ผลงานของ Geno Smith อาจจะทำให้ทีมชะลอการมองหา QB ดาวรุ่งตั้งแต่รอบต้นๆ ในปีนี้ออกไป โดยทีมอาจจะไปโฟกัสที่รอบ 2 หรือ 3 แทน
- แนวรับโดยเฉพาะกลุ่ม front 7 ยังไม่นิ่ง โดยเฉพาะตำแหน่ง Defensive End และคนที่จะมาทดแทนการจากไปของ Bobby Wagner
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
เป็นฤดูกาลที่เรียกว่าประสบความสำเร็จเกินกว่าที่คาดเอาไว้ Geno Smith จากที่ถูกมองว่าเป็นแค่ QB ขัดตาทัพชั่วคราว กลับทำผลงานยอดเยี่ยมจนติดทีม Pro Bowl ปีนี้ผลงานเขาอยู่ที่ 79.8 overall grade และจะดีขึ้นไปอีกถ้าได้อยู่ใน clean pocket ส่วนหนึ่งต้องให้เครดิตแก่บรรดา OL ของทีมที่มีการพัฒนาการดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ไฮไลท์สำคัญอีกอย่างก็คือปีนี้เขาขว้างทัชดาวน์ด้วยระยะมากกว่า 20 หลาได้ถึง 14 ครั้ง และทำ bigplay มากเป็นลำดับที่ 5 ร่วม เมื่อเทียบกับบรรดา QB ในลีก นั่นทำให้ทีมอาจจะต้องคิดแล้วว่าจะเอายังไงต่อ แต่ผมเชื่อว่าทีมอาจจะไม่ให้สัญญาระยะยาวกับ Geno Smith เพราะเสี่ยงเกินไป มันมีโอกาสไม่น้อยที่อาจจะเป็น one year miracle ดังนั้นมีโอกาสสูงที่ทีมจะตัดสินใจใช้ Franchise Tag กับเจ้าตัว ซึ่งน่าจะเป็นทางเลือกที่คิดว่า win-win ทั้งสองฝ่าย
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
นอกจาก Geno Smith แล้ว ตัวที่ทีมควรจะเก็บไว้น่าจะเป็น Cody Barton ซึ่งปีนี้ผลงานโดดเด่นขึ้นมาเพราะได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง หลังจากเป็นสำรองให้ Bobby Wagner อยู่กว่า 3 ปี แถมปีนี้ ตัวหลักอย่าง Jordyn Brook เริ่มมีอาการบาดเจ็บรบกวน ตัวเลือกที่เหลือแทบไม่ใช่ผู้เล่นที่จะมาลงในตำแหน่ง MLB ดังนั้นทีมน่าจะต่อสัญญาระยะสั้นๆ กับเจ้าตัวเอาไว้ใช้งานก่อน แล้วอาจจะมีการดราฟต์ผู้เล่นในตำแหน่งนี้มาเสริมในรอบกลางๆ ส่วนอีกคนที่มีโอกาสได้รับการต่อสัญญาคือ Ryan Neal, S ที่ขึ้นมารับตำแหน่งตัวหลักแทนที่อาการบาดเจ็บยาวของ Jamal Adams, S ตัวเก่งของทีม
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ทีมน่าจะมองหา C ประสบการณ์สูงมาเป็นผู้นำในแนว OL เพราะบรรดาตัวหลัก โดยเฉพาะ Tackles ทั้ง 2 ฝั่งเป็นเด็กรุกกี้ รวมไปถึง LG อย่าง Damien Lewis ด้วย ดังนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีคนที่มีประสบการณ์คอยประคอง ปีที่ผ่านมาใช้ Austin Blythe ผลงานกลางๆ ไม่เด่น แต่ก็ไม่ถึงขั้นว่าย่ำแย่จนน่าเกลียด ถ้าทีมไม่ต่อสัญญากับเขาออกไป Matt Skura ก็เป็นทางเลือกที่ดี
.
และอีกตำแหน่งที่น่าสนใจ T.J. Edward, LB ของ Philadelphia Eagles น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่ทีมจะเอามาเพื่อแทน Bobby Wagner ด้วยเช่นกัน แม้ว่าทีมอาจจะต่อสัญญากับ Cody Barton แต่การได้ T.J. Edward เข้ามาก็จะทำให้แผง LB ของทีมแน่นขึ้นและค่าจ้างของเจ้าตัวก็ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับ LB ชื่อดังคนอื่นๆ ปีนี้ T.J. Edward เป็น 1 ใน 4 ของ ILB ที่มีเรทติ้งเกิน 75.0 ในเกม run defense และ coverage
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
ปีนี้ Seahawks มีสิทธิ์รอบแรกในมืออยู่ 2 สิทธิ์ คือลำดับที่ 5 และ 20 เชื่อว่าสิทธิ์ในลำดับที่ 5 ของ Seahawks จะถูกใช้ไปกับตำแหน่ง Edge ค่อนข้างแน่ ยกเว้นกรณีว่า Jalen Carter ยังไม่มีใครเอา ดังนั้น 2 ผู้เล่นของ Clemson Tigers อย่าง Myles Murphy หรือ Brian Bresee คนใดคนหนึ่งจะถูก Seahawks เลือกในลำดับนี้ ส่วนลำดับที่ 20 เชื่อว่า Seahawks คงกลับไปสู่รูปแบบเดิมๆ ที่ชอบทำคือเก็บเอาไว้เพื่อหาแลกกับใครซักคนที่อยากขยับขึ้นมา ซึ่งถ้ามองว่าจะเลือกใครช่วงกลางค่อนท้ายรอบแรก มีความเป็นไปได้สูงที่ทีมอาจจะเลือก DB หรือ ILB ในลำดับนี้ ส่วนตำแหน่ง QB ในรอบ 2 หรือ 3 มีความเป็นไปได้ว่า Pete Carroll อาจจะให้ความสนใจ 3 รายคือ Hendon Hooker, Jake Haener หรือ Stetson Bennett

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Detroit Lions(via Los Angeles Rams)
.

.
สถิติปี 2022 : 9-8
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 4 สิทธิ์ >> R1(6)(from LA Rams), R1(18), R2(49)(from Minnesota), R2(56)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- ความไม่สมดุลกันในทีมเกมบุกสุดยอดแต่เกมรับก็สุดเน่าเช่นกัน โดยเฉพาะแผง secondary ทั้งแผงเลย ทีมบุกทำคะแนนได้เท่าไหร่ ทีมรับก็คืนคะแนนให้เขาไปเช่นกัน
- ผลงานของ Jared Goff ที่ Detroit ดูแล้วพัฒนาต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 น่าสนใจว่าทีมจะตัดสินใจดราฟต์ QB เข้ามากดดันเขาหรือไม่ แล้วถ้าดราฟต์มาความกดดันจะส่งผลให้ Jared Goff จะยังคงฟอร์มแบบปี 2022 อยู่หรือไม่
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
แต่เดิม Jared Goff ไม่ได้ถูกคาดหวังมากนักจนกระทั่งการที่ทีมดราฟต์เพชรในตมอย่าง Amon-Ra St. Brown เข้ามาแล้วกลายเป็นปีกที่เล่นกับ Jared Goff ได้ดีเกินคาด เรียกว่า NFC North ก็จะมี Detroit กับ Minnesota ที่มักจะมีปีกดีๆ อยู่ในทีมเสมอในทุกๆ ปี แม้ว่า QB ของทั้ง 2 ทีมนั้นจะเป็นใครก็ตาม เวลานี้เชื่อว่าแฟนๆ Detroit Lions หลายๆ คนเริ่มจะเปลี่ยนใจแล้วว่าบางทีพวกเขาอาจจะไม่จำเป็นต้องมองหา QB คนใหม่ก็ได้ Jared Goff นั้นอายุเพียง 28 ย่าง 29 ปี เขาจะยังสามารถเล่นให้ Detroit ไปได้อีกไม่ต่ำกว่า 5-7 ปี ถ้ายังอยู่ในฟอร์มสม่ำเสมอแบบนี้ไปเรื่อยๆ อีกไม่นานพวกเขาก็อาจจะก้าวขึ้นมามีอนาคตมากกว่าทีมอื่นๆ ใน NFC North เพราะ Vikings กับ Packers ก็กำลังจะเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่าน ส่วน Bears ก็ยังลูกผีลูกคน
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
ตอบแบบไม่ต้องคิดเลย Jamaal Williams คือคนที่ Lions ควรรักษาเอาไว้กับทีม เพราะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ Lions ระเบิดเกมบุกได้อย่างเมามันในฤดูกาลที่ผ่านมา เขาทำไปถึง 1,066 หลากับอีก 17 ทัชดาวน์ เรียกว่าถ้าพาบอลมาจ่อหน้า End Zone ก็ให้ Jamaal ลงมาระเบิดได้เลย รวมไปถึง Brock Wright ปีกในที่มีบทบาทกับทีมมากขึ้นภายหลังจากที่เทรด T.J. Hockenson ออกไป
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ในทีมบุกพวกเขาเหลือเพียงแค่ Tight End ตำแหน่งเดียวที่ดูไม่ลงตัว หลังจากเทรด T.J. Hockenson ไปให้แก่ Vikings ดังนั้นพูดง่ายๆ แต่เอาเข้าจริงๆ เราไม่ค่อยเห็นการประสานงานกันระหว่าง Goff+Hockenson ซักเท่าไหร่ เพราะเป้าหมายหลักคือบรรดาปีกนอกอย่าง St. Brown, Chark, Reynolds, Raymond เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นหรือจะสามารถอนุมานได้ว่า Dan Campbell อาจจะไม่ได้โฟกัสกับตำแหน่งนี้มากถึงขั้นว่าจะดราฟต์ใครเข้ามา ถ้าปีหน้าทีมไม่มั่นใจในตัว Brock Wright ก็อาจจะหาจากในตลาด FA เอา แล้วเทสิทธิ์ดราฟต์ปีนี้ให้ทีมรับเอาไปใช้เสริมทัพหมดเลยก็เป็นได้ ตัวเลือกอย่าง Geoff Swaim หรือ Zach Gentry เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
ปีนี้ Lions มีสิทธิ์ดราฟต์รอบแรก 2 สิทธิ์ ในลำดับที่ 6 และ 18 ดังนั้นมีโอกาสสูงที่ Lions จะเป็นทีมแรกที่ดราฟต์ตัวคุมปีกในปีนี้ ลำดับที่ 6 เชื่อว่าแย่สุดก็แค่มีคนแย่งดราฟต์ไปก่อนซัก 1 คน แต่บรรดาตัวคุมปีกที่ถูกคาดหมายว่าจะอยู่ในรอบแรกของปีนี้มีเยอะ อย่างน้อยๆ ก็น่าจะราวๆ 6 คน ดังนั้น Lions น่าจะช็อปปิ้งคนที่ตัวเองอยากได้ในสิทธิ์แรกได้สบายๆ หรือแม้กระทั่งเอาสิทธิ์ไปเทรดให้คนที่อยากขยับขึ้นมาหยิบ QB อย่าง Texans(กรณีหยิบ Edge ในลำดับที่ 2), Panthers, Titans หรรือ Jets ก็ยังได้ เพราะต่อให้ไหลลงไปอยู่กลางรอบแรกก็มีตัวคุมปีกดีๆ เหลือถึงมืออยู่แล้ว ไม่ต้องรีบอะไร เพราะตำแหน่งที่ Lions น่าจะเสริมก่อนในรอบแรกคงหนีไม่พ้นตัวคุมปีก กับ linebacker ซึ่งคลาสนี้ไม่มีใครที่เด่นแบบชัดเจนว่า ต้องรีบหยิบตั้งแต่ top10 ขนาดนั้น ถ้าในเดาเบื้องต้น คิดว่า Lions น่าจะเทรดสิทธิ์ให้ทีมอย่าง Panthers หรือ Eagles แล้วตัวเองหยิบตัวคุมปีกอย่าง Cam Smith, Kelee Ringo หรือ Brian Branch ในสิทธิ์แรก ส่วนอีกสิทธิ์มาดูอีกทีว่าตอนนั้นผู้เล่นอย่าง Trenton Simpson ยังเหลืออยู่มั้ย ถ้าไม่อยู่ ทีมอาจจะเลี้ยวไปหา Defensive End ซักคน อย่าง Isaiah Foskey หรือ Lukas Van Ness

Kansas City Chiefs
.

.
สถิติปี 2022 : 14-3
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 2 สิทธิ์ >> R1(31 หรือ 32), R2(63 หรือ 64)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
จริงๆ พวกเขาแทบไม่มีปัญหาเลย แม้ตอนเริ่มฤดูกาลหลายคนจะตั้งคำถามเรื่องปีกนอกคนที่จะมาแทนที่ Tyreek Hill พอเอาเข้าจริง Andy Reid กับ Eric Bieniemy ก็ปรับแนวทางให้กับ Patrick Mahomes ให้สามารถเล่นเข้ากับปีกชุดใหม่ที่อาจจะไม่มีใครที่สามารถเรียกว่าแทนที่ Tyreek Hill ได้แบบจริงๆ จังๆ โดยโหลดไปอยู่ที่ Travis Kelce ซึ่งก็ทำให้เจ้าตัวมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมอีกฤดูกาล ที่ดูเป็นปัญหากับพวกเขาจริงๆ น่าจะเป็นเรื่องอาการบาดเจ็บของบรรดาผู้เล่นตัวหลักมากกว่า
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
ปีนี้พวกเขาทำผลงานได้น่าประทับใจอีกปี การเข้าชิงแชมป์สาย AFC แถมเป็นการชิงใน Arrowhead Stadium 5 ปีซ้อน การันตีผลงานของพวกเขาได้เป็นอย่างดี AFC กำลังผลัดเปลี่ยนจากการที่มี New England Patriots เป็นเต้ยมาตลอดเปลี่ยนมือสู่ Kansas City Chiefs จะว่าอย่างนั้นก็ได้ ปีนี้พวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่ดีต่อการสร้างทีมเพื่อลุยต่อในฤดูกาลต่อไป เพราะพวกเขาไม่มีปัญหาเรื่องเพดานค่าจ้างเลย แม้จะต้องต่อสัญญาบรรดาผู้เล่นตัวหลักก็ตาม หลักๆ เลยคือทีมมีโอกาสที่จะยกเลิกสัญญากับ Frank Clark, DE ตัวหลักของทีมเพราะจะสามารถเซฟเพดานค่าจ้างได้มากถึง $20,600,000 ซึ่งดูแล้วทีมสามารถจะดัน Mike Danna และ George Karlaftis ขึ้นมาเป็นคู่ตัวหลักแทนเขาได้ เช่นเดียวกับ Marquez Valdes-Scantling ที่จะได้เซฟเพดานค่าจ้างอีก $7,000,000 เช่นกัน
อีกแนวทางหนึ่งที่ผมรู้สึกว่ามีโอกาสเป็นไปได้มากก็คือ เอาสิทธิ์ท้ายรอบแรกไปเทรดผู้เล่นเกรด A มาเลย ตั้งบอกว่านับตั้งแต่ที่ทีมดราฟต์ Patrick Mahomes เข้ามาในปี 2017 รูปแบบการทำทีมของ Andy Reid ดูจะเน้นรีบชิงฉวยโอกาสปั้นทีมในรูปแบบ Win Now บ่อยขึ้น อ้างอิงจากการเอาสิทธิ์ดราฟต์รอบแรกไปเทรดผู้เล่นชื่อดังเข้ามาเพื่อใช้งานเลยแทนที่จะมาเสียเวลาดราฟต์แล้วไปลุ้นว่าจะเกิดไม่เกิด อย่างในปี 2019 ที่ไปเทรดเอา Frank Clark มาจาก Seattle Seahawks หรือปี 2021 ที่เทรด Orlando Brown Jr. มาจาก Baltimore Ravens ดังนั้นในบรรดาผู้เล่นเกรด A ที่เข้าข่ายมีโอกาสเทรดได้ด้วยสิทธิ์ดราฟต์รอบแรกเท่าที่ไล่ๆ ดู ก็มี Derrick Brown, Brian Burns, Montez Sweat, Michael Pittman Jr., Tristan Wirfs และ Antoine Winfield Jr. ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผู้เล่นในตำแหน่งที่ Chiefs ต้องการ
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
แน่นอนว่าน่าจะเป็นการมอบสัญญาก้อนใหญ่ให้แก่ Orlando Brown Jr. ในฐานะที่พิสูจน์ตัวเองได้อย่างเต็มภาคภูมิแล้วว่านี่แหละที่จะเป็น LT คู่กายของ Patrick Mahomes ปีนี้เขาทำผลงาน 88.7 pass-blocking grade ซึ่งดีเป็นอันดับที่ 3 ของลีกเมื่อเทียบกับบรรดา LT ในลีก จากผลงานที่ผ่านมามั่นใจว่าน่าจะได้เงินระดับ top3 ของลีก เกินหลัก $22,000,000 ต่อปีแน่ๆ แต่จะถึงขั้นทำลายสถิติ $23,010,000 ของ Trent Williams หรือเปล่านี่น่าสนใจ
แต่ที่น่าคิดคือชุดปีกนอก ทั้ง JuJu Smith-Schuster และ Mecole Hardman ทีมจะเก็บใครเอาไว้ต่อไปหรือไม่ แต่ต้องยอมรับว่าค่าจ้างของทั้งคู่ไม่สามารถต่อได้ในราคาถูกๆ แน่ๆ อาจจะมีการเรียกร้องขอเกิน $7,500,000 ต่อปี ซึ่งตรงนี้ที่อาจจะใช้คำว่าน่าคิดว่า Andy Reid จะตัดสินใจดัน Skyy Moore ขึ้นมาเป็นตัวหลักก่อนจะมองหาคนอื่นมาเสริมเพิ่มเอาหรือเปล่า
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ส่วนตัวผมมองว่าปีกนอกที่น่าจะเหมาะกับการมาเล่นกับ Patrick Mahomes น่าจะเป็น Jerry Jeudy ของ Denver Broncos แต่ก็นั่นแหละ Broncos ไม่มีวันปล่อย Jeudy ให้กับคู่แข่งร่วมสายแน่ๆ ดังนั้นถ้ามองตัวเลือกอื่นๆ บางทีผมเดาว่า Chiefs อาจจะตัดสินใจเทรดสิทธิ์รอบกลางๆ แลกกับ Darnell Mooney ของ Chicago Bears เพราะมองว่าปีนี้ Bears มีโอกาสสูงที่จะเทรดเอาปีกนอกเกรด A เข้ามา ซึ่งแน่นอนว่าการเข้ามาก็เพื่อจะมาเป็นปีกนอกมือ 1 คนใหม่ของทีม แล้วทีมก็เพิ่งเทรด Chase Claypool เข้ามา ดังนั้นไม่ Claypool ก็ Mooney ก็ต้องมีใครหล่นไปเป็นมือ 3 ดังนั้นถ้าการเอาสิทธิ์รอบ 2 หรือ 3 ไปมอบให้แก่ Chicago Bears เพื่อขอแลกกับตัวของ Darnell Mooney มาก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะเขาดีพอจะเป็นมือ 1 หรือมือ 2 ให้แก่ Chiefs ได้ในฤดูกาลหน้าด้วยค่าจ้างในฤดูกาล 2023 ที่ต่ำกว่า $1,000,000 มีเวลาให้ Chiefs ตัดสินใจ 1 ปีว่าจะมอบสัญญาใหญ่ให้เขาหลังจากฤดูกาล 2023 หรือไม่
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
ปีนี้ต้องยอมรับว่า Chiefs ไม่ค่อยน่ากังวลเท่าไหร่ เพราะบรรดาขุมกำลังหลักของพวกเขาทั้งทีมบุกและทีมรับเรียกว่าอยู่กันแทบจะครบทุกตำแหน่ง พวกเขาแทบไม่มีอะไรที่ต้องกังวลเลย ถ้ามองว่าทีมไม่มีการเอาสิทธิ์รอบแรกไปเทรดกับใครก่อน ตำแหน่งที่ดูแล้วมีโอกาสที่ทีมจะดราฟต์ในท้ายรอบแรกก็น่าจะมี WR สาย Vertical Treat อย่าง Jalin Hyatt หรืออาจจะชิงดราฟต์ Tackle ร่างยักษ์อย่าง Dawand Jones ตั้งแต่ท้ายรอบแรกเพื่อเอามาเป็น RT ตัวหลัก และอีกตำแหน่งที่ท้ายรอบแรกน่าจะมีให้เลือกเยอะก็คือ CB อย่าง CHristian Gonzalez หรือ Joey Porter Jr.
.
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
.

Los Angeles Rams
.

.
สถิติปี 2022 : 5-12
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 1 สิทธิ์ >> R2(37)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- Offensive Line ชุดใหม่พังมากโดยเฉพาะฝั่งซ้าย
- อาการบาดเจ็บของ 2 ตัวหลักในเกมบุกอย่าง Matthew Stafford และ Cooper Kupp
- Allen Robinson ปีกนอกตัวความหวังที่มาแทน Robert Woods ดูเล่นไม่เข้าขากับ Matthew Stafford เลย
- Edge Rusher ชุดปัจจุบันมีเพียง Leonard Floyd ที่ผลงานยังคงเดิม แม้แต่ตัวเทพอย่าง Aaron Donald ก็ดูดรอปลงไป
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
ปีนี้พวกเขาเจอปัญหาใหญ่ เพราะผลจากการทำ All-In Win Now ของพวกเขาส่งผลในปีนี้แล้ว 5 ผู้เล่นตัวหลักอย่าง Cooper Kupp, Aaron Donald, Jalen Ramsey, Matthew Stafford และ Leonard Floyd กินค่าเหนื่อยเกิน $20,000,000 ทุกคน แถมติด Deadcap มหาศาลทุกคน ถัดลงไปอีกหน่อย Allen Robinson กับ Joseph Noteboom ก็กินค่าเหนื่อยมากกว่า $15,000,000 ดังนั้นมีโอกาสสูงที่ทีมจะเทรดทิ้งหลายคน คนที่สุ่มเสี่ยงก็น่าจะเป็น Jalen Ramsey, Leonard Floyd และ Allen Robinson ที่น่าห่วงกว่าคือ Aaron Donald อาจจะตัดสินใจ retire ไปเลย หลังจากที่เปรยๆ ว่าจะเลิกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ดังนั้นถ้าพูดกันตามตรงหลักๆ แล้วตอนเริ่มฤดูกาลหน้าแกนหลักในทีมของ Sean McVay อาจจะเหลือแค่คู่ดูโอ Matthew Stafford+Cooper Kupp ก็ได้
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
ด้วยปัญหาเพดานค่าจ้างที่เหลือไม่มาก คิดว่าตัวสำคัญๆ อย่าง Taylor Rapp, Troy Hill หรือ Greg Gaines น่าจะต้องเก็บข้าวของไปอยู่ที่อื่น ดังนั้นโอกาสที่ Rams จะเซ็นต์กลับน่าจะเป็นพวกที่จะเอาเก็บไว้ rotation อย่าง Michael Hoecht ซึ่งปีนี้ได้ลงสนามและทำผลงานพอใช้ได้ และน่าจะยินดีที่จะรับสัญญาใหม่ในราคาย่อมเยา
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ถ้าจะมีตัวใหม่เข้ามา น่าจะเป็น DB ประสบการณ์ ด้วยเหตุผลว่าบรรดาผู้เล่น DB ของ Rams ส่วนใหญ่มีแต่เด็ก(พูดในกรณีว่าทีมปล่อย Jalen Ramsey ออกไป) ดังนั้นทีมจึงต้องการ DB ที่มีประสบการณ์ไว้คอยประคองบรรดาเด็กดาวรุ่ง และต้องเป็นคนที่น่าจะรับได้กับสัญญาแบบปีต่อปีในราคาไม่เกิน $2,500,000 คนที่เข้าข่ายก็จะมี Logan Ryan, Terrance Mitchell หรือ Bryce Callahan
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
ปีนี้เป็นปีที่ 7 ติดต่อกันแล้วที่ Rams ไม่มีสิทธิ์ดราฟต์รอบแรกในมือ เพราะเอาไปไล่เทรดชาวบ้านเขาหมดแล้ว ยังดีที่มีสิทธิ์รอบ 2 อยู่ เท่าที่ดูแล้ว Rams น่าจะมีหลายตำแหน่งที่ต้องเสริมไล่ตั้งแต่ OG, WR, OT, DL, EDGE, ILB, CB และ S ถ้าดูตามความสำคัญแล้ว ทีมน่าจะต้องเสริม EDGE ก่อน เพราะไม่แน่ว่าถึงเวลานั้นทีมจะยังเก็บ Leonard Floyd เอาไว้ได้อยู่หรือไม่(อาจจะรวมถึง Aaron Donald จะยังเล่นต่อในฤดูกาลหน้าหรือไม่ด้วย) ดังนั้นสิทธิ์แรกที่ Rams มีในมือน่าจะเป็นรอบ 2 ลำดับที่ 36 ตัวเลือกอย่าง Felix Anudike-Uzomah หรือ Zach Harrison เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้า Sean McVay ชอบที่จะเทรดมากกว่าดราฟต์เอง การส่งรอบ 2 หรือ 3 ไปให้ Minnesota Vikings เพื่อขอเทรดเอา Danielle Hunter มาเลยก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม
.
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
.

New Orleans Saints
.

.
สถิติปี 2022 : 7-10
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 1 สิทธิ์ >> R2(41)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- Dennis Allen ไม่เท่ากับ Sean Payton หลังจาก Sean Payton จู่ๆ ก็ประกาศขอเลิกคุมทีมไปแบบงงๆ
- ไม่มี franchise quarterback แถมไม่มีสิทธิ์ดราฟต์รอบแรกในมือด้วย ปีนี้เปลี่ยนแปลง QB ในทีมด้วยหลังจากตัดสินใจต่อสัญญากับ Jameis Winston สุดท้ายแล้วกลับไม่ได้ใช้งานเขา แต่กลายเป็น Andy Dalton ยึดตำแหน่งมือ 1 ไปแทนแล้วทำผลงานพอใช้ได้
- พวกเขามีปัญหาเวลาขึ้นนำคู่ต่อสู้แล้วมักจะฆ่าไม่ตาย สุดท้ายพลิกกลับมาเป็นฝ่ายแพ้ในตอนสุดท้ายหลายเกม ดังนั้นทีมอาจจะพิจารณาแล้วว่าจะทำยังไงกับ Pete Carmichael, OC คนปัจจุบัน
- ทีมรับของ Dennis Allen แม้จะผลงานในภาพรวมยังพอใช้ได้ แต่ปัญญาใหญ่คือปีนี้การเก็บ turnover ลดลงแบบน่าใจหาย ผ่านมานับตั้งแต่ฤดูกาล 1990 พวกเขาเก็บ turnover ได้อย่างน้อย 8 ครั้งขึ้นไป แต่ปีนี้เหลือเพียงแค่ 3 ครั้งเท่านั้น ซึ่งที่น่าตลกคือ 3 ตัวหลักของทีมที่ย้ายออกไปอย่าง C.J. Gardner-Johnson(6), Vonn Bell(4) และ Marcus Williams(3) เฉพาะผลงานส่วนตัวของพวกเขา เก็บ turnover ในฤดูกาลนี้ได้เท่ากับหรือมากกว่าที่ทีม Saints ทำได้ทั้งปี นอกจากนี้ที่น่าห่วงคือบรรดาตัวหลักของทีมอายุเกิน 30 ปีกันแล้ว และมีแนวโน้มผลงานจะตกลงต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 2
- ปัญหาอาการบาดเจ็บที่รบกวนบรรดาขุมกำลังหลักของพวกเขา ปีนี้บรรดาตัวหลักไล่ตั้งแต่ Marshon Lattimore, P.J. Williams, Bradley Roby, Marcus Maye, Alontae Taylor, Erik McCoy, Pete Werner, Jarvis Landry, Michael Thomas, Deonte Harty ต่างสลับกันไปนอนโรงพยาบาลเป็นระยะๆ ไม่เคยได้อยู่พร้อมหน้ากันเลย ซึ่งเกินครึ่งในบรรดาลิสต์ข้างบนนี้เจออาการบาดเจ็บที่ต้องพักมากกว่า 4 เกม
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
ต้องบอกว่าน่าลำบากใจไม่น้อย เพราะนี่เป็นปีที่ 2 หรือ 3 ติดต่อกันแล้วที่พวกเขาต้องมาคอยไล่เคลียร์ cap space เพราะปีนี้ก็ติดลบอีกบานกว่า $-52,851,512 แต่ก็ต้องยอมรับว่า Saints เป็นทีมที่เก่งในการเคลียร์ cap space เพราะอย่างปีล่าสุดที่ติดลบมากกว่า $-70 millions แต่สุดท้ายทีมก็ยังไปคว้าเอาคู่หู S อย่าง Tyrann Mathieu และ Marcus Maye เข้ามาร่วมทีมได้แบบที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน แถมยังจ่ายสัญญาแพงๆ ให้ทั้งคู่ได้อีก แต่สิ่งที่ทีมต้องแลกคือก็จะไม่สามารถรักษาสตาร์ของทีมที่หมดสัญญาในปีนั้นทั้งหมดได้เช่นกัน เหมือนกับปีที่แล้วที่เสีย Terron Armstead, Marcus Williams และ Kwon Alexander ออกไปหมด
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
สิ่งที่เราเรียนรู้จาก Saints ที่เผชิญกับสถานการณ์ cap space ระเบิดหนักๆ เลยก็คือ พวกเขาจะไม่รั้งบรรดาสตาร์ที่หมดสัญญา นั่นแหละเพราะพวกเขาน่าจะรู้อยู่แล้วว่ายังไงก็ต่อสัญญาไม่ได้ ดังนั้นค่อนข้างจะมั่นใจว่าคงทำแบบเดิม คือใครหมดสัญญาแล้วก็ขอบคุณนะ แยกย้าย ดังนั้นปีนี้ Bradley Roby, David Onyemata, Deonte Harty, Marcus Davenport, Jarvis Landry, Shy Tuttle และอาจจะรวมถึง Andy Dalton ด้วย น่าจะย้ายออกไปทั้งหมด ถ้าจะมีใครที่คิดว่าทีมอาจจะต่อสัญญา ผมเดาว่าอาจจะเป็น Kentavius Street เพราะปีนี้ทีมเสียทั้ง David Onyemata และ Shy Tuttle คู่ DT ตัวจริงออกไปพร้อมๆ กัน ดังนั้นตัว rotation ที่ฤดูกาลก่อนใช้ลงมาสลับแล้วผลงานไม่เลว อาจจะได้รับสัญญาฉบับเล็กๆ ราคาไม่แรงเพื่ออยู่ช่วยงานต่อ ดีไม่ดีอาจจะได้การันตีว่าจะได้เป็นตัวจริงเลยด้วยซ้ำ
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ต้องยอมรับว่า Saints เป็นทีมที่เก่งในการเคลียร์ cap space เพราะอย่างปีล่าสุดที่ติดลบมากกว่า $-70 millions แต่สุดท้ายทีมก็ยังไปคว้าเอาคู่หู S อย่าง Tyrann Mathieu และ Marcus Maye เข้ามาร่วมทีมได้แบบที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน แถมยังจ่ายสัญญาแพงๆ ให้ทั้งคู่ได้อีก ดังนั้นปีนี้ Saints อาจจะมีเซอร์ไพรส์ดึงสตาร์เข้ามาแบบไม่คาดคิดอีก คนที่น่าสนใจอาจจะเป็น Derrick Nnadi, DT ของ Chiefs ซึ่งอาจจะมาแบบสัญญา 2-3 ปี เฉลี่ยปีละ $5-6 millions หรือถ้าจะเซอร์ไพรส์หนักๆ กว่านั้น Saints อาจจะพุ่งไปดึง Da’Ron Payne มาแบบช็อคตลาดเลยก็เป็นไปได้ แล้วค่อยไปเคลียร์ cap space กันใหม่เมื่อจบฤดูกาล 2023

คาดการณ์ดราฟต์ :
ปีนี้ทีมไม่มีสิทธิ์ดราฟต์รอบแรกหลังจากปีที่แล้วเอาไปเล่นแร่แปรธาตุ 2-3 รอบ จนสุดท้ายสามารถพุ่งขึ้นไปชิงดราฟต์ตัว Chris Olave ได้ในลำดับที่ 11 ซึ่งผลลัพท์สำหรับปีแรกของเจ้าตัวถือว่าสอบผ่าน มีแววจะก้าวขึ้นไปเป็นปีกนอกมือ 1 ของทีมได้ใน 1-2 ปีนี้ ดังนั้นปีนี้ Saints จะได้เลือกในรอบ 2 ลำดับที่ 40 ถ้าพิจารณาจากขุมกำลังที่ทีมมีในตอนนี้ มีโอกาสเป็นไปได้อยู่ 3 ตำแหน่ง คือ DT เพราะปีนี้ตัวหลักหายพร้อมกัน, WR เพราะต้องยอมรับว่าคงจะหวังกับ Michael Thomas ไม่ได้แล้ว อยู่ก็เจ็บออดๆ แอดๆ เทรดก็ไม่มีใครอยากดีลด้วย จะตัดตัวทิ้งก็ไม่ได้ติด deadcap มหาศาล คงต้องปล่อยให้อยู่ไปเรื่อยๆ แบบนี้ไปก่อน ดังนั้นถ้าเราโฟกัสที่ 2 ตำแหน่งกับลำดับแถวๆ กลางรอบ 2 คนที่ดูเป็นไปได้ก็มี Jaquelin Roy(DT), Lukas Van Ness(DE/DT), A.T. Perry(WR), Marvin Mims(WR) หรือ Nathaniel Dell(WRs) และอีกคนที่ดูมีแนวโน้มว่าถ้ารอบแรกไม่มีใครดราฟต์ไปก่อน และ Saints ไม่ได้สิทธิ์รอบแรกเพิ่มเข้ามาด้วยเหตุผลต่างๆ ผมว่า Saints อาจจะเทรดขึ้นไปต้นรอบ 2 เพื่อชิงเก็บก็คือ Hendon Hooker, QB ของ Tennessee Volunteers

จริงๆ ปีนี้ Saints มีโอกาสจะยอมเทรดสตาร์บางคนออกไปเพื่อแลกกับสิทธิ์ดราฟต์รอบ 1 หรือ 2 โดยเฉพาะ 2 คน คือ Ryan Ramczyk หรือ Marshon Lattimore ให้จับตามองทีมที่มีสิทธิ์ดราฟต์ในช่วงกลาง-ท้ายรอบแรกและมี cap space เหลือเยอะๆ อย่าง Giants, Bengals, Patriots, Ravens หรือ Raiders ไว้ให้ดีๆ พวกนี้อาจจะยื่นรอบแรกมาขอแลกคนใดคนหนึ่งไปได้

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Cleveland Browns
.

