ออกตัวก่อนนะครับกระทู้นี้ผมอยากจะสอบถามข้อมูลจริงจังนะพอดีว่า เครื่องก่อนเครื่องที่ใช้ปัจจุบันนี้เป็นจอ IPS LCD แล้วตอนนี้กับหน้าจอ amoled แล้วเราก็เข้าใจว่าต่างกันเรื่องการแสดงสีสันบนหน้าจอความสว่างอะไรแบบนี้ แต่ปรากฏว่าฟิลลิ่งการทัชสกรีนหรือการสัมผัสหน้าจอมันรู้สึกว่ามันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงหน้ามือกับหลังมือเลยสงสัยว่ามันเกี่ยวกันด้วยเหรอครับ คือฟิวมันแบบสุดจริงๆอ่ะคือบอกอธิบายไม่ถูกอ่ะแต่มันต่างกันมากเลยครับ

จอ IPS LCD



จอ IPS นั้นมีพื้นฐานมาจากจอ LCD ซึ่งมีองค์ประกอบหลักเป็นผลึกเหลว ประกบทับด้วยฟิลเตอร์บางๆ หลายชั้น และมีไฟ backlight เป็นแหล่งกำเนิดแสง แสงจาก backlight จะส่องผ่านฟิลเตอร์แต่ละชั้นรวมถึงชั้นผลึกเหลว โดยผลึกเหลวจะถูกกระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้าให้เรียงตัวกัน ทำให้แสง backlight เกิดการหักเห จนเกิดเป็นจุดสว่างและมืดบนหน้าจอ จากนั้นแสงจะผ่านฟิลเตอร์ RGB เกิดเป็นสีสันขึ้นมา กลายเป็นภาพที่เราเห็นบนหน้าจอ สำหรับจอ IPS LCD จะมีตัวส่งสัญญาณ 2 ตัว ต่อ 1 เม็ดพิกเซล ทำให้มีสีสันสดใส และมีมุมมองการแสดงผลที่กว้างกว่าจอ LCD รุ่นเก่าๆ

ข้อดีของจอ IPS LCD คือมีต้นทุนในการผลิตถูกกว่าจอ AMOLED และยังให้สีที่มีความเที่ยงตรงสูง ผู้ที่ทำงานด้านกราฟิกมักเลือกใช้หน้าจอ IPS เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสีของชิ้นงานมีความสมจริง ไม่หลอกตา

จุดอ่อนของ IPS LCD คือธรรมชาติของมันที่ต้องพึ่งพาแสง backlight ในการแสดงผล ถึงแม้จะแสดงภาพแค่บางส่วน หรือเป็นจอมืด (สีดำ) ทั้งจอก็ยังต้องเปิด backlight เพื่อส่องสว่างพิกเซลทุกจุดบนหน้าจออยู่ดี จึงสิ้นเปลืองพลังงาน อีกทั้งแสงจาก backlight ยังมีส่วนทำให้ค่าความเปรียบต่างของสี (contrast) บนจอลดลงด้วย และด้วยความที่มีเลเยอร์ซ้อนกันหลายชั้น ทำให้หน้าจอมีอัตราการสะท้อนแสงสูง และสู้แสงแดดกลางแจ้งได้ไม่ดีนัก
ข้อดี

ให้สีสันที่ตรงกับความเป็นจริงมากกว่าจอ AMOLED
ต้นทุนการผลิตถูกกว่า AMOLED
อะไหล่ไม่แพง
ข้อเสีย

contrast ต่ำกว่า สีดำไม่ดำสนิท
กินพลังงานมากกว่า
หนากว่า AMOLED และยังรองรับการสแกนนิ้วใต้จอได้ไม่เต็มที่
สู้แสงแดดได้ไม่ดีนัก


