ลองฟังมุมมองของคนที่เป็น fwb ดูครับ สำหรับคนที่ไม่เคยอยู่หรือรู้จักความสัมพันธ์แบบนี้ก็อาจจะไม่เข้าใจ พอไม่เข้าใจก็อาจจนำไปสู่การตัดสินบนความไม่เข้าใจหรือเข้าใจผิด พอตัดสินจากความเข้าใจผิดก็นำไปสู่การเหยียด พอฝั่งหนึ่งเหยียดอีกฝั่งก็เหยียดกลับ เดือดกันไปอีก

สิ่งหนึ่งที่คนไม่เข้าใจมักจะตัดสินแบบผิด ๆ มากที่สุดคือ คนที่มี fwb หรือ ons คนกลุ่มนี้มีโอกาสนอกใจมากกว่าคนที่ไม่เคยมี ซึ่งอาจจะเกิดจากประสบการณ์ที่เจอมากก่อนหรือมีการเอาคำเหล่านี้ไปใช้เป็นข้ออ้างในการนอกใจ

สิ่งที่ต่างกันระหว่างคนที่ตัดสินใจมี ons หรือ fwb คือการแยกเรื่องเหล่านี้ออกจากกันได้คือ sex, ความสัมพันธ์, ความรัก, การครอบครอง

ถ้าคุณแยกเรื่องเหล่านี้ออกจากกันไม่ได้ คุณก็ไม่ควรมีความสัมพันธ์แบบนี้ ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไร ในทางกลับกันถ้าคุณสามารถแยกเรื่องเหล่านี้ออกจากกันได้ มันก็มีทางเลือกที่คุณจะสามารถตอบสนองความต้องการทางเพศที่ตรงกัน โดยไม่อยากเอาตัวเองไปอยู่ในความสัมพันธ์ที่ผูกมัด ณ ชั่วขณะนั้น

ความสัมพันธ์แบบดังกล่าวข้างต้นไม่ได้มีปัจจัยอะไรที่บ่งชี้ว่าคนที่มี fwb/ons จะมีโอกาสนอกใจมากกว่าคนอื่น สิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การนอกใจคือ การไม่มีความยับยั่งชั่งใจต่อความต้องการทางเพศของตัวเอง ไม่ใช่การมีความสามารถในการแยกเรื่อง sex ออกจากความสัมพันธ์ ในความสัมพันธ์แบบ fwb/ons เองก็มีกรอบที่คน 2 คนต้องตกลงและยอมรับกันว่าต้องไม่ก้าวข้ามไม่ต่างจากความสัมพันธ์แบบแฟน

บางครั้ง fwb/ons ก็อาจจะพัฒนาไปเป็นแฟนกันได้ ทั้งหมดอยู่ที่คนสองคนจะมีความต้องการที่ตรงกัน มีข้อตกลงที่ตรงกัน และไว้วางใจซึ่งกันและกันที่จะเคารพกรอบความสัมพันธ์นั้น ๆ ได้

เรื่องของ sex/ความสัมพันธ์/ความรัก เรื่องเหล่านี้เป็นความสัมพันธ์ของมนุษย์ที่ซับซ้อน ตราบใดที่มันยังเป็นเรื่องของคนแค่สองคน ก็ควรจะได้รับความเคารพในขอบเขตของรสนิยมส่วนตัว ในสังคมยังมีเรื่องอีกเยอะที่เราควร call out และ judging เช่น การที่เยาวชนต้องถูกจับขังเป็นว่าเล่นอย่างไม่มีเหตุผล ไม่มีความยุติธรรมใด ๆ เพียงเพราะมีความเชื่อที่ขัดกับรัฐ ในขณะที่เรื่องบางเรื่องเราก็ควรปล่อยให้เป็นเรื่องของรสนิยมส่วนตัวโดยที่เราไม่ต้องเข้าไปตัดสินอะไรใคร

ผู้ชายเหมือนจะรู้สึกกับผู้หญิงนะครับ ดูจากแววตา

ใช่ครับ ผญ เป็นฝ่ายเลือกไม่คบ

มันอยู่ที่สังคมกับกลุ่มคน แต่ละกลุ่ม
ถ้าผมเอาเรื่องสวิงไปคุยกับสังคมที่ทำงานก็คงไม่ได้

ผมถึงได้บอกแหละว่าขอรู้ก่อนจะคบกัน ทู้นั้นผมโหวตรับได้ด้วยซ้ำไม่เหมือนมู้ขายบริการ

แต่ถ้าตอนจะคบกันไม่รู้ หรือมารู้ทีหลังผมก็คงไม่ชอบใจอ่ะ เดี๋ยวหาว่าเม้นหล่อ ลูซเซ่อ อีกป่าว

ก็ต้องรู้จักควบคุมความรู้สึกตัวเอง และเคารพขอบเขตกติกาที่ตกลงกันไว้ครับ

ถ้ามี FWB เเล้วเอาใจลงไปเล่นก็พังอะครับ
(ประสบการณ์ตรง) อย่างเจ็บเลย

ONS กับ FWB ที่ควรมีเหมือนกันคือ สถานะตัวเองต้องโสด เท่านั้นถึงจะอยู่ในความสัมพันธ์นี้


ถ้ามีแฟนอยู่แล้ว อันนั้นเรียก ชู้ หรือ เ..ี้ย

ส่วนตัวมองว่า ถ้าไม่คิดจะมีลูกอ่ะ FWB คือความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดละ

ยิ่งโลกปัจจุบันและในอนาคตน่าจะเป็นโลกที่ปัจเจกบุคคลยิ่งๆ ขึ้นอีก

แต่ต้องแยก FWB กับคู่นอนนะ FWB ต้องเป็นเพื่อนที่ดีได้จริงๆ ด้วย

ยิ่งถ้าใครได้ FWB ที่ต่างฝ่ายต่างพอใจกับการมีอีกฝ่ายคนเดียวนะ

บอกเลย มันคือนิพพานอ่ะ


ปล ส่วนวันไนท์นี่เฉยๆ อ่ะ แทบจะคนละเรื่องกันเลย

จริงๆมันมีอีกคำด้วยคือ Sex Buddy
คือไม่ใช่ครั้งเดียวจาก แต่ก็ไม่สนิทกันถึงระดับ FWB เจอกันเพื่อกินกันยาวๆอย่างเดียวพอ เวลาไม่ ง. ก็ไม่ต้องมี activity อะไรร่วมกัน

คหสต. ผมว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ยากมากๆ

มันก็จะมีช่วงเวลาที่สุขโคตรๆแน่ๆ แต่ก็ไม่รู้จะนานไหม ปัจจับทำให้ moment ความสุขอยู่นานก็มียากไปอีก

แล้วมันจะบริหารยังไงไม่ให้เตลิด ซึ่งพอมันเตลิด มันย้อนกลับไม่ได้แล้ว

ยากครับไม่ใช่ทุกคนจะทำได้ และไม่ใช่คนที่ทำได้จะทำได้ทุกครั้ง
ทุกความสัมพันธ์ล้วนมีความเสี่ยงทั้งนั้นแหละครับ ไม่มีอะไรรับประกันว่าคนที่รักเราในวันนี้ ตื่นเช้าขึ้นมาอีกวันเขาจะยังรักเราเหมือนเดิม การเป็นแฟนกันถึงจะดูมั่นคงมากกว่า แต่การทนเป็นแฟนกันโดยที่ไม่ได้รักกันแล้วก็เป็นความสัมพันธ์ที่เจ็บปวดอีกรูปแบบหนึ่ง