.
สถิติปี 2022 : 7-10
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 1 สิทธิ์ >> R2(43)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- การเปลี่ยนแปลง QB ในฤดูกาล 2022 แน่นอนว่าโทษแบนของ Deshaun Watson ที่ยาวถึง 11 เกมมันดูเหมือนเป็นการปิดฤดูกาลของ Browns ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว พวกเขาภาวนาแค่ให้ Jacoby Brissett ประคองผลงานของทีมให้ยังอยู่ในพื้นที่ที่สามารถจะลุ้นได้หลังจากจบสัปดาห์ที่ 10 แต่มันไม่เป็นใจ แถมเมื่อ Deshaun Watson กลับมาจากโทษแบน ดูเหมือนผลงานของเขาจะยังไม่ดีเหมือนตอนอยู่กับ Houston Texans
- ปีนี้เกมป้องกันเกมวิ่งของพวกเขาย่ำแย่มาก อยู่ลำดับท้ายๆ ของลีก ซึ่งไม่น่าแปลกใจเพราะพวกเขามี DT อย่าง Jordan Elliott, Taven Bryan และ Tommy Togiai ซึ่งสื่อมองว่าเป็น undersized แถม 2 ตัวหลักในแนว linebacker อย่าง Anthony Walker Jr. และ Jeremiah Owusu-Koramoah ก็บาดเจ็บหนักพักยาวทั้งคู่ ทำให้การป้องกันเกมวิ่งยิ่งยวบ
- ปัญหาเรื่องขุมกำลังบางส่วนก็มาจากการเทรด Deshaun Watson พร้อมกับมอบสัญญาฉบับโอเวอร์ให้เจ้าตัวนั่นแหละ เรียกว่าจ่ายให้ปีละ $46,000,000 ทุกปีๆ เป็นเวลา 5 ปีติด แถมติด Deadcap มหาศาลจนเรียกว่า released ทิ้งไม่ได้ แม้จะเป็นปีสุดท้ายของสัญญา เพราะดันไปการันตีเต็มจำนวนสัญญา ส่งผลให้ทีมอาจจะหาสตาร์มาร่วมทีมในสัญญาใหญ่ๆ ในอนาคตไม่ได้
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
หลักๆ ช่วงปิดฤดูกาลนี้พวกเขาน่าจะยังไม่ห่วงมาก แค่ให้บรรดาตัวหลักได้มีเวลาซ้อมทำความคุ้นเคยกันให้มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้ Deshaun Watson ได้เรียกฟอร์มเก่งเหมือนสมัยที่เล่นกับ Houston Texans กลับมา ปีนี้ทีมโชคดีที่บรรดาทีมบุกอยู่กันพร้อมหน้า ตัวหลักของฝั่งทีมบุกที่หมดสัญญามีเพียง Kareem Hunt, D'Ernest Johnson และ Ethan Pocic สองรายแรกเป็นตัววิ่งสำรอง ส่วน Ethan Pocic นั้นมาแทน J.C. Tretter ซึ่งปีนี้มีความเป็นไปได้ว่าทีมอาจจะปล่อยตัวออกไปทั้งหมด ส่วนฝั่งทีมรับปีนี้อาจจะมีกระเทือน เนื่องจากตัวสำคัญๆ อย่าง Jadeveon Clowney คู่หูของ Myles Garrett หมดสัญญา ซึ่งจุดนี้น่าจะกระทบเยอะ เพราะทีมคู่ DT ก็ผลงานไม่ดีอยู่แล้วถ้ามาเสีย Jadeveon Clowney ไปอีกคนเท่ากับว่า DL ของ Browns จะเหลือแค่ Myles Garrett คนเดียวที่ไว้ใจได้ และอีกคนที่สำคัญคือ Anthony Walker Jr., MLB ที่หมดสัญญากับทีมเช่นกัน ซึ่งจะทำให้แผง LB ยวบไปเยอะเพราะ Jeremiah Owusu-Koramoah ก็เพิ่งจะเจ็บหนักมา แล้วคนที่เหลืออยู่ ก็มีแต่พวกที่เซ็นต์เอามาเป็นอะไหล่แต่ประสบการณ์ในการเป็นตัวจริงแทบไม่มี ยังดีที่ชุด Defensive Back ยังอยู่กันพร้อมหน้า
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
เอาจริงๆ คือ Browns น่าจะไม่มี cap พอจะต่อสัญญากับ Jadeveon Clowney ค่อนข้างแน่แล้ว ดังนั้นปีหน้าอาจจะต้องให้ Alex Wright ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักแทน ซึ่งผลงานปีนี้ยังเรียกว่าน่าเป็นห่วง ทีมอาจจะต้องดราฟต์เข้ามาเสริม แต่ถ้าจะมองว่าทีมควรจะเก็บใครไว้ ส่วนตัวผมเชียร์ให้ต่อสัญญาระยะสั้นๆ กับ Deion Jones ถ้าสามารถเจรจาให้เจ้าตัวยอมรับสัญญาในราคาไม่แพงไปกว่าฤดูกาลที่ผ่านมาได้ เพราะเจ้าตัวเพิ่งจะ 28 มีดีกรีเป็นอดีตตัวหลักของ Atlanta Falcons มายาวนาน และจะสามารถเล่นในตำแหน่งของ Anthony Walker Jr. ได้ อย่างน้อยประสบการณ์ของเจ้าตัวก็สามารถเป็นแกนหลักให้บรรดาเด็กๆ LB ในทีมได้ แต่ตรงนี้อาจจะต้องระวังทีมอย่าง Pittsburgh Steelers ที่ชอบฉก LB คู่แข่งไปใช้งานด้วย อาจจะมาแจมแย่งตัวได้
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ปีนี้เชื่อว่า Cleveland น่าจะมองหา Defensive End เข้ามาเสริมทัพ เพราะอย่างที่บอก Jadeveon Clowney คงไม่ได้อยู่ต่อ ดังนั้นทีมคงต้องหาตัวที่มีประสบการณ์มาการันตีกรณีว่าดาวรุ่งอย่าง Alex Wright หรือหน้าใหม่ที่ดราฟต์เข้ามาเกิดมีปัญหาเล่นไม่ได้จริงๆ ถ้าเชียร์ใครซักคน ผมว่า Jason Pierre-Paul น่าสนใจ เพราะสามารถเอามาแล้วให้ยืนเป็นตัวจริงได้ทันที ถ้าเจ้าตัวยินดีรับสัญญาปีต่อปีไม่เกิน $2,500,000 ได้แบบที่รับอยู่กับ Baltimore Ravens ในปัจจุบัน แต่ถ้าไม่ก็อาจจะต้องหันไปพึ่งพวก Shaq Lawson, Efe Obada หรือ Carl Nassib เอามา rotation กับบรรดาเด็กๆ ในทีมไปก่อน
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
ปีนี้ทีมไม่มีสิทธิ์ดราฟต์รอบแรกในมือ เพราะเอาไปเทรด Deshuan Watson มาจาก Houston Texans เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ดังนี้ปีนี้สิทธิ์แรกที่ Browns จะได้ใช้คือรอบ 2 ลำดับที่ 42 ดังนั้นคนที่น่าสนใจน่าจะเป็น Lukas Van Ness ของ Iowa Hawkeyes ที่สามารถเล่นได้ทั้ง DT และ DE หรือ Tuli Tuipulotu ของ USC Trojans เพื่อเสริมความแกร่งให้แนว DL ก่อน หรืออีกทางคือเลี้ยวไปเก็บ ILB ตัวดีๆ ของคลาสนี้อย่าง Drew Sanders หรือ Jack Campbell ก่อนในรอบ 2 แล้วค่อยไปเอา Will McDonald IV หรือ Calijah Kancey ในรอบ 3 ถ้ายังไม่มีใครเอา
.
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
.

San Francisco 49ers
.

.
สถิติปี 2022 : 13-4
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : ไม่มีสิทธิ์ดราฟต์ใน 4 รอบแรก(แต่อาจจะได้สิทธิ์ดราฟต์พิเศษ Resolution JC-2A selection(สิทธิ์ที่ลีกมอบเป็นกรณีพิเศษจากกฎที่มีการทีมอื่นมาจ้างงาน staff ของ 49ers ที่ไม่ใช่คนผิวขาวให้ไปร่วมงานด้วย)ในท้ายรอบ 3 ประมาณ 2-3 สิทธิ์ รอลีกประกาศอีกที ที่แน่ๆ ได้จาก กรณี Tennessee Titans แต่งตั้ง Ran Carthon อดีต Director of player personnel ของ 49ers ขึ้นเป็น GM คนใหม่ของทีม และมีแนวโน้มจะได้เพิ่มอีก 1 สิทธิ์ถ้า Texans หรือ Broncos เลือก DeMarco Ryan ไปเป็น HC คนใหม่)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
จริงๆ ต้องบอกว่าฤดูกาลนี้แม้ช่วงต้นพวกเขาจะเริ่มได้ไม่ค่อยดีนัก แต่พอเริ่มเข้าที่เข้าทางหลังจากสัปดาห์ที่ 7 พวกเขาก็เก็บชัยชนะ 10 เกมรวด ส่วนหนึ่งต้องชมว่าการเทรดเอาตัว Christian McCaffrey มาร่วมทีมกลายเป็นกุญแจสำคัญในเกมรุก ในการพาทีมเก็บชัยชนะ เช่นเดียวกับบรรดาผู้เล่นในเกมรับที่นัดกันเข้าฝักโดยเฉพาะแก๊งค์ front 7 ที่นำโดย Nick Bosa, Fred Warner และ Dre Greenlaw ซึ่งโดดเด่นเป็นพิเศษ ดังนั้นในฤดูกาลนี้ผมคิดว่าสำหรับทีม San Francisco 49ers น่าจะใช้คำว่าไม่น่าจะมีเรื่องอะไรที่ต้องติพวกเขาเลย
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
ปีนี้ทีมอาจจะเปลี่ยน Center คนใหม่อีกรอบ หลังจากปีก่อนเปลี่ยนจาก Alex Mack มาเป็น Jake Brendel ซึ่งตอนแรกผมก็ไม่แน่ใจว่าคนที่ทีมตั้งใจจะให้เล่น C จริงๆ น่าจะเป็น Daniel Brunskill หรือเปล่า แต่นั่นแหละ ปีนี้หมดสัญญาพร้อมกันทั้งคู่ ซึ่งมีโอกาสที่ทีมจะตัดสินใจปล่อยทิ้งทั้งคู่ได้เหมือนกัน หรือมากสุดผมว่าก็อาจจะเลือกเก็บไว้คนนึงแต่คงจะไม่ใช่สัญญาระยะยาว เพราะปีนี้มี C ดีๆ หลายๆ คนเข้าสู่ตลาด FA และหลายๆ คนก็มีแววจะยินดีรับสัญญาแบบปีต่อปีในราคาที่พอๆ กับสัญญาฉบับใหม่ของ Jake Brendel หรือ Daniel Brunskill ดังนั้นจึงมองว่ามีโอกาสสูงที่ทีมอาจจะมองหาผู้เล่นประสบการณ์มากกว่าเข้ามาแทนที่ เช่น Matt Skura, Nick Martin หรือ Sam Mustipher ปีนี้ตำแหน่ง DT ดูผลงานดรอปลงกว่าหลายๆ ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะ Javon Kinlaw ที่ดราฟต์มาในรอบแรกแย่งตำแหน่งจาก Kevin Givens ไม่ได้ และถ้าว่ากันตามตรง Kevin Givens ก็ไม่ถึงขั้นว่าโดดเด่นอะไรมากมาย ซึ่งอาจจะแปลว่าทีมอาจจะพิจารณาเทรด Javon Kinlaw ทิ้งไปในช่วงปิดฤดูกาลนี้ได้
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
Mike McGlinchey น่าจะเป็นตัวที่ทีมคงจะพิจารณาต่อสัญญาให้ในฤดูกาลนี้ เนื่องจากเจ้าตัวเป็นผู้เล่นคนสำคัญในแผน wide-zone rushing attack ซึ่งเป็นแผนเกมวิ่งที่ Kyle Shanahan ใช้อัดเกมรับคู่แข่งได้ผลมาโดยตลอด เชื่อว่าทีมคงไม่ปล่อยให้เขาออกไปไหนแน่ ยิ่งการได้ตัว Christian McCaffrey ตัววิ่งคนดังมาร่วมทีม แปลว่าพวกเขามีโอกาสที่จะใช้เกมวิ่งดาหน้าถล่มคู่แข่งต่อในฤดูกาลหน้าได้สบายๆ ซึ่งจากเว็ป Spotrac คำนวณสัญญาฉบับใหม่ของ Mike McGlinchey ออกมาที่เฉลี่ยปีละ $10,700,000 ซึ่งอยู่ในข่ายที่ทีมสามารถจ่ายได้โดยไม่กระทบอะไรกับเพดานค่าจ้างของทีม
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ต้องยอมรับว่า 49ers ในยุคของ Kyle Shanahan เป็นทีมที่มักจะดราฟต์ผู้เล่นเกือบทุกตำแหน่งมาเพื่อใช้งานเองเสียเป็นส่วนใหญ่ น้อยครั้งที่เราจะเห็นการเทรดผู้เล่นจากทีมอื่นๆ มาเพื่อเป็นตัวหลัก ซึ่งกรณีนี้มักจะใช้ในกรณีคว้าเอาผู้เล่น ชื่อดังเข้ามา ซึ่งเท่าที่นึกออกก็มี Trent Williams กับล่าสุดอย่าง Christian McCaffrey ดังนั้นการจะเดาว่าทีมจะเซ็นต์ free agent ใครเข้ามาจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะเดายากพอสมควร เพราะที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นการเซ็นต์แบบปีเดียวเพื่อเอาเข้ามาเป็นอะไหล่ rotation เสียมากกว่า ดังนั้นถ้าต้องเดาตำแหน่งที่อาจจะมีการเซ็นต์ผู้เล่นระดับเกรด B แบบสัญญามากกว่า 1 ปี ความเป็นไปได้น่าจะเป็นตำแหน่ง Defensive End อย่าง Rasheem Green หรือเป็นการมอบสัญญาใหญ่ให้กับอดีตผู้เล่นจาก NFC West อย่าง Patrick Peterson อดีตตัวคุมปีกของ Vikings และ Cardinals มาเลยก็เป็นตัวเลือกที่จะมาเป็นตัวหลักให้กับแผงตัวคุมปีก

คาดการณ์ดราฟต์ :
John Lynch, GM ของทีมขึ้นชื่อเรื่องการควานหาของดีจากรอบท้ายๆ เก่ง ดังนั้นแฟนๆ น่าจะไม่มีอะไรต้องกังวลกับการที่ทีมไม่มีสิทธิ์ดราฟต์รอบต้นๆ ในมือ ปีนี้หลักๆ น่าจะเป็นการมองหาผู้เล่นในทีมรับอย่าง LB, CB และ S เสียเป็นส่วนใหญ่ เพราะฝั่งทีมบุกหลักๆ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่ง Center แค่ตำแหน่งเดียว ตำแหน่งที่เหลือผู้เล่นในฤดูกาล 2022 น่าจะอยู่กันครบ เลยไม่น่าห่วงอะไร ตัวที่ดูเป็นไปได้ก็มี Daiyan Henley(OLB), Mekhi Garner(CB), D.J. Turner(CB) หรือ J.L. Skinner(S) ในช่วงท้ายรอบ 3

Pittsburgh Steelers
.

.
สถิติปี 2022 :9-8
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 3 สิทธิ์ >> R1(17), R2(33)(from Chicago), R2(50)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- การปิดสกอร์ในเขต Redzone ยังมีปัญหาอยู่ ฤดูกาลที่ผ่านมาพวกเขาทำสำเร็จเพียง 51.9%
- การบุกทำระยะได้เฉลี่ยไม่ถึง 5.0 หลา/play เรียกว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับทีมอื่นๆ ในลีก มีเพียง 5 ทีมเท่านั้นที่ทำระยะได้น้อยกว่า Steelers ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบกับทีมที่ทำผลงานจบในระดับเกือบได้ลุ้นพื้นที่ playoff น่าจะเรียกได้ว่ายังเป็นปัญหาอยู่
- อาการบาดเจ็บของ T.J. Watt ทำให้เกมรับช่วงกลางฤดูกาลของพวกเขาเป๋ไปพักใหญ่
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
ต้องบอกว่าหลังจากสัปดาห์ Bye Week เหมือนทีมจะเก็บชัยชนะได้ถึง 7 จาก 9 เกม สื่อมองว่า Matt Canada หลังจากโดนด่ากระจายช่วงต้นฤดูกาล ดูมีการปรับแผนปรับตัวดีขึ้น ล่าสุดทีมประกาศให้เขาได้ทำงานต่อไปในฤดูกาลหน้าเรียบร้อยแล้ว แต่ต้องมารอลุ้นกันว่าพัฒนาการของ Kenny Pickett ในปีที่สองจะเป็นยังไง แล้ว Matt Canada จะละทิ้งระบบเดิมๆ ที่เขาเคยทำมาตลอดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเพื่อก้าวไปสู่การเล่นในรูปแบบใหม่ๆ ตามที่แฟนๆ หวังไว้ได้จริงหรือไม่ ปีนี้ต้องบอกว่าแนว OL พัฒนาขึ้นจากปีก่อน Dan Moore Jr. ที่ผมมักจะบอกว่าไม่ดีพอจะเป็น LT ตัวจริง ก็ถือว่าทำดีขึ้นกว่าปีก่อน แต่ก็ไม่โดดเด่นอะไร ในตอนนี้ผมก็ยังคิดว่าเขาไม่ใช่คำตอบในระยะยาวอยู่ดี เกมรุกต้องบอกว่าฤดูกาลหน้าตัวหลักทั้ง 11 คน ยังอยู่กันครบ แต่น่าห่วงที่ Diontae Johnson ปีกนอกมือ 1 ปีนี้ดูฟอร์มตกลงไปจากปีก่อนๆ ฝั่งทีมรับปีนี้ดูแล้วน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ที่แผง DL ตัวหลักอย่าง Tyson Alualu, Chris Wormley และ Larry Ogunjobi มีโอกาสสูงที่ทีมจะไม่ต่อสัญญาทั้ง 3 คน เช่นเดียวกับ S ที่ทั้ง Terrell Edmunds, Marcus Allen, Damontae Kazee และ Karl Joseph ก็หมดสัญญาพร้อมๆ กัน
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
ดูแล้วปีนี้ทีมน่าจะอยากเก็บ Cameron Sutton เอาไว้ หลังจากได้รับโอกาสเป็นตัวหลักให้ทีมในช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมาแล้วทำผลงานได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะผลงานการทำ 15 pass breakups ซึ่งปีนี้มีเพียงแค่ 5 คนเท่านั้นที่ทำได้มากกว่านี้ แถมอายุการใช้งานยังถือว่ายังได้อีกหลายปี ดังนั้นถ้าทีมจะมอบสัญญายาว 3 หรือ 4 ปีให้เขาก็คงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ถ้ามองว่าปีนี้ทีมต่อสัญญากับ Cameron Sutton เอาไว้ได้ แผงตัวคุมปีกของพวกเขาก็น่าจะอยู่กันพร้อมหน้าตามเดิม ตำแหน่งที่ขาดก็น่าจะเป็น S, DL และ ILB ที่มองว่า Devin Bush อาจจะไม่ได้รับโอกาสให้อยู่ต่อ หรืออย่างมากทีมก็อาจจะให้สัญญาฉบับสั้นๆ แค่ 1 ปีในราคาไม่แพงให้เจ้าตัวไปก่อน เพื่อรอเวลาหาคนใหม่อีกที ตำแหน่ง ILB ที่ผ่านมา Steelers มักจะไปเทรดหาจากบรรดาเพื่อนร่วมกลุ่ม AFC นี่แหละ ผมเดาว่าทีมอาจจะไปเทรดเอา Jerome Baker มาจาก Miami Dolphins ซึ่งอาจจะไปเทรดตอนฤดูกาล 2023 เปิดไปได้ซักระยะแล้ว สำหรับตำแหน่ง DL มีความเป็นไปได้ที่ปีนี้ทีมอาจจะให้ DeMarvin Leal ได้รับโอกาสเป็นตัวหลัก แต่อีกตำแหน่งน่าจะเป็นการหาในตลาด FA ผมไม่คิดว่า Steelers จะใช้เด็ก 2 คนลงพร้อมกับ Cameron Heyward ดังนั้นคนใหม่ที่จะเข้ามาอาจจะเป็น NT อย่าง Teair Tart หรือ Rakeem Nunez-Roches
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
ปีนี้ถ้าดูจากลำดับแล้ว ผู้เล่นหลักๆ ในตำแหน่ง DL ปีนี้ถ้าตัว Top จาก Alabama, Georgia และ Clemson ออกไปหมดแล้ว(ซึ่งก็น่าจะเป็นแบบนั้น) ก็เรียกว่าไม่มีตัวที่ถูกมองว่าจะอยู่ในกลางรอบแรกอีก โอเคว่ามี Siaki Ika กับ Felix Anudike-Uzomah ซึ่งก็อาจจะโผล่มาท้ายรอบแรก ซึ่งปกติเวลาที่ Steelers ดราฟต์ มักจะเลือกตัวที่สื่อมองว่าอยู่ในช่วงนั้นๆ อยู่แล้ว ดังนั้นผมจึงมองว่าทีมอาจจะไม่ดราฟต์ DL ในรอบแรก จึงคิดว่ามีโอกาสที่ทีมจะดราฟต์ S, CB หรือ OT ในรอบแรก ค่อนข้างสูง ผู้เล่นอย่าง Antonio Johnson(S), Paris Johnson Jr.(OT), Broderick Jones(OT), Joey Porter Jr.(CB), Clark Phillips III(CB), Christian Gonzalez(CB) หรือ Kelee Ringo(CB) น่าจะมีอย่างน้อยครึ่งหนึ่งที่ยังไม่โดนหยิบเมื่อถึงลำดับของ Steelers
.
แต่อีกกระแสหนึ่งที่มีความน่าสนใจคือ ระยะหลังๆ รูปแบบการเล่นของหลายๆ ทีมใน NFL มักจะให้ความสำคัญกับการใช้คู่ Duo ในเกมบุกของระดับมหาวิทยาลัยมาเล่นร่วมกัน เช่น Joe Burrow+Ja’Marr Chase ของ Cincinnati Bengals, Tua Tagovailoa+Jaylen Waddle ของ Miami Dolphins, Tervor Lawrence+Travis Etienne ของ Jacksonville Jaguars, Kyler Murray+Marquise “Hollywood” Brown หรือล่าสุด Derek Carr+Davante Adams คู่หูยุคก่อนของ Fresno State ซึ่งผลออกมาค่อนข้างดีมากๆ มันจึงมีกระแสว่าทำไม Steelers ไม่ดราฟต์ Jordan Addison อดีตปีกนอกคู่ใจของ Kenny Pickett สมัยเล่นร่วมกันที่ Pittsburgh Panthers เข้ามาอยู่ด้วย ซึ่งกรณีนี้ถ้า Steelers คิดจะทำ ทีมอาจจะต้องลงทุนเทรดขึ้นไป ซึ่งอาจจะเล็งไปที่ลำดับ 8 ของ Atlanta Falcons หรือลำดับ 10 ของ Philadelphia Eagles ก็เป็นลำดับที่น่าสนใจ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Tampa Bay Buccaneers
.

.
สถิติปี 2022 : 8-9(ตกรอบ wild-card)
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 2 สิทธิ์ >> R1(19), R2(51)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- แนว OL มีปัญหา ปีนี้ Ryan Jensen กับ Aaron Stinnie เจ็บหนักพักยาวตั้งแต่ต้นฤดูกาล เช่นเดียวกับ Donovan Smith, LT คนเหล็กที่ปีนี้เล่นไม่ถึง 14 เกมต่อฤดูกาลเป็นครั้งแรกตั้งแต่เป็นตัวจริงในรอบ 8 ปี ดาวรุ่งอย่าง Luke Goedeke กับ Robert Hainsey ที่ลงมาแทนผลงานยังไม่ถึงกับดี
- อาวุธสำคัญในตำแหน่ง TE ซึ่งเป็นหนึ่งในตำแหน่งโปรดของ Tom Brady ปีนี้อย่าง Cameron Brate ก็ไม่โดดเด่น ทีมไปเอา Kyle Rudolph ก็แทบไม่ได้ลงสนาม ช่วงท้ายๆ มีความพยายามในการดัน Cade Otton ขึ้นมาก็ดูไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่
- Devin White ออกทะเลอย่างต่อเนื่อง เกมหยุดวิ่งที่เคยโดดเด่นในอดีต ปีนี้ดรอปลงไปอีกแล้ว เช่นเดียวกับอาการบาดเจ็บของ Shaquil Barrett ทำให้เกมรับที่เคยกดดัน QB ฝั่งตรงข้ามได้อย่างต่อเนื่องลดความดุดันลงไปเยอะมาก Joe Tryon-Shoyinka ก็ดูยังไม่โดดเด่น ทีมยังขาด EDGE ที่มีพาวเวอร์เหมือน Jason Pierre-Paul ในปีที่ได้แชมป์ SB โดยสถิติการเข้ากดดัน QB คู่แข่งอยู่ลำดับที่ 29 ของลีก
- ปีนี้ไม่น่าเชื่อว่าเกมวิ่งของ Buccaneers อยู่ในลำดับบ๊วยของลีก ทั้งฤดูกาลพวกเขาทำทัชดาวน์จากการวิ่งได้เพียง 5 ครั้งเท่านั้น
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
ค่อนข้างชัวร์ว่าน่าจะรั้ง Tom Brady ให้อยู่ต่อไปกับทีมไม่ได้แล้ว ปัญหาใหญ่อีกเรื่องคือ cap space ที่ติดลบมากที่สุดของลีกในเวลานี้ $-55,207,949 ซึ่งทีมคง reconstruction contract ผู้เล่นคนสำคัญๆ กันหลายตลบถึงจะเคลียร์ได้ และถ้า Tom Brady ไม่อยู่ต่อ ทีมก็อาจจะถึงขั้นต้องเคลียร์ผู้เล่นบางส่วนออกเพื่อเตรียมสร้างทีมใหม่ เพราะดูแล้ว Kyle Trask น่าจะไม่ได้รับความคาดหวังว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักได้ และการเอา QB คนใหม่เข้ามาไม่ว่าจะเป็นการเทรดหรือเซ็นต์ฟรีก็ดูจะมอบสัญญาแพงๆ ในปีนี้ให้ไม่ได้ด้วย ดังนั้นนี่อาจจะเป็นช่วงปิดฤดูกาลที่ยากลำบากของ Buccaneers พอสมควร และถ้า Buccaneers ตัดสินใจรื้อทีมใหม่หลังจากนี้ ทีมอาจจะต้องพิจารณาเทรดผู้เล่นคนสำคัญๆ หลายๆ คนออกไปด้วย ซึ่งกลุ่มที่อยู่ในข่ายสุ่มเสี่ยงว่าอาจจะถูกเทรดออกไปก็น่าจะมี Devin White, Carlton Davis, Shaq Mason และ Leonard Fournette ก็ต้องดูว่าทีมจะตัดสินใจยังไง
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
ปีนี้น่าจะต่อสัญญากับบรรดาตัวที่หมดสัญญาได้ไม่มาก โชคดีที่ส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นในเกมรับ ดังนั้นถ้าต้องเลือกเก็บไว้ Lavonte David น่าจะเป็นคนที่ทีมควรจะรั้งเอาไว้ให้ได้ เพราะเป็นแกนหลักตัวสำคัญในแนว ILB ของทีม การมีอยู่ของเขาทำให้เกมป้องกันเกมวิ่งของทีมยังคงแข็งแกร่ง เช่นเดียวกับ Anthony Nelson เป็นตัว rotation ที่ดีสำหรับตำแหน่ง Edge Rusher ถ้าต่อรองสัญญาระยะสั้นราคาไม่แรงได้ก็ควรจะเก็บเขาไว้กับทีม
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ถ้า Tom Brady ไม่อยู่กับทีมแล้ว ทีมอาจจะต้องหา QB ซักคนมาประคองทีมชั่วคราวไปก่อน เพราะการจะหา QB ระดับกลางๆ จากทีมอื่นอย่าง Derek Carr, Jimmy Garoppolo ดูเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร เพราะปัญหา cap space ดังนั้นมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นการมองหา QB ขัดตาทัพที่จะรับสัญญาสั้นๆ แค่ 1-2 ปีในราคาไม่เกิน $10,000,000 มาไว้ใช้งานชั่วคราว ซึ่งมีความเป็นไปได้หลายคน เช่น Case Keenum, Jacoby Brissett, Teddy Bridgewater หรืออาจจะเป็น Sam Darnold(ถ้า Panthers ไม่ใช้งานต่อ) หรืออีกทางที่น่าสนใจคือส่งสิทธิ์ดราฟต์รอบกลางๆ ไปเทรดเอา Mitchell Trubisky มาจาก Pittsburgh Steelers หรือเทรด Ryan Tannehill มาจาก Tennessee Titans ถ้าเกิดว่า GM คนใหม่ของ Titans ล้างบางทีมใหม่ เพื่อเอามาใช้งานชั่วคราวอย่างน้อย 1 ปีก่อน
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
ปีนี้มีโอกาสสูงที่ทีมจะไม่สามารถต่อสัญญากับตัวหลักในเกมรับจากฤดูกาลที่ผ่านมาได้ ไม่ว่าจะเป็น William Gholston, Rakeem Nunez-Roches, Akiem Hicks, Jamel Dean, Sean Murphy-Bunting, Carl Nassib, Mike Edwards และ Logan Ryan เกือบทั้งหมดในนี้อาจจะต้องย้ายไปหาทีมใหม่เล่น แน่นอนว่าหลักๆ แล้วน่าจะกระทบเต็มๆ ประมาณ 3 ตำแหน่ง คือ DL, S และ CB ซึ่งดูแล้วทีมน่าจะมองหาผู้เล่นในตำแหน่ง CB ในรอบแรก Joey Porter Jr., Clark Phillips III, Tre'vius Hodges-Tomlinson และ Emmanuel Forbes น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าจะเป็นไปได้
.
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Miami Dolphins
.

.
สถิติปี 2022 : 9-8(ตกรอบ wild-card)
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 1 สิทธิ์ >> R2(53) ***หมายเหตุ สิทธิ์รอบแรก R1(21)โดนริบ***
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- อาการคอนคัสชั่นของ Tua Tagovailoa มีผลกับทีมตรงๆ เลย พอทีมขาดเขาไปก็ออกอาการเป๋อย่างเห็นได้ชัด และหลังจากนี้จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ให้ต้องคิด เพราะหลังจากกลับมาจากการพักแล้ว เขาดูไม่เหมือนคนเดิมในช่วงต้นฤดูกาล
- ปีนี้บรรดาตัวคุมปีกฟอร์มตกลงจากปีก่อนๆ เกมป้องกันการขว้างหล่นไปอยู่ลำดับท้ายๆ ของลีก(ลำดับ 27) ส่วนหนึ่งเพราะการบาดเจ็บพักยาวของ Byron Jones และฟอร์มของ Xavien Howard ที่ตกลงแบบชัดเจน จากการเป็นราชา Intercept มา 2 ปีติดต่อกัน ปีนี้เขาทำได้เพียงแค่ 1 Intercept เท่านั้น
- ปีนี้ตลอดทั้งฤดูกาล ทีมเสียผู้เล่นตัวหลักแบบเจ็บหนักพักยาวหลายคน ไล่ตั้งแต่ Byron Jones, Brandon Jones, Austin Jackson, Emmanuel Ogbah และ Tua Tagovailoa แต่ถือว่าผลงานในปีนี้ทำได้ดีน่าประทับใจ(ก่อนที่ตัวสำคัญหลายคนเจ็บจนต้องพักช่วงท้ายฤดูกาล)
- ปีนี้ทีมพิเศษผลงานตกลงจากปีก่อน พวกเขามีสถิติวิ่งย้อน kickoff ได้เพียง 18.9 หลา/ครั้ง รั้งลำดับรองบ๊วยของลีก เช่นเดียวกับ Jason Sanders ตัวเตะที่ผลงานเริ่มตกลงเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
หลักๆ ตอนนี้คือเช็คอาการของ Tua Tagovailoa ก่อนเป็นอย่างแรก ถ้าเขาสามารถกลับมาเล่นได้ในสภาพที่พร้อม 100% Miami Dolphins ก็ถือว่าพร้อมสำหรับการลุยฤดูกาลใหม่ได้เลย เพราะตัวหลักกว่า 80% ยังมีสัญญาอยู่กับทีมต่อในฤดูกาลหน้า จะมีเพียงแค่ CBn, TE และ RB เท่านั้นที่ทีมอาจจะต้องหามาเพิ่ม แต่ถ้า Tua Tagovailoa ไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิมได้ นี่จะเริ่มเป็นเรื่องใหญ่แล้ว เพราะการขาดหายของเขามีผลต่อผลงานทีมค่อนข้างมาก ซึ่งอาจจะหมายถึงทีมอาจจะกลับไปสู่โหมดต้องตามหา franchise quarterback ใหม่อีกครั้ง ปีนี้ทีมอาจจะให้โอกาส Durham Smythe ขึ้นเป็น TE มือ 1 แทน Mike Gesicki หรือไปเอาอดีตคู่หูของ Tua Tagovailoa อีกคนอย่าง Irv Smith Jr. มาจาก Minnesota Vikings ก็ได้ เพราะเจ้าตัวเสียตำแหน่งมือหนึ่งให้ T.J. Hockenson ไปเรียบร้อยแล้ว
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
ปีนี้พวกเขามี cap space ติดลบอยู่ $-14,230,860 อาจะขยับตัวไม่ได้มากเท่าไหร่ ซึ่งมีหลายตำแหน่งให้ต้องคิด 2 ตัวหลักๆ ที่น่าจะเก็บไว้คือ Elandon Roberts, LB กัปตันทีม ปีนี้เขาทำ career high ทั้งเรื่อง Tackles, Sacks และ Solo Tackles ค่าจ้างใหม่ของเขาน่าจะไม่สูงมาก ถ้าเป็นไปได้ทีมควรพิจารณาต่อสัญญากับเขา ก่อนที่ New England Patriots จะถึงตัวกลับไป และ Jeff Wilson Jr. ตัววิ่งมือ 2 ที่ใช้งานได้ ปีนี้เรียกว่าตัววิ่งทุกคนในทีมทั้ง Raheem Mostert, Jeff Wilson Jr., Myles Gaskins และ Salvon Ahmed หมดสัญญาพร้อมๆ กัน มันจึงควรที่จะดึงใครซักคนเก็บไว้ เพราะรู้ playbook ของทีม จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาสอนกันใหม่หมดทุกคน
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ถ้าทีมจะพิจารณาใครซักคนเข้ามาร่วมทีม ผมว่าอาจจะเป็นการดึง RB เข้ามาเสริมเพราะหมดสัญญาพร้อมกันหลายคน Jeff Wilson Jr. เป็นตัววิ่งที่ดี แต่อาจจะไม่ถึงขั้นการันตีมือ 1 ของทีมได้ แน่นอนว่าในบรรดาตัววิ่งที่หมดสัญญากับต้นสังกัดในปีนี้อาจจะมีตัวดีๆ อย่าง Saquon Barkley, Josh Jacob, Miles Sanders หรือ Tony Pollard แต่ cap space ของทีมแม้จะไม่ได้ติดลบมาเหมือนทีมอย่าง Buccaneers หรือ Saints แต่ปัญหาคือ สัญญาของผู้เล่นส่วนใหญ่ในปีนี้ มี deadcap พ่วงมหาศาลเลย ดังนั้นทีมอาจจะต้องใช้แนวทางเดิมคือเซ็นต์ตัววิ่งแบบปีต่อปีไปก่อน ตัวดีๆ ที่พึ่งพาได้ในราคาแบบปีต่อปีในตอนนี้อย่างพวก Kareem Hunt, Rashaad Penny หรือ Latavius Murray อาจจะเป็นทางเลือกที่ดี
.
แต่ถ้าอีกกรณี สมมติอาการคอนคัสชั่นของ Tua Tagovailoa ไม่ดีขึ้น นี่อาจจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับทีมในฤดูกาลหน้า ผมว่าทีมน่าจะต้องคิดเรื่องนี้เอาไว้มากพอสมควรว่าเขาจะหาใครมาแทนที่จะประคองทีมในฤดูกาลหน้าได้ ซึ่งผมมองไปที่ Ryan Tannehill อาจจะกลับมารังเก่าเพื่อใช้งานชั่วคราวไปก่อน 1 ปี ก่อนที่ทีมจะไปเริ่มการมองหา franchise quarterback ใหม่ในปี 2024
.
คาดการณ์ดราฟต์ : สิทธิ์ดราฟต์รอบแรก(ลำดับ 21)และรอบ 3 ของปี 2024 ถูกยึด บทลงโทษจากลีก กรณี ที่ทีม Dolphins แอบไปติดต่อกับ Tom Brady และ Sean Payton โดยที่ทั้ง 2 ยังมีสัญญากับต้นสังกัดเดิม แถมอีกสิทธิ์ที่ได้มาจาก San Francisco 49ers ตอนปีก่อนก็เอาไปเทรดกับ Denver Broncos ตอนขอแลกตัว Bradley Chubb มาแล้ว ซึ่งก็ยังสงสัยว่าทำไมยอมจ่ายแพงขนาดนั้นแลกกับผู้เล่นที่มีประวัติบาดเจ็บหนักแบบปีเว้นปี ดังนั้นปีนี้ สิทธิ์แรกของ Miami Dolphins คือรอบ 2 ในลำดับ 52 เลย ซึ่งดูจากลำดับแล้วน่าจะเป็นการดราฟต์ CB อย่าง D.J. Turner ของ Michigan หรือ EDGE อย่าง Derick Hall ของ Auburn

Indianapolis Colts
.