จอ AMOLED



MOLED คือหน้าจอแสดงผลที่มีพื้นฐานมาจากเทคโนโลยี OLED (Organic Light Emitting Diodes) มีองค์ประกอบและการทำงานที่ต่างจากจอ LCD โดยเม็ดพิกเซลแต่ละจุดสามารถเปล่งแสงได้ด้วยตัวเองเมื่อถูกกระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้า จึงไม่ต้องมี backlight ส่งผลให้แสดงสีสันได้สดกว่าจอ IPS LCD เพราะไม่ถูกแสง backlight กวน ทำให้มีค่า contrast ที่ดีกว่าจอ IPS LCD แต่ก็มีราคาแพงกว่าเช่นกัน มักนิยมนำมาใช้กับสมาร์ทโฟนไฮเอนด์เป็นส่วนใหญ่

นอกจากสีสันที่สดกว่าแล้ว จอ AMOLED ยังประหยัดพลังงานกว่าจอ IPS LCD เพราะเม็ดพิกเซลจะส่องสว่างเมื่อต้องแสดงสีสันเท่านั้น ส่วนไหนที่ไม่แสดงสี หรือเป็นสีดำก็จะไม่มีการเปิดใช้งาน ต่างจากจอ IPS LCD ที่ต้องเปิด backlight ให้สว่างทั้งจอเสมอ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจึงใช้ประโยชน์จากคุณสมบัตินี้กับฟีเจอร์ Always On Display เพื่อแสดงเวลาและข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ บนจอได้ตลอดเวลาโดยไม่สิ้นเปลืองพลังงาน

นอกจากนี้ ด้วยความที่ไม่มี backlight ทำให้บางกว่าจอ IPS LCD จนสามารถใช้งานร่วมกับเซ็นเซอร์สแกนนิ้วแบบฝังใต้จอได้เต็มประสิทธิภาพอีกด้วย

อย่างไรก็ดี จอ AMOLED ก็มีจุดอ่อนเช่นกัน นั่นคือสีสันที่อาจสดกว่าความเป็นจริง และมีแนวโน้มที่จะเจอปัญหาจอเบิร์นได้ง่ายกว่า ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นเมื่อแสดงผลเหมือนเดิมเป็นเวลานาน ทำให้มีภาพจางๆ ค้างอยู่บนหน้าจอ และต้องแก้ด้วยการเปลี่ยนจอหรือเปลี่ยนเครื่องเท่านั้น แต่ในระยะหลังปัญหานี้ก็ไม่ค่อยมีให้เห็นแล้ว
ข้อดี

สีสันสดใสกว่าจอ IPS LCD
ประหยัดพลังงานกว่า
บางกว่า สามารถสแกนนิ้วใต้จอได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สู้แสงกลางแจ้งได้ดีกว่าจอ IPS LCD
ข้อเสีย

สามารถเกิดอาการ Burn-in ได้ง่ายกว่าจอ IPS LCD
สีสันบนจอ Super AMOLED อาจดูอิ่ม และสดเกินจริง
ต้นทุนการผลิตและอะไหล่แพงกว่าจอ IPS LCD

จอAmoledมันบางกว่า ฟีลการทัชมันเลยดีกว่า

จอ IPS LCD



จอ IPS นั้นมีพื้นฐานมาจากจอ LCD ซึ่งมีองค์ประกอบหลักเป็นผลึกเหลว ประกบทับด้วยฟิลเตอร์บางๆ หลายชั้น และมีไฟ backlight เป็นแหล่งกำเนิดแสง แสงจาก backlight จะส่องผ่านฟิลเตอร์แต่ละชั้นรวมถึงชั้นผลึกเหลว โดยผลึกเหลวจะถูกกระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้าให้เรียงตัวกัน ทำให้แสง backlight เกิดการหักเห จนเกิดเป็นจุดสว่างและมืดบนหน้าจอ จากนั้นแสงจะผ่านฟิลเตอร์ RGB เกิดเป็นสีสันขึ้นมา กลายเป็นภาพที่เราเห็นบนหน้าจอ สำหรับจอ IPS LCD จะมีตัวส่งสัญญาณ 2 ตัว ต่อ 1 เม็ดพิกเซล ทำให้มีสีสันสดใส และมีมุมมองการแสดงผลที่กว้างกว่าจอ LCD รุ่นเก่าๆ

