ญอริสพลาดอีก! 'มาห์เรซโชว์' เรือพลิกนรกแซงไก่ครึ่งหลัง 4-2
เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับมาลงเล่นครึ่งหลังพลิกเกมสุดเหลือเชื่อ ใช้เวลา 18 นาที ยิงคืน 3 ลูกรวด แซงกับมาชนะ ไก่เดือยทอง ทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ 4-2 หลังตกเป็นรองถึง 2-0 ตั้งแต่ท้ายครึ่งแรก เครดิตความดีความชอบต้องตกให้ความยอดเยี่ยมของ ริยาด มาห์เรซ ที่มีส่วนร่วมทุกประตู (ยิง 2 จ่าย 1 ปั้มเกมอีก 1) แมนฯซิตี้ เก็บแต้มเพิ่มขยับกลับไปไล่อาร์เซนอลเหลือ 5 คะแนน แม้จะลงเล่นมากกว่า 1 นัดก็ตาม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-2-3-1
82.
ริโก้ ลูอิส
83'
6.5
8.
อิลคาย กุนโดกัน
81'
6.5
9.
เออร์ลิ่ง ฮาลันด์
90'
7.5
ตัวสำรอง
20.
แบร์นาร์โด้ ซิลวา
81'
6
3.
รูเบน ดิอาส
90'
6
2.
ไคล์ วอล์คเกอร์
83'
6
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม
วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2566
กรรมการ ไซมอน ฮูเปอร์
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
4
2
ทอตแน่ม ฮอตสเปอร์
1-2 อัลวาเรซ 51'
2-2 ฮาลันด์ 53'
3-2 มาห์เรซ 63'
4-2 มาห์เรซ 90'
0-1 คูลูเซฟสกี้ 44'
0-2 เอแมร์ซอน รอยัล 45+2'
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นอกจากต้องกกลับมาจากความพ่ายแพ้นัดที่แล้วต่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 นัดนี้พวกเขาต้องเน้นเป็นพิเศษ เพราะสถิติที่ผ่านมา สเปอร์ส ยัดเยียดความปราชัยให้พวกเขา 4 จาก 5 นัดหลังสุดในลีก
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า โรเตชั่นทีม 5 ตำแหน่งจากนัดแพ้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 โดยส่ง ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ทำเกมรุกช่วย เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ตั้งแต่ต้นเกม เช่นดียวกับ ริโก้ ลูอิส ที่ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงฝั่งขวา
ขณะที่ฝรั่งสเปอร์ส ได้ โรดริโก้ เบนตานคูร์ มิดฟิลด์คนสำคัญกลับมาฟิตออกสตาร์ตเป็นตัวจริงเกมแรก ขณะที่ 3 ประสานเกมรุกยังเป็นชุดเดิมจากนัดแพ้อาร์เซนอล 2-0
เกมช่วงแรกยังใกล้เคียงกันอยู่
เกมช่วงแรก ทั้งสองทีมทำได้ใกล้เคียงกัน จังหวะนี้ จากเตะมุม ฮาลันด์ ได้ยิงที่เสาไกล บอลติดบล็อคกองหลังสเปอร์ส ได้แค่เตะมุม
เคน ก็หาโอกาสได้ซัดเต็มข้อแต่ไม่ตรงกรอบ
โอกาสของสเปอร์สบ้าง จากเคน พลิกตัวซัดเต็มข้อบอลพุ่งเข้าข้างตาข่าย ก่อนมีธงล้ำหน้าตามหลังมา
ไก่วันนี้วางแทคติกมาเน้นมากๆ
ภาพรวม แมนฯซิตี้ ทำได้ดีกว่าหน่อยๆ สเปอร์สวันนี้เน้นแทคติก ดูมีสมาธิตั้งใจมากเป็นพิเศษ
ไก่กดดันเรืออย่างหนัก ซนได้โขกแต่เบาไป
สเปอร์ส ช่วงนี้ทำได้ดีมาก เซตบอลเท้าสู่เท้ากดดันแนวรับแมนฯซิตี้ มาจบที่ ซน เทคตัวโหม่งลูกครอส น้ำหนักเบาไป เอแดร์ซอน รัสบยา