.
สถิติปี 2022 : 4-12-1
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 2 สิทธิ์ >> R1(4), R2(36)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- ยังหา franchise quarterback ไม่เจอ 8 ปี เปลี่ยน 8 คน ปีหน้าจะเป็นคนที่ 9 ชัวร์ 100%
- ปีนี้มีปัญหาตัวผู้เล่นหลักบาดเจ็บหลายคน โดยเฉพาะการขาดหายไปของ Jonathan Taylor และ Shaquill Leonard, Kenny Moore
- แนว OL มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา โดยเฉพาะตำแหน่ง LT กับ RG ส่งผลกับการเปิดทางวิ่งในปีนี้ค่อนข้างมาก แถมปีนี้ผลงานของ Ryan Kelly กับ Quenton Nelson ดูดรอปลงจากปีก่อน
- ปีนี้บรรดา Defensive back ผลงานไม่ค่อยดี
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
ต้องบอกว่านับตั้งแต่เปลี่ยนจาก Baltimore Colts มาเป็น Indianapolis Colts ในปี 1984 พวกเขาดราฟต์ QB ในรอบแรกเพียงแค่ 3 ครั้ง ที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ ทั้ง 3 ครั้งดราฟต์ด้วยสิทธิ์ลำดับที่ 1 ทุกครั้ง ไล่ตั้งแต่ Jeff George(1990), Peyton Manning(1998) และ Andrew Luck(2012) มันเลยชวนให้คิดไม่น้อยว่าหรืออาจจะยังไม่ถึงเวลาที่ Indianapolis Colts จะดราฟต์ QB ในรอบแรกในปีนี้ พวกเขาอาจจะยึดรูปแบบเดิมไปต่ออีกปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเข้ามาเป็น HC คนใหม่ของทีม ตัวเต็งก่อนหน้านี้คือ Jim Harbaugh กับ Ben Johnson ทั้งคู่ก็ประกาศแล้วว่าจะอยู่ที่เดิมต่อ ส่วน Eric Bieniemy นี่คงไม่มีวาสนาได้คุมทีมแล้วล่ะสัมภาษณ์มากี่ปี กี่ทีมแล้วก็ไม่ได้งานซักที ทำให้ตัวเลือกที่ดูเป็นไปได้ก็จะเหลือแค่ Leslie Frazier หรือเซอร์ไพรส์หน่อยก็ Dan Quinn ซึ่งเป็นโค้ชสายเกมรับทั้งคู่ และถ้าเป็นแบบนี้ก็มีโอกาสสูงที่ Colts จะมองหา QB ในตลาดแทนที่จะดราฟต์เอง ตรงนี้ถ้าเป็น Dan Quinn ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ Colts จะให้โอกาส Matt Ryan อีกปีแต่ถ้าเป็น Leslie Frazier ก็อาจจะเป็น Mitchell Trubisky หรือล่าสุดมีข่าวกับ Rich Bisaccia อดีตโค้ชขัดตาทัพของ Raiders ช่วงที่ปลด Jon Gruden ออกไป ซึ่งปัจจุบันทำงานเป็นหัวหน้าโค้ชทีมพิเศษของ Packers ซึ่งถ้าเลือกรายนี้ก็อาจจะเอา Derek Carr มาใช้งาน ซึ่งทั้งหมดก็ไม่แน่ HC คนใหม่อาจจะตัดสินใจแทงก์เพื่อเอา 2024 no.1 pick เพื่อเลือก Caleb Williams ไปเลยทีเดียวก็เป็นไปได้มากเช่นกัน เพราะดูแล้วถ้าเจ้าตัวไม่บาดเจ็บก็มีโอกาสสูงที่จะเป็น no.1 pick แบบนอนมาในฤดูกาลหน้า เพราะยังไม่เห็นคู่แข่งแบบจ๋าๆ ที่จะมาเทียบกับเจ้าตัวได้ในฤดูกาลนี้ ซึ่งก็เข้าทางกับรูปแบบที่ Colts ชอบดราฟต์
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
Yannick Ngakoue กลับมาสู่ฟอร์มที่ดีอีกครั้ง ปีนี้ทำไปถึง 9.5 sacks เชื่อว่าค่าจ้างฉบับใหม่น่าจะไม่สูงไปกว่าฉบับเดิมแบบก้าวกระโดด และเจ้าตัวน่าจะยอมรับสัญญาระยะสั้น 2-3 ปี ซึ่ง Colts น่าจะจ่ายได้(~$15,000,000/ปี) การจับคู่ของเขากับดาวรุ่งอย่าง Kwity Paye นั้นทำให้เกมรับของทีมโดยเฉพาะแผง DL นั้นลงตัว(รวมถึงแกนหลักอย่าง DeForest Buckner และ Grover Stewart) ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ถ้า Shaquill Leonard ไม่บาดเจ็บ เกมรับของพวกเขาก็น่าจะแข็งแกร่งไม่แพ้ปีก่อนๆ ดังนั้นปีนี้จึงถือว่าดวงแตกไปปีหนึ่ง อีกคนที่ควรเก็บไว้คือ Chase McLaughlin ตัวเตะที่ผลงานปีนี้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ส่วน Bobby Okereke นั้นเป็นทางเลือกที่ดีในการจะรักษาไว้ แต่ที่ผ่านมา Colts มักจะปล่อย LB ออกจากทีมเพราะมักจะปั้นคนใหม่ขึ้นมาทดแทนได้เสมอ ซึ่งดูแล้ว Bobby Okereke ก็อาจจะต้องเก็บข้าวของย้ายออกไปเหมือน Anthony Walker Jr. เพราะเวลานี้ Zaire Franklin น่าจะพร้อมเสียบแทนที่เขาแล้ว แล้ว Colts อาจจะให้สัญญาฉบับถูกๆ กับ E.J. Speed เพื่อเป็นตัวอะไหล่แทน
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
. ปีนี้ตำแหน่งที่ดูแล้ว Colts อาจจะลงไปเล่นในตลาด free agent น่าจะเป็น OG, CB และ WR ด้วยว่า Will Fries นั้นผลงานไม่ดีนักในการขึ้นมาแทนที่ Mark Glowinski และปีนี้เป็นปีที่มี Guard ดีๆ เข้าตลาดค่อนข้างมาก ตัวที่น่าสนใจที่คิดว่า Colts อาจจะไปเอามาก็น่าจะเป็น Nate Davis, RG ของทีมคู่แข่งอย่าง Tennessee Titans ซึ่ง Titans น่าจะไม่มี cap space มากพอจะให้สัญญาฉบับใหม่กับเขาได้ ตัวคุมปีกซักคนที่รับสัญญาไม่เกินปีละ $2,000,000 มีให้เลือกเพียบเลย เอามาเป็นตัว Rotation เพราะยังไงตัวหลักของทีมก็เป็น Stephon Gilmore กับ Kenny Moore III แล้วดาวรุ่งอย่าง Isaiah Rodgers Sr. ก็กำลังพัฒนาขึ้นมา ส่วนตำแหน่งปีกก็คล้ายกันคือตัวหลัก เป็น Michael Pittman Jr. กับ Alec Pierce ทีมอาจจะมองหาปีกมือ 3 มากประสบการณ์อีกซักคน อาจจะเป็น DeAndre Carter, Breshad Perriman หรือ Byron Pringle ก็ไม่เลว
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
มองเป็นสองมุม มุมแรกคือตามที่ผมเดาข้างต้นคือกรณี Colts ตัดสินใจใช้ Matt Ryan ต่ออีกปี หรือเซ็นต์ QB มาจากตลาด free agent แล้วเข้าสู่แทงก์ซีซั่นแบบตรงๆ เพื่อเอา Caleb Williams ในปีหน้า ในรูปแบบนี้ตัวเลือกที่ดีอาจจะเป็น Peter Skoronski หรือ Parris Johnson Jr. ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดี แม้ว่าทีมจะเพิ่งดราฟต์ Bernhard Raimann มาเมื่อปีที่แล้ว แต่เชื่อว่า Peter Skoronski มีภาษีดีกว่าในการจะมาเป็นตัว LT ใช้งานยาวๆ หรืออีกกรณีคือเอา Myles Murphy มาแล้วตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับ Yannick Ngakoue ก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสม แต่อีกกรณีคือ Colts หักแนวทางเดิมๆ ตัดสินใจดราฟต์ QB ไปเลย แน่นอนว่า Bryce Young กับ C.J. Stroud เป็นตัวเลือกที่แฟนๆ ชอบ แต่ผมว่า Chris Bullard น่าจะดราฟต์ Will Levis ในลำดับที่ 4 มากกว่า

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Seattle Seahawks(via Denver Broncos)
.

.
สถิติปี 2022 : 9-8
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 4 สิทธิ์ >> R1(5)(from Denver), R1(20), R2(38)(from Denver), R2(52)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- ไม่เชิงว่าเป็นปัญหา แต่ผลงานของ Geno Smith อาจจะทำให้ทีมชะลอการมองหา QB ดาวรุ่งตั้งแต่รอบต้นๆ ในปีนี้ออกไป โดยทีมอาจจะไปโฟกัสที่รอบ 2 หรือ 3 แทน
- แนวรับโดยเฉพาะกลุ่ม front 7 ยังไม่นิ่ง โดยเฉพาะตำแหน่ง Defensive End และคนที่จะมาทดแทนการจากไปของ Bobby Wagner
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
เป็นฤดูกาลที่เรียกว่าประสบความสำเร็จเกินกว่าที่คาดเอาไว้ Geno Smith จากที่ถูกมองว่าเป็นแค่ QB ขัดตาทัพชั่วคราว กลับทำผลงานยอดเยี่ยมจนติดทีม Pro Bowl ปีนี้ผลงานเขาอยู่ที่ 79.8 overall grade และจะดีขึ้นไปอีกถ้าได้อยู่ใน clean pocket ส่วนหนึ่งต้องให้เครดิตแก่บรรดา OL ของทีมที่มีการพัฒนาการดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ไฮไลท์สำคัญอีกอย่างก็คือปีนี้เขาขว้างทัชดาวน์ด้วยระยะมากกว่า 20 หลาได้ถึง 14 ครั้ง และทำ bigplay มากเป็นลำดับที่ 5 ร่วม เมื่อเทียบกับบรรดา QB ในลีก นั่นทำให้ทีมอาจจะต้องคิดแล้วว่าจะเอายังไงต่อ แต่ผมเชื่อว่าทีมอาจจะไม่ให้สัญญาระยะยาวกับ Geno Smith เพราะเสี่ยงเกินไป มันมีโอกาสไม่น้อยที่อาจจะเป็น one year miracle ดังนั้นมีโอกาสสูงที่ทีมจะตัดสินใจใช้ Franchise Tag กับเจ้าตัว ซึ่งน่าจะเป็นทางเลือกที่คิดว่า win-win ทั้งสองฝ่าย
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
นอกจาก Geno Smith แล้ว ตัวที่ทีมควรจะเก็บไว้น่าจะเป็น Cody Barton ซึ่งปีนี้ผลงานโดดเด่นขึ้นมาเพราะได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง หลังจากเป็นสำรองให้ Bobby Wagner อยู่กว่า 3 ปี แถมปีนี้ ตัวหลักอย่าง Jordyn Brook เริ่มมีอาการบาดเจ็บรบกวน ตัวเลือกที่เหลือแทบไม่ใช่ผู้เล่นที่จะมาลงในตำแหน่ง MLB ดังนั้นทีมน่าจะต่อสัญญาระยะสั้นๆ กับเจ้าตัวเอาไว้ใช้งานก่อน แล้วอาจจะมีการดราฟต์ผู้เล่นในตำแหน่งนี้มาเสริมในรอบกลางๆ ส่วนอีกคนที่มีโอกาสได้รับการต่อสัญญาคือ Ryan Neal, S ที่ขึ้นมารับตำแหน่งตัวหลักแทนที่อาการบาดเจ็บยาวของ Jamal Adams, S ตัวเก่งของทีม
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ทีมน่าจะมองหา C ประสบการณ์สูงมาเป็นผู้นำในแนว OL เพราะบรรดาตัวหลัก โดยเฉพาะ Tackles ทั้ง 2 ฝั่งเป็นเด็กรุกกี้ รวมไปถึง LG อย่าง Damien Lewis ด้วย ดังนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีคนที่มีประสบการณ์คอยประคอง ปีที่ผ่านมาใช้ Austin Blythe ผลงานกลางๆ ไม่เด่น แต่ก็ไม่ถึงขั้นว่าย่ำแย่จนน่าเกลียด ถ้าทีมไม่ต่อสัญญากับเขาออกไป Matt Skura ก็เป็นทางเลือกที่ดี
.
และอีกตำแหน่งที่น่าสนใจ T.J. Edward, LB ของ Philadelphia Eagles น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่ทีมจะเอามาเพื่อแทน Bobby Wagner ด้วยเช่นกัน แม้ว่าทีมอาจจะต่อสัญญากับ Cody Barton แต่การได้ T.J. Edward เข้ามาก็จะทำให้แผง LB ของทีมแน่นขึ้นและค่าจ้างของเจ้าตัวก็ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับ LB ชื่อดังคนอื่นๆ ปีนี้ T.J. Edward เป็น 1 ใน 4 ของ ILB ที่มีเรทติ้งเกิน 75.0 ในเกม run defense และ coverage
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
ปีนี้ Seahawks มีสิทธิ์รอบแรกในมืออยู่ 2 สิทธิ์ คือลำดับที่ 5 และ 20 เชื่อว่าสิทธิ์ในลำดับที่ 5 ของ Seahawks จะถูกใช้ไปกับตำแหน่ง Edge ค่อนข้างแน่ ยกเว้นกรณีว่า Jalen Carter ยังไม่มีใครเอา ดังนั้น 2 ผู้เล่นของ Clemson Tigers อย่าง Myles Murphy หรือ Brian Bresee คนใดคนหนึ่งจะถูก Seahawks เลือกในลำดับนี้ ส่วนลำดับที่ 20 เชื่อว่า Seahawks คงกลับไปสู่รูปแบบเดิมๆ ที่ชอบทำคือเก็บเอาไว้เพื่อหาแลกกับใครซักคนที่อยากขยับขึ้นมา ซึ่งถ้ามองว่าจะเลือกใครช่วงกลางค่อนท้ายรอบแรก มีความเป็นไปได้สูงที่ทีมอาจจะเลือก DB หรือ ILB ในลำดับนี้ ส่วนตำแหน่ง QB ในรอบ 2 หรือ 3 มีความเป็นไปได้ว่า Pete Carroll อาจจะให้ความสนใจ 3 รายคือ Hendon Hooker, Jake Haener หรือ Stetson Bennett

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Detroit Lions(via Los Angeles Rams)
.

.
สถิติปี 2022 : 9-8
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 4 สิทธิ์ >> R1(6)(from LA Rams), R1(18), R2(49)(from Minnesota), R2(56)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- ความไม่สมดุลกันในทีมเกมบุกสุดยอดแต่เกมรับก็สุดเน่าเช่นกัน โดยเฉพาะแผง secondary ทั้งแผงเลย ทีมบุกทำคะแนนได้เท่าไหร่ ทีมรับก็คืนคะแนนให้เขาไปเช่นกัน
- ผลงานของ Jared Goff ที่ Detroit ดูแล้วพัฒนาต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 น่าสนใจว่าทีมจะตัดสินใจดราฟต์ QB เข้ามากดดันเขาหรือไม่ แล้วถ้าดราฟต์มาความกดดันจะส่งผลให้ Jared Goff จะยังคงฟอร์มแบบปี 2022 อยู่หรือไม่
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
แต่เดิม Jared Goff ไม่ได้ถูกคาดหวังมากนักจนกระทั่งการที่ทีมดราฟต์เพชรในตมอย่าง Amon-Ra St. Brown เข้ามาแล้วกลายเป็นปีกที่เล่นกับ Jared Goff ได้ดีเกินคาด เรียกว่า NFC North ก็จะมี Detroit กับ Minnesota ที่มักจะมีปีกดีๆ อยู่ในทีมเสมอในทุกๆ ปี แม้ว่า QB ของทั้ง 2 ทีมนั้นจะเป็นใครก็ตาม เวลานี้เชื่อว่าแฟนๆ Detroit Lions หลายๆ คนเริ่มจะเปลี่ยนใจแล้วว่าบางทีพวกเขาอาจจะไม่จำเป็นต้องมองหา QB คนใหม่ก็ได้ Jared Goff นั้นอายุเพียง 28 ย่าง 29 ปี เขาจะยังสามารถเล่นให้ Detroit ไปได้อีกไม่ต่ำกว่า 5-7 ปี ถ้ายังอยู่ในฟอร์มสม่ำเสมอแบบนี้ไปเรื่อยๆ อีกไม่นานพวกเขาก็อาจจะก้าวขึ้นมามีอนาคตมากกว่าทีมอื่นๆ ใน NFC North เพราะ Vikings กับ Packers ก็กำลังจะเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่าน ส่วน Bears ก็ยังลูกผีลูกคน
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
ตอบแบบไม่ต้องคิดเลย Jamaal Williams คือคนที่ Lions ควรรักษาเอาไว้กับทีม เพราะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ Lions ระเบิดเกมบุกได้อย่างเมามันในฤดูกาลที่ผ่านมา เขาทำไปถึง 1,066 หลากับอีก 17 ทัชดาวน์ เรียกว่าถ้าพาบอลมาจ่อหน้า End Zone ก็ให้ Jamaal ลงมาระเบิดได้เลย รวมไปถึง Brock Wright ปีกในที่มีบทบาทกับทีมมากขึ้นภายหลังจากที่เทรด T.J. Hockenson ออกไป
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ในทีมบุกพวกเขาเหลือเพียงแค่ Tight End ตำแหน่งเดียวที่ดูไม่ลงตัว หลังจากเทรด T.J. Hockenson ไปให้แก่ Vikings ดังนั้นพูดง่ายๆ แต่เอาเข้าจริงๆ เราไม่ค่อยเห็นการประสานงานกันระหว่าง Goff+Hockenson ซักเท่าไหร่ เพราะเป้าหมายหลักคือบรรดาปีกนอกอย่าง St. Brown, Chark, Reynolds, Raymond เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นหรือจะสามารถอนุมานได้ว่า Dan Campbell อาจจะไม่ได้โฟกัสกับตำแหน่งนี้มากถึงขั้นว่าจะดราฟต์ใครเข้ามา ถ้าปีหน้าทีมไม่มั่นใจในตัว Brock Wright ก็อาจจะหาจากในตลาด FA เอา แล้วเทสิทธิ์ดราฟต์ปีนี้ให้ทีมรับเอาไปใช้เสริมทัพหมดเลยก็เป็นได้ ตัวเลือกอย่าง Geoff Swaim หรือ Zach Gentry เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
ปีนี้ Lions มีสิทธิ์ดราฟต์รอบแรก 2 สิทธิ์ ในลำดับที่ 6 และ 18 ดังนั้นมีโอกาสสูงที่ Lions จะเป็นทีมแรกที่ดราฟต์ตัวคุมปีกในปีนี้ ลำดับที่ 6 เชื่อว่าแย่สุดก็แค่มีคนแย่งดราฟต์ไปก่อนซัก 1 คน แต่บรรดาตัวคุมปีกที่ถูกคาดหมายว่าจะอยู่ในรอบแรกของปีนี้มีเยอะ อย่างน้อยๆ ก็น่าจะราวๆ 6 คน ดังนั้น Lions น่าจะช็อปปิ้งคนที่ตัวเองอยากได้ในสิทธิ์แรกได้สบายๆ หรือแม้กระทั่งเอาสิทธิ์ไปเทรดให้คนที่อยากขยับขึ้นมาหยิบ QB อย่าง Texans(กรณีหยิบ Edge ในลำดับที่ 2), Panthers, Titans หรรือ Jets ก็ยังได้ เพราะต่อให้ไหลลงไปอยู่กลางรอบแรกก็มีตัวคุมปีกดีๆ เหลือถึงมืออยู่แล้ว ไม่ต้องรีบอะไร เพราะตำแหน่งที่ Lions น่าจะเสริมก่อนในรอบแรกคงหนีไม่พ้นตัวคุมปีก กับ linebacker ซึ่งคลาสนี้ไม่มีใครที่เด่นแบบชัดเจนว่า ต้องรีบหยิบตั้งแต่ top10 ขนาดนั้น ถ้าในเดาเบื้องต้น คิดว่า Lions น่าจะเทรดสิทธิ์ให้ทีมอย่าง Panthers หรือ Eagles แล้วตัวเองหยิบตัวคุมปีกอย่าง Cam Smith, Kelee Ringo หรือ Brian Branch ในสิทธิ์แรก ส่วนอีกสิทธิ์มาดูอีกทีว่าตอนนั้นผู้เล่นอย่าง Trenton Simpson ยังเหลืออยู่มั้ย ถ้าไม่อยู่ ทีมอาจจะเลี้ยวไปหา Defensive End ซักคน อย่าง Isaiah Foskey หรือ Lukas Van Ness

Las Vegas Raiders
.

.
สถิติปี 2022 : 6-11
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 2 สิทธิ์ >> R1(7), R2(39)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- หลักๆ เลยคือปัญหาเรื่องเกมรับ ป้องกันเกมวิ่งดีขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อน แต่ Pass Rusher กับ Coverage แย่กว่าปีก่อนเยอะ โดยเฉพาะเวลาที่ต้องรับมือกับคู่แข่งเวลาเล่น third down ยันไม่ค่อยอยู่ และทีมรับรั้งลำดับบ๊วยลีกเวลาป้องกันพื้นที่ redzone
- ปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ โดยเฉพาะตัวสำคัญอย่าง Darren Waller กับ Hunter Renflow ทำให้แต่เดิมที่คาดว่า Trio Adams/Waller/Renflow จะเป็นอาวุธหนักของทีม พอเข้าฤดูกาลจริง แทบไม่เคยอยู่พร้อมหน้ากันเลยซักเกม ยังดีที่ Josh Jacob เข้าฟอร์มไม่งั้นแย่กว่านี้
- ทีมเสียโทษง่าย จากเดิมเคยชมไปเมื่อตอน preseason ว่าลูกทีมของ Josh McDaniel วินัยดี พอเอาเข้าจริง ทีมตัวหลักกับเป็นคนละเรื่องโดยเฉพาะทีมบุก เสียโทษมากเป็นลำดับที่ 4 ของลีก แล้วการบุกเฉลี่ยพวกเขาทำได้เพียง 5.5 หลา/การเล่น ทำให้บุกไม่ค่อยขึ้น
- การเปลี่ยนผู้เล่นในแผง DL เกือบยกแผง(เหลือ Maxx Crosby คนเดียวที่ได้อยู่ต่อ) น่าจะส่งผลกระทบต่อทีมพอสมควร เห็นได้จากสถิติการเข้ากดดัน QB คู่แข่งลดลงแบบน่าใจหาย
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
เวลานี้น่าสนใจว่า Raiders จะเอายังไงกับตำแหน่ง QB เพราะดูแล้วพวกเขาไม่ให้ Derek Carr ได้อยู่กับทีมต่อไปในปีหน้าแน่ๆ อนาคตของ Josh McDaniel ก็สุ่มเสี่ยงมาก หลังจากผลงานปีแรกไม่เข้าเป้า แถมปีหน้า Allegiant Stadiums รังของตัวเองจะได้เป็นเจ้าภาพจัด SB ฉลองทั้งสนามใหม่และเมืองใหม่ ในสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการตกงานแบบนี้ผมคิดว่า Josh McDaniel ยังไงก็ต้องวนกลับไปหา Tom Brady แน่ๆ เพราะเจ้าตัวหมดสัญญากับ Buccaneers แล้ว หรือแย่สุดถ้าไม่ได้ Tom Brady ก็ต้องเป็น Jimmy Garoppolo ผมมองแค่ 2 คนนี้เท่านั้น ผมไม่คิดว่า Josh McDaniel จะเลือก Aaron Rodgers มาเล่นคู่ Davante Adams เพราะเขาไม่เคยทำงานกับ Rodgers มาก่อน และคงไม่อยากเสี่ยงกับหน้าที่การงานตัวเองด้วยการใช้งาน QB รุกกี้ที่ต้องเริ่มนับ 1 ใหม่ในสถานการณ์ที่ทีมต้องการจะเข้าไปถึง SB ในเมือง Las Vegas
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
หลักๆ ที่ควรเก็บไว้คือ Josh Jacob แต่ผมไม่แน่ใจว่าเจ้าตัวอยากจะอยู่ต่อหรือไม่ หลังจากที่ทีมเคยปฏิเสธที่จะใช้ fifth-years option กับเจ้าตัว และดูแล้วอาจจะไม่เต็มใจที่จะรับ franchise tag ด้วย ซึ่งโอเคแหละว่าถ้าทีมตัด Derek Carr ออกไปก็จะมี cap space เพิ่มมาอีกกว่า $29,250,000 แต่ cap space ดังกล่าวคงจะหมดไปกับ QB คนใหม่ ดังนั้นทีมก็จะเหลือ cap space เท่าเดิมคือราวๆ $21,000,000 ดังนั้นน่าจะไม่พอที่จะให้สัญญาแพงๆ กับ Jacob ได้ ดังนั้นตัวที่ควรต่อสัญญาก็อาจจะกลายเป็น Duron Harmon, S ที่เล่นคู่กับ Tre'von Moehrig ได้ดี
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ถ้าได้ Tom Brady มายังไงก็ต้องไปเทียวไล้เทียวขื่อให้ Rob Gronkowski ให้กลับมาจากรีไทร์อีกรอบ เชื่อว่าเจ้าตัวน่าจะมาเพราะล่าสุดที่เห็นข่าวว่าก็สนใจที่จะกลับมาเล่นอีกถ้ามีโอกาสที่น่าสนใจยื่นเข้ามา และสมมติถ้าทีมรักษา Josh Jacob ไม่ได้ ตัวเลือกรองลงไปที่น่าจะไม่แพงมากและ Josh McDaniel เคยร่วมงานมาก่อนอย่าง Damien Harris ก็เป็นทางเลือกที่น่าจะถูกลงมาหน่อย และทีมอาจจะมองหาปีกนอกมือ 3 เอาไว้อีกคน เพื่อไว้เป็นตัว Rotation กับ Hunter Renflow ซึ่งมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
ผมว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ Josh McDaniel จะเอาสิทธิ์ดราฟต์รอบแรกไปแลกกับผู้เล่นเกรด A มาร่วมทีมเลยมากกว่าที่จะมานั่งดราฟต์ดาวรุ่งเองในสถานการณ์แบบนี้ ในปีที่ผ่านมาเขาเอาสิทธิ์รอบแรกไปแลกกับ Davante Adams แล้วมันคุ้มค่า มาแล้วเป็นที่พึ่งให้เขาได้ ดังนั้นถ้าจะมองว่าปีนี้เขาจะเอาสิทธิ์รอบแรกไปแลกกับใครที่ดูแล้วคุ้มค่า ส่วนตัวผมมองอยู่ 2 คน คือ Tristan Wirfs ของ Buccaneers หรือ Ryan Ramczyk ของ Saints เพื่อเอามาปิดตำแหน่ง RT ที่ทีมยังตามหาอยู่ และทั้งสองทีมก็มี cap space ติดลบอยู่ราวๆ $-54,752,095 ที่ต้องเคลียร์ออก สำหรับ Saints ถือว่าได้ทั้งเคลียร์เพดานเงินเดือนและได้สิทธิ์รอบแรกของตนคืนมาในลำดับใกล้เคียงกับสิทธิ์เดิมของตน ส่วน Buccaneers ก็ถือว่าได้โอกาสที่จะได้เลือกว่าที่ franshise quarterback คนใหม่ที่จะมาแทน Tom Brady กรณีที่พวกเขาไม่สามารถรั้ง Bradyให้อยู่ต่อไปกับทีมได้
.
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Atlanta Falcons
.

.
สถิติปี 2022 : 7-10
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 2 สิทธิ์ >> R1(8), R2(45)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- ยังไม่การันตีตำแหน่งว่าที่ franchise quarterback คนใหม่ที่จะมาแทน Matt Ryan สำหรับ Marcus Mariota ก็เป็นแค่ตัวขัดตาทัพ ส่วนดาวรุ่ง Desmond Ridder ได้ลงสนามเป็นตัวจริง 4 เกม แม้จะชนะ 2 แพ้ 2 แต่ก็ทำได้เพียง 2 ทัชดาวน์ ได้ rating เพียง 86.4 เท่านั้น
- ปัญหาที่แก้ไม่ตกกับตำแหน่ง Edge Rusher เปลี่ยนมันทุกปี ก็ยังไม่เจอคนที่ใช่ซักที พวกเขาเริ่มดูดีขึ้นเรื่อยๆ ในแผง secondary แต่แผง front 7 ยังต้องซ่อมอีกบานเบอะ
- อาวุธในเกมรุกมีน้อย รวมกับปีนี้ปีกในตัวเก่งอย่าง Kyle Pitts บาดเจ็บพักยาวเกือบครึ่งฤดูกาล
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
ต้องดูว่าคิดจะให้โอกาส Desmond Ridder ได้ลองลงสนามเป็นตัวหลักในฤดูกาลใหม่หรือไม่ ถ้าใช่พวกเขาก็ควรจะตัด Marcus Mariota ทิ้งไปเพราะจะได้ cap space มาเพิ่มอีกกว่า $12,000,000 แล้วมองหา Quarterback ประสบการณ์มาแบ๊กอัพ แต่ถ้ามองว่า Desmond Ridder ยังไม่พร้อม Jimmy Garoppolo หรือ Derek Carr เป็นทางเลือกที่ดีเลย เพราะทั้ง 2 คนเคยเล่นในระบบทีมที่มีปีกในเก่งๆ ซึ่งก็เข้าทาง Atlanta Falcons ที่มี Kyle Pitts อยู่แล้ว จริงๆ ผู้เล่นในเกมบุกของพวกเขาถือว่าไม่แย่ หลักๆ แค่ขาด QB กับ WR ที่เหลือก็เรียกว่าแทบจะพร้อมแล้วสำหรับลุยฤดูกาลใหม่ หลักๆ ไปโฟกัสกับการซ่อมเกมรับโดยเฉพาะกลุ่ม front 7 ก็พอ
.
กับอีกทางหนึ่งที่ผมคิดว่าน่าสนใจคือ ให้จับตามอง Lamar Jackson ว่าเขาจะตอบรับสัญญาฉบับใหม่กับทาง Baltimore Ravens หรือไม่ แล้วถ้าเกิด Baltimore Ravens ใช้ franchise tag กับเจ้าตัวแล้ว เจ้าตัวต่อต้านสัญญาดังกล่าวหรือไม่ ถ้าใช่ ผมว่าการที่ Atlanta Falcons จะไปขอเทรดกับ Baltimore Ravens ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะ Atlanta มีทรัพยากรในทีมบุกที่แทบจะเรียกว่าเหมือนกับ Baltimore เลย มี OL ดีเปิดทางวิ่งเก่ง มีปีกนอกและปีกในชั้นดี ที่พร้อมใช้งาน และมีตัววิ่งอย่าง Cordarrelle Patterson และ Tyler Allgeier คอยแบ่งเบาภาระเกมวิ่ง และมี cap space มากพอจะแบกค่าจ้างของ Lamar Jackson ได้ แถมปีหน้า NFC South ทั้ง 4 ทีมอยู่ในสถานะที่ลูกผีลูกคน การมาของ Lamar อาจจะทำให้ Falcons กลายเป็นทีมตัวเต็งของกลุ่มได้ไม่ยาก และสถานการณ์ของฝั่ง NFC ในตอนนี้ไม่เขี้ยวเท่าฝั่ง AFC ดังนั้น Lamar Jackson อาจจะมีโอกาสพาทีมไปถึง Super Bowl ได้ง่ายกว่าการอยู่กับ Baltimore Ravens ต่อไป
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
Kaleb McGary, RT ปีนี้ทำผลงานดีที่สุดตั้งแต่เข้าลีกมา โดยเฉพาะการเปิดทางให้เกมวิ่ง ปีนี้มีสถิติ 91.2 run-blocking grade เขาเป็นตัวหลักทางฝั่งขวาให้กับทีมมาตลอดตั้งแต่โดนดราฟต์เข้าลีกมาในปี 2019 แทบไม่เคยมีปัญหาอาการบาดเจ็บมารบกวน รักษาร่างกายดี ประสานงานกับ Chris Lindstorm, RG ได้ยอดเยี่ยม Atlanta Falcons ควรจะต่อสัญญาระยะยาวกับเขาให้ได้ เพราะแผง OL ของทีมกำลังลงตัว เหลือแค่หา LG ที่จะเป็นตัวหลักได้ ก็จะเป็น 1 ในแผง OL ที่ดีระดับต้นๆ ของลีก
ส่วนอีกคนที่น่าเก็บไว้คือ Olamide Zaccheaus อาจจะไม่โดดเด่นถึงขั้นจะเป็นเป้าหลัก แต่การรับบทเป็นปีกเบอร์ 2 หรือ 3 ของเขาทำได้ดี สัญญาฉบับเล็กๆ 2 ปีน่าจะเป็นทางเลือกที่น่าจะตกลงกันได้ไม่ยาก

.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ขอตัดมุมมองที่บอกว่าทีมจะไปเอา Lamar Jackson, Jimmy Garoppolo หรือ Derek Carr ออกไปก่อนนะ พูดถึงกรณีว่าทีมตัดสินใจให้โอกาส Desmond Ridder เป็นตัวหลักซักปี ผมมองว่ายังไงก็ควรจะปล่อย Marcus Mariota ทิ้งไปเพื่อเอา cap space แล้วเอาผู้เล่นอย่าง Jacoby Brissett หรือ Teddy Bridgewater มาสำรองไว้น่าจะดีกว่า ส่วนตำแหน่งอื่นๆ หลักๆ เชื่อว่าทีมควรหาผู้เล่นในกลุ่ม front 7 เข้ามาเสริม ด้วยความที่ว่า Atlanta Falcons มี cap space เหลือมากเป็นอันดับ 2 ในปีนี้ การดึงดูดสตาร์มารับเงินน่าจะทำได้ง่าย Greg Gaines, NT ของ Rams ชุดแชมป์ SB หรือ Dalvin Tomlinson, NT/DE ของ Minnesota Vikings ก็เป็นทางเลือกที่เพอร์เฟกต์ที่จะมาเล่นร่วมกับ Grady Jarrett และอีกฝั่งอาจจะลองเปิดโอกาสให้ดาวรุ่งอย่าง Marlon Davidson ได้รับโอกาสลงสนาม
ส่วนตำแหน่ง Edge นั้นปีนี้ Arnold Ebiketie อาจจะได้รับโอกาสมากขึ้น ทีมอาจจะหาตัวประสบการณ์อย่าง Jason Pierre-Paul หรือ Melvin Ingrams มาเป็นผู้นำ ด้วยสัญญาฉบับสั้นๆ 1 ปีไปก่อน

คาดการณ์ดราฟต์ :
มองว่า Atlanta Falcons น่าจะมองหาผู้เล่นในตำแหน่ง Edge มากกว่า WR โอเคว่าพวกเขาจะยังขาด WR ก็จริง แต่ถ้าทีมต่อสัญญากับ Olamide Zaccheaus ได้ ก็ถือว่าทีมมีปีกที่ไว้ใจได้อย่างน้อยก็ 2 คนแล้ว ดังนั้นผมไม่คิดว่าทีมจะรีบดราฟต์ WR ในรอบแรกเพื่อเอาไปแข่งกับ Drake London ที่กำลังพัฒนาตัวและมีแนวโน้มจะกลายเป็นปีกมือ 1 คนถัดไปของทีม ดังนั้นการเลือก Edge ในลำดับนี้เป็นทางเลือกที่น่าจะดูสมเหตุสมผลที่สุด ผู้เล่นที่เป็น EDGE อย่าง Tyree Wilson, Nolan Smith, B.J. Ojulari
.
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Carolina Panthers
.

.
สถิติปี 2022 : 7-10
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 3 สิทธิ์ >> R1(9), R2(40), R2(62)(from San Francisco)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- ยังคงตามหา franchise quarterback ต่อไป
- ตำแหน่ง HC คนใหม่ หลังจากทีมปลด Matt Rhule ออกไป ดูเหมือนว่า Steve Wilks ที่เข้ามาคุมทีมชั่วคราวจะทำผลงานได้ดี ทำให้ทีมกลับมามีลุ้นพื้นที่ playoff ได้อีกครั้ง ในช่วงปลายฤดูกาล ทำให้มีกระแสจากบรรดาผู้เล่นว่าอยากให้ Steve Wilks ได้ทำงานต่อ
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
ช่วงท้ายฤดูกาลดูเหมือนว่า Steve Wilks จะรู้วิธีใช้งาน Sam Darnold หลังจากที่เขากลับมายึดตำแหน่งคืนได้ในช่วงที่ Wilks เข้ามารับตำแหน่ง Sam Darnold พาทีมชนะ 4 จาก 6 เกมสุดท้าย แถมทำ rating เกิน 100 มากถึง 4 เกม ทำให้มีกระแสว่าทีมอาจจะแต่งตั้ง Steve Wilks ขึ้นเป็น HC ตัวจริง อาจจะหมายความว่า Carolina Panthers อาจจะยินดีให้ Sam Darnold เป็นจอมทัพต่อไปในฤดูกาลหน้า แต่สุดท้ายแล้วทีมก็ตัดสินใจตั้ง Frank Reich อดีต HC ของ Indianapolis Colts ขึ้นทำทีมแทน ซึ่งทำให้น่าสนใจว่าเขาจะทำยังไงกับตำแหน่ง QB เพราะอย่าลืมว่าฤดูกาลที่ผ่านมาพวกเขาดราฟต์ Matt Corral เข้ามาด้วย และยังไม่ได้ทันใช้งานก็เจ็บหนักพักยาวไปก่อน คาดว่าฤดูกาลนี้น่าจะกลับมาได้ แต่คำถามคือ Frank Reich จะหาใครเข้ามาแข่งแย่งตำแหน่งกับเขาหรือไม่
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
D'Onta Foreman กลายเป็นตัววิ่งที่ทำผลงานโดดเด่นขึ้นมาภายหลังจากที่ทีมเทรด Christian McCaffray สตาร์เบอร์ 1 ของทีมออกไปให้ San Francisco 49ers Foreman ยังอายุน้อยและเชื่อว่าเขายินดีจะรับสัญญาระยะสั้นๆ และไม่แพงเพื่อได้อยู่กับทีมต่อไป ดังนั้นทีมอาจจะมอบสัญญาฉบับใหญ่ให้กับ Bradley Bozeman ซึ่งเป็น C ตัวหลักแทน อาจจะเป็นสัญญาระยะสั้นๆ แค่ปีเดียวแต่มูลค่าสูง เพราะยังไง Bradley Bozeman ก็ยังถือว่าเป็น C ระดับ top10 ของลีกในปัจจุบัน โอเคว่านี้ผลงานของเขาอาจจะเป็น career low ก็ตามที
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ทีมไม่ได้มี Cap space มากนัก แต่โชคดีที่บรรดาตัวหลักจากปีก่อนๆ ยังมีสัญญาอยู่กับทีมเกือบครบทุกคน ตัวที่หมดสัญญาส่วนใหญ่เป็นตัวสำรอง ดังนั้นเชื่อว่าทีมน่าจะไม่ได้มองหาผู้เล่นบิ๊กเนมเข้ามาในตลาด FA รอบนี้ แต่น่าจะมองหาตัว rotation ราคาไม่แพง ที่จะมาเสริมในตำแหน่งที่ทีมมีอยู่น้อย เช่น EDGE, OG, หรือ S อย่าง Tanoh Kpassagnon(Edge), Charles Omenihu(Edge), Ike Boettger(OG), Justin McCray(OG) แต่น่าสนใจอยู่อย่างหนึ่งคือในปี 2021 ที่ Frank Reich คุม Indianapolis Colts เขาใช้งาน Carson Wentz ได้ค่อนข้างดี ซึ่งในฤดูกาลนั้น Wentz ทำผลงานขว้างไป 3,563 หลา 27 ทัชดาวน์กับอีก 7 อินเตอร์เซปต์ พาทีมจบด้วยสถิติ 9-8 ซึ่งมันค่อนข้างน่าสนใจถ้าทีมจะเอา Wentz มาเป็นตัวหลักเพื่อแข่งกับ Matt Corral ซึ่งยังไม่มีประสบการณ์ใน NFL แถมฤดูกาลหน้าก็มีโอกาสสูงที่ Buccaneers จะไม่มี Tom Brady เป็นจอมทัพ เช่นเดียวกับอีก 2 ทีมที่เหลือก็ยังไม่มีทีมไหนที่พูดได้ว่ามี QB ที่ไว้ใจได้ นั่นก็แปลว่าทั้ง 4 ทีมใน NFC South ต่างก็มีโอกาสในการพลิกเข้ารอบ Playoff ได้เหมือนๆ กัน
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
เนื่องด้วยว่าตัวหลักอยู่กันเกือบครบ ดังนั้นจึงมองได้ 2 แบบ คือ ดราฟต์มาทับเพื่อเบียดตำแหน่งใครบางคน กับดราฟต์มาในตำแหน่งที่ปล่อยตัวหลักออกไปแบบหมดสัญญาเลย ถ้าเป็นทางแรกตำแหน่งที่ดูอ่อนก็น่าจะมี QB, WR, TE และ CB สำหรับ QB ผมคิดว่าน่าจะตัดได้ เพราะทีมเพิ่งดราฟต์ Matt Corral มา เอาจริงๆ ปีที่แล้ว Matt Corral ก็ถือว่าเป็น top3 ของรุ่นอยู่นะ โอเคแหละว่าแม้จะถูกมองว่าเป็นรุ่นที่ QB แย่ก็ตามที ดังนั้นคิดว่าทีมคงไม่น่าจะเลือก QB ใหม่ในปีนี้ ตัวที่ดูดีสำหรับลำดับที่ 9 ก็น่าจะเป็น Quentin Johnston(WR) หรือ Cam Smith(CB) เด็กท้องถิ่นจาก South Carolina ก็เป็นตัวเลือกที่แฟนๆ น่าจะชอบ กับแนวทางที่สอง เลือกตำแหน่งที่ขาดไป ก็น่าจะเป็น DT ที่จะมาแทน Matt Loannidis เท่าที่ดูมีความเป็นไปได้ที่ Bryan Bresee(DT) อาจจะยังไม่มีใครหยิบ หรือถ้าจะเอาแหวกไปเลยก็น่าจะเป็นการหยิบ Bijan Robinson ตัววิ่งเบอร์ 1 ของคลาสจาก Texas Longhorns เพื่อเอามาแทนที่ Christian McCaffray ไปเลย ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่เรียกความฮือฮาจากแฟนๆ ได้มากเช่นกัน เพราะสมัยที่ Frank Reich คุม Indianapolis Colts เขาก็มีตัววิ่งเทพๆ อย่าง Jonathan Taylor เป็นอาวุธสำคัญ

Philadelphia Eagles(via New Orleans Saints)
.

.
สถิติปี 2022 : 14-3
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 3 สิทธิ์ >> R1(10)(from New Orleans), R1(31 หรือ 32), R2(63 หรือ 64)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
บรรดาทีมที่เข้าไปถึงชิงแชมป์สาย ผมจะไม่ขอเรียกว่ามันเป็นปัญหานะครับ หลักๆ น่าจะชื่นชมมากกว่า ต้องยอมรับว่าการตัดสินใจโละสต๊าฟทีมครั้งใหญ่หลังจบฤดูกาล 2020 จากยุคของ Doug Pederson มาเป็น Nick Sirianni ดูเหมือนว่าจะเป็นแนวทางที่พูดได้ว่าเป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยมอีกครั้งของ Howie Roseman, GM ของทีมที่ต้องเรียกว่าเขาอยู่กับ Philadelphia Eagles มาตั้งแต่ปี 2000 ผ่านมากว่า 2 ทศวรรษ เขาค่อยๆ ไต่เต้าจากตำแหน่งเล็ก จนกลายมาเป็น GM ได้ ต้องยอมรับว่าเขาปลุกปั้น Philadelphia Eagles ขึ้นมาได้อย่างน่าประทับใจ หลังจากถูกค่อนขอดว่าเป็นเบ๊ของกลุ่ม NFC East มานาน ไม่เคยได้สัมผัสความสำเร็จเหมือนทีมคู่แข่งร่วมสาย ปีนี้การตัดสินใจครั้งใหญ่ของเขา ไล่ตั้งแต่การเทรด Carson Wentz ไปให้กับ Indianapolis Colts ในปี 2021 แลกกับดราฟต์รอบ 2 ของปี 2022 แบบมีหมายเหตุว่าถ้า Wentz ลงสนามมากกว่า 75% ก็จะกลายเป็นได้สิทธิ์รอบแรกของ Colts ในปี 2022 มาแทน และเทรดสิทธิ์รอบแรกลำดับ 6 ของตัวเองกับ Miami Dolphins โดยได้สิทธิ์รอบแรกในปี 2022 มาเพิ่มด้วย ทำให้ตอนดราฟต์ปี 2022 พวกเขามีสิทธิ์ดราฟต์รอบแรกในมือมากถึง 3 สิทธิ์
.
ซึ่งต้องชม Roseman มากๆ กับวิธีตัดสินใจของเขาที่แปลงสิทธิ์รอบแรกจาก 3 สิทธิ์ ให้เป็นดราฟต์ Jordan Davis, เทรดแลกเอาดราฟต์รอบแรกของปี 2023 มาจาก New Orleans Saints และสิทธิ์สุดท้ายเอาไปเทรด A.J. Brown ปีกนอกของ Tennessee Titans ให้เข้ามาเป็นปีกนอกมือ 1 ของทีมแทน และนอกจากนี้ยังมีการมีเซ็นต์ Haason Reddick เข้ามา น่าจะกลายเป็นสุดยอดดีล free agent ของฤดูกาล 2022 เลยก็ว่าได้ ทั้งหมดทั้งมวลรวมกับขุมกำลังที่มีการพัฒนาขึ้นมาในปี 2021 พวกเขาดูเหมือนเป็นม้ามืดใน playoff แต่พอเข้าสู่ปี 2022 พวกเขาพุ่งทะยานเป็นมือ 1 ของ NFC ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
ปีนี้เรียกว่าตัวหลักอยู่กันเกือบครบทุกตำแหน่ง แถม Jalen Hurts ยังอยู่ในสัญญารุกกี้ทำให้ทีมได้ลุ้นต่อเป็นปีที่ 2 เรียกว่าสถานการณ์ค่อนข้างจะคล้ายกับทางฝั่งของทีม Cincinnati Bengals เลย หลักๆ เลยที่หมดสัญญา ฝั่งทีมบุกมี Jason Kelce(C), Isaac Seumalo(RG) และ Miles Sanders(RB) ฝั่งนี้มีโอกาสสูงที่ทีมจะไม่เก็บใครไว้เลย สำหรับ Jason Kelce เดาว่ามีโอกาสที่จะรีไทร์หลังจบฤดูกาลนี้ สำหรับตำแหน่ง Center พวกเขาดราฟต์ Cam Jurgens มารอไว้แล้ว ส่วน Seumalo กับ Sanders คิดว่าทีมไม่น่ามี cap space มากพอจะให้สัญญาใหม่กับพวกเขาได้ ฝั่งทีมรับตัวหลักที่หมดสัญญามี Brandon Graham(DE), Robert Quinn(DE), Javon Hargrave(DT), James Bradberry(CB), T.J. Edwards(MLB), Kyzir White(OLB), Chauncey Gardner-Johnson(S) และ Marcus Epps(S) ต้องบอกว่าหลายๆ คนมีตัวแทนที่ทีมเตรียมไว้แล้ว เช่น Haason Reddick สามารถโยกมาเล่น DE ได้, Jordan Davis ก็น่าจะได้รับโอกาสเป็นตัวจริงในตำแหน่ง DT ตำแหน่ง LB มี Nakobe Dean รออยู่ ส่วนตำแหน่ง CB ก็มีดาวรุ่งอย่าง Zech McPhearson กับ Josh Jobe ต่อสู้แย่งตำแหน่งกัน เมื่อพิจารณาดูแล้ว Philadelphia Eagles น่าจะมีฤดูกาลที่ดีต่อเนื่องอีกปี
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
ในบรรดาตัวหลักที่กล่าวมา ด้วยความที่ว่าทีมมี cap space เหลือไม่มากนัก($5,008,160) แถมต้องบอกว่าบรรดาพวกที่รับค่าจ้างเกิน $3,000,000 ทุกคน ไม่มีใครที่สามารถ released ออกไปแล้วสามารถเคลียร์เพดานค่าจ้างได้เลย ดังนั้นอย่างมากสุดคือการขอ reconstruction สัญญาเป็นบางราย หลักๆ น่าจะเป็นในรายของ Lane Johnson(RT) ที่จะสามารถประหยัดได้อีกราวๆ $8,660,000 ซึ่งก็ได้ไม่มากนัก ดังนั้นบรรดาสตาร์ที่ถูกคาดการณ์ว่าจะรับสัญญาฉบับใหม่ระยะยาวในราคาแพงๆ อย่าง Isaac Seumalo, Miles Sanders, Javon Hargrave, James Bradberry, Chauncey Gardner-Johnson และอาจจะรวมถึง T.J. Edwards ด้วย คงจะถูกปล่อยตัวออกไปทั้งหมด
.
ผมเดาว่าถ้าทีมจะเก็บใครไว้ น่าจะเป็นการต่อสัญญาระยะสั้นๆ กับ Brandon Graham เพราะจาก spotrac มีการคาดการณ์ว่าอาจจะเป็นสัญญาปีต่อปีในราคาไม่ถึง $3,500,000 ซึ่งในฤดูกาลนี้ต้องบอกว่าเขาถูกปรับเป็นตัวกึ่งๆ rotatio ในแผง pass rush ซึ่งกลายเป็นว่าพอปรับบทบาทแล้วทำให้เขาสามารถทำ sacks career high คือกดไปถึง 12 sacks ทำให้เขาเป็น 1 ใน 4 ผู้เล่นใน front 7 ของทีม Philadelphia Eagles ที่ทำเกิน 10 sacks ในฤดูกาลนี้(Haason Reddick(19.5), Josh Sweat(12.5), Javon Hargrave(12.0)) ดังนั้นถ้าราชา sacks ของทีมอยู่กันพร้อมหน้า ฤดูกาลหน้าทีมรับของพวกเขาก็จะยังน่ากลัวเหมือนเดิม
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ปีนี้หลักๆ ทีมน่าจะขยับตัวในตลาด free agent ไม่มากนัก เนื่องจากบรรดาตัวหลักอยู่กันเกือบครบอยู่แล้ว ถ้าจะมองว่ามีตำแหน่งไหนที่ดูแล้วอาจจะมีการขยับเพื่อหาคนมาแทนที่คนเก่าที่ย้ายออกไป ผมเดาว่าอาจจะเป็นตำแหน่ง RG ที่จะเล่นแทน Isaac Seumalo ถ้ามองคนที่มีประสบการณ์และค่าจ้างไม่แพงมาก ตัวที่ดูเป็นไปได้น่าจะมี Trai Turner, Will Hernandez หรือ Graham Glasgow(ถ้า Broncos released ทิ้ง)
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
สำหรับรอบแรกต้องบอกว่าปีนี้ Philadelphia Eagles มีสิทธิ์ดราฟต์รอบแรกอยู่ในมือมากถึง 2 สิทธิ์ และในบรรดาตำแหน่งที่ทีมขาดอยู่แล้วเอามาลุ้นการเป็น starter หรือกึ่งๆ rotation starter ได้ทันที น่าจะเป็นไปได้อยู่ประมาณ 3 ตำแหน่งคือ CB ถ้าทีมมองว่า 2 ดาวรุ่งอย่าง Zech McPhearson หรือ Josh Jobe ดูไม่ดีพอถ้าเทียบกับเด็กคลาสนี้ ซึ่งด้วยลำดับที่ 10 พวกเขาสามารถลุ้น top3 ของคลาสนี้อย่าง Devon Witherspoon, Cam Smith หรือ Joey Porter Jr. ได้ หรือ EDGE อย่าง Myles Murphy ถ้าไหลลงมา แต่ที่น่าสนใจอีกทางคือการเติมอาวุธอย่าง Bijan Robinson หรือชิงดราฟต์ WR ตัวท็อปของคลาสอย่าง Quentin Johnston, Jordan Addison, Jaxson Smith-Njigba หรือเติมปีก slot ธรรมชาติอย่าง Zay Flowers มาเลยก็เป็นทางเลือกที่ดีมากเช่นกัน

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Tennessee Titans
.

.
สถิติปี 2022 : 7-10
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 2 สิทธิ์ >> R1(11), R2(42)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- แนว OL ผลงานตกลงค่อนข้างมากจากปีก่อน ส่งผลให้เกมขว้างมีปัญหาค่อนข้างมาก ปีนี้ได้เพียง 16 ทัชดาวน์จากเกมขว้าง และสถิติของ OL ในการรับมือกับ Edge ฝั่งตรงข้ามค่อนข้างแย่ เกือบบ๊วยสุดของลีก หลักๆ มาจากปัญหาอาการบาดเจ็บของบรรดาตัวหลัก Taylor Lewan, LT ปิดเทอมตั้งแต่ต้นฤดูกาล, Ben Jones เจอคอนคัสชั่นไปหลายรอบ
- ปีกนอกที่มีไม่สามารถทดแทนการจากไปของ A.J. Brown ได้ ปีนี้บรรดาปีกภายในทีมมีแค่ 2 เกมที่มีคนรับบอลเกิน 100 หลา
- ดูเหมือนว่า Malik Willis อาจจะไม่ใช่คำตอบในอนาคต หลังจากแสดงให้เห็นแล้วว่าไม่สามารถปรับตัวเข้ากับลีก NFL ได้ ทีมอาจจะต้องคิดเรื่องหา QB ใหม่อีกครั้ง
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
Tennessee Titans เพิ่งจะประกาศปลด Jon Robinson, GM คนเก่าของทีมที่อยู่มานานกว่า 7 ปี แล้วแต่งตั้ง Ron Carthon, อดีตผู้อำนวยการฝ่ายบุคคลที่ดูแลด้านตัวผู้เล่นของ San Francisco 49ers เข้ารับตำแหน่งแทน มีแนวโน้มสูงที่ GM คนใหม่อาจจะทำการเปลี่ยนแปลง QB ภายในทีมใหม่ ซึ่งอาจจะเป็นการนำเอา Jimmy Garoppolo ที่กำลังจะหมดสัญญากับ 49ers เข้ามาร่วมทีม ซึ่งกรณีนี้อาจจะหมายถึงการเทรด Ryan Tannehill ออกไป ต้องยอมรับว่าผลงานของ Tannehill ดรอปลงทุกปีนับตั้งแต่ที่ได้สัญญาฉบับใหม่ และที่น่าสนใจก็คือถ้า GM ของทีมมองว่าแนวทางอย่างหนึ่งที่ Mike Vrabel เก่งเป็นพิเศษคือแผนที่เล่นโดยใช้ TE เป็นหนึ่งในอาวุธสำคัญเหมือนช่วงต้นๆ ที่เขามาคุมทีมใหม่ๆ และถ้านำตัวสตาร์อย่าง Dalton Schultz เข้ามาเป็น TE มือ 1 ร่วมกับดาวรุ่งอย่าง Chigoziem Okonkwo ซึ่งกำลังทำผลงานได้ดี
.
ซึ่งเวลานี้ cap space ของทีมติดลบอยู่ $-24,299,704 ดังนั้นอาจจะหมายถึงการที่ต้องไล่เคลียร์ผู้เล่นบางส่วนออกจากทีม โดยเฉพาะ Robert Woods(save $12,000,000), Bud Dupree(save $9,350,000) หรืออาจจะไปถึงขั้นพิจารณาเทรดตัว Taylor Lewan ออกจากทีมเพื่อประหยัดไปอีกถึง $14,800,000 แต่ถือว่ามีโอกาสเป็นไปได้มาก เพราะผู้เล่นหลายๆ คนอยู่ในข่ายที่สามารถใช้วิธี released แล้วได้เพดานค่าจ้างเพิ่มค่อนข้างมากหลายคน เพราะว่าในช่วง 4 ฤดูกาลหลังต้องเรียกว่าอยู่ไม่ครบฤดูกาลซักที ทีมอาจจะมองว่าถึงเวลาที่ต้องเริ่มสร้างแนว OL ใหม่ก่อนในเวลานี้ เพราะตอนนี้ภาพรวมของฝั่งทีมรับค่อนข้างจะสมบูรณ์แล้ว
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
David Long Jr. อาจจะเป็นตัวเลือกที่ทีมอาจจะพิจารณาเก็บไว้เพราะเป็นตัวหลักในแผง LB ของทีมในปีที่ผ่านมา เพราะคู่หูของเขาอย่าง Zach Cunningham มีโอกาสสูงที่ทีมอาจจะตัดตัวทิ้ง ปีนี้ Long ทำผลงาน 89.0 run-defense grade เรียกว่าติดอยู่ใน top5 ของ ILB เรื่องการหยุดเกมวิ่ง ส่วนตัวเก่งอย่าง Amani Hooker ผมไม่มั่นใจว่าทีมจะเก็บเขาไว้หรือไม่ แม้จะผลงานโดดเด่นแต่ปัญหาคือสภาพร่างกายที่ไม่เคยอยู่ครบทั้งฤดูกาลเลยแม้แต่ปีแล้ว ทีมอาจจะตัดสินใจมองหา S ใหม่จากการดราฟต์
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ปีนี้ทีมส่อแววว่าจะเสีย Nate Davis, RG ตัวเก่งออกไป ขณะที่ฝั่ง LG อย่าง Aaron Brewer ผลงานไม่น่าประทับใจ แถมหมดสัญญาด้วยทีมคงไม่เก็บไว้ ดังนั้นมีโอกาสสูงที่ OG ของทีมอาจจะเปลี่ยนหน้าใหม่ทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งทีมอาจจะมองหาจากการดราฟต์ในรอบกลางๆ เพิ่ม แต่อีกด้านน่าจะเป็นการมองหาตัวที่มีประสบการณ์ในราคาที่ไม่แรงมากนัก Trai Turner หรือ Matt Pryor อาจจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

และดังที่กล่าวไปข้างต้น การนำ Jimmy Garoppolo+Dalton Schultz เข้ามาจะเป็นการยกระดับทีมที่น่าสนใจมากทีเดียว Derrick Henry ก็ยังอยู่ในฟอร์มที่ดี แม้จะไม่ดุดันเท่าในอดีต ขณะที่ Treylon Burks ก็มีพัฒนาการที่ดี การเปลี่ยนแปลงในตำแหน่ง QB อาจจะเป็นการกระตุ้นให้ทีมกลับเข้าสู่เส้นทางลุ้นแย่งแชมป์ AFC South แข่งกับ Jacksonville Jaguars ได้อย่างสนุกอีกปี
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
ก่อนอื่นต้องดูว่าทีมจะมีการเปลี่ยน QB หรือไม่ในช่วงก่อนวันดราฟต์ เพราะต้องบอกว่าลำดับของ Tennessee มันออกได้หลายหน้ามาก และด้วยลำดับที่ 11 ถือว่า Scope ผู้เล่นที่น่าจะยังไม่ถูกเลือกค่อนข้างส่งให้ว่ามีโอกาสเป็นผู้เล่นฝั่งทีมบุกค่อนข้างสูง มีโอกาสออกได้ทั้งตำแหน่ง QB อย่าง C.J. Stroud หรือ Will Levis, ตำแหน่ง OT อย่าง Parris Johnson Jr. หรือ WR อย่าง Jordan Addison หรือ Quentin Johnston เป็นไปได้ทั้งนั้น ซึ่งถ้าดูจากสถานการณ์แล้ว ผมมองว่ามีโอกาสสูงที่ทีมจะดราฟต์ WR ในรอบแรกเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
.
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


New York Jets
.

.
สถิติปี 2022 : 7-10
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 2 สิทธิ์ >> R1(13), R2(44)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- ไม่มีจอมทัพที่พึ่งพาได้ในการจะนำทีมที่เรียกได้ว่าขุมกำลังเกือบจะพร้อมแล้ว
- ปีนี้ทีมเสียผู้เล่นตัวหลักในแนว OL จากอาการบาดเจ็บ โดยเฉพาะในรายของ Mekhi Becton และ Alijah Vera-Tucker ทำให้ OL ยวบไปเยอะโดยเฉพาะการป้องกัน pass rusher ฝั่งตรงข้าม
- อาการบาดเจ็บของ Breece Hall ทำให้เกมรุกสะดุดไปช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
Robert Saleh น่าจะต้องถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจกับตำแหน่ง QB ของเขาซักที หลังจากใช้เวลา 2 ปีปลุกปั้นทีมรับของ Jets จนกลายเป็นยอดทีมรับของลีกได้ตามความคาดหวังแล้ว Jets เป็นเหมือนขั้วตรงข้ามกับทีมอย่าง Detroit Lions ที่ฝั่งนู้นบุกโหดรับห่วย แต่กับ Jets คือ รับโหดบุกไม่ได้เรื่อง ปีนี้เป็นปีที่พวกเขามีตัวเลือกในตำแหน่ง QB แบบที่เรียกว่าเกือบไม่ต้องห่วงว่าจะมีใครมาแย่งกับเขาเหมือนตอนที่หลายๆ ทีมรุมแย่งตัว Russell Wilson ในปีที่ผ่านมา Aaron Rodgers คือตัวเลือกที่ Perfect ที่สุดสำหรับ Jets รองลงมาอาจจะเป็น Derek Carr หรือ Jimmy Garoppolo แต่อย่าลืมว่า Jets เพิ่งจะดราฟต์ผู้เล่นในรอบแรกไปถึง 3 คนเมื่อปีก่อน ถ้าปีนี้พวกเขาจะเอาสิทธิ์รอบแรกไปแจกคนอื่นเพื่อที่จะไม่ต้องมาห่วงว่าในอนาคตอาจจะต้องมานั่งไล่แจกสัญญา fifth year option มากถึง 4 คน ใน 2 ปี ดังนั้นถ้ายอมเสียสิทธิ์รอบแรกของปีนี้ไปแลกกับการได้ตัว Aaron Rodgers พวกเขาน่าจะเล่นด้วย เพราะอายุการใช้งานของ Rodgers น่าจะยังเล่นในระดับสุดยอดได้อีกก็ 2-3 ปี ก็น่าจะพอดีกับช่วงที่บรรดาดาวรุ่งจะยังอยู่ในสัญญารุกกี้ และเป็นช่วงที่เขาจะได้ลุ้นบินสูงในฤดูกาล 2023 และ 2024
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
Sheldon Rankins กับ Connor McGovern เป็น 2 ผู้เล่นที่ทีมควรจะรั้งไว้ถ้าทำได้ แต่ถ้าต้องเลือกใครซักคน ก็ควรจะเก็บ Sheldon Rankins อดีตผู้เล่นดราฟต์รอบแรกของ New Orleans Saints ก่อน เพื่อให้ตัวหลักในแนว DL ชุดปัจจุบันอยู่กันพร้อมหน้าในฤดูกาลหน้า เพราะดูเหมือนการจับคู่ระหว่าง Sheldon Rankins กับ Quinnen Williams ดูลงตัว โดยเฉพาะการหยุดเกมวิ่งของคู่แข่ง
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
Jets โชคดีอย่างหนึ่งคือ แม้ภาพรวมทีมจะเหลือ cap space ไม่เยอะ($7,945,955) แต่พอเข้าไปดูไส้ในจะพบว่า ผู้เล่นหลายๆ คนถ้า released ทิ้งสามารถเซฟ cap space ได้มหาศาล ยกตัวอย่างเช่น Carl Lawson(save $15,000,000), D.J. Reed(save $7,850,000), John Franklin-Myers(save $11,200,000), Corey Davis(save $10,500,000) หรือ Jordan Whitehead(save $7,500,000) เป็นต้น แปลว่าพวกเขาเคลียร์พื้นที่ได้สบายๆ หลายๆ คนที่เป็นตัวหลักมีดาวรุ่งพร้อมเสียบแล้ว Jermaine Johnson II ก็พร้อมจะแทนตำแหน่งของ Lawson หรือ Franklin-Myers, Garrett Wilson กับ Elijah Moore ก็ยังอยู่ถ้าทีมไม่มี Corey Davis เป็นต้น ดังนั้น ผมเลยมองว่า Robert Saleh น่าจะเห็นแล้วว่าปีที่ผ่านมาพวกเขาขาดแค่ QB ที่จะนำทีมที่เขาเพียรสร้างมาให้ไปสู่ Playoff ได้ ดังนั้นพวกเขาควรตัดสินใจทุ่มคว้าตัว Aaron Rodgers มาจาก Green Bay Packers เพราะในปีหน้าคู่แข่งอย่าง New England Patriots, Miami Dolphins, Tennessee Titans ก็ยังลูกผีลูกคน, Baltimore Ravens ก็ยังวุ่นวายกับสัญญาใหม่ของ Lamar Jackson, ส่วน AFC West นอกจาก Kansas City Chiefs แล้ว อีก 3 ทีมที่เหลือก็พร้อมโยนหัวก้อยได้ตลอดเวลาเหมือนกัน

คาดการณ์ดราฟต์ :
คล้ายๆ Raiders คือเชื่อว่า Jets ควรจะเอาสิทธิ์รอบแรกไปแลกกับ Aaron Rodgers ของ Green Bay Packers ส่วนรอบสองนั้นทีมอาจจะมองหา LB หรือ CB(กรณีปล่อย D.J. Reed ออกไป) เช่น Noah Sewell, Drew Sanders, Jack Campbell หรือ Owen Pappoe ในกรณีเลือก LB แต่ถ้าเลือก CB อาจจะเป็น Josh Newton, Trevius Hodges-Tomlinson หรือ Emmanuel Forbes ในรอบ 2 ก็เป็นทางเลือกที่เป็นไปได้

New England Patriots
.

.
สถิติปี 2022 : 8-9
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 2 สิทธิ์ >> R1(14), R2(47)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- การเปลี่ยน OC ใหม่ดูเหมือนว่าจะส่งผลให้เห็นว่า Mac Jones ไม่มีพัฒนาการที่ดีขึ้นเลยจากฤดูกาลก่อน ซึ่งต้องดูว่าสรุปแล้วคือ Mac Jones ไม่พัฒนาหรือ OC ไม่ได้เรื่อง เพราะผลงานส่วนตัวของ Mac Jones ทั้งเรื่องระยะที่ทำได้และจำนวนทัชดาวน์ร่วงลงหมดจากปีแรกที่เป็นรุกกี้
- ปีกนอกที่มีน่าจะเป็นหนึ่งในชุดที่ขี้เหร่ที่สุดของลีก แม้แต่ผลงานของปีกในอย่าง Hunter Henry กับ Jonnu Smith ก็ตกลง อาจจะเป็นหนึ่งในปีที่ Patriots ไม่มี Casher ที่ไว้ใจได้เลยซักคน
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
น่าจะต้องเริ่มต้นด้วยการมองหา OC แท้ๆ แบบจริงๆ จังๆ ล่าสุดได้ตัว Bill O'Brien อดีต OC และ QB Coach ของทีมมหาวิทลัย Alabama Crimson Tides ปีนี้ตัวหลักอยู่กันเกือบครบ ถ้าจะมีหายเยอะๆ ก็น่าจะเป็น WR ที่ Jakobi Meyers, Nelson Agholor และ Matthew Slater หมดสัญญาพร้อมๆ กันทั้ง 3 คน ซึ่งดูแล้ว ไม่ว่าจะปล่อยทิ้งหมด หรือเลือกเก็บบางคนเอาไว้ ก็อาจจะไม่มีผลกระทบกับทีมมากนัก Bill Belichick ก็คงจะไปงมหา WR รายใหม่ที่หลายๆ คนอาจจะรู้สึกว่า เอามาทำไม มาใช้งานประคับประคองทีมไปได้เรื่อยๆ จนกว่าทีมจะปั้น Mac Jones ให้ก้าวไปเล่นในระดับสูงกว่านี้ได้ หรือไม่ก็ตัดใจตามหา QB ใหม่ไปเลยแฟนๆ ก็คงไม่ว่าอะไรแล้วมั้ง
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
Jakobi Meyer น่าจะเป็นตัวสำคัญที่ทีมอยากเก็บไว้ เพราะถือว่าเป็น WR ไม่กี่คนในระยะหลังๆ ที่ Patriots ปั้นขึ้นมาได้ในยุคหลัง Tom Brady จากผู้เล่นโนเนมไปๆ มาๆ ขยับขึ้นมาเป็นปีกตัวหลัก ของทีมได้ ถือว่าไม่ธรรมดา ศักยภาพของเขาถือว่าพร้อมสำหรับการจะก้าวมาเป็นปีกมือ 2 หรือ 3 ของทีมได้ ด้วยแนวทางของทีม Patriots บางทีทีมอาจจะพิจารณามอบสัญญาระยะสั้นๆ 1-2 ปี ในมูลค่าหลัก $10,000,000/ปี ให้ ซึ่งเชื่อว่าเจ้าตัวน่าจะยินดีที่จะอยู่ต่อมากกว่าไปมองหาความท้าทายกับทีมอื่นๆ ส่วนตัวตำนานอย่าง Devin McCourty นี่น่าสนใจว่าทีมจะขอให้อยู่ช่วยทีมต่อไปหรือไม่ เพราะเจ้าตัวก็ยังสามารถเล่นในระดับสูงเป็นตัวหลักของทีมได้ หรือจะปล่อยให้ Adrian Phillips ขยับขึ้นมาเป็นตัวหลักคนใหม่แทน
.
ส่วน Jonathan Jones ตัวคุมปีกนี่ต้องดูอย่างเดียวว่ามีคนยื่นสัญญามาแข่งหรือไม่ ถ้าเจ้าตัวยินดีรับสัญญาระดับกลางๆ ผมว่า Patriots น่าจะต่อ แต่ถ้ามองหาสัญญาราคาสูงๆ ผมว่า Patriots ก็คงไม่ติดที่จะปล่อยตัวออกจากทีมไป เพราะที่ผ่านมาแทบไม่เคยเห็นทีมอย่าง New England Patriots ประสบปัญหาเรื่องตัวคุมปีกเลย ดาวรุ่งคนใหม่ขึ้นมาแทนที่คนเก่าที่ย้ายออกไปคนแล้วคนเล่า แล้วก็เรียกได้ว่าเล่นได้ดีแทบทุกคน
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ปีนี้น่าสนใจ เพราะทีมมี cap space เหลือค่อนข้างเยอะ($44,114,524) แต่น่าสนใจตรงที่ถ้าเราย้อนไปที่ช่วงก่อนเริ่มฤดูกาล 2021 ถ้าใครจำได้ปีนั้น New England Patriots ระเบิดตลาด FA ได้ระห่ำมาก แต่ไฮไลท์คือส่วนใหญ่จะเป็นการมอบสัญญาก้อนใหญ่แต่ระยะสั้นๆ แค่ 1 ปีให้แก่ผู้เล่นระดับเกรด B ถึง A ปีนี้เชื่อว่ามีโอกาสเป็นแบบนั้นอีก ปีนี้แต่เดิมมองว่า WR น่าจะเป็นตำแหน่งที่ทีมอาจจะมองหาว่าที่มือ 1 ของทีมที่จะมาช่วย Mac Jones แต่ดูในตลาด FA ไม่มีคนที่โดดเด่นพอจะเป็นมือ 1 ให้กับ Patriots ได้ นอกจากกรณีว่า Patriots ยื่นสิทธิ์ดราฟต์รอบ 2 หรือ 3 ไปให้กับ Denver Broncos เพื่อดึงเอา Jerry Jeudy มาเล่นร่วมกับ Mac Jones ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับปีกนอกในตลาด free agent ที่ดูแล้วอาจจะมีโอกาสมาร่วมทีมได้ ผมมองไปที่ DJ Chark และ Marvin Jones Jr.
.
แต่ถ้าจะให้มองว่า free agent ใครมีโอกาสย้ายมามากที่สุด ผมมองไปที่ Jawaan Taylor, RT ของ Jacksonville Jaguars ที่น่าจะเป็นตัวเลือกที่ทีมอาจจะเอามาทดแทน Isaiah Wynn, RT คนปัจจุบันที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนมาตลอด และกำลังจะหมดสัญญาเช่นกัน
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
ผมว่าทีมน่าจะเข็ดเรื่อง WR แล้ว ที่ผ่านมาเรียกว่าแทบจะไม่ประสบความสำเร็จกับการดราฟต์ WR เลยเมื่อเทียบกับการดราฟต์ CB ถ้าคราวนี้ต่อให้ Jordan Addison หรือ Quentin Johnston ยังไม่ถูกเลือก ก็เชื่อว่า Patriots ก็คงจะมองข้ามคู่นี้เช่นกัน ตำแหน่งที่ดูเป็นไปได้ที่ทีมจะเลือกคราวนี้ผมให้น้ำหนักไปที่ตำแหน่ง S หรือ CB ซึ่ง Brian Branch หรือ Devon Witherspoon น่าจะเป็น 2 คนที่น่าจะเข้ากับสไตล์เกมรับของ Patriots แต่ถ้าจะมองว่า Bill Belichick อยากเซอร์ไพรส์แฟนๆ อีกทางที่ดูแล้วผมคิดว่าเฮ้ย มันก็เป็นไปได้นะ ก็คือการดราฟต์ Bijan Robinson ตัววิ่งเบอร์ 1 ของคลาส ก็ในเมื่อ OL ของทีมก็ขึ้นชื่อเรื่องเปิดทางวิ่งได้ดีมาตลอด แถม Mac Jones ก็ไม่ใช่ QB แนวที่จะมาขว้างบอมบ์ลึกบ่อยๆ เน้นติ๊ดชึ่งๆ ไปเรื่อยๆ ถ้าปีนี้ทีมปล่อย Damien Harris ออกไปก็จะเหลือแค่ Rhamondre Stevenson กับ Pierre Strong Jr. ซึ่งก็ดูแล้วยังดูไม่แข็งแกร่งนัก ถ้าทีมได้ Bijan Robinson มาเป็นอาวุธในเกมวิ่งสลับกับ Rhamondre Stevenson ก็อาจจะทำให้ Mac Jones เล่นง่ายขึ้น

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Green Bay Packers
.