ลูอิสยิงไกลทำญอริสต้องออกแรงเซฟ
แมนฯซิตี้ กลับมาเป็นฝ่ายบุกบ้างจากลูกยิงไกลของลูอิส บอลแฉลบทำบอลส่าย แต่ญอริส ไม่พลาดพุ่งปัดไว้ได้ทัน
ญอริสซูเปอร์เซฟลูกหลุดเดี่ยวฮาลันด์
แมนฯซิตี้ ทิ้งบอลไประหว่างคู่เซนเตอร์ ไดเออร์โหม่งพลาดให้ ฮาลันด์ ดวลตัวเดี่ยวกับญอริส ก่อนเป็นมือกาวสเแปอร์สชิงออกมาบล็อคลูกยิงได้ก่อน
ฮาลันด์อีกครั้งก็โหม่งข้ามคาน
ฮาลันด์ มีโอกาสอีกครั้ง ได้โหม่งลูกครอสทางขวา แต่โดนไม่เต็ม บอลมันย้อยไปข้ามคานออกหลังนิดเดียว
เอแดร์ซอนออกบอลพลาดโดนลงโทษ 1-0
เอแดร์ซอน ออกบอลสั้นไป เบนตานคูร์โชว์ลูกขยันตามแย่งบอลจากโรดรี้ บอลหลุดมาเข้าทางปืน คูลูเซฟสกี้ เล็งเสาไกลปิดบัญชีไม่เหลือซาก 1-0
ไก่หนี 2-0 เอแมร์ซอนโหม่งซ้ำจ่อๆ
สเปอร์ส ทำได้ดีเหลือเชื่อ คราวนี้ เคน ปั้มบอลชนะโรดรี้ที่สุดเส้นหลัง ก่อนยิงมุมแคบติดเซฟเอแดร์ซอน แต่บอลมันดันลอยไปเข้าทาง เอแมร์ซอน รอยัล โหม่งซ้ำจ่อๆ 2-0
ครึ่งหลัง อัลวาเรซ กดให้เรือกลับสู่เกมทันที 2-1
กลับมาเล่นครึ่งหลังได้แปปเดียว แมนฯซิตี้กลับสู่เกมได้ไวจากมาร์เรซได้เปิดบอลที่สุดเส้นหลัง กรีลิช โหม่งบอลโดนไม่เต็ม ญอริสกับเอแมร์ซอน พยายามเคลียร์บอลแต่ไม่ถึง ลูกมาเข้าทางปืน อัลวาเรซ ซัดต่อๆ เข้าไป 2-1
เรือตีเสมอ 2-2 ได้ทันทีจากฮาลันด์
โมเมนตั้มมันเปลี่ยนแล้ว เจ้าถิ่นตามตีเสมอ 2-2 ได้ทันควัน จาก โรดรี้ วางยาวนอกกรอบให้ มาห์เรซ โหม่งตั้งให้ ฮาลันด์ เข้าฮอสไม่พลาด เสียงเชียร์ให้เอติฮัดดังกระหึ่ม
เปริซิชก็มีโอกาสแต่ยิงติดลูอิส
สเปอร์ส ก็น่านำอีกครั้งจากความยอดเยี่ยมของ คููลูเซฟสกี้ พาบอลหลุดทางขวา ก่อนคัทแบ็กไปเสาไกลให้ เปริซิช ซัดเน้นๆ ติดบล็อคลูอิสหน้าประตู
ญอริสคุมเสาพลาดปล่อยมาห์เรซยิง 3-2
มาห์เรซ วันนี้เล่นดีมาก พาบอลเลี้ยงจี้เดวิส สับขาหลอกก่อนซัดแฉลบเข้าไปเสาแรก แต่ ญอริส คุมเสาไม่ดีปล่อยบอลรอดช่องที่สุดอยู่น้อยนิดเข้าประตูไป แมนฯซิตี้พลิกกลับมาแซงนำ 3-2
ไก่เปลี่ยนเซสเซญองแทนเปริซิช
ทางซ้ายถูกมาห์เรซเผาเครืองบ่อย คอนเต้ต้องแก้เกมเติมความสดด้วย เซสเซญองแทนเปริซิช
ไก่พยายามเต็มที่ยังตีเสมอไม่ได้
เข้าช่วงท้ายเกม สเปอร์ส พยายามเต็มที่แต่ก็ยังตามตีเสมอไม่ได้
มาห์เรซหลุดยิงนิ่มๆ 4-2
เกมมาตอกฝาโลงให้สเปอร์สหมดลุ้นจากจากมาห์เรซ คนเดิม หลุดเข้าไปชิบนิ่มๆ ให้แมนฯซิตี้ ขยับหนีเป็น 4-2
หมดเวลาการแข่งขัน แมนฯซิจี้ คัมแบ็กเหลือเชื่อ พลิกชนะสเปอร์สไป 4-2
ทอตแน่ม ฮอตสเปอร์
Starting Formation: 3-4-3
33.
เบน เดวิส
78'
6
30.
โรดริโก้ เบนตานคูร์
75'
6
5.
ปิแอร์ เอมิล ฮอยเบียร์ก
6
14.
อิวาน เปริซิช
69'
6
12.
เอแมร์ซอน รอยัล
78'
7.5
ตัวสำรอง
19.
ไรอัน เซสเซญอง
69'
6
38.
อีฟส์ บิสซูม่า
75'
6
9.
ริชาร์ลิซอน
78'
6
34.
เคลม็องต์ ลองเล่ต์
78'
5
แก้ไขล่าสุดโดย iPanic เมื่อ Fri Jan 20, 2023 05:17, ทั้งหมด 12 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
My Locker