.
สถิติปี 2022 : 8-9
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 2 สิทธิ์ >> R1(15), R2(46)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- การขาดหายไปของ Davante Adams ขณะที่ Allen Lazard ก็ไม่สามารถก้าวขึ้นมาทดแทนได้ ทำให้เป้าสำคัญของ Aaron Rodgers ไม่มีในการเปลี่ยนดาวน์สำคัญหรือในการเล่น bigplay
- วินัยในเกมรับแย่ลง มีการเสียโทษแบบไม่จำเป็นบ่อยครั้ง
- การสลับกันบาดเจ็บของผู้เล่นในแผง OL และรอยรั่วในแผง OL ฝั่งขวา ที่ยังหาตัวหลักไม่ได้ว่าใครจะเป็น RG และ RT ตัวจริง
- แผง DB โดยเฉพาะคู่ของ Darnell Savage Jr. กับ Eric Stokes ผลงานดรอปลงจากปีก่อนมากพอสมควร
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
ตั้งแต่หมดยุดของ Mike McCarthy มักเป็นคำถามทุกปีว่าหมดเวลาของ Aaron Rodgers หรือยัง แฟนๆ ก็อึดอัดปล่อยไปก็เสียดาย อยู่ก็แล้วยังไงต่อ ดังนั้นด้วยวัยย่างเข้า 40 ปี ผมว่าทีมน่าจะตัดสินใจแยกทางกับ Aaron Rodgers ได้แล้วเพราะน่าจะเป็นปีสุดท้ายที่จะสามารถเทรดแล้วได้ราคาอยู่ และเป็นปีที่ต้องตัดสินอนาคตของ Jordan Love แล้วด้วยเพราะเขากำลังจะเข้าสู่ปีที่ 4 ในสัญญารุกกี้ และทีมน่าจะรอดูช่วงเริ่มต้นฤดูกาลว่าเมื่อเขาลงสนามเป็นตัวจริงไปซักระยะ เขาดูมีแววจะไปต่อได้หรือไม่ ถ้าได้ก็จะได้ใช้สิทธิ์ fifth year option แต่ถ้าไม่ก็สามารถพิจารณาเรื่องการมองหา QB คนใหม่ในคลาส 2024 ต่อไป ซึ่งภาพรวมของทีมในเวลานี้หลายๆ ตำแหน่งถ่ายเลือดกันเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่รอการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่ง QB ดังนั้นปีหน้าอาจจะเป็นปีที่ล้มลุกคลุกคลานของ Packers แต่ที่น่าสนใจคือดาวรุ่งหลายคนที่ดราฟต์มาในปี 2022 น่าจะขึ้นมาเป็นตัวจริงในปีหน้าโดยเฉพาะในรายของ Devonte Wyatt น่าจะขึ้นมาเป็นตัวหลักในแนว DL แทน Jarran Reed/Dean Lowry และ Zach Tom น่าจะได้รับโอกาสก้าวขึ้นมาเป็น RT ตัวจริง
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
Keisean Nixon ที่มาพร้อมกับ Rich Bisaccia, Special Team Coach กลายเป็นของดีใน Special Team ที่เป็นปัญหาของทีมมาหลายปี ปีนี้เขาทำระยะเฉลี่ย 28.8 หลาต่อการวิ่งย้อน kickoff และเฉลี่ย 12.8 หลาต่อการวิ่งย้อนพันต์ จนทำให้ติดทีม Pro-Bowl ดังนั้นเชื่อว่าทีมเก็บเขาไว้กับทีมแน่ๆ เหมือนกับปีที่ผ่านมาที่ DeVondre Campbell ที่มาพร้อมกับ Joe Barry ส่วนอีกคนเชื่อว่าทีมน่าจะต้องตัดสินใจว่าระหว่าง Allen Lazard หรือ Adian Amos ทีมจะเลือกเก็บใคร เพราะด้วย cap space ที่มีน่าจะรักษาเอาไว้ไม่ได้ทั้ง 2 คน ดังนั้นทีมอาจจะตัดสินใจเลือกเก็บ Allen Lazard เอาไว้เป็นผู้นำในกลุ่มปีกนอกดาวรุ่งส่วนในตำแหน่ง S อาจจะให้สัญญาฉบับเล็กๆ กับ Rudy Ford ซึ่งย้ายมาช่วงกลางฤดูกาลแล้วผลงานดีแทน
อีกคนที่ทีมอาจจะเจรจาเพื่อต่อสัญญาไว้ใช้งานต่ออีกซัก 1-2 ปีน่าจะเป็น Mason Crosby เพราะทีมคงไม่อยากเสี่ยงที่จะเสียทั้ง Aaron Rodgers และตัวเตะประสบการณ์สูงอย่าง Mason Crosby ออกไปพร้อมๆ กันในปีเดียว
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ด้วยความที่ว่า cap space ของทีมแทบไม่เหลือ ดังนั้นปีนี้ทีมอาจจะไม่มีผู้เล่นระดับบิ๊กเนมย้ายเข้ามาให้แฟนๆ ตื่นเต้น ผู้เล่นที่เข้ามาอาจจะเป็นพวกผู้เล่นประสบการณ์สูงเกรดบีที่จะเข้ามาเติมในตำแหน่งที่เต็มไปด้วยเด็กดาวรุ่ง เพื่อเป็นผู้นำในกลุ่มมากกว่า ตำแหน่งที่ดูเป็นไปได้น่าจะเป็นปีกใน เชื่อว่าทีมน่าจะพยายามเจรจาต่อสัญญากับ Marcedes Lewis ออกไปอีก 1 ปี แต่ถ้าไม่ได้ ก็อาจจะมองหาผู้เล่นที่เคยเป็นตัวหลักอย่าง Ryan Griffin, Jesse James หรือ Kyle Rudolph มาช่วยงานซัก 1 ปีไปก่อน ที่เหลือก็น่าจะเป็น QB ที่จะเข้ามาเป็นสำรองให้กับ Jordan Love อย่าง Blaine Gabbert หรือ Brandon Allen
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
ผมมองว่าถ้าทีมจะเทรด Aaron Rodgers ออกไป ทีมที่น่าจะได้ตัวไปก็น่าจะเป็น New York Jets ไม่ก็ Tennessee Titans ทีมใดทีมหนึ่ง ถ้ามองว่า Aaron Rodgers มองหาความสำเร็จครั้งสุดท้ายในช่วงบั้นปลายอาชีพ เขาน่าจะเลือก New York Jets เพราะสภาพทีมพร้อมกว่า แล้วการย้ายไปอยู่เมืองใหญ่อย่าง New York ก็น่าจะเหมาะสมสำหรับคนที่เคยมาจาก Califonia แต่ปัญหาคือ Brian Gutekunst ไม่ใช่ GM ที่ต่อรองเก่ง ดูจากการเทรด Davanta Adams แฟนๆ ยังสงสัยว่าเทรดปีกนอกระดับ Adams ออกไป แต่ได้กลับมาแค่สิทธิ์รอบแรกแค่สิทธิ์เดียว ดังนั้นผมว่ารอบนี้ก็คงไม่ต่างกัน คงจะขูดเอาจาก Jets ได้เพียงแค่รอบแรกสิทธิ์เดียว หรืออย่างมากสุดก็คงได้รอบกลางๆ ของปีถัดไป หรือได้ผู้เล่นแถมมาซักคน อาจจะเป็น S อย่าง Ashtyn Davis อะไรทำนองนั้น
.
โอเคว่าเราคุยกันในกรณีว่า Packers เทรด Aaron Rodgers ให้ Jets พวกเขาก็จะมีสิทธิ์ดราฟต์รอบแรกในลำดับที่ 13 กับ 15 ซึ่งที่ผ่านมาทีมมักจะยกสิทธิ์รอบแรกให้กับทีมรับ และมันน่าจะเป็นแบบนั้นต่อไป มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงที่ Packers จะดราฟต์ S ด้วยเหตุผลว่าถ้าปีนี้พวกเขาต่อสัญญากับ Adian Amos ไม่ได้ ในปี 2024 3 S อย่าง Darnell Savage Jr., Vernon Scott และ Innis Gaines จะหมดสัญญาพร้อมๆ กัน ดังนั้น Packers น่าจะดราฟต์ S ในรอบแรก หรือในรอบ 2 แน่ๆ อย่างน้อย 1 คน ถ้า Packers จะดราฟต์ใครซักคนในรอบแรก โอกาสที่จะเป็น Brian Branch หรือ Antonio Johnson ก็เป็นไปได้สูง ส่วนอีกตำแหน่งมีความเป็นไปได้ที่ทีมอาจจะเลือก OT อันนี้พูดในกรณีถ้า Peter Skoronski ยังอยู่นะ ส่วน Paris Johnson Jr. ผมว่า Packers น่าจะไม่เอารายนี้ หรืออีกกรณีคือเลี้ยวไปหา TE เบอร์ 1 ของคลาสนี้อย่าง Michael Mayer ไปเลยก็เป็นทางเลือกที่ดี

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Washington Commanders
.

.
สถิติปี 2022 : 8-8-1
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 2 สิทธิ์ >> R1(16), R2(48)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- ไม่มีความชัดเจนในตำแหน่ง QB หลายๆ ครั้ง Taylor Heinicke ฟอร์มกำลังจะดีก็สลับเอา Carson Wentz ขึ้นเป็นตัวหลัก และล่าสุดประกาศว่าฤดูกาลหน้า Sam Howell จะเป็นมือ 1 และตลอด 5 ฤดูกาลที่ผ่านมา Washington Commanders เปลี่ยน Starter QB ไปแล้ว 12 คน
- อาการบาดเจ็บของ Chase Young และ Brian Robinson Jr. ส่งผลต่อผลงานทีมในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก เช่นเดียวกับอาการบาดเจ็บของ Jahan Dotson ก็ส่งผลต่อผลงานทีมช่วงกลางถึงปลายฤดูกาล
- ปีนี้ผลงานของ Logan Thomas ตกลงจากปีก่อนๆ
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
จริงๆ ต้องบอกว่า Washington Commanders ถ้าใจใหญ่พอ น่าจะลองติดต่อไปขอเทรด Aaron Rodgers จาก Green Bay Packers ก็ได้ คือต้องบอกว่า สถานการณ์ของ Washington Commanders กับ New York Jets คล้ายๆ กันเลย คือ ขุมกำลังแน่นทั้งทีมบุก ทีมรับ เหลือแค่ QB ที่จะมานำทัพแค่ตำแหน่งเดียว เพราะอย่าง Commanders ขนาด Carson Wentz กับ Taylor Heinicke ฟอร์มลุ่มๆ ดอนๆ แต่ปีกนอกอย่าง Terry McLaurin, Jahan Dotson และ Curtis Samuel ผลงานกลับทำได้ดี ตัววิ่งอย่าง Antonio Gibson กับ Brian Robinson Jr. ก็กำลังแข่งกันสนุก OL ก็เริ่มลงตัว ส่วนทีมรับก็ปึ๊กแทบทุกขุมกำลัง โอเคไม่ผิดที่จะลองให้โอกาส Sam Howell ได้ลงสนามเป็นมือ 1 มันก็ดี แต่มันก็สุ่มเสี่ยงด้วยว่าถ้า Sam Howell พิสูจน์ตัวเองไม่ได้นั่นก็หมายถึงอนาคตหน้าที่การงานของ Ron Rivera ก็อาจจะจบลงด้วยเช่นกัน
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
ปีนี้ดูท่าแล้วทีมอาจจะต้องพิจารณาต่อสัญญากับ Taylor Heinicke ออกไปก่อน เพราะยังไม่รู้ว่า Sam Howell พอลงสนามจริงแล้วจะพึ่งพาได้แค่ไหน แต่ที่แน่ๆ Taylor Heinicke พอประคองทีมได้ ขณะที่ Carson Wentz คงต้องโดนปล่อยตัวทิ้งไปเพื่อเซฟ cap space $26,176,470 เยอะนะ เช่นเดียวกับ Da’Ron Payne ที่น่าจะต้องเก็บข้าวของย้ายไปอยู่ที่อื่น อีกคนที่ทีมอาจจะพิจารณาต่อสัญญาระยะสั้นๆ น่าจะเป็น Cole Holcomb เพราะปีนี้ทีมมี LB หมดสัญญาพร้อมๆ กันหลายคน ทั้ง Khaleke Hudson, David Mayo, Milo Eifler และ Jon Bostic ดังนั้นถ้าเก็บ Cole Holcomb เอาไว้ได้ก็จะเป็นแกนหลักในแนว LB ร่วมกับ Jamin Davis
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ปีนี้ทีมอาจจะเสริมทัพในตำแหน่ง LB จากตลาด FA โดยเฉพาะในตำแหน่ง MLB ปีนี้มีผู้เล่นดีๆ อย่าง Anthony Walkers Jr., Bobby Okereke, T.J. Edward, Germaine Pratt, Drue Tranquill หรือแม้แต่ Alex Anzalone หลุดเข้ามาในตลาดพร้อมๆ กัน น่าจะไปร่วมวงชิงตัวมาร่วมทีมซักคนก็ไม่เสียหาย และอาจจะมองหา CB ที่ไว้ใจได้อย่าง Jonathan Jones หรือตัวมากประสบการณ์อย่าง Marcus Peters หรือ Patrick Peterson เข้ามาเป็นคู่หูของ Kendall Fuller ก็เป็นทางเลือกที่ดี ในการรับมือกับเพื่อนร่วมกลุ่มทั้ง 3 ทีมที่นับวันจะพัฒนาไปข้างหน้าได้ค่อนข้างเร็วเมื่อเทียบกับ Washington Commanders
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
จากการประกาศว่า Sam Howell จะเป็นมือ 1 ดังนั้น ทีมก็น่าจะตัดสินใจดราฟต์ใครซักคนเข้ามา สำหรับทีมบุกถ้าไม่นับตำแหน่ง QB ที่ดูจะดรอปไปน่าจะเป็นตำแหน่ง Interior Offensive Line ทั้ง 3 คน Andrew Norwell ที่ย้ายมาจาก Jacksonville Jaguars ผลงานไม่ดีเท่าไหร่ Chase Roullier, OC ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาบาดเจ็บจนแทบไม่ได้ลงสนาม ขณะที่ RG ยังไม่รู้ใครเล่น ส่วนตำแหน่ง LT ดูเหมือน Charles Leno Jr. ที่ไปเอามาจาก Chicago Bears เมื่อ 2 ปีก่อนน่าจะยังทำผลงานได้ดีในระดับน่าพอใจ และคงจะเป็นตัวหลักต่อไปได้อีก 1-3 ปี แต่ถ้าจะเอาสิทธิ์ลำดับที่ 16 ไปเลือกผู้เล่นในตำแหน่ง Interior Offensive Line ดูแล้วแพงไป แต่ก็ไม่แน่ อย่าลืมว่าปีที่ผ่านมา Jahan Dotson ก็ไม่ได้ถูกคาดหมายว่าจะมาอยู่กลางรอบแรก หรือปีก่อนหน้านั้น Jamin Davis ก็ไม่ได้ถูกคาดหมายว่าจะมาอยู่ในรอบแรกด้วยซ้ำ แต่ Washington ก็หยิบทั้งคู่เร็วกว่าที่หลายๆ คนคิด ดังนั้นก็มีโอกาสเป็นไปได้ที่ Washington อาจจะทำแบบเดิม คือ หยิบผู้เล่นอย่าง O'Cyrus Torrence, Andrew Vorhees หรือ John Michael Schmitz ตั้งแต่กลางรอบแรกแบบเซอร์ไพรส์เลยก็ได้

Pittsburgh Steelers
.

.
สถิติปี 2022 :9-8
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 3 สิทธิ์ >> R1(17), R2(33)(from Chicago), R2(50)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- การปิดสกอร์ในเขต Redzone ยังมีปัญหาอยู่ ฤดูกาลที่ผ่านมาพวกเขาทำสำเร็จเพียง 51.9%
- การบุกทำระยะได้เฉลี่ยไม่ถึง 5.0 หลา/play เรียกว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับทีมอื่นๆ ในลีก มีเพียง 5 ทีมเท่านั้นที่ทำระยะได้น้อยกว่า Steelers ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบกับทีมที่ทำผลงานจบในระดับเกือบได้ลุ้นพื้นที่ playoff น่าจะเรียกได้ว่ายังเป็นปัญหาอยู่
- อาการบาดเจ็บของ T.J. Watt ทำให้เกมรับช่วงกลางฤดูกาลของพวกเขาเป๋ไปพักใหญ่
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
ต้องบอกว่าหลังจากสัปดาห์ Bye Week เหมือนทีมจะเก็บชัยชนะได้ถึง 7 จาก 9 เกม สื่อมองว่า Matt Canada หลังจากโดนด่ากระจายช่วงต้นฤดูกาล ดูมีการปรับแผนปรับตัวดีขึ้น ล่าสุดทีมประกาศให้เขาได้ทำงานต่อไปในฤดูกาลหน้าเรียบร้อยแล้ว แต่ต้องมารอลุ้นกันว่าพัฒนาการของ Kenny Pickett ในปีที่สองจะเป็นยังไง แล้ว Matt Canada จะละทิ้งระบบเดิมๆ ที่เขาเคยทำมาตลอดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเพื่อก้าวไปสู่การเล่นในรูปแบบใหม่ๆ ตามที่แฟนๆ หวังไว้ได้จริงหรือไม่ ปีนี้ต้องบอกว่าแนว OL พัฒนาขึ้นจากปีก่อน Dan Moore Jr. ที่ผมมักจะบอกว่าไม่ดีพอจะเป็น LT ตัวจริง ก็ถือว่าทำดีขึ้นกว่าปีก่อน แต่ก็ไม่โดดเด่นอะไร ในตอนนี้ผมก็ยังคิดว่าเขาไม่ใช่คำตอบในระยะยาวอยู่ดี เกมรุกต้องบอกว่าฤดูกาลหน้าตัวหลักทั้ง 11 คน ยังอยู่กันครบ แต่น่าห่วงที่ Diontae Johnson ปีกนอกมือ 1 ปีนี้ดูฟอร์มตกลงไปจากปีก่อนๆ ฝั่งทีมรับปีนี้ดูแล้วน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ที่แผง DL ตัวหลักอย่าง Tyson Alualu, Chris Wormley และ Larry Ogunjobi มีโอกาสสูงที่ทีมจะไม่ต่อสัญญาทั้ง 3 คน เช่นเดียวกับ S ที่ทั้ง Terrell Edmunds, Marcus Allen, Damontae Kazee และ Karl Joseph ก็หมดสัญญาพร้อมๆ กัน
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
ดูแล้วปีนี้ทีมน่าจะอยากเก็บ Cameron Sutton เอาไว้ หลังจากได้รับโอกาสเป็นตัวหลักให้ทีมในช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมาแล้วทำผลงานได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะผลงานการทำ 15 pass breakups ซึ่งปีนี้มีเพียงแค่ 5 คนเท่านั้นที่ทำได้มากกว่านี้ แถมอายุการใช้งานยังถือว่ายังได้อีกหลายปี ดังนั้นถ้าทีมจะมอบสัญญายาว 3 หรือ 4 ปีให้เขาก็คงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ถ้ามองว่าปีนี้ทีมต่อสัญญากับ Cameron Sutton เอาไว้ได้ แผงตัวคุมปีกของพวกเขาก็น่าจะอยู่กันพร้อมหน้าตามเดิม ตำแหน่งที่ขาดก็น่าจะเป็น S, DL และ ILB ที่มองว่า Devin Bush อาจจะไม่ได้รับโอกาสให้อยู่ต่อ หรืออย่างมากทีมก็อาจจะให้สัญญาฉบับสั้นๆ แค่ 1 ปีในราคาไม่แพงให้เจ้าตัวไปก่อน เพื่อรอเวลาหาคนใหม่อีกที ตำแหน่ง ILB ที่ผ่านมา Steelers มักจะไปเทรดหาจากบรรดาเพื่อนร่วมกลุ่ม AFC นี่แหละ ผมเดาว่าทีมอาจจะไปเทรดเอา Jerome Baker มาจาก Miami Dolphins ซึ่งอาจจะไปเทรดตอนฤดูกาล 2023 เปิดไปได้ซักระยะแล้ว สำหรับตำแหน่ง DL มีความเป็นไปได้ที่ปีนี้ทีมอาจจะให้ DeMarvin Leal ได้รับโอกาสเป็นตัวหลัก แต่อีกตำแหน่งน่าจะเป็นการหาในตลาด FA ผมไม่คิดว่า Steelers จะใช้เด็ก 2 คนลงพร้อมกับ Cameron Heyward ดังนั้นคนใหม่ที่จะเข้ามาอาจจะเป็น NT อย่าง Teair Tart หรือ Rakeem Nunez-Roches
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
ปีนี้ถ้าดูจากลำดับแล้ว ผู้เล่นหลักๆ ในตำแหน่ง DL ปีนี้ถ้าตัว Top จาก Alabama, Georgia และ Clemson ออกไปหมดแล้ว(ซึ่งก็น่าจะเป็นแบบนั้น) ก็เรียกว่าไม่มีตัวที่ถูกมองว่าจะอยู่ในกลางรอบแรกอีก โอเคว่ามี Siaki Ika กับ Felix Anudike-Uzomah ซึ่งก็อาจจะโผล่มาท้ายรอบแรก ซึ่งปกติเวลาที่ Steelers ดราฟต์ มักจะเลือกตัวที่สื่อมองว่าอยู่ในช่วงนั้นๆ อยู่แล้ว ดังนั้นผมจึงมองว่าทีมอาจจะไม่ดราฟต์ DL ในรอบแรก จึงคิดว่ามีโอกาสที่ทีมจะดราฟต์ S, CB หรือ OT ในรอบแรก ค่อนข้างสูง ผู้เล่นอย่าง Antonio Johnson(S), Paris Johnson Jr.(OT), Broderick Jones(OT), Joey Porter Jr.(CB), Clark Phillips III(CB), Christian Gonzalez(CB) หรือ Kelee Ringo(CB) น่าจะมีอย่างน้อยครึ่งหนึ่งที่ยังไม่โดนหยิบเมื่อถึงลำดับของ Steelers
.
แต่อีกกระแสหนึ่งที่มีความน่าสนใจคือ ระยะหลังๆ รูปแบบการเล่นของหลายๆ ทีมใน NFL มักจะให้ความสำคัญกับการใช้คู่ Duo ในเกมบุกของระดับมหาวิทยาลัยมาเล่นร่วมกัน เช่น Joe Burrow+Ja’Marr Chase ของ Cincinnati Bengals, Tua Tagovailoa+Jaylen Waddle ของ Miami Dolphins, Tervor Lawrence+Travis Etienne ของ Jacksonville Jaguars, Kyler Murray+Marquise “Hollywood” Brown หรือล่าสุด Derek Carr+Davante Adams คู่หูยุคก่อนของ Fresno State ซึ่งผลออกมาค่อนข้างดีมากๆ มันจึงมีกระแสว่าทำไม Steelers ไม่ดราฟต์ Jordan Addison อดีตปีกนอกคู่ใจของ Kenny Pickett สมัยเล่นร่วมกันที่ Pittsburgh Panthers เข้ามาอยู่ด้วย ซึ่งกรณีนี้ถ้า Steelers คิดจะทำ ทีมอาจจะต้องลงทุนเทรดขึ้นไป ซึ่งอาจจะเล็งไปที่ลำดับ 8 ของ Atlanta Falcons หรือลำดับ 10 ของ Philadelphia Eagles ก็เป็นลำดับที่น่าสนใจ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Tampa Bay Buccaneers
.

.
สถิติปี 2022 : 8-9(ตกรอบ wild-card)
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 2 สิทธิ์ >> R1(19), R2(51)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- แนว OL มีปัญหา ปีนี้ Ryan Jensen กับ Aaron Stinnie เจ็บหนักพักยาวตั้งแต่ต้นฤดูกาล เช่นเดียวกับ Donovan Smith, LT คนเหล็กที่ปีนี้เล่นไม่ถึง 14 เกมต่อฤดูกาลเป็นครั้งแรกตั้งแต่เป็นตัวจริงในรอบ 8 ปี ดาวรุ่งอย่าง Luke Goedeke กับ Robert Hainsey ที่ลงมาแทนผลงานยังไม่ถึงกับดี
- อาวุธสำคัญในตำแหน่ง TE ซึ่งเป็นหนึ่งในตำแหน่งโปรดของ Tom Brady ปีนี้อย่าง Cameron Brate ก็ไม่โดดเด่น ทีมไปเอา Kyle Rudolph ก็แทบไม่ได้ลงสนาม ช่วงท้ายๆ มีความพยายามในการดัน Cade Otton ขึ้นมาก็ดูไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่
- Devin White ออกทะเลอย่างต่อเนื่อง เกมหยุดวิ่งที่เคยโดดเด่นในอดีต ปีนี้ดรอปลงไปอีกแล้ว เช่นเดียวกับอาการบาดเจ็บของ Shaquil Barrett ทำให้เกมรับที่เคยกดดัน QB ฝั่งตรงข้ามได้อย่างต่อเนื่องลดความดุดันลงไปเยอะมาก Joe Tryon-Shoyinka ก็ดูยังไม่โดดเด่น ทีมยังขาด EDGE ที่มีพาวเวอร์เหมือน Jason Pierre-Paul ในปีที่ได้แชมป์ SB โดยสถิติการเข้ากดดัน QB คู่แข่งอยู่ลำดับที่ 29 ของลีก
- ปีนี้ไม่น่าเชื่อว่าเกมวิ่งของ Buccaneers อยู่ในลำดับบ๊วยของลีก ทั้งฤดูกาลพวกเขาทำทัชดาวน์จากการวิ่งได้เพียง 5 ครั้งเท่านั้น
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
ค่อนข้างชัวร์ว่าน่าจะรั้ง Tom Brady ให้อยู่ต่อไปกับทีมไม่ได้แล้ว ปัญหาใหญ่อีกเรื่องคือ cap space ที่ติดลบมากที่สุดของลีกในเวลานี้ $-55,207,949 ซึ่งทีมคง reconstruction contract ผู้เล่นคนสำคัญๆ กันหลายตลบถึงจะเคลียร์ได้ และถ้า Tom Brady ไม่อยู่ต่อ ทีมก็อาจจะถึงขั้นต้องเคลียร์ผู้เล่นบางส่วนออกเพื่อเตรียมสร้างทีมใหม่ เพราะดูแล้ว Kyle Trask น่าจะไม่ได้รับความคาดหวังว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักได้ และการเอา QB คนใหม่เข้ามาไม่ว่าจะเป็นการเทรดหรือเซ็นต์ฟรีก็ดูจะมอบสัญญาแพงๆ ในปีนี้ให้ไม่ได้ด้วย ดังนั้นนี่อาจจะเป็นช่วงปิดฤดูกาลที่ยากลำบากของ Buccaneers พอสมควร และถ้า Buccaneers ตัดสินใจรื้อทีมใหม่หลังจากนี้ ทีมอาจจะต้องพิจารณาเทรดผู้เล่นคนสำคัญๆ หลายๆ คนออกไปด้วย ซึ่งกลุ่มที่อยู่ในข่ายสุ่มเสี่ยงว่าอาจจะถูกเทรดออกไปก็น่าจะมี Devin White, Carlton Davis, Shaq Mason และ Leonard Fournette ก็ต้องดูว่าทีมจะตัดสินใจยังไง
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
ปีนี้น่าจะต่อสัญญากับบรรดาตัวที่หมดสัญญาได้ไม่มาก โชคดีที่ส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นในเกมรับ ดังนั้นถ้าต้องเลือกเก็บไว้ Lavonte David น่าจะเป็นคนที่ทีมควรจะรั้งเอาไว้ให้ได้ เพราะเป็นแกนหลักตัวสำคัญในแนว ILB ของทีม การมีอยู่ของเขาทำให้เกมป้องกันเกมวิ่งของทีมยังคงแข็งแกร่ง เช่นเดียวกับ Anthony Nelson เป็นตัว rotation ที่ดีสำหรับตำแหน่ง Edge Rusher ถ้าต่อรองสัญญาระยะสั้นราคาไม่แรงได้ก็ควรจะเก็บเขาไว้กับทีม
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ถ้า Tom Brady ไม่อยู่กับทีมแล้ว ทีมอาจจะต้องหา QB ซักคนมาประคองทีมชั่วคราวไปก่อน เพราะการจะหา QB ระดับกลางๆ จากทีมอื่นอย่าง Derek Carr, Jimmy Garoppolo ดูเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร เพราะปัญหา cap space ดังนั้นมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นการมองหา QB ขัดตาทัพที่จะรับสัญญาสั้นๆ แค่ 1-2 ปีในราคาไม่เกิน $10,000,000 มาไว้ใช้งานชั่วคราว ซึ่งมีความเป็นไปได้หลายคน เช่น Case Keenum, Jacoby Brissett, Teddy Bridgewater หรืออาจจะเป็น Sam Darnold(ถ้า Panthers ไม่ใช้งานต่อ) หรืออีกทางที่น่าสนใจคือส่งสิทธิ์ดราฟต์รอบกลางๆ ไปเทรดเอา Mitchell Trubisky มาจาก Pittsburgh Steelers หรือเทรด Ryan Tannehill มาจาก Tennessee Titans ถ้าเกิดว่า GM คนใหม่ของ Titans ล้างบางทีมใหม่ เพื่อเอามาใช้งานชั่วคราวอย่างน้อย 1 ปีก่อน
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
ปีนี้มีโอกาสสูงที่ทีมจะไม่สามารถต่อสัญญากับตัวหลักในเกมรับจากฤดูกาลที่ผ่านมาได้ ไม่ว่าจะเป็น William Gholston, Rakeem Nunez-Roches, Akiem Hicks, Jamel Dean, Sean Murphy-Bunting, Carl Nassib, Mike Edwards และ Logan Ryan เกือบทั้งหมดในนี้อาจจะต้องย้ายไปหาทีมใหม่เล่น แน่นอนว่าหลักๆ แล้วน่าจะกระทบเต็มๆ ประมาณ 3 ตำแหน่ง คือ DL, S และ CB ซึ่งดูแล้วทีมน่าจะมองหาผู้เล่นในตำแหน่ง CB ในรอบแรก Joey Porter Jr., Clark Phillips III, Tre'vius Hodges-Tomlinson และ Emmanuel Forbes น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าจะเป็นไปได้
.
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Miami Dolphins
.

.
สถิติปี 2022 : 9-8(ตกรอบ wild-card)
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 1 สิทธิ์ >> R2(53) ***หมายเหตุ สิทธิ์รอบแรก R1(21)โดนริบ***
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- อาการคอนคัสชั่นของ Tua Tagovailoa มีผลกับทีมตรงๆ เลย พอทีมขาดเขาไปก็ออกอาการเป๋อย่างเห็นได้ชัด และหลังจากนี้จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ให้ต้องคิด เพราะหลังจากกลับมาจากการพักแล้ว เขาดูไม่เหมือนคนเดิมในช่วงต้นฤดูกาล
- ปีนี้บรรดาตัวคุมปีกฟอร์มตกลงจากปีก่อนๆ เกมป้องกันการขว้างหล่นไปอยู่ลำดับท้ายๆ ของลีก(ลำดับ 27) ส่วนหนึ่งเพราะการบาดเจ็บพักยาวของ Byron Jones และฟอร์มของ Xavien Howard ที่ตกลงแบบชัดเจน จากการเป็นราชา Intercept มา 2 ปีติดต่อกัน ปีนี้เขาทำได้เพียงแค่ 1 Intercept เท่านั้น
- ปีนี้ตลอดทั้งฤดูกาล ทีมเสียผู้เล่นตัวหลักแบบเจ็บหนักพักยาวหลายคน ไล่ตั้งแต่ Byron Jones, Brandon Jones, Austin Jackson, Emmanuel Ogbah และ Tua Tagovailoa แต่ถือว่าผลงานในปีนี้ทำได้ดีน่าประทับใจ(ก่อนที่ตัวสำคัญหลายคนเจ็บจนต้องพักช่วงท้ายฤดูกาล)
- ปีนี้ทีมพิเศษผลงานตกลงจากปีก่อน พวกเขามีสถิติวิ่งย้อน kickoff ได้เพียง 18.9 หลา/ครั้ง รั้งลำดับรองบ๊วยของลีก เช่นเดียวกับ Jason Sanders ตัวเตะที่ผลงานเริ่มตกลงเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
หลักๆ ตอนนี้คือเช็คอาการของ Tua Tagovailoa ก่อนเป็นอย่างแรก ถ้าเขาสามารถกลับมาเล่นได้ในสภาพที่พร้อม 100% Miami Dolphins ก็ถือว่าพร้อมสำหรับการลุยฤดูกาลใหม่ได้เลย เพราะตัวหลักกว่า 80% ยังมีสัญญาอยู่กับทีมต่อในฤดูกาลหน้า จะมีเพียงแค่ CBn, TE และ RB เท่านั้นที่ทีมอาจจะต้องหามาเพิ่ม แต่ถ้า Tua Tagovailoa ไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิมได้ นี่จะเริ่มเป็นเรื่องใหญ่แล้ว เพราะการขาดหายของเขามีผลต่อผลงานทีมค่อนข้างมาก ซึ่งอาจจะหมายถึงทีมอาจจะกลับไปสู่โหมดต้องตามหา franchise quarterback ใหม่อีกครั้ง ปีนี้ทีมอาจจะให้โอกาส Durham Smythe ขึ้นเป็น TE มือ 1 แทน Mike Gesicki หรือไปเอาอดีตคู่หูของ Tua Tagovailoa อีกคนอย่าง Irv Smith Jr. มาจาก Minnesota Vikings ก็ได้ เพราะเจ้าตัวเสียตำแหน่งมือหนึ่งให้ T.J. Hockenson ไปเรียบร้อยแล้ว
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
ปีนี้พวกเขามี cap space ติดลบอยู่ $-14,230,860 อาจะขยับตัวไม่ได้มากเท่าไหร่ ซึ่งมีหลายตำแหน่งให้ต้องคิด 2 ตัวหลักๆ ที่น่าจะเก็บไว้คือ Elandon Roberts, LB กัปตันทีม ปีนี้เขาทำ career high ทั้งเรื่อง Tackles, Sacks และ Solo Tackles ค่าจ้างใหม่ของเขาน่าจะไม่สูงมาก ถ้าเป็นไปได้ทีมควรพิจารณาต่อสัญญากับเขา ก่อนที่ New England Patriots จะถึงตัวกลับไป และ Jeff Wilson Jr. ตัววิ่งมือ 2 ที่ใช้งานได้ ปีนี้เรียกว่าตัววิ่งทุกคนในทีมทั้ง Raheem Mostert, Jeff Wilson Jr., Myles Gaskins และ Salvon Ahmed หมดสัญญาพร้อมๆ กัน มันจึงควรที่จะดึงใครซักคนเก็บไว้ เพราะรู้ playbook ของทีม จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาสอนกันใหม่หมดทุกคน
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ถ้าทีมจะพิจารณาใครซักคนเข้ามาร่วมทีม ผมว่าอาจจะเป็นการดึง RB เข้ามาเสริมเพราะหมดสัญญาพร้อมกันหลายคน Jeff Wilson Jr. เป็นตัววิ่งที่ดี แต่อาจจะไม่ถึงขั้นการันตีมือ 1 ของทีมได้ แน่นอนว่าในบรรดาตัววิ่งที่หมดสัญญากับต้นสังกัดในปีนี้อาจจะมีตัวดีๆ อย่าง Saquon Barkley, Josh Jacob, Miles Sanders หรือ Tony Pollard แต่ cap space ของทีมแม้จะไม่ได้ติดลบมาเหมือนทีมอย่าง Buccaneers หรือ Saints แต่ปัญหาคือ สัญญาของผู้เล่นส่วนใหญ่ในปีนี้ มี deadcap พ่วงมหาศาลเลย ดังนั้นทีมอาจจะต้องใช้แนวทางเดิมคือเซ็นต์ตัววิ่งแบบปีต่อปีไปก่อน ตัวดีๆ ที่พึ่งพาได้ในราคาแบบปีต่อปีในตอนนี้อย่างพวก Kareem Hunt, Rashaad Penny หรือ Latavius Murray อาจจะเป็นทางเลือกที่ดี
.
แต่ถ้าอีกกรณี สมมติอาการคอนคัสชั่นของ Tua Tagovailoa ไม่ดีขึ้น นี่อาจจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับทีมในฤดูกาลหน้า ผมว่าทีมน่าจะต้องคิดเรื่องนี้เอาไว้มากพอสมควรว่าเขาจะหาใครมาแทนที่จะประคองทีมในฤดูกาลหน้าได้ ซึ่งผมมองไปที่ Ryan Tannehill อาจจะกลับมารังเก่าเพื่อใช้งานชั่วคราวไปก่อน 1 ปี ก่อนที่ทีมจะไปเริ่มการมองหา franchise quarterback ใหม่ในปี 2024
.
คาดการณ์ดราฟต์ : สิทธิ์ดราฟต์รอบแรก(ลำดับ 21)และรอบ 3 ของปี 2024 ถูกยึด บทลงโทษจากลีก กรณี ที่ทีม Dolphins แอบไปติดต่อกับ Tom Brady และ Sean Payton โดยที่ทั้ง 2 ยังมีสัญญากับต้นสังกัดเดิม แถมอีกสิทธิ์ที่ได้มาจาก San Francisco 49ers ตอนปีก่อนก็เอาไปเทรดกับ Denver Broncos ตอนขอแลกตัว Bradley Chubb มาแล้ว ซึ่งก็ยังสงสัยว่าทำไมยอมจ่ายแพงขนาดนั้นแลกกับผู้เล่นที่มีประวัติบาดเจ็บหนักแบบปีเว้นปี ดังนั้นปีนี้ สิทธิ์แรกของ Miami Dolphins คือรอบ 2 ในลำดับ 52 เลย ซึ่งดูจากลำดับแล้วน่าจะเป็นการดราฟต์ CB อย่าง D.J. Turner ของ Michigan หรือ EDGE อย่าง Derick Hall ของ Auburn

Titans นี่อาจจะเอาเบรดี้เพื่อนเก่าเข้าก็ได้นะครับ

Los Angeles Chargers
.

.
สถิติปี 2022 : 10-7(ตกรอบ wild-card)
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 2 สิทธิ์ >> R1(11), R2(54)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- ปีนี้ทีมมีปัญหาผู้เล่นตัวหลักสลับกันบาดเจ็บ ทำให้ตัวสำคัญที่ทีมคว้าตัวมาอย่าง J.C. Jackson, Rashawn Slater, Corey Linsley, Mike Williams, Morgan Fox, Bryce Callahan หวังว่าจะเอามาใช้ลุยในฤดูกาล 2022 แทบไม่เคยอยู่กันพร้อมหน้าเลยทั้งฤดูกาล
- การเรียกแผนของ Brandon Staley ไม่สมดุล ส่วนใหญ่ยังหนักไปทางเกมขว้างเสียเยอะ ทั้งๆ ที่มีตัววิ่งดีๆ อย่าง Austin Ekeler และ Isaiah Spiller อยู่ในทีม
- แนวรับโดยเฉพาะแผง DL 3 คนผลงานไม่น่าประทับใจ ซึ่งคาดการณ์ว่าเดิมทีมน่าจะตั้งใจใช้งาน Sebastian Joseph-Day, Austin Johnson และ Morgan Fox แต่พอเอาเข้าจริง 2 รายหลังโดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
ทีมน่าจะต้องเตรียมเจรจาสัญญากับ Justin Herbert แล้ว น่าจะโดนไม่ต่ำกว่า $50 million/year แน่ๆ ปีนี้ทีมน่าจะต้องกลับไปพัฒนาการเรียกแผนให้มีการใช้งานเกมวิ่งให้มากขึ้นกว่าเดิม จะได้ลดภาระของ Justin Herbert ซึ่งน่าจะเห็นแล้วว่าปีนี้เขาโดนอัดหลายครั้ง จากความพยายามที่จะเรียกแผนขว้างบ่อยๆ ปีนี้ Chargers ทำระยะจากการวิ่งได้เพียง 89.7 หลา/เกม รั้งลำดับที่ 30 ของลีก แถมตัววิ่งทำระยะเฉลี่ยได้เพียง 3.8 หลาต่อการถือบอลวิ่งหนึ่งครั้งด้วย เข้าใจได้ว่าส่วนหนึ่งเพราะผลงานของดาวรุ่งอย่าง Zion Johnson ยังไม่ดีเท่าไหร่เช่นเดียวกับ Trey Pipkins III ซึ่งได้โอกาสมาเล่น RT เป็นตัวหลักครั้งแรกในปีนี้ก็ฟอร์มไม่ดีเช่นกัน ส่วน Corey Linsley, C ที่เปิดช่องวิ่งเก่ง ก็มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน ดังนั้นมีความเป็นไปได้ว่าทีมอาจจะมองหา RT คนใหม่
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
Drue Tranquill เป็น MLB ที่ปีนี้ได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริงแทน Kyzir White ทำผลงานได้สุดยอด เรียกว่าทดแทนได้แบบไร้ที่ติ ปีนี้เขาทำไป 144 tackles, 5.5 sacks และอีก 1 intercept ซึ่งถ้าเป็นไปได้ทีมควรจะต่อสัญญากับเขาให้ได้ แต่ปัญหาคือเวลานี้ cap space พวกเขาติดลบ $-19,422,446 โดยเฉพาะสองสตาร์อย่าง Khalil Mack และ Keenan Allen ที่ทีมอาจจะตัดสินใจหั่นใดคนคนหนึ่งออกไปเพื่อลดภาระค่าเหนื่อยของทีมลงไปได้มากกว่า $15,000,000
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ปีนี้ทีมน่าจะขยับตัวได้ไม่มากเท่าไหร่ด้วยปัญหา cap space แต่ที่คิดว่าทีมต้องมองหาผู้เล่นประสบการณ์เข้ามาเสริมทัพ น่าจะเป็นตำแหน่ง DL นี่แหละ แน่นอนว่าตอนนี้มี Sebastian Joseph-Day เป็นตัวยืน ดังนั้นก็มารอลุ้นสุขภาพของ Austin Johnson เพราะพวกเขาไม่มีดาวรุ่งที่ดราฟต์เก็บไว้เลย ดังนั้นแน่นอนว่าปีนี้พวกเขาต้องเสริมทัพตรงจุดนี้ด้วยสัญญาแบบปีต่อปีไปก่อน แล้วก็ไปดราฟต์เพิ่มเข้ามาเตรียมไว้สำหรับอนาคต ตัวที่ผมคิดว่า Chargers อาจจะให้ความสนใจคือ Dean Lowry ของ Green Bay Packers เพราะว่าระยะหลังๆ Chargers นำเข้าผู้เล่นที่หมดสัญญาจาก Packers อยู่บ่อยๆ ทั้ง Bryan Bulaga หรือ Corey Linsley ดังนั้นถ้าปีนี้จะเอา Dean Lowry ไปอีกคนก็คงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
ปีนี้ต้องดูว่าทีมจะให้ความสำคัญกับตำแหน่งไหนก่อน เอาจริงๆ ก็ OT อย่าง Borderick Jones ของ Georgia Bulldogs ก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้ามองว่าปีหน้า Rashawn Slater หายเจ็บกลับมาเป็นตัวหลัก ทีมอาจจะโยก Jamaree Salyer ซึ่งรับหน้าที่ LT แทน Slater แล้วทำผลงานได้น่าประทับใจไปยืนในตำแหน่ง RT แทน ดังนั้นตัวเลือกที่เป็นไปได้ น่าจะเป็นผู้เล่นในทีมรับ Siaki Ika, NT ของ Baylor ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เช่นเดียวกับ Tre'vius Hodges-Tomlinson, Nickelback ของ TCU หรือ Clark Phillips III, Nickelback ของ Utah ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่จะเอามาแทน Bryce Callahan ที่หมดสัญญา หรือถ้ามองอีกมุมทีมอาจจะเสี่ยงหยิบ Jaxon Smith-Njigba, WR มาเพื่อเรียนรู้งานเลย เพราะมีโอกาสสูงมากที่ทีมอาจจะเริ่มคิดเรื่องแยกทางกับ Keenan Allen ปีกมือ 1 ของทีมในเร็วๆนี้ ด้วยว่าค่าเหนื่อยค่อนข้างแพง และถ้าทีมตัดตัวหรือเทรดออกไปก็จะสามารถเซฟเพดานค่าจ้างของทีมได้มากกว่า $15,000,000 ในเวลาที่ทีมใกล้จะต้องมอบสัญญาก้อนใหญ่ให้กับ Justin Herbert

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Baltimore Ravens
.

.
สถิติปี 2022 : 10-7(ตกรอบ wild-card)
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 1 สิทธิ์ >> R1(23)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- อาการบาดเจ็บของ Lamar Jackson มีผลต่อผลงานของทีมแบบเห็นได้ชัด ซึ่งไม่แน่ใจว่าช่วง Playoff Lamar Jackson ตั้งใจไม่ลงสนามเพื่อรักษาสภาพร่างกายหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ ผลงานทีมบุกที่มีกับไม่มี Lamar นั้นต่างกันราวฟ้ากับเหว(ถ้ามีจะทำคะแนนเฉลี่ย 24.1 แต้ม/เกม : ถ้าไม่มีจะทำคะแนนเฉลี่ย 14.6 แต้ม/เกม)
- ผลจากการเทรด Marquise “Hollywood” Brown ส่งผลให้ Lamar Jackson ไม่มีปีกนอกที่พึ่งพาได้ Rashod Bateman ไม่สามารถก้าวขึ้นมาแทนที่ได้
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
หลังจากทีมเปลี่ยน DC จาก Don Martindale มาเป็นเด็กลูกหม้อของทีมอย่าง Mike Macdonald ดูเหมือนทิศทางของทีมรับของทีมจะมีทิศทางที่ดีขึ้น ปีนี้ทีมรับของทีมมีสัญญาอยู่กันเกือบครบ ตัวสำคัญที่หมดสัญญาหลักๆ เลยคือ Justin Houston, Marcus Peters และ Kyle Fuller หลักๆ จะเป็นตัวคุมปีก เพราะตำแหน่งของ Justin Houston ดูแล้วดาวรุ่งอย่าง David Ojabo กับ Odafe Oweh น่าจะขยับขึ้นมาเป็นตัวหลักในฤดูกาลหน้า ส่วนฝั่งทีมบุกก็คล้ายๆ กันคือตัวหลักอยู่กันเกือบครบ มีเพียง Ben Powers, LG หมดสัญญา ซึ่งไม่แน่ใจว่าทีมจะตัดสินใจต่อสัญญากับเขาหรือไม่ หรือทีมอาจจะตัดสินใจดัน Ben Cleveland หรือ Patrick Mekari มาเล่นแทน ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทีมต้องสนใจในตอนนี้คือ การเจรจากับ Lamar Jackson เพื่อจบปัญหาเรื่องสัญญาระหว่างกันให้ลงตัว ผมว่ามีโอกาสสูงที่ทางฝ่าย Baltimore Ravens จะยอมตามที่ Lamar Jackson ขอ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องใช้ไม้ตายสุดท้ายซึ่งก็คือการแปะป้าย franchise tag กับเจ้าตัว ซึ่งหมายถึงการจ่าย $45 million ให้เจ้าตัวในฤดูกาล 2023
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
Lamar Jackson ไม่ต้องคิด ต้องยอมรับว่าเขามีพัฒนาการในเรื่องเกมขว้างดีขึ้นทุกปี ล่าสุดเขาทำผลงาน 93.3 passing grade แม้จะเป็นในช่วงเวลาที่ทีมขาดตัวรับบอลที่วางใจได้ ปัญหาก็คือดูเหมือนเขาจะไม่ยอมรับสัญญาที่ทาง Ravens มอบให้ง่ายๆ จึงมีโอกาสสูงที่ทีมจะยัด franchise tag ไป ยังไงก็ต้องรั้งให้อยู่ ไม่งั้นสิ่งที่ทีมทำมาตลอดก็จะต้องกลับไปเริ่มนับ 1 ใหม่ แต่ถ้าพูดจริงๆ ต้องบอกว่า สุดท้ายถ้าเจ้าตัวยืนกรานจะไม่เล่นภายใต้สัญญา franchise tag ก็อาจจะหาคู่เทรดออกไป อย่างน้อยๆ ทีมก็จะได้สิทธิ์ดราฟต์รอบแรกกลับคืนมาเพื่อเริ่มต้นใหม่ แต่ข้อดีก็คือ Baltimore Ravens มี cap space เหลือมากพอสมควร ($32,861,209) มากพอจะมองหา QB ใหม่ได้ ซึ่งถ้ามองว่าทีมมีปีกในตัว top ของลีกอย่าง Mark Andrew และดาวรุ่งอย่าง Isaiah Likely การได้ QB อย่าง Derek Carr หรือ Jimmy Garoppolo มาแทนที่ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ทีมอาจจะเลี้ยวไปหาได้ ถ้าต้องเสีย Lamar Jackson ออกจากทีมไปจริงๆ

Geno Stone เป็น S สำรองอีกคนที่น่าจะเก็บไว้เป็นตัว rotation ในแผง DB ของทีม
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
เพื่อดึงให้ Lamar Jackson อยู่ต่อนอกจากการประเคนสัญญาให้ตามที่เจ้าตัวต้องการแล้ว การมองหาผู้เล่นระดับ top ในตำแหน่งปีกนอกมาช่วยเขาก็เป็นทางที่ทีมต้องรีบทำ แน่นอนการเอาคืน Arizona Cardinals ที่ดึง Marquise “Hollywood” Brown ด้วยการส่งสิทธิ์ดราฟต์รอบแรกหรือรอบ 2 ไปแลกตัว DeAndre Hopkins มาร่วมทีม เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ หรือทางเลือกสำรองอื่นๆ ที่น่าสนใจก็คือ Jerry Jeudy ของ Denver Broncos หรือ Allen Robinson ของ Rams
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
ถ้าน่าสนใจที่สุดในความคิดผมคือส่งสิทธิ์ดราฟต์ลำดับ 23 ไปขอเทรด DeAndre Hopkins มาจาก Arizona Cardinals นอกจากนี้อาจจะเป็นการส่งรอบ 3 ไปขอเทรด Keenan Allen มาจาก Los Angeles Chargers หรือ Allen Robinson มาจาก Los Angeles Rams เพราะยังไงปีนี้ก็ถือว่าเป็นปีที่ดาวรุ่งในตำแหน่ง WR ไม่ได้โดดเด่นเหมือนปีที่ผ่านๆ มา การมองหาปีกนอกเกรด A จากทีมอื่นๆ น่าจะดีกว่า หรืออีกทางก็จัดหนักส่งรอบแรกไปขอเทรด Jalen Ramsey ตัวคุมปีกของ Rams เอามาเสียบแทนที่ของ Marcus Peters ไปเลย แต่ถ้าทีมจะดราฟต์ผู้เล่นเอง ดูแล้วคงหนีไม่พ้นตำแหน่ง CB อย่าง Devon Witherspoon, Christian Gonzalez หรือ EDGE อย่าง Nolan Smith

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Minnesota Vikings
.

.
สถิติปี 2022 : 13-4(ตกรอบ wild-card)
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 1 สิทธิ์ >> R1(24)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- ทีมรับ ทีมรับ ทีมรับ ปีนี้ทีมรับของพวกเขาเสียระยะเฉลี่ยมากถึง 388.7 หลา/เกมส์ รั้งลำดับรองบ๊วยของลีก และเสียแต้มเฉลี่ย 28.1 แต้มต่อเกมส์ รั้งลำดับ 28 ของลีก ส่งผลให้ต่อให้ทีมจะชนะ พวกเขาก็มักจะชนะคู่แข่งแบบเฉียดฉิว ไม่เด็ดขาด ล่าสุด Ed Donatell, DC ของทีมถูกไล่ออกไปเรียบร้อยแล้ว
- Kirk Cousin ยังคงไม่สามารถผลักดันให้ทีมไปได้มากกว่าในอดีต ในวัย 35 ปี หลายคนเริ่มตั้งคำถามแล้วว่าจะไปต่อกับเขาอยู่หรือไม่
- ความไม่สม่ำเสมอของฟอร์มการเล่น Minnesota Vikings เป็นทีมที่ถ้าบทวันไหนจะมาก็พร้อมชนะได้ทุกทีม แต่ถ้าวันไหนออกทะเลก็พร้อมจะแพ้ได้ทุกทีมเหมือนกัน
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
ปีที่จะถึงนี้พวกเขาโชคดีที่บรรดาตัวหลักอยู่กันเกือบครบ มีเพียง Garrett Bradbury(C), Patrick Peterson(CB) และ Chandon Sullivan(CB) แค่ 3 คนที่หมดสัญญา ดังนั้นงานสำหรับฤดูกาลใหม่ของพวกเขาน่าจะไม่มีอะไรให้ต้องปรับตัวมากนัก ขอเพียงได้ DC คนใหม่เข้ามาปรับปรุงวิธีการเล่นของทีมรับของพวกเขาใหม่ ก็น่าจะลุ้นต่อในปี 2023 ได้สบายๆ เพราะเวลานี้คู่แข่งตัวสำคัญอย่าง Green Bay Packers ก็ส่อแววว่าอาจจะไม่มีจอมทัพอย่าง Aaron Rodgers แล้วในฤดูกาลใหม่ ขณะที่ Detroit Lions กับ Chicago Bears ก็ยัง 50:50 ดังนั้นถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ไม่มีตัวหลักมาเจ็บหนักไประหว่างทาง พวกเขาก็น่าจะครอง NFC North ต่อได้อีก 1 ปี แต่มีเรื่องที่พวกเขาต้องเริ่มคิดแล้ว นั่นก็คือ บรรดาตัวหลักของทีมในเวลานี้หลายๆ คนอายุเลย 30+ ไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Kirk Cousins(35), Harrison Smith(34), Adam Thielen(33), Patrick Peterson(33), Eric Kendrick(31), Za’Darius Smith(30) หรือแม้แต่ Danielle Hunter และ Dalvin Cook ทั้งคู่ก็ 28+ แล้ว ถือว่าเป็นชุดทีมที่อาจจะใกล้ถึงเวลาต้องแยกย้ายกันแล้ว ซึ่งอาจจะทำให้ทีมตัดสินใจไปเป็น 2 ทางคือ All-In ไปเลยในปีหน้า หรืออาศัยเวลานี้ชิงเทรดบางคนออกไปเพื่อเอาสิทธิ์ดราฟต์ในปี 2024 โดยคนที่มีโอกาสถูกเทรดมากที่สุดน่าจะเป็น Eric Kendrick, Za’Darius Smith และ Dalvin Cook เพราะจะทำให้ทีมสามารถเคลียร์เพดานค่าจ้างที่กำลังติดลบอยู่ได้
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
เท่าที่ดูไม่มีตัวผู้เล่นหลักที่ทีมน่าจะต่อสัญญาในปีนี้ เพราะมองว่าทีมน่าจะจ่ายสัญญาฉบับใหม่ให้แก่ Garrett Bradbury และ Patrick Peterson ไม่ไหว น่าจะต้องปล่อยไป ดังนั้นถ้ามองว่าทีมมีแววจะต่อสัญญากับใครบ้าง ก็น่าจะเป็น Olisaemeka Udoh(OT) กับ Alexander Mattison(RB) ด้วยสัญญาสั้นๆ 1 ปี ในมูลค่าแถวๆ $1-2,500,000 ไม่น่าเกินนี้ เพื่อเอาไว้ใช้เป็นตัว rotation กับตัวหลักของทีม ซึ่งเจ้าตัวน่าจะยินดีรับสัญญาดังกล่าว
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ปีนี้คิดว่า Vikings น่าจะไม่มีการเซ็นต์สัญญาใหญ่ๆ กับใคร เพราะทีมน่าจะต้องเตรียมตัวมอบอภิมหาสัญญาก้อนใหญ่ให้แก่ Justin Jefferson ปีกนอกตัวเทพของทีม ดังนั้นอาจจะเป็นเพียงการเซ็นต์สัญญาฉบับเล็กๆ มาเติมในตำแหน่งที่ทีมยังขาดหายไป หลักๆ น่าจะเป็นการหา CB ประสบการณ์ในราคาไม่แรงซักคน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วก็มักจะเป็นผู้เล่นในกลุ่ม NFC North ด้วยกันเองนี่แหละ เช่น Amani Oruwariye ของ Detroit Lions
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
ระยะหลังๆ Minnesota Vikings มักจะเป็นทีมที่ชอบเทรดเป็นบ้าเป็นหลัง เทรดขึ้นเทรดลง จบด้วยปีนึงดราฟต์ผู้เล่นเป็นกระบุงเข้าทีม ซึ่งปัญหาคือ ส่วนใหญ่แล้วไม่ค่อยจะเวิร์ก แจ้งเกิดได้ไม่กี่คน และดูเหมือนปีนี้ทีมไม่ได้มีตำแหน่งที่ถึงขั้นจะเรียกได้ว่า top need ที่ต้องหยิบมาแล้วเป็นตัวหลักเลยขนาดนั้น ดังนั้นเชื่อว่าทีมอาจจะพิจารณารับฟังข้อเสนอของทีมท้ายๆ รอบแรกที่อยากจะกระโดดขึ้นมาเลือกผู้เล่นซักคนที่ต้องการ แล้ว Vikings ก็ยินดีจะไปอยู่ท้ายๆ รอบแรกหรือต้นรอบ 2 เพื่อหยิบผู้เล่นที่ตนต้องการเข้าทีม ซึ่งดูแล้วปีนี้ คนแรกที่ Vikings น่าจะหยิบน่าจะหนีไม่พ้น 2 ตำแหน่งคือ C หรือ CB ซึ่งน่าสนใจ โดยเฉพาะตำแหน่ง C เพราะปีนี้มีเด็กท้องถิ่นอย่าง John Michael Schmitz ของ Minnesota Golden Gophers เป็น C เบอร์ 1 ของคลาส อยู่ด้วย ถ้า Vikings จะชิงหยิบตั้งแต่ท้ายรอบแรกก็เป็นตัวเลือกที่ดี หรืออาจจะเป็นการดราฟต์ CB อย่าง Devon Witherspoon หรือ Garrett Williams ก่อนในท้ายรอบแรก แล้วค่อยไปชิงเทรดเอา John Michael Schmitz ในรอบ 2 ก็ไม่น่าเกลียด

Jacksonville Jaguars
.

.
สถิติปี 2022 : 9-8 (ตกรอบ Divisional)
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 2 สิทธิ์ >> R1(25), R2(57)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- การปรับเปลี่ยนรูปแบบเกมรับจากที่ผ่านมาเล่นในระบบ 4-3D มาเป็น 3-4D ภายใต้ผู้เล่นชุดเดิมหลายๆ คนที่มีสัญญาเก่าอยู่กับทีม ทำให้รูปแบบเกมรับอาจจะต้องอาศัยเวลาที่มากกว่านี้เพื่อให้ลงตัว
- ปีนี้เกมรับยังเข้ากดดัน QB คู่แข่งไม่ได้มากนัก แนว DL เก็บ sacks ได้ไม่มาก ซึ่งก็เช่นเดียวกับ Edge คู่ดาวรุ่งอย่าง Josh Allen กับ Travon Walker ที่ยังไม่สามารถเรียกว่าเป็นคู่ที่กดดันคู่แข่งได้มากซักเท่าไหร่
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
ปีนี้การขยับตัวอาจจะลำบากหน่อย เพราะมีผู้เล่นตัวหลัก 5 คนที่กินค่าจ้างค่อนข้างสูง แถมติด deadcap มหาศาล(Christian Kirks, Cam Robinson, Brandon Scherff, Foyesade Oluokun และ Foley Fatukasi) ส่งผลทำให้เวลานี้ cap space ของทีมติดลบราวๆ $-28,121,091 มากเป็นลำดับที่ 3 ของลีก ต้องบอกว่า 5 ปีล่าสุด Jaguars ได้ดราฟต์ผู้เล่นในรอบแรกถึง 8 คน โดย 6 จาก 8 เป็นผู้เล่นในเกมรับ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าผลงานของทั้ง 6 คนนั้น ยังไม่สมราคาซักเท่าไหร่ 2 จาก 6 ย้ายทีมไปแล้ว(Taven Bryan, C.J. Anderson) ขณะที่ K’ Lavon Chaisson กลายเป็นสำรองของ Travon Walker ไปแล้ว คู่หู Edge อย่าง Josh Allen กับ Travon Walker ปีนี้เก็บ sacks รวมกันได้เพียง 11.5 sacks เท่านั้น ทีมรับพวกเขานอกจากแผง linebacker ดาวรุ่งทั้ง 4 คน ที่เหลือแทบจะเรียกว่าต้องเสริมทัพทั้งหาตัวใหม่และหาตัว rotation กับผู้เล่นเดิมเลย โชคดีที่ฝั่งทีมบุกดูแล้วน่าจะได้ไปต่อกันเกือบทั้งหมด ทีมอาจจะปล่อยตัวหลัก 2 คนออกไปก็คือ Jawaan Taylor และ Marvin Jone Jr. ซึ่งรายหลังนี่ไม่น่ามีปัญหาเพราะทีมไปคว้าเอา Calvin Ridley มารอไว้แล้ว หรือถ้าอย่างแย่สุด ถ้า Calvin Ridley ไม่ใช่คนเดิม พวกเขาก็ยังมี Jamal Agnew ที่อาจจะขยับขึ้นมาเป็นปีกมือ 3 ทดแทนได้ แต่ยังไงก็ต้องชมกับการตัดสินใจไปเซ็นต์เอา Christian Kirks ที่ในตอนแรกดูเหมือนสร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนว่าทำไม Jaguars ยอมจ่ายให้ Kirks มากขนาดนั้น เขาแสดงให้เห็นแล้วว่าเขามีศักยภาพมากพอที่จะก้าวขึ้นมาเป็นปีกมือ 1 ให้กับทีมได้ ถ้าให้โอกาส
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
Evan Engram น่าจะเป็นคนที่ทีมต้องพยายามหาทางต่อสัญญาเพราะ เพราะช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลเขากลายเป็นเป้าโปรดของ Trevor Lawrence ปีนี้เจ้าตัวรับบอลไป 73 ครั้ง ทำระยะได้กว่า 766 หลากับอีก 4 ทัชดาวน์ เรียกว่าเจ้าตัวทำ career high พร้อมทั้งเป็นการทำสถิติ franchise record ของปีกในที่ทำระยะได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีม Jaguars แต่ปัญหาคืออาจจะต้องจ่ายมากกว่าปีละ $9,000,000 ถ้าจะรั้งให้เจ้าตัวอยู่ต่อ
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ด้วยสถานการณ์ที่ cap space ติดลบค่อนข้างเยอะ ดังนั้นคนแรกๆ ที่อาจจะโดนแจ๊กพอทก่อนชาวบ้านน่าจะเป็น Shaquill Griffin ซึ่งจะสามารถเซฟเพดานค่าจ้างได้ราวๆ $13,000,000 ซึ่งตรงนี้อาจจะหมายถึงทีมก็จะเสียตัวคุมปีกมือ 2 ออกไป แต่น่าจะพอหาตัวอะไหล่ได้ไม่ยากที่ยินดีจะรับสัญญาสั้นๆ 1-2 ปี เช่น Dane Jackson หรือ Fabian Moreau แล้วค่อยดราฟต์ดาวรุ่งมาเสริมเพิ่ม
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
สำหรับรอบแรกมีความเป็นไปได้ 3 ตำแหน่งคือ DT, CB และ OT ไล่ตั้งแต่ DT ด้วยความที่ว่าตัวสำรองอย่าง Arden Key, Corey Peters และ Dawuane Smoot เซ็นต์มาแบบสั้นๆ ขณะที่ตัวหลักอย่าง Roy Robertson-Harris และ Foley Fatukasi ก็จะเหลือสัญญากับทีมอีกแค่ 1 ปี ดังนั้นด้วยลำดับแล้ว Jaguars อาจจะตัดสินใจหยิบ Siaki Ika, DT ไปเลย หรือกรณีว่าทีมไม่ต่อสัญญากับ Jawaan Taylor ก็มีโอกาสที่จะหยิบ Broderick Jones, Anton Harrison หรือเด็กท้องถิ่นอย่าง O'Cyrus Torrence ก็ได้ ส่วน CB น่าจะมีเหลือให้หยิบเพียบ ซึ่งทั้ง 3 ตำแหน่งจะหยิบตำแหน่งไหนก่อนก็ไม่น่าเกลียด

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


New York Giants
.

.
สถิติปี 2022 : 9-7-1 (ตกรอบ Divisional)
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 2 สิทธิ์ >> R1(26), R2(58)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- Daniel Jones ใช่ franchise quarterback ของทีมจริงๆ หรือไม่ เพราะแม้ผลงานปีนี้ของเขาจะดีเหมือนพลิกฝ่ามือ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเรายังไม่สามารถการันตีได้ว่า ในสถานการณ์ที่ต้องชี้เป็นชี้ตาย เขาจะแสดงให้เห็นว่าเป็นคนที่พึ่งพาได้ที่จะพาทีมพลิกกลับมาได้
- แนว Offensive Line ยังเป็นปัญหาเดิมๆ แก้ไม่หาย แม้ว่าปีนี้เกมวิ่งของพวกเขาจะพัฒนาขึ้นมา แต่แนว Offensive Line ของพวกเขาก็ยังย่ำแย่เหมือนเดิม รั้งอยู่ในลำดับที่ 30 ของลีก จากที่มีการวิเคราะห์กันของสื่อว่าทำไม Giants วิ่งได้ดีขึ้นทั้งๆ ที่แนว OL ไม่พัฒนา ส่วนใหญ่สรุปว่าเกิดจากการที่ Saquon Barkley เปลี่ยนแนวทางการวิ่งไปจากปีก่อนๆ โดยเน้นใช้ความคล่องตัวให้มากขึ้นในการวิ่งเพื่อให้พ้นจากแนว OL โดยปีนี้เขาใช้เวลาเฉลี่ย 2.7 วินาทีหลังแนวเพื่อทำระยะขึ้นหน้า ซึ่งเร็วกว่าค่าเฉลี่ยของตัววิ่งทั้งลีกที่ใช้เวลาประมาณ 2.8 วินาทีหลังแนว(ปีก่อนๆ Barkley ใช้เวลาหลังแนวราวๆ 2.9-3.1 วินาที) ซึ่งทำให้เขามีโอกาสที่จะหลุดทำระยะได้สูงกว่าปกติ
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
น่าจะเป็นช่วงโยนหัวก้อยกันแล้วว่าทีมจะเอายังไงเพราะ Saquon Barkley หมดสัญญากับทีมเช่นเดียวกับ Daniel Jones ที่ทีมตัดสินใจไม่ใช้สิทธิ์ fifth-year option เพราะก่อนหน้านี้พัฒนาการของเขาค่อนข้างช้า ส่งผลให้ในตอนนี้พวกเขาเจอกับสถานการณ์ที่ต้องตัดสินใจแล้ว หลังจากที่ Brian Daboll เข้ามาพลิกฟื้นทีมและสามารถทะยานกลับเข้าสู่พื้นที่ playoff ได้แบบเหนือความคาดหมาย Giants กลับมาเป็นทีมที่มีเกมการวิ่งกลับมาดุดันอีกครั้ง หลังจากตลอดช่วงปี 2019-2021 เกมวิ่งของพวกเขาเรียกว่ารั้งอยู่ในลำดับท้ายๆ ของลีกพร้อมกับอาการบาดเจ็บซ้ำซากของ Saquon Barkley ปีนี้ทีมมีการ designed runs เยอะกว่าที่ผ่านมา พวกเขาเรียกแผนวิ่งมากเป็นลำดับที่ 7 ของลีก ส่งผลให้ผลงานของ Daniel Jones และ Saquon Barkley โดดเด่น
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
ต้องยอมรับว่าเป็นสถานการณ์ที่น่าลำบากใจพอสมควร แม้ว่าทีมจะมี cap space มากถึง $45,066,480 และอาจจะได้เพิ่มอีกราวๆ $9,500,000 ถ้า released ผู้เล่นอย่าง Kenny Golladay กับ Darnay Holmes ออกไป เรียกว่าในบรรดาตัวที่หมดสัญญาน่าจะมีตัวหลักประมาณ 4 คนที่ทีมน่าจะพิจารณาต่อสัญญา คือ Julian Love(S), Daniel Jones(QB), Saquon Barkley(RB) และ Darius Slayton(WR) แต่ที่น่าสนใจก็คือสัญญาที่จะมอบให้ Daniel Jones จะเป็นสัญญาแบบไหน ถ้ามองในมุมว่าทีมจะติด franchise tag ใครระหว่าง Daniel Jones กับ Saquon Barkley ผมว่าทีมน่าจะมอบสัญญาระยะยาวให้ Saquon Barkley มากกว่า เพราะค่าจ้างของเขาเต็มที่น่าจะอยู่ในช่วงประมาณปีละ $12.5-15,000,000 ซึ่งมากกว่าการติด franchise tag ผู้เล่นในตำแหน่ง RB แค่ $2.5-15,000,000 กลับกันกรณีติด franchise tag ผู้เล่นในตำแหน่ง QB ปีนี้จะจ่ายราวๆ $32,450,000 ดังนั้นจึงมีโอกาสเป็น Daniel Jones มากกว่า และอาจจะเป็นการติดแบบ non-exclusive rights franchise tag เพื่อดูสถานการณ์อีกที ถ้ามีคนติดต่อมาขอเจรจา Giants ก็สามารถเรียกสิทธิ์ดราฟต์รอบแรกได้อย่างน้อยๆ ก็ 2 สิทธิ์แลกกับ Daniel Jones ก็เรียกว่า Giants ไม่เสียเปรียบอะไรเลย
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ปีนี้หลักๆ น่าจะมีการเสริมทัพในตำแหน่ง ILB และ WR เพราะต้องเรียกว่าเป็น 2 ตำแหน่งที่มีปัญหามากที่สุดแล้ว WR ปีนี้หมดสัญญาแทบทุกคน ไล่ตั้งแต่ Darius Slayton, Sterling Shepard, Richie James Jr. เหลือเพียงแต่ Isaiah Hodgins กับ Kenny Golladay ซึ่งรายหลังดูแล้วทีมคงไม่เอาไว้ให้เปลืองค่าจ้าง Darius Slayton กับ Richie James Jr. อาจจะมีแนวโน้มได้อยู่ต่อ เพราะสัญญาไม่แพงมาก ตรงนี้น่าสนใจมากในความคิดผม จากข่าวล่าสุดที่ Denver Broncos พยายามจะหาทางเอาตัว Sean Payton มาร่วมทีม และทาง New Orleans Saints ยืนกรานว่าทีมไหนเอาตัว Sean Payton ไปร่วมทีมก็ต้องยอมจ่ายด้วยสิทธิ์ดราฟต์รอบแรกหรือเจรจาไปแล้วอาจจะลดให้มากสุดคือจ่ายด้วยรอบ 2 ดังนั้นด้วยความที่ว่า Denver Broncos ตอนนี้เหลือแค่รอบแรกที่ได้มาจาก Miami Dolphins ถ้ามองว่าสมมติ New York Giants ติดต่อขอเทรด Jerry Jeudy โดยยอมจ่ายด้วยรอบ 1 หรือ 2 Denver Broncos ก็จะชีวิตง่ายขึ้นในการยอมยก 1 สิทธิ์ให้ Saints แลกกับการได้ตัว Sean Payton มาคุมทีม แล้วก็ยังเหลืออีก 1 สิทธิ์ในรอบแรก(หรือรอบ 2) ในมือ และอีกคนที่มีโอกาสเป็นไปได้สูงก็คือจ่ายรอบแรกให้กับ Cincinnati Bengals ขอเทรด Tee Higgins มาเลย กรณีนี้คล้ายๆ กับตอนที่ Buffalo Bills เทรดเอา Stefon Diggs มาจาก Minnesota Vikings นั่นแหละ เพราะผมมองว่าทาง Bengals ก็คงรู้อยู่แล้วว่าพวกเขาไม่มีทางจะมอบสัญญาก้อนใหญ่ให้ทั้ง Joe Burrow, Ja’Marr Chase และ Tee Higgins พร้อมๆ กันได้ ซึ่ง Tee Higgins ก็จะหมดสัญญากับทีมหลังจบฤดูกาลหน้า และทีมก็คงเลือกที่จะเก็บ Burrow+Chase มากกว่า Higgins อยู่แล้ว ดังนั้นนี่เป็นเวลาเดียวที่จะเอาสิทธิ์ดราฟต์ราคาแพงจากทีมอื่นได้ ซึ่งถ้า Tee Higgins มาอยู่กับ Giants เขาจะกลายเป็น WR มือ 1 ของทีมแน่นอน 100% ผมว่าดีลนี้ดูเพอร์เฟกต์มากสำหรับทั้ง 3 ฝ่าย
ส่วน ILB นั้นน่าสนใจว่าทีมอาจจะไปเอาตัว Tremaine Edmunds มาร่วมทีม เพราะ Buffalo Bills นั้นไม่มี cap space มากพอจะต่อสัญญา Jordan Poyer และ Tremaine Edmunds พร้อมๆ กันทั้ง 2 คน
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
ปีนี้ถ้าทีมไม่เทรดใครเข้ามาเป็นพิเศษ ก็มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงว่าทีมอาจจะดราฟต์ WR เข้ามาเพิ่ม เพราะต่อให้เซ็นต์+ต่อสัญญาตัวเดิม ก็น่าจะยังไม่พอสำหรับการใช้งานในฤดูกาลหน้าอยู่ดี แถมช่วงท้ายรอบแรกมีตัวน่าสนใจอย่าง Zay Flower หรือ Jaxon Smith-Njigba กรณีเอารอบแรกไปเทรดแล้ว รอบ 2 ก็มีตัวเลือกอย่าง Rashee Rice หรือ Nathaniel Dell ที่ดูแล้วเป็นไปได้
.
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Dallas Cowboys
.

.
สถิติปี 2022 : 12-5 (ตกรอบ Divisional)
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 2 สิทธิ์ >> R1(27), R2(59)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- ความไม่สม่ำเสมอของ Dak Prescott โดยเฉพาะเวลาที่ต้องเจอกับสถานการณ์ที่กดดันในเกมสำคัญๆ เขามักพลาดแบบไม่น่าพลาดอยู่บ่อยๆ และในหลายๆ ครั้งเขาก็อยู่ในร่างทองแบบไม่คาดฝันเช่นกัน
- แนว OL ปีนี้ดรอปลงจากทุกๆ ปี โดยเฉพาะ Tyler Biadasz(C) กับ Connor McGovern(LG) เช่นเดียวกับคู่ Defensive Tackles
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
ปีนี้พวกเขาต้องตัดสินใจแล้วว่าจะทำยังไงให้สามารถต่อสัญญากับทั้ง CeeDee Lamb และ Trevon Diggs ด้วยว่าพวกเขาเพิ่งมอบสัญญาก้อนใหญ่ให้แก่ Michael Gallup ไปหมาด แต่ปรากฎว่าแทบไม่ได้ใช้งานเขาอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ต้องอย่าลืมว่าปีนี้ทีมมีตัวผู้เล่นคนสำคัญหลายคนที่หมดสัญญาพร้อมๆ กัน ไล่ตั้งแต่ Tony Pollard, Connor McGovern, Dalton Schultz, Anthony Brown, Leighton Vander Esch, Anthony Barr และ Donovan Wilson ซึ่งดูแล้วน่าจะต้องยอมปล่อยออกไปเกินครึ่ง หลายคนอยู่ในสถานะที่ยังมีเครื่องหมายคำถามเกิดขึ้นว่าทีมจะเอายังไงต่อ โดยเฉพาะ Tony Pollard ซึ่งทุกอย่างกำลังไปได้สวย ฟอร์มกำลังถึงจุดพีค แต่ดวงซวยสุดๆ กระดูกหน้าแข้งหัก(ส่วน fibula) อาจจะส่งผลต่ออนาคตของเขากับทีมไม่น้อย ขณะที่ Leighton Vander Esch, MLB คนสำคัญก็ยังเป็นคำถามว่าทีมจะไปต่อกับเขาอีกไหม ต้องยอมรับว่าแต่เดิมเรามองว่าทีมน่าจะปล่อยเขาออกไปแล้วตั้งแต่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ แต่สุดท้ายแล้วก็สามารถกลับมาได้ สามารถคืนฟอร์มที่น่าประทับใจได้อีกครั้ง เช่นเดียวกับ Dalton Schultz ที่ปีนี้ฟอร์มตกลงมาจากปีก่อนเล็กน้อยแต่ก็ถือว่าเป็นเป้าสำคัญของ Dak Prescott
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
หลักๆ ผมมองไว้ 2 คนคือ Leighton Vander Esch ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลอด 2 ปีที่ผ่านมาเขาสลัดภาพ LB จอมเจ็บได้แล้ว เขาสามารถเล่นร่วมกับ Micah Parsons ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมกันและกันได้ดี ปีนี้สถิติ tackle เพิ่มขึ้นจากปีก่อน แม้จะลงเล่นน้อยกว่าปีก่อน 2 เกม ส่วนอีกคนก็คือ Donovan Wilson ปีนี้หายเจ็บกลับมายึดตำแหน่งตัวหลักคืนได้อีกรอบ ซึ่งน่าสนใจเพราะว่ามีนี้ทั้ง Jayron Kearse หรือ Malik Hooker มีโอกาสที่คนใดคนหนึ่งอาจจะถูก released ทิ้ง
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ปีนี้มีความเป็นไปได้สูงว่าทีมอาจจะตัดสินใจมองหาตัวประสบการณ์ในตำแหน่ง Defensive Tackle เข้ามาเพราะสถิติบรรดา DT เด็กๆ ในทีมอย่าง Osa Odighizuwa, Quinton Bohanna และ Neville Gallimore ดูไม่ค่อยน่าประทับใจนัก ทีมอาจจะตัดสินใจหาผู้เล่นที่พร้อมเข้ามาเพื่อช่วยอุดเกมวิ่งเพิ่มขึ้น ตัวที่น่าสนใจเท่าที่ดูแล้วมีโอกาสออกที่ Shy Tuttle, DT ของ New Orleans Saints ที่หมดสัญญากับทีมแล้วคิดว่า Saints ไม่น่าจะมี cap มากพอจะต่อสัญญากับเขา
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
สำหรับขุมกำลังของ Dallas Cowboys เชื่อว่าบรรดาตัวหลักๆ อยู่กันเกือบพร้อมหน้า ยกเว้นพวกสตาร์ที่น่าจะจ่ายค่าจ้างไม่ไหวเช่น Dalton Schultz กับ Tony Pollard ผมว่าทีมน่าจะตัดสินใจปล่อยออกไปทั้งสองคน สำหรับตัววิ่งนั้นแน่นอนว่า Ezekiel Elliott ยังอยู่แต่ก็ยอมรับว่าโรยราแล้ว ทีมอาจจะตัดสินใจดราฟต์ตัววิ่งในรอบกลางๆ มาช่วยงาน ส่วนตำแหน่ง TE นั้นคาดว่าฤดูกาลหน้าน่าจะดัน Jake Ferguson ขึ้นมาแทน Dalton Schultz ดังนั้นความเป็นไปได้ก็น่าจะเหลือ CB, OG และอีกตำแหน่งที่ Cowboys มักจะใช้สิทธิ์รอบแรกเลือกมาบ่อยๆ นั่นก็คือ LB แน่นอนว่าตัวคุมปีก(CB)อย่าง Devon Witherspoon หรือ Emmanuel Forbes มีความเป็นไปได้สูงที่สุด ตำแหน่ง OG คิดว่าทีมไม่น่าจะดราฟต์ในรอบแรก และตำแหน่ง LB อย่าง Trenton Simpson ของ Clemson Tigers หรือ Drew Sanders ของ Arkansas Razorbacks ดูมีความเป็นไปได้มากเช่นกัน

Buffalo Bills
.

.
สถิติปี 2022 : 13-3 (ตกรอบ Divisional)
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 2 สิทธิ์ >> R1(28), R2(60)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- ปีนี้ Josh Allen เสีย turnover แบบไม่จำเป็นบ่อยๆ ส่วนหนึ่งเพราะเจ้าตัวมักจะเลือกเล่นเสี่ยงๆ ในจังหวะที่ไม่จำเป็น รวมไปถึงการเรียกแผนให้ Josh Allen ต้องทำเพลล์เสี่ยงๆ บ่อยครั้ง เอาเข้าจริงๆ เกมบุกของพวกเขาก็ดีเป็นลำดับที่ 2 ของลีก ดังนั้นต่อให้ไม่เรียกเพลล์เสี่ยงๆ พวกเขาก็ไม่ได้เสียหายอะไร
- การขาดหายไปของ Von Miller ส่งผลต่อ pass rush ของทีมค่อนข้างเยอะ Boogie Basham และ A.J. Epenesa สองดาวรุ่งไม่อาจจะทดแทนได้ในช่วงท้ายของฤดูกาล
- ปีนี้ผลงานของ OL ไม่ดีเท่าปีก่อน ในแผง OL มีเพียง Dion Dawkins คนเดียวที่ผลงานสม่ำเสมอแต่อีก 4 ตำแหน่งที่เหลือดรอปลงแบบเห็นได้ชัด
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
ต้องยอมรับว่าปีนี้เป็นปีทองของ Buffalo Bills ในช่วงฤดูกาลปกติ เพราะถ้าเทียบกับฤดูกาล 2021 แล้วปีนี้พวกเขาดีกว่าปี 2021 ในแทบทุกๆ ด้าน ทั้งเกมวิ่ง เกมขว้าง การทำระยะ สิ่งเดียวที่ดรอปลงจากปีก่อนคือเรื่องความแม่นของ Josh Allen ที่ดรอปลงเล็กน้อย ซึ่งตรงนี้ที่แปลก เพราะถ้าเราเอารูปพื้นที่การขว้างของ Josh Allen ใน PFF มาเปิดดูเทียบระหว่างช่วงปี 2020-2022 จะพบว่า แทบไม่แตกต่างเลย แปลว่าการเปลี่ยน OC จาก Brian Daboll มาเป็น Ken Dorsey นั้นแทบไม่กระทบอะไรกับทีมเลย แต่พวกเขาอาจจะต้องคิดเรื่องปรับเปลี่ยนผู้เล่นในแผง OL เพราะตัวหลักอย่าง Rodger Saffold III, Mitch Morse และ Ike Boettger หมดสัญญาพร้อมๆ กัน
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
หลักๆ เลยน่าจะเป็น Jordan Poyer เพราะ Poyer+Hyde นั้นเรียกว่าเป็นคู่หู Safety ระดับ top ของลีกมาหลายปีแล้ว ปีนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปีที่อยู่ไม่ครบฤดูกาล(หายไป 5 เกม) แต่ต้องยอมรับว่าตลอด 6 ปีนับตั้งแต่ย้ายมาจาก Cleveland Browns เขาเป็นแกนหลักในแผง S ของ Buffalo มาโดยตลอด ลงเล่นไปแล้วกว่า 5,018 snaps มากเป็นลำดับที่ 5 ของบรรดา S ทุกคนในลีกในช่วงเวลาเท่าๆ กัน ด้วยวัย 31 ปีเขายังเล่นได้ในระดับสูงอีกอย่างน้อยๆ 2-3 ปี ดังนั้นทีมควรจะต่อสัญญากับเขาเอาไว้ก่อน เพราะว่าในเวลานี้แกนหลักของทีมเหลือเพียง Micah Hyde คู่หูของเขาเพียงคนเดียว ส่วน Damar Hamlin นั้นไม่รู้ว่าจะกลับมาเล่นต่อในอนาคตได้หรือไม่ ดังนั้นเชื่อว่า Buffalo Bills คงต้องคิดเรื่องดราฟต์ S ในปีนี้
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ด้วยสถานการณ์ cap space ของทีมที่ติดลบอยู่ $-15,983,850 ดังนั้นถ้ามองว่าทีมต่อสัญญากับ Jordan Poyer สำเร็จ ก็แปลว่าพวกเขาอาจจะต้องยอมปล่อย Tremaine Edmunds, MLB ของทีมออกไป เพราะน่าจะต่อสัญญาทั้งคู่ไม่ไหว โอเคว่าปีที่ผ่านมาพวกเขาเพิ่งจะดราฟต์ Terrel Bernard เข้ามาแต่คิดว่ายังทดแทนกันไม่ได้ แต่ทีมมีตัวหลักอย่าง Matt Milano กับ A.J. Klein อยู่คิดว่าน่าจะยังไม่ถึงขั้นว่าต้องรีบดราฟต์ LB เร็ว ดังนั้นถ้าทีมจะลองพิจารณาพวกตัวประสบการณ์ที่ค่าจ้างแบบปีต่อปีไม่แพงมากอย่าง Cory Littleton หรือ Kyzir White ก็เป็นทางเลือกที่น่าจะถูกกว่าการคิดจะต่อสัญญากับ Tremaine Edmunds
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
ปีนี้ตัวหลักทั้งทีมบุก-ทีมรับอยู่กันเกือบครบ ตัวหลักที่น่าจะปล่อยออกไปก็น่าจะมี Tremaine Edmunds(MLB), Devin Singletary(RB), Rodger Saffold III(LG), Ike Boettger(RT) และ Dane Jackson(CB) ส่วน Mitch Morse(C) นั้นคิดว่าทีมคงหาทางต่อสัญญาได้ ปีนี้ต้องยอมรับว่า cap space ทีมค่อนข้างตึง แถมไม่มีใครที่สามารถพิจารณาว่าจะ released แล้วช่วยเคลียร์เพดานค่าจ้างได้ด้วย เมื่อพิจารณาจากตัวหลักแล้วน่าจะมีแค่ตำแหน่งของ LG ที่ยังไม่มีตัวที่สามารถขยับขึ้นมาทดแทนได้ เช่นเดียวกับ S สำรองของ Jordan Poyer และ Micah Hyde ที่เหลือนั้นทีมมีดาวรุ่งที่ดราฟต์มาเมื่อปีก่อนๆ รอเสียบแทนอยู่ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้มากที่ทีมจะดราฟต์ผู้เล่นในตำแหน่ง OG หรือ S ในรอบแรก โดยเฉพาะ O'Cyrus Torrence(OG), Jordan Battle(S) หรือ Jammie Robinson(S)
.
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Cincinnati Bengals
.

.
สถิติปี 2022 : 12-4
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 2 สิทธิ์ >> R1(29), R2(61)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
หลักๆ เลยคือแผง OL ที่กล้าพูดว่ายังไม่ดีพอ แม้จะพยายามแก้ไขด้วยการไล่คว้าดาวดังอย่าง Alex Cappa, La’el Collins และ Ted Karras เข้ามาก็ตามที แต่ต้องบอกว่าผลงานถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานที่คาดเอาไว้ เมื่อเทียบ overall grade แล้วบรรดา 5 ตัวหลักในแผง OL ของทีมไม่มีใครถึง 70.0 เลยแม้แต่คนเดียว ซึ่งเมื่อเทียบกับบรรดาทีมที่เข้ารอบ playoff ทีมอื่นๆ นั่นแปลว่ายังเป็นปัญหาทีมที่ต้องไปพยายามแก้ไขต่อในฤดูกาลหน้า เพราะอย่าลืมว่าทั้ง 3 คนที่คว้าเข้ามานั้น ทีมแจกสัญญาคนละ 3-4 ปีเลยนะ แปลว่าปีหน้า Joe Burrow ก็ต้องเล่นกับทั้ง 5 คนนี้อยู่เหมือนเดิม
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
ปีนี้พวกเขาต้องเตรียมตัวคิดถึงเรื่องการมอบสัญญาก้อนใหญ่ให้แก่บรรดาสตาร์ตัวหลักของทีมแล้ว โดยเฉพาะ Joe Burrow จอมทัพสุดหล่อของทีมที่ดูแล้วคงจะการันตีตำแหน่งว่าที่ QB ที่ค่าจ้างแพงที่สุดในลีกแล้วล่ะ ไม่ต่ำกว่า $50,000,000 ต่อปีแน่ๆ และปัญหากว่านั้นก็คือในรายของ Ja’Marr Chase และ Tee Higgins ที่ต่อแถวรอรับสัญญาก้อนใหม่ในตอนจบฤดูกาลหน้าด้วยทั้ง 3 คน(จริงๆ Chase ยังแปะ fifth-years option ได้อยู่) ผมว่ามีโอกาสที่ทีมอาจจะตัดสินใจปล่อย Tee Higgins ออกไปในช่วงปิดฤดูกาลนี้ และอาจะจะเป็น Big Trade ด้วย มีหลายทีมที่เข้าข่ายว่าอาจจะขอเทรดกับ Cincinnati Bengals ได้ เช่น Atlanta Falcons, New York Giants, New England Patriots, Tennessee Titans หรือแม้แต่ Green Bay Packers ซึ่งถ้าได้สิทธิ์ดราฟต์รอบแรกกลับคืนมาก็มีโอกาสสูงที่ทาง Bengals จะยินดีรับข้อเสนอ
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
ปีนี้พวกเขาอยู่ในสถานะคล้ายๆ กับปีก่อนเลยก็คือเข้ารอบลึกๆ จบฤดูกาลมาด้วยตัวหลักอยู่กันเกือบครบทุกตำแหน่ง ตำแหน่งหลักๆ ที่หมดสัญญาก็มี Hayden Hurst(TE), Germaine Pratt(MLB), Eli Apple(CB), Vonn Bell(S) และ Jessie Bates III(S) ซึ่งดูแล้วการต่อสัญญาไม่น่ามีปัญหา เพราะปีนี้ cap space เหลือบานเบอะ $44,733,599 เหลือมากเป็นลำดับที่ 3 ของลีก โดยผมมองว่าทีมน่าจะเก็บ Germaine Pratt แน่ๆ ล่ะ 1 คน เพราะปีนี้เจ้าตัวทำ 90.1 coverage grade ดีที่สุดในลีก แถมไม่เคย tackles พลาดในการป้องกันเกมวิ่ง โดยเฉพาะตั้งแต่หลังสัปดาห์ที่ 8 เป็นต้นมาเจ้าตัวทำ 90.1 overall grade ทุกเกม ดังนั้นไม่มีเหตุผลที่ Bengals จะไม่เก็บเขาไว้เป็นแกนหลักในแผง linebacker ขณะที่ตำแหน่ง S มีโอกาสที่จะเลือกเก็บ Vonn Bell หรือ Jessie Bates III คนใดคนหนึ่งเอาไว้ แล้วปล่อยอีกคนออกไป เพราะทีมเพิ่งดราฟต์ Daxton Hill มาในฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งพร้อมจะขึ้นมาเป็นตัวหลักในฤดูกาลหน้า ถ้าให้เดาผมว่าทีมน่าจะเลือก Vonn Bell ซึ่งเป็น Strong Safety โดยธรรมชาติมากกว่า อีกอย่าง Jessie Bates III เคยมีประวัติงอแงเมื่อตอนถูกแปะ franchise tag เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทีมตัดสินใจดราฟต์ Daxton Hill เข้ามา ซึ่งเรื่องดังกล่าวกดดันให้ Bates III ยอมยุติการต่อต้านแล้วกลับมาซ้อมกับทีม
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ปีนี้ดูทรงแล้วทีมน่าจะมีการเปลี่ยน Tight End อีกรอบ ปีที่แล้ว C.J. Uzomah แจ้งเกิดได้ พอหมดสัญญาทีมก็ปล่อยทิ้งไป แล้วเซ็นต์เอา Hayden Hurst เข้ามา โอเคอาจจะไม่โดดเด่นมาก ทำให้คิดว่าทีมอาจจะไม่ต่อสัญญากับเจ้าตัว แล้วถ้ามองว่าทีมมีโอกาสปล่อย Tee Higgins ออกไป ก็แปลว่าอาจจะหา TE ดีๆ ในตลาดเพื่อเข้ามาทดแทนการหายไปของ Higgins ได้ คนที่มีโอกาสเป็นไปได้สูงน่าจะเป็น Mike Gesicki ของ Miami Dolphins หรือ Foster Moreau ของ Las Vegas Raiders ขณะที่อีกตำแหน่งอาจจะเป็นการเอา CB ชื่อดังที่อยากมาลุ้นแหวน และยินดีรับสัญญาแค่ 1 ปีในราคาแถวๆ $2-5,000,000 เข้ามา ตัวที่เข้าข่ายเป็นไปได้ก็มี Marcus Peters, Bradley Roby, Patrick Peterson, Bryce Callahan หรือ Logan Ryan แล้วค่อยดราฟต์ดาวรุ่งมาเรียนรู้เทคนิกเพิ่มเติมอีกที
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
ในความคิดผมคิดว่า ทีมมีโอกาสที่จะดราฟต์ผู้เล่นในรอบแรกอยู่ประมาณ 3 ตำแหน่ง คือ RT คนที่มีโอกาสเป็นไปได้คือ Broderick Jones หรือ Dawand Jones เพราะยังเป็นตำแหน่งที่ผลงานในฤดูกาลนี้ไม่ดี La'el Collins ก็น่าจะเลยช่วงเวลาที่ดีที่สุดในอาชีพไปแล้ว ส่วนสำรองอย่าง Hakeem Adeniji หรือ Isaiah Prince ไม่ต้องพูดถึง ต่อมาคือ CB อันนี้ก็มี Joey Porter Jr., Christian Gonzalez และ Emmanuel Forbes ดูเป็นไปได้ ส่วนอีกตำแหน่งที่น่าลุ้นก็คือ RB อย่าลืมว่า Joe Mixon หมดสัญญาหลังจบฤดูกาลหน้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทีมต้องมอบสัญญาให้แก่ Joe Burrow(และอาจจะรวมถึง Ja’Marr Chase และ Tee Higgins(ถ้าไม่เทรด)ด้วย) ดังนั้นมีโอกาสที่ทีมอาจจะปล่อยให้ Mixon หมดสัญญาแล้วย้ายออกไปเลย ตัววิ่งที่น่าสนใจที่อาจจะมีชื่อมาโผล่ท้ายรอบแรก ผมว่า Zach Charbonnet ของ UCLA ดูมีความเป็นไปได้มากที่สุด(ถ้าทีมไม่ใจใหญ่พุ่งขึ้นไปฉกเอา Bijan Robinson เลยนะ)
.
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Denver Broncos
.

.
สถิติปี 2022 : 5-12
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 1 สิทธิ์ >> R1(29)(from Miami via San Francisco)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- การตัดสินใจเลือก Nathaniel Hackett ดูเหมือนจะเป็นการคิดผิด ซึ่งไม่รู้ว่าที่ผิดจริงๆ คือ Hackett หรือ Russell Wilson ที่เล่นไม่ได้กันแน่ ทำให้เกมบุกของทีมดูจืดไม่น้อย ทำคะแนนเฉลี่ยเพียง 16.8 แต้ม/เกม รั้งลำดับที่ 28 ของลีก
- ทีมรับผลงานตก โดยเฉพาะกลุ่ม front 7 สถิติการเข้ากดดัน QB ต่ำลงหลังจากไม่มี Von Miller และ Bradley Chubb อยู่กับทีมแล้ว
- วินัยของผู้เล่น ปีนี้ Denver Broncos คือทีมที่เสียโทษมากที่สุดของลีก โดยเฉพาะกลุ่มผู้เล่นทีมบุกที่มักจะทำเสียโทษก่อนจะ snap ลูกหลายครั้ง อย่างเช่น delay of game(4 ครั้ง), false starts(11 ครั้ง มากที่สุดของลีก) นอกจากนี้ก็มีพวก illegal formation กับ illegal shift บ่อย แสดงให้เห็นถึงปัญหาในการสื่อสารระหว่างผู้เล่นด้วยกันเอง และผู้เล่นกับโค้ช
- ความผิดพลาดส่วนตัวของผู้เล่น ปีนี้พวกเขา dropped passes ไปถึง 10 ครั้งมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของลีก และมีสถิติเสีย fumbles เฉลี่ย 1.4 ครั้งต่อเกม ซึ่งไม่ดีเลย แถม Russell Wilson ขว้างเสียหลายครั้ง ทั้งๆ ที่แนว OL ของ Denver Broncos ในปีนี้ถือว่าผลงานภาพรวมทั้งฤดูกาลดีเป็นลำดับที่ 9 ของลีก
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
ลำดับแรกน่าจะต้องจบปัญหาเรื่องใครจะมาเป็น HC ของทีมให้ได้ก่อน ล่าสุดกระแสของ Sean Payton น่าจะมาแรงที่สุดในเวลานี้ ส่วนที่ตามมาส่วนใหญ่จะเป็นฝั่งสายเกมรับอย่าง Dan Quinn, Jim Caldwell และ Frank Reich แต่อีกคนที่อาจจะมาแรงแซงทางโค้งคือ Kellen Moore, OC ของ Dallas Cowboys ซึ่งเป็นไปได้หมด เพราะอย่าลืมว่าเวลานี้ทีมรับก็กำลังเป๋เช่นกัน แน่นอนว่า Ejiro Evero, DC คนปัจจุบันสร้างแนว Secondary ได้ดีก็ไม่แปลกเพราะเขาเป็นอดีตโค้ช Defensive Back กับ passing game มาก่อน แต่เขายังต้องอาศัยเวลาในการสร้างกลุ่ม front 7 ขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะตำแหน่ง Edge Rusher ทั้ง 2 ฝั่ง

ปีนี้ Broncos น่าจะทุ่มกับทีมรับค่อนข้างเยอะ เพราะฝั่งเกมบุกบรรดาตัวหลักอยู่กันเกือบครบ หลักๆ มีการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่ง OL Dalton Risner หมดสัญญา ส่วน RT ทั้ง Cameron Fleming กับ Billy Turner ก็เซ็นต์มาสั้นๆ รายแรกอาจจะได้รับโอกาสให้อยู่ต่อในสัญญาแบบปีต่อปี หลังจากฤดูกาลนี้ทำผลงานได้ค่อนข้างดี ที่เหลือคือปัญหาฝั่งทีมรับเสียเป็นส่วนใหญ่ ปีนี้ 3 คนในแนว DL ทั้ง Dre'Mont Jones, DeShawn Williams และ D.J. Jones หมดสัญญาพร้อมๆ กัน นอกจากนี้ก็มี Alex Singleton, ILB และ Kareem Jackson, SS ที่หมดสัญญาด้วยเช่นในในปีนี้
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
Dre'Mont Jones กับ Dalton Risner อาจจะเป็นสองคนที่ทีมน่าจะพิจารณาเก็บไว้ใช้งานต่อ Dre'Mont Jones ปีนี้ขยับขึ้นมาเป็นตัวจริงแบบถาวร ผลงานถือว่าพอใช้ได้ ทำไป 6.5 sacks, 47 tackles, 9 tackles for loss และ 1 force fumbles เรียกว่าแทบจะเป็นผู้นำในทุกๆ stat ของบรรดา front 7 ของทีมในปีนี้ ขณะที่ Dalton Risner เรียกว่าเป็นตัวหลักของทีมมาตลอดตั้งแต่ดราฟต์มาในปี 2019 แม้ว่าทีมจะไปเซ็นต์เอา Graham Glasgow มาจาก Detroit Lions ดูเหมือนว่าเจ้าตัวก็ไม่เคยเสียตำแหน่งให้ และปีนี้ถ้าทีม release Graham Glasgow ออกไปก็จะได้ cap space มาเพิ่มอีกเกือบๆ $11,000,000 ซึ่งคิดว่าทีมน่าจะเอาเงินส่วนนี้มาเป็นค่าจ้างในสัญญาฉบับใหม่ของ Dalton Risner กับ Cameron Fleming น่าจะคุ้มกว่า
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ปีนี้แนว DL ถ้าสามารถต่อสัญญากับ Dre'Mont Jones ได้ก็จะมี Dre'Mont Jones เป็นตัวยืน ดังนั้น อีก 2 ตำแหน่ง ทีมอาจจะตัดสินใจให้โอกาส 3 ดาวรุ่งอย่าง Eyioma Uwazurike, Jonathan Harris
และ Matt Henningsen ได้ลองแย่งตำแหน่งกัน ส่วนอีกตำแหน่งอาจจะกลับไปใช้บริการของ Mike Purcell ไปพลางๆ ก่อน ดังนั้นถ้าจะมีตัวใหม่เข้ามาอาจจะเป็น Taylor Rapp อดีตศิษย์เก่าของ Ejiro Evero ซึ่งหมดสัญญากับ Rams ในปีนี้พอดี เข้ามาแทนที่ Kareem Jackson ซึ่งอายุมากแล้ว และทีมอาจจะตัดสินใจปล่อยตัวออกไปไม่ต่อสัญญา
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
ปีนี้ทีมเอาสิทธิ์ดราฟต์ของตัวเองไปเป็นส่วนหนึ่งในการเทรด Russell Wilson มาจาก Seattle Seahawks เมื่อปีก่อน ดังนั้นจึงหมดสิทธิ์ที่จะได้เลือกในลำดับต้นๆ(ซึ่งเอาจริงๆ ตอนนั้นทีมก็คงไม่คิดว่าผลงานในฤดูกาล 2022 จะย่ำแย่ขนาดนี้) แต่ก็โชคดีที่การเจรจากับ Miami Dolphins ที่ติดต่อเข้ามาขอเทรดตัว Bradley Chubb ฝั่งทีม Dolphins จะทุ่มจ่ายด้วยสิทธิ์ดราฟต์รอบแรกมาให้ เลยทำให้ทาง Denver Broncos คงตัดสินใจไม่ยากในการรับข้อเสนอแทบจะทันที แม้สุดท้ายจะได้สิทธิ์ในช่วงท้ายรอบแรก แต่ก็ไม่เป็นไร ซึ่งจากลำดับแล้วทีมน่าจะเอาไปใช้ดราฟต์ RT หรือ ILB ซึ่งตัวเลือกอย่าง Broderick Jones หรือ Anton Harrison ในตำแหน่ง OT ก็น่าสนใจ หรือจะเป็น Henry To'o To'o, ILB ที่อาจจะเซอร์ไพรส์โผล่มาท้ายรอบแรก เพราะ George Paton, GM ของทีม ดราฟต์เด็กจาก Alabama มา 2 ปีติดต่อกันแล้ว ถ้าจะดราฟต์เป็นปีที่ 3 คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร

Kansas City Chiefs
.

.
สถิติปี 2022 : 14-3
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 2 สิทธิ์ >> R1(31 หรือ 32), R2(63 หรือ 64)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
จริงๆ พวกเขาแทบไม่มีปัญหาเลย แม้ตอนเริ่มฤดูกาลหลายคนจะตั้งคำถามเรื่องปีกนอกคนที่จะมาแทนที่ Tyreek Hill พอเอาเข้าจริง Andy Reid กับ Eric Bieniemy ก็ปรับแนวทางให้กับ Patrick Mahomes ให้สามารถเล่นเข้ากับปีกชุดใหม่ที่อาจจะไม่มีใครที่สามารถเรียกว่าแทนที่ Tyreek Hill ได้แบบจริงๆ จังๆ โดยโหลดไปอยู่ที่ Travis Kelce ซึ่งก็ทำให้เจ้าตัวมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมอีกฤดูกาล ที่ดูเป็นปัญหากับพวกเขาจริงๆ น่าจะเป็นเรื่องอาการบาดเจ็บของบรรดาผู้เล่นตัวหลักมากกว่า
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
ปีนี้พวกเขาทำผลงานได้น่าประทับใจอีกปี การเข้าชิงแชมป์สาย AFC แถมเป็นการชิงใน Arrowhead Stadium 5 ปีซ้อน การันตีผลงานของพวกเขาได้เป็นอย่างดี AFC กำลังผลัดเปลี่ยนจากการที่มี New England Patriots เป็นเต้ยมาตลอดเปลี่ยนมือสู่ Kansas City Chiefs จะว่าอย่างนั้นก็ได้ ปีนี้พวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่ดีต่อการสร้างทีมเพื่อลุยต่อในฤดูกาลต่อไป เพราะพวกเขาไม่มีปัญหาเรื่องเพดานค่าจ้างเลย แม้จะต้องต่อสัญญาบรรดาผู้เล่นตัวหลักก็ตาม หลักๆ เลยคือทีมมีโอกาสที่จะยกเลิกสัญญากับ Frank Clark, DE ตัวหลักของทีมเพราะจะสามารถเซฟเพดานค่าจ้างได้มากถึง $20,600,000 ซึ่งดูแล้วทีมสามารถจะดัน Mike Danna และ George Karlaftis ขึ้นมาเป็นคู่ตัวหลักแทนเขาได้ เช่นเดียวกับ Marquez Valdes-Scantling ที่จะได้เซฟเพดานค่าจ้างอีก $7,000,000 เช่นกัน
อีกแนวทางหนึ่งที่ผมรู้สึกว่ามีโอกาสเป็นไปได้มากก็คือ เอาสิทธิ์ท้ายรอบแรกไปเทรดผู้เล่นเกรด A มาเลย ตั้งบอกว่านับตั้งแต่ที่ทีมดราฟต์ Patrick Mahomes เข้ามาในปี 2017 รูปแบบการทำทีมของ Andy Reid ดูจะเน้นรีบชิงฉวยโอกาสปั้นทีมในรูปแบบ Win Now บ่อยขึ้น อ้างอิงจากการเอาสิทธิ์ดราฟต์รอบแรกไปเทรดผู้เล่นชื่อดังเข้ามาเพื่อใช้งานเลยแทนที่จะมาเสียเวลาดราฟต์แล้วไปลุ้นว่าจะเกิดไม่เกิด อย่างในปี 2019 ที่ไปเทรดเอา Frank Clark มาจาก Seattle Seahawks หรือปี 2021 ที่เทรด Orlando Brown Jr. มาจาก Baltimore Ravens ดังนั้นในบรรดาผู้เล่นเกรด A ที่เข้าข่ายมีโอกาสเทรดได้ด้วยสิทธิ์ดราฟต์รอบแรกเท่าที่ไล่ๆ ดู ก็มี Derrick Brown, Brian Burns, Montez Sweat, Michael Pittman Jr., Tristan Wirfs และ Antoine Winfield Jr. ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผู้เล่นในตำแหน่งที่ Chiefs ต้องการ
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
แน่นอนว่าน่าจะเป็นการมอบสัญญาก้อนใหญ่ให้แก่ Orlando Brown Jr. ในฐานะที่พิสูจน์ตัวเองได้อย่างเต็มภาคภูมิแล้วว่านี่แหละที่จะเป็น LT คู่กายของ Patrick Mahomes ปีนี้เขาทำผลงาน 88.7 pass-blocking grade ซึ่งดีเป็นอันดับที่ 3 ของลีกเมื่อเทียบกับบรรดา LT ในลีก จากผลงานที่ผ่านมามั่นใจว่าน่าจะได้เงินระดับ top3 ของลีก เกินหลัก $22,000,000 ต่อปีแน่ๆ แต่จะถึงขั้นทำลายสถิติ $23,010,000 ของ Trent Williams หรือเปล่านี่น่าสนใจ
แต่ที่น่าคิดคือชุดปีกนอก ทั้ง JuJu Smith-Schuster และ Mecole Hardman ทีมจะเก็บใครเอาไว้ต่อไปหรือไม่ แต่ต้องยอมรับว่าค่าจ้างของทั้งคู่ไม่สามารถต่อได้ในราคาถูกๆ แน่ๆ อาจจะมีการเรียกร้องขอเกิน $7,500,000 ต่อปี ซึ่งตรงนี้ที่อาจจะใช้คำว่าน่าคิดว่า Andy Reid จะตัดสินใจดัน Skyy Moore ขึ้นมาเป็นตัวหลักก่อนจะมองหาคนอื่นมาเสริมเพิ่มเอาหรือเปล่า
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ส่วนตัวผมมองว่าปีกนอกที่น่าจะเหมาะกับการมาเล่นกับ Patrick Mahomes น่าจะเป็น Jerry Jeudy ของ Denver Broncos แต่ก็นั่นแหละ Broncos ไม่มีวันปล่อย Jeudy ให้กับคู่แข่งร่วมสายแน่ๆ ดังนั้นถ้ามองตัวเลือกอื่นๆ บางทีผมเดาว่า Chiefs อาจจะตัดสินใจเทรดสิทธิ์รอบกลางๆ แลกกับ Darnell Mooney ของ Chicago Bears เพราะมองว่าปีนี้ Bears มีโอกาสสูงที่จะเทรดเอาปีกนอกเกรด A เข้ามา ซึ่งแน่นอนว่าการเข้ามาก็เพื่อจะมาเป็นปีกนอกมือ 1 คนใหม่ของทีม แล้วทีมก็เพิ่งเทรด Chase Claypool เข้ามา ดังนั้นไม่ Claypool ก็ Mooney ก็ต้องมีใครหล่นไปเป็นมือ 3 ดังนั้นถ้าการเอาสิทธิ์รอบ 2 หรือ 3 ไปมอบให้แก่ Chicago Bears เพื่อขอแลกกับตัวของ Darnell Mooney มาก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะเขาดีพอจะเป็นมือ 1 หรือมือ 2 ให้แก่ Chiefs ได้ในฤดูกาลหน้าด้วยค่าจ้างในฤดูกาล 2023 ที่ต่ำกว่า $1,000,000 มีเวลาให้ Chiefs ตัดสินใจ 1 ปีว่าจะมอบสัญญาใหญ่ให้เขาหลังจากฤดูกาล 2023 หรือไม่
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
ปีนี้ต้องยอมรับว่า Chiefs ไม่ค่อยน่ากังวลเท่าไหร่ เพราะบรรดาขุมกำลังหลักของพวกเขาทั้งทีมบุกและทีมรับเรียกว่าอยู่กันแทบจะครบทุกตำแหน่ง พวกเขาแทบไม่มีอะไรที่ต้องกังวลเลย ถ้ามองว่าทีมไม่มีการเอาสิทธิ์รอบแรกไปเทรดกับใครก่อน ตำแหน่งที่ดูแล้วมีโอกาสที่ทีมจะดราฟต์ในท้ายรอบแรกก็น่าจะมี WR สาย Vertical Treat อย่าง Jalin Hyatt หรืออาจจะชิงดราฟต์ Tackle ร่างยักษ์อย่าง Dawand Jones ตั้งแต่ท้ายรอบแรกเพื่อเอามาเป็น RT ตัวหลัก และอีกตำแหน่งที่ท้ายรอบแรกน่าจะมีให้เลือกเยอะก็คือ CB อย่าง CHristian Gonzalez หรือ Joey Porter Jr.
.
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
.

Los Angeles Rams
.

.
สถิติปี 2022 : 5-12
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 1 สิทธิ์ >> R2(37)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- Offensive Line ชุดใหม่พังมากโดยเฉพาะฝั่งซ้าย
- อาการบาดเจ็บของ 2 ตัวหลักในเกมบุกอย่าง Matthew Stafford และ Cooper Kupp
- Allen Robinson ปีกนอกตัวความหวังที่มาแทน Robert Woods ดูเล่นไม่เข้าขากับ Matthew Stafford เลย
- Edge Rusher ชุดปัจจุบันมีเพียง Leonard Floyd ที่ผลงานยังคงเดิม แม้แต่ตัวเทพอย่าง Aaron Donald ก็ดูดรอปลงไป
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
ปีนี้พวกเขาเจอปัญหาใหญ่ เพราะผลจากการทำ All-In Win Now ของพวกเขาส่งผลในปีนี้แล้ว 5 ผู้เล่นตัวหลักอย่าง Cooper Kupp, Aaron Donald, Jalen Ramsey, Matthew Stafford และ Leonard Floyd กินค่าเหนื่อยเกิน $20,000,000 ทุกคน แถมติด Deadcap มหาศาลทุกคน ถัดลงไปอีกหน่อย Allen Robinson กับ Joseph Noteboom ก็กินค่าเหนื่อยมากกว่า $15,000,000 ดังนั้นมีโอกาสสูงที่ทีมจะเทรดทิ้งหลายคน คนที่สุ่มเสี่ยงก็น่าจะเป็น Jalen Ramsey, Leonard Floyd และ Allen Robinson ที่น่าห่วงกว่าคือ Aaron Donald อาจจะตัดสินใจ retire ไปเลย หลังจากที่เปรยๆ ว่าจะเลิกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ดังนั้นถ้าพูดกันตามตรงหลักๆ แล้วตอนเริ่มฤดูกาลหน้าแกนหลักในทีมของ Sean McVay อาจจะเหลือแค่คู่ดูโอ Matthew Stafford+Cooper Kupp ก็ได้
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
ด้วยปัญหาเพดานค่าจ้างที่เหลือไม่มาก คิดว่าตัวสำคัญๆ อย่าง Taylor Rapp, Troy Hill หรือ Greg Gaines น่าจะต้องเก็บข้าวของไปอยู่ที่อื่น ดังนั้นโอกาสที่ Rams จะเซ็นต์กลับน่าจะเป็นพวกที่จะเอาเก็บไว้ rotation อย่าง Michael Hoecht ซึ่งปีนี้ได้ลงสนามและทำผลงานพอใช้ได้ และน่าจะยินดีที่จะรับสัญญาใหม่ในราคาย่อมเยา
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ถ้าจะมีตัวใหม่เข้ามา น่าจะเป็น DB ประสบการณ์ ด้วยเหตุผลว่าบรรดาผู้เล่น DB ของ Rams ส่วนใหญ่มีแต่เด็ก(พูดในกรณีว่าทีมปล่อย Jalen Ramsey ออกไป) ดังนั้นทีมจึงต้องการ DB ที่มีประสบการณ์ไว้คอยประคองบรรดาเด็กดาวรุ่ง และต้องเป็นคนที่น่าจะรับได้กับสัญญาแบบปีต่อปีในราคาไม่เกิน $2,500,000 คนที่เข้าข่ายก็จะมี Logan Ryan, Terrance Mitchell หรือ Bryce Callahan
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
ปีนี้เป็นปีที่ 7 ติดต่อกันแล้วที่ Rams ไม่มีสิทธิ์ดราฟต์รอบแรกในมือ เพราะเอาไปไล่เทรดชาวบ้านเขาหมดแล้ว ยังดีที่มีสิทธิ์รอบ 2 อยู่ เท่าที่ดูแล้ว Rams น่าจะมีหลายตำแหน่งที่ต้องเสริมไล่ตั้งแต่ OG, WR, OT, DL, EDGE, ILB, CB และ S ถ้าดูตามความสำคัญแล้ว ทีมน่าจะต้องเสริม EDGE ก่อน เพราะไม่แน่ว่าถึงเวลานั้นทีมจะยังเก็บ Leonard Floyd เอาไว้ได้อยู่หรือไม่(อาจจะรวมถึง Aaron Donald จะยังเล่นต่อในฤดูกาลหน้าหรือไม่ด้วย) ดังนั้นสิทธิ์แรกที่ Rams มีในมือน่าจะเป็นรอบ 2 ลำดับที่ 36 ตัวเลือกอย่าง Felix Anudike-Uzomah หรือ Zach Harrison เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้า Sean McVay ชอบที่จะเทรดมากกว่าดราฟต์เอง การส่งรอบ 2 หรือ 3 ไปให้ Minnesota Vikings เพื่อขอเทรดเอา Danielle Hunter มาเลยก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม
.
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
.

New Orleans Saints
.

.
สถิติปี 2022 : 7-10
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 1 สิทธิ์ >> R2(41)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- Dennis Allen ไม่เท่ากับ Sean Payton หลังจาก Sean Payton จู่ๆ ก็ประกาศขอเลิกคุมทีมไปแบบงงๆ
- ไม่มี franchise quarterback แถมไม่มีสิทธิ์ดราฟต์รอบแรกในมือด้วย ปีนี้เปลี่ยนแปลง QB ในทีมด้วยหลังจากตัดสินใจต่อสัญญากับ Jameis Winston สุดท้ายแล้วกลับไม่ได้ใช้งานเขา แต่กลายเป็น Andy Dalton ยึดตำแหน่งมือ 1 ไปแทนแล้วทำผลงานพอใช้ได้
- พวกเขามีปัญหาเวลาขึ้นนำคู่ต่อสู้แล้วมักจะฆ่าไม่ตาย สุดท้ายพลิกกลับมาเป็นฝ่ายแพ้ในตอนสุดท้ายหลายเกม ดังนั้นทีมอาจจะพิจารณาแล้วว่าจะทำยังไงกับ Pete Carmichael, OC คนปัจจุบัน
- ทีมรับของ Dennis Allen แม้จะผลงานในภาพรวมยังพอใช้ได้ แต่ปัญญาใหญ่คือปีนี้การเก็บ turnover ลดลงแบบน่าใจหาย ผ่านมานับตั้งแต่ฤดูกาล 1990 พวกเขาเก็บ turnover ได้อย่างน้อย 8 ครั้งขึ้นไป แต่ปีนี้เหลือเพียงแค่ 3 ครั้งเท่านั้น ซึ่งที่น่าตลกคือ 3 ตัวหลักของทีมที่ย้ายออกไปอย่าง C.J. Gardner-Johnson(6), Vonn Bell(4) และ Marcus Williams(3) เฉพาะผลงานส่วนตัวของพวกเขา เก็บ turnover ในฤดูกาลนี้ได้เท่ากับหรือมากกว่าที่ทีม Saints ทำได้ทั้งปี นอกจากนี้ที่น่าห่วงคือบรรดาตัวหลักของทีมอายุเกิน 30 ปีกันแล้ว และมีแนวโน้มผลงานจะตกลงต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 2
- ปัญหาอาการบาดเจ็บที่รบกวนบรรดาขุมกำลังหลักของพวกเขา ปีนี้บรรดาตัวหลักไล่ตั้งแต่ Marshon Lattimore, P.J. Williams, Bradley Roby, Marcus Maye, Alontae Taylor, Erik McCoy, Pete Werner, Jarvis Landry, Michael Thomas, Deonte Harty ต่างสลับกันไปนอนโรงพยาบาลเป็นระยะๆ ไม่เคยได้อยู่พร้อมหน้ากันเลย ซึ่งเกินครึ่งในบรรดาลิสต์ข้างบนนี้เจออาการบาดเจ็บที่ต้องพักมากกว่า 4 เกม
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
ต้องบอกว่าน่าลำบากใจไม่น้อย เพราะนี่เป็นปีที่ 2 หรือ 3 ติดต่อกันแล้วที่พวกเขาต้องมาคอยไล่เคลียร์ cap space เพราะปีนี้ก็ติดลบอีกบานกว่า $-52,851,512 แต่ก็ต้องยอมรับว่า Saints เป็นทีมที่เก่งในการเคลียร์ cap space เพราะอย่างปีล่าสุดที่ติดลบมากกว่า $-70 millions แต่สุดท้ายทีมก็ยังไปคว้าเอาคู่หู S อย่าง Tyrann Mathieu และ Marcus Maye เข้ามาร่วมทีมได้แบบที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน แถมยังจ่ายสัญญาแพงๆ ให้ทั้งคู่ได้อีก แต่สิ่งที่ทีมต้องแลกคือก็จะไม่สามารถรักษาสตาร์ของทีมที่หมดสัญญาในปีนั้นทั้งหมดได้เช่นกัน เหมือนกับปีที่แล้วที่เสีย Terron Armstead, Marcus Williams และ Kwon Alexander ออกไปหมด
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
สิ่งที่เราเรียนรู้จาก Saints ที่เผชิญกับสถานการณ์ cap space ระเบิดหนักๆ เลยก็คือ พวกเขาจะไม่รั้งบรรดาสตาร์ที่หมดสัญญา นั่นแหละเพราะพวกเขาน่าจะรู้อยู่แล้วว่ายังไงก็ต่อสัญญาไม่ได้ ดังนั้นค่อนข้างจะมั่นใจว่าคงทำแบบเดิม คือใครหมดสัญญาแล้วก็ขอบคุณนะ แยกย้าย ดังนั้นปีนี้ Bradley Roby, David Onyemata, Deonte Harty, Marcus Davenport, Jarvis Landry, Shy Tuttle และอาจจะรวมถึง Andy Dalton ด้วย น่าจะย้ายออกไปทั้งหมด ถ้าจะมีใครที่คิดว่าทีมอาจจะต่อสัญญา ผมเดาว่าอาจจะเป็น Kentavius Street เพราะปีนี้ทีมเสียทั้ง David Onyemata และ Shy Tuttle คู่ DT ตัวจริงออกไปพร้อมๆ กัน ดังนั้นตัว rotation ที่ฤดูกาลก่อนใช้ลงมาสลับแล้วผลงานไม่เลว อาจจะได้รับสัญญาฉบับเล็กๆ ราคาไม่แรงเพื่ออยู่ช่วยงานต่อ ดีไม่ดีอาจจะได้การันตีว่าจะได้เป็นตัวจริงเลยด้วยซ้ำ
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ต้องยอมรับว่า Saints เป็นทีมที่เก่งในการเคลียร์ cap space เพราะอย่างปีล่าสุดที่ติดลบมากกว่า $-70 millions แต่สุดท้ายทีมก็ยังไปคว้าเอาคู่หู S อย่าง Tyrann Mathieu และ Marcus Maye เข้ามาร่วมทีมได้แบบที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน แถมยังจ่ายสัญญาแพงๆ ให้ทั้งคู่ได้อีก ดังนั้นปีนี้ Saints อาจจะมีเซอร์ไพรส์ดึงสตาร์เข้ามาแบบไม่คาดคิดอีก คนที่น่าสนใจอาจจะเป็น Derrick Nnadi, DT ของ Chiefs ซึ่งอาจจะมาแบบสัญญา 2-3 ปี เฉลี่ยปีละ $5-6 millions หรือถ้าจะเซอร์ไพรส์หนักๆ กว่านั้น Saints อาจจะพุ่งไปดึง Da’Ron Payne มาแบบช็อคตลาดเลยก็เป็นไปได้ แล้วค่อยไปเคลียร์ cap space กันใหม่เมื่อจบฤดูกาล 2023

คาดการณ์ดราฟต์ :
ปีนี้ทีมไม่มีสิทธิ์ดราฟต์รอบแรกหลังจากปีที่แล้วเอาไปเล่นแร่แปรธาตุ 2-3 รอบ จนสุดท้ายสามารถพุ่งขึ้นไปชิงดราฟต์ตัว Chris Olave ได้ในลำดับที่ 11 ซึ่งผลลัพท์สำหรับปีแรกของเจ้าตัวถือว่าสอบผ่าน มีแววจะก้าวขึ้นไปเป็นปีกนอกมือ 1 ของทีมได้ใน 1-2 ปีนี้ ดังนั้นปีนี้ Saints จะได้เลือกในรอบ 2 ลำดับที่ 40 ถ้าพิจารณาจากขุมกำลังที่ทีมมีในตอนนี้ มีโอกาสเป็นไปได้อยู่ 3 ตำแหน่ง คือ DT เพราะปีนี้ตัวหลักหายพร้อมกัน, WR เพราะต้องยอมรับว่าคงจะหวังกับ Michael Thomas ไม่ได้แล้ว อยู่ก็เจ็บออดๆ แอดๆ เทรดก็ไม่มีใครอยากดีลด้วย จะตัดตัวทิ้งก็ไม่ได้ติด deadcap มหาศาล คงต้องปล่อยให้อยู่ไปเรื่อยๆ แบบนี้ไปก่อน ดังนั้นถ้าเราโฟกัสที่ 2 ตำแหน่งกับลำดับแถวๆ กลางรอบ 2 คนที่ดูเป็นไปได้ก็มี Jaquelin Roy(DT), Lukas Van Ness(DE/DT), A.T. Perry(WR), Marvin Mims(WR) หรือ Nathaniel Dell(WRs) และอีกคนที่ดูมีแนวโน้มว่าถ้ารอบแรกไม่มีใครดราฟต์ไปก่อน และ Saints ไม่ได้สิทธิ์รอบแรกเพิ่มเข้ามาด้วยเหตุผลต่างๆ ผมว่า Saints อาจจะเทรดขึ้นไปต้นรอบ 2 เพื่อชิงเก็บก็คือ Hendon Hooker, QB ของ Tennessee Volunteers

จริงๆ ปีนี้ Saints มีโอกาสจะยอมเทรดสตาร์บางคนออกไปเพื่อแลกกับสิทธิ์ดราฟต์รอบ 1 หรือ 2 โดยเฉพาะ 2 คน คือ Ryan Ramczyk หรือ Marshon Lattimore ให้จับตามองทีมที่มีสิทธิ์ดราฟต์ในช่วงกลาง-ท้ายรอบแรกและมี cap space เหลือเยอะๆ อย่าง Giants, Bengals, Patriots, Ravens หรือ Raiders ไว้ให้ดีๆ พวกนี้อาจจะยื่นรอบแรกมาขอแลกคนใดคนหนึ่งไปได้

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Cleveland Browns
.

.
สถิติปี 2022 : 7-10
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : 1 สิทธิ์ >> R2(43)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
- การเปลี่ยนแปลง QB ในฤดูกาล 2022 แน่นอนว่าโทษแบนของ Deshaun Watson ที่ยาวถึง 11 เกมมันดูเหมือนเป็นการปิดฤดูกาลของ Browns ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว พวกเขาภาวนาแค่ให้ Jacoby Brissett ประคองผลงานของทีมให้ยังอยู่ในพื้นที่ที่สามารถจะลุ้นได้หลังจากจบสัปดาห์ที่ 10 แต่มันไม่เป็นใจ แถมเมื่อ Deshaun Watson กลับมาจากโทษแบน ดูเหมือนผลงานของเขาจะยังไม่ดีเหมือนตอนอยู่กับ Houston Texans
- ปีนี้เกมป้องกันเกมวิ่งของพวกเขาย่ำแย่มาก อยู่ลำดับท้ายๆ ของลีก ซึ่งไม่น่าแปลกใจเพราะพวกเขามี DT อย่าง Jordan Elliott, Taven Bryan และ Tommy Togiai ซึ่งสื่อมองว่าเป็น undersized แถม 2 ตัวหลักในแนว linebacker อย่าง Anthony Walker Jr. และ Jeremiah Owusu-Koramoah ก็บาดเจ็บหนักพักยาวทั้งคู่ ทำให้การป้องกันเกมวิ่งยิ่งยวบ
- ปัญหาเรื่องขุมกำลังบางส่วนก็มาจากการเทรด Deshaun Watson พร้อมกับมอบสัญญาฉบับโอเวอร์ให้เจ้าตัวนั่นแหละ เรียกว่าจ่ายให้ปีละ $46,000,000 ทุกปีๆ เป็นเวลา 5 ปีติด แถมติด Deadcap มหาศาลจนเรียกว่า released ทิ้งไม่ได้ แม้จะเป็นปีสุดท้ายของสัญญา เพราะดันไปการันตีเต็มจำนวนสัญญา ส่งผลให้ทีมอาจจะหาสตาร์มาร่วมทีมในสัญญาใหญ่ๆ ในอนาคตไม่ได้
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
หลักๆ ช่วงปิดฤดูกาลนี้พวกเขาน่าจะยังไม่ห่วงมาก แค่ให้บรรดาตัวหลักได้มีเวลาซ้อมทำความคุ้นเคยกันให้มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้ Deshaun Watson ได้เรียกฟอร์มเก่งเหมือนสมัยที่เล่นกับ Houston Texans กลับมา ปีนี้ทีมโชคดีที่บรรดาทีมบุกอยู่กันพร้อมหน้า ตัวหลักของฝั่งทีมบุกที่หมดสัญญามีเพียง Kareem Hunt, D'Ernest Johnson และ Ethan Pocic สองรายแรกเป็นตัววิ่งสำรอง ส่วน Ethan Pocic นั้นมาแทน J.C. Tretter ซึ่งปีนี้มีความเป็นไปได้ว่าทีมอาจจะปล่อยตัวออกไปทั้งหมด ส่วนฝั่งทีมรับปีนี้อาจจะมีกระเทือน เนื่องจากตัวสำคัญๆ อย่าง Jadeveon Clowney คู่หูของ Myles Garrett หมดสัญญา ซึ่งจุดนี้น่าจะกระทบเยอะ เพราะทีมคู่ DT ก็ผลงานไม่ดีอยู่แล้วถ้ามาเสีย Jadeveon Clowney ไปอีกคนเท่ากับว่า DL ของ Browns จะเหลือแค่ Myles Garrett คนเดียวที่ไว้ใจได้ และอีกคนที่สำคัญคือ Anthony Walker Jr., MLB ที่หมดสัญญากับทีมเช่นกัน ซึ่งจะทำให้แผง LB ยวบไปเยอะเพราะ Jeremiah Owusu-Koramoah ก็เพิ่งจะเจ็บหนักมา แล้วคนที่เหลืออยู่ ก็มีแต่พวกที่เซ็นต์เอามาเป็นอะไหล่แต่ประสบการณ์ในการเป็นตัวจริงแทบไม่มี ยังดีที่ชุด Defensive Back ยังอยู่กันพร้อมหน้า
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
เอาจริงๆ คือ Browns น่าจะไม่มี cap พอจะต่อสัญญากับ Jadeveon Clowney ค่อนข้างแน่แล้ว ดังนั้นปีหน้าอาจจะต้องให้ Alex Wright ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักแทน ซึ่งผลงานปีนี้ยังเรียกว่าน่าเป็นห่วง ทีมอาจจะต้องดราฟต์เข้ามาเสริม แต่ถ้าจะมองว่าทีมควรจะเก็บใครไว้ ส่วนตัวผมเชียร์ให้ต่อสัญญาระยะสั้นๆ กับ Deion Jones ถ้าสามารถเจรจาให้เจ้าตัวยอมรับสัญญาในราคาไม่แพงไปกว่าฤดูกาลที่ผ่านมาได้ เพราะเจ้าตัวเพิ่งจะ 28 มีดีกรีเป็นอดีตตัวหลักของ Atlanta Falcons มายาวนาน และจะสามารถเล่นในตำแหน่งของ Anthony Walker Jr. ได้ อย่างน้อยประสบการณ์ของเจ้าตัวก็สามารถเป็นแกนหลักให้บรรดาเด็กๆ LB ในทีมได้ แต่ตรงนี้อาจจะต้องระวังทีมอย่าง Pittsburgh Steelers ที่ชอบฉก LB คู่แข่งไปใช้งานด้วย อาจจะมาแจมแย่งตัวได้
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ปีนี้เชื่อว่า Cleveland น่าจะมองหา Defensive End เข้ามาเสริมทัพ เพราะอย่างที่บอก Jadeveon Clowney คงไม่ได้อยู่ต่อ ดังนั้นทีมคงต้องหาตัวที่มีประสบการณ์มาการันตีกรณีว่าดาวรุ่งอย่าง Alex Wright หรือหน้าใหม่ที่ดราฟต์เข้ามาเกิดมีปัญหาเล่นไม่ได้จริงๆ ถ้าเชียร์ใครซักคน ผมว่า Jason Pierre-Paul น่าสนใจ เพราะสามารถเอามาแล้วให้ยืนเป็นตัวจริงได้ทันที ถ้าเจ้าตัวยินดีรับสัญญาปีต่อปีไม่เกิน $2,500,000 ได้แบบที่รับอยู่กับ Baltimore Ravens ในปัจจุบัน แต่ถ้าไม่ก็อาจจะต้องหันไปพึ่งพวก Shaq Lawson, Efe Obada หรือ Carl Nassib เอามา rotation กับบรรดาเด็กๆ ในทีมไปก่อน
.
คาดการณ์ดราฟต์ :
ปีนี้ทีมไม่มีสิทธิ์ดราฟต์รอบแรกในมือ เพราะเอาไปเทรด Deshuan Watson มาจาก Houston Texans เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ดังนี้ปีนี้สิทธิ์แรกที่ Browns จะได้ใช้คือรอบ 2 ลำดับที่ 42 ดังนั้นคนที่น่าสนใจน่าจะเป็น Lukas Van Ness ของ Iowa Hawkeyes ที่สามารถเล่นได้ทั้ง DT และ DE หรือ Tuli Tuipulotu ของ USC Trojans เพื่อเสริมความแกร่งให้แนว DL ก่อน หรืออีกทางคือเลี้ยวไปเก็บ ILB ตัวดีๆ ของคลาสนี้อย่าง Drew Sanders หรือ Jack Campbell ก่อนในรอบ 2 แล้วค่อยไปเอา Will McDonald IV หรือ Calijah Kancey ในรอบ 3 ถ้ายังไม่มีใครเอา
.
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
.

San Francisco 49ers
.

.
สถิติปี 2022 : 13-4
สิทธิ์ดราฟต์สองรอบแรก : ไม่มีสิทธิ์ดราฟต์ใน 4 รอบแรก(แต่อาจจะได้สิทธิ์ดราฟต์พิเศษ Resolution JC-2A selection(สิทธิ์ที่ลีกมอบเป็นกรณีพิเศษจากกฎที่มีการทีมอื่นมาจ้างงาน staff ของ 49ers ที่ไม่ใช่คนผิวขาวให้ไปร่วมงานด้วย)ในท้ายรอบ 3 ประมาณ 2-3 สิทธิ์ รอลีกประกาศอีกที ที่แน่ๆ ได้จาก กรณี Tennessee Titans แต่งตั้ง Ran Carthon อดีต Director of player personnel ของ 49ers ขึ้นเป็น GM คนใหม่ของทีม และมีแนวโน้มจะได้เพิ่มอีก 1 สิทธิ์ถ้า Texans หรือ Broncos เลือก DeMarco Ryan ไปเป็น HC คนใหม่)
.
พวกเขามีปัญหาอะไร :
จริงๆ ต้องบอกว่าฤดูกาลนี้แม้ช่วงต้นพวกเขาจะเริ่มได้ไม่ค่อยดีนัก แต่พอเริ่มเข้าที่เข้าทางหลังจากสัปดาห์ที่ 7 พวกเขาก็เก็บชัยชนะ 10 เกมรวด ส่วนหนึ่งต้องชมว่าการเทรดเอาตัว Christian McCaffrey มาร่วมทีมกลายเป็นกุญแจสำคัญในเกมรุก ในการพาทีมเก็บชัยชนะ เช่นเดียวกับบรรดาผู้เล่นในเกมรับที่นัดกันเข้าฝักโดยเฉพาะแก๊งค์ front 7 ที่นำโดย Nick Bosa, Fred Warner และ Dre Greenlaw ซึ่งโดดเด่นเป็นพิเศษ ดังนั้นในฤดูกาลนี้ผมคิดว่าสำหรับทีม San Francisco 49ers น่าจะใช้คำว่าไม่น่าจะมีเรื่องอะไรที่ต้องติพวกเขาเลย
.
แนวทางน่าสนใจช่วงปิดฤดูกาล :
ปีนี้ทีมอาจจะเปลี่ยน Center คนใหม่อีกรอบ หลังจากปีก่อนเปลี่ยนจาก Alex Mack มาเป็น Jake Brendel ซึ่งตอนแรกผมก็ไม่แน่ใจว่าคนที่ทีมตั้งใจจะให้เล่น C จริงๆ น่าจะเป็น Daniel Brunskill หรือเปล่า แต่นั่นแหละ ปีนี้หมดสัญญาพร้อมกันทั้งคู่ ซึ่งมีโอกาสที่ทีมจะตัดสินใจปล่อยทิ้งทั้งคู่ได้เหมือนกัน หรือมากสุดผมว่าก็อาจจะเลือกเก็บไว้คนนึงแต่คงจะไม่ใช่สัญญาระยะยาว เพราะปีนี้มี C ดีๆ หลายๆ คนเข้าสู่ตลาด FA และหลายๆ คนก็มีแววจะยินดีรับสัญญาแบบปีต่อปีในราคาที่พอๆ กับสัญญาฉบับใหม่ของ Jake Brendel หรือ Daniel Brunskill ดังนั้นจึงมองว่ามีโอกาสสูงที่ทีมอาจจะมองหาผู้เล่นประสบการณ์มากกว่าเข้ามาแทนที่ เช่น Matt Skura, Nick Martin หรือ Sam Mustipher ปีนี้ตำแหน่ง DT ดูผลงานดรอปลงกว่าหลายๆ ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะ Javon Kinlaw ที่ดราฟต์มาในรอบแรกแย่งตำแหน่งจาก Kevin Givens ไม่ได้ และถ้าว่ากันตามตรง Kevin Givens ก็ไม่ถึงขั้นว่าโดดเด่นอะไรมากมาย ซึ่งอาจจะแปลว่าทีมอาจจะพิจารณาเทรด Javon Kinlaw ทิ้งไปในช่วงปิดฤดูกาลนี้ได้
.
ตัวหลักที่น่าจะเก็บไว้ :
Mike McGlinchey น่าจะเป็นตัวที่ทีมคงจะพิจารณาต่อสัญญาให้ในฤดูกาลนี้ เนื่องจากเจ้าตัวเป็นผู้เล่นคนสำคัญในแผน wide-zone rushing attack ซึ่งเป็นแผนเกมวิ่งที่ Kyle Shanahan ใช้อัดเกมรับคู่แข่งได้ผลมาโดยตลอด เชื่อว่าทีมคงไม่ปล่อยให้เขาออกไปไหนแน่ ยิ่งการได้ตัว Christian McCaffrey ตัววิ่งคนดังมาร่วมทีม แปลว่าพวกเขามีโอกาสที่จะใช้เกมวิ่งดาหน้าถล่มคู่แข่งต่อในฤดูกาลหน้าได้สบายๆ ซึ่งจากเว็ป Spotrac คำนวณสัญญาฉบับใหม่ของ Mike McGlinchey ออกมาที่เฉลี่ยปีละ $10,700,000 ซึ่งอยู่ในข่ายที่ทีมสามารถจ่ายได้โดยไม่กระทบอะไรกับเพดานค่าจ้างของทีม
.
ตัวใหม่ที่น่าจะเข้ามา :
ต้องยอมรับว่า 49ers ในยุคของ Kyle Shanahan เป็นทีมที่มักจะดราฟต์ผู้เล่นเกือบทุกตำแหน่งมาเพื่อใช้งานเองเสียเป็นส่วนใหญ่ น้อยครั้งที่เราจะเห็นการเทรดผู้เล่นจากทีมอื่นๆ มาเพื่อเป็นตัวหลัก ซึ่งกรณีนี้มักจะใช้ในกรณีคว้าเอาผู้เล่น ชื่อดังเข้ามา ซึ่งเท่าที่นึกออกก็มี Trent Williams กับล่าสุดอย่าง Christian McCaffrey ดังนั้นการจะเดาว่าทีมจะเซ็นต์ free agent ใครเข้ามาจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะเดายากพอสมควร เพราะที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นการเซ็นต์แบบปีเดียวเพื่อเอาเข้ามาเป็นอะไหล่ rotation เสียมากกว่า ดังนั้นถ้าต้องเดาตำแหน่งที่อาจจะมีการเซ็นต์ผู้เล่นระดับเกรด B แบบสัญญามากกว่า 1 ปี ความเป็นไปได้น่าจะเป็นตำแหน่ง Defensive End อย่าง Rasheem Green หรือเป็นการมอบสัญญาใหญ่ให้กับอดีตผู้เล่นจาก NFC West อย่าง Patrick Peterson อดีตตัวคุมปีกของ Vikings และ Cardinals มาเลยก็เป็นตัวเลือกที่จะมาเป็นตัวหลักให้กับแผงตัวคุมปีก

คาดการณ์ดราฟต์ :
John Lynch, GM ของทีมขึ้นชื่อเรื่องการควานหาของดีจากรอบท้ายๆ เก่ง ดังนั้นแฟนๆ น่าจะไม่มีอะไรต้องกังวลกับการที่ทีมไม่มีสิทธิ์ดราฟต์รอบต้นๆ ในมือ ปีนี้หลักๆ น่าจะเป็นการมองหาผู้เล่นในทีมรับอย่าง LB, CB และ S เสียเป็นส่วนใหญ่ เพราะฝั่งทีมบุกหลักๆ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่ง Center แค่ตำแหน่งเดียว ตำแหน่งที่เหลือผู้เล่นในฤดูกาล 2022 น่าจะอยู่กันครบ เลยไม่น่าห่วงอะไร ตัวที่ดูเป็นไปได้ก็มี Daiyan Henley(OLB), Mekhi Garner(CB), D.J. Turner(CB) หรือ J.L. Skinner(S) ในช่วงท้ายรอบ 3

อยากได้ Will Anderson มากกว่าเหมือนกัน ยิ่งถ้าได้ DeMeco Ryan เป็น HC นะ ยิ่งต้องจัดรับขวัญแกหน่อย

ถ้ามาโฮมได้จูดี้มาจริงนี่ไม่อยากจะคิดเลย คนนึงแขนเทพ อีกคนนึงเร้าเทพ

Eagles น่าจะอัดที่แนวรับเพราะ DT หายเกือบหมด Hargrave Suh Joseph
อีกตำแหน่งที่ต้องเสริมคือช่องโหว่ที่ Bradberry ที่หมดสัญญาอีกตัว

ึคิดว่ารอบแรกต้องมี CB หรือไม่ก็ DT สักตัว ที่เหลือก็ตัววิ่งแทน Sanders กับปีกเบอร์3ที่ Quez Watkins ยิ่งเล่นยิ่งไม่ตอบโจทย์ LB มี Dean สแตนบายรอยู่แล้ว น่าจะเซ็นตัวประสบการณ์เข้ามาเพิ่มเพราะ White ก็หมดสัญญาพร้อม TJ