ข้อดีของจอ IPS LCD คือมีต้นทุนในการผลิตถูกกว่าจอ AMOLED และยังให้สีที่มีความเที่ยงตรงสูง ผู้ที่ทำงานด้านกราฟิกมักเลือกใช้หน้าจอ IPS เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสีของชิ้นงานมีความสมจริง ไม่หลอกตา

จุดอ่อนของ IPS LCD คือธรรมชาติของมันที่ต้องพึ่งพาแสง backlight ในการแสดงผล ถึงแม้จะแสดงภาพแค่บางส่วน หรือเป็นจอมืด (สีดำ) ทั้งจอก็ยังต้องเปิด backlight เพื่อส่องสว่างพิกเซลทุกจุดบนหน้าจออยู่ดี จึงสิ้นเปลืองพลังงาน อีกทั้งแสงจาก backlight ยังมีส่วนทำให้ค่าความเปรียบต่างของสี (contrast) บนจอลดลงด้วย และด้วยความที่มีเลเยอร์ซ้อนกันหลายชั้น ทำให้หน้าจอมีอัตราการสะท้อนแสงสูง และสู้แสงแดดกลางแจ้งได้ไม่ดีนัก
ข้อดี

ให้สีสันที่ตรงกับความเป็นจริงมากกว่าจอ AMOLED
ต้นทุนการผลิตถูกกว่า AMOLED
อะไหล่ไม่แพง
ข้อเสีย

contrast ต่ำกว่า สีดำไม่ดำสนิท
กินพลังงานมากกว่า
หนากว่า AMOLED และยังรองรับการสแกนนิ้วใต้จอได้ไม่เต็มที่
สู้แสงแดดได้ไม่ดีนัก


จอ AMOLED



MOLED คือหน้าจอแสดงผลที่มีพื้นฐานมาจากเทคโนโลยี OLED (Organic Light Emitting Diodes) มีองค์ประกอบและการทำงานที่ต่างจากจอ LCD โดยเม็ดพิกเซลแต่ละจุดสามารถเปล่งแสงได้ด้วยตัวเองเมื่อถูกกระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้า จึงไม่ต้องมี backlight ส่งผลให้แสดงสีสันได้สดกว่าจอ IPS LCD เพราะไม่ถูกแสง backlight กวน ทำให้มีค่า contrast ที่ดีกว่าจอ IPS LCD แต่ก็มีราคาแพงกว่าเช่นกัน มักนิยมนำมาใช้กับสมาร์ทโฟนไฮเอนด์เป็นส่วนใหญ่

นอกจากสีสันที่สดกว่าแล้ว จอ AMOLED ยังประหยัดพลังงานกว่าจอ IPS LCD เพราะเม็ดพิกเซลจะส่องสว่างเมื่อต้องแสดงสีสันเท่านั้น ส่วนไหนที่ไม่แสดงสี หรือเป็นสีดำก็จะไม่มีการเปิดใช้งาน ต่างจากจอ IPS LCD ที่ต้องเปิด backlight ให้สว่างทั้งจอเสมอ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจึงใช้ประโยชน์จากคุณสมบัตินี้กับฟีเจอร์ Always On Display เพื่อแสดงเวลาและข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ บนจอได้ตลอดเวลาโดยไม่สิ้นเปลืองพลังงาน

นอกจากนี้ ด้วยความที่ไม่มี backlight ทำให้บางกว่าจอ IPS LCD จนสามารถใช้งานร่วมกับเซ็นเซอร์สแกนนิ้วแบบฝังใต้จอได้เต็มประสิทธิภาพอีกด้วย

อย่างไรก็ดี จอ AMOLED ก็มีจุดอ่อนเช่นกัน นั่นคือสีสันที่อาจสดกว่าความเป็นจริง และมีแนวโน้มที่จะเจอปัญหาจอเบิร์นได้ง่ายกว่า ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นเมื่อแสดงผลเหมือนเดิมเป็นเวลานาน ทำให้มีภาพจางๆ ค้างอยู่บนหน้าจอ และต้องแก้ด้วยการเปลี่ยนจอหรือเปลี่ยนเครื่องเท่านั้น แต่ในระยะหลังปัญหานี้ก็ไม่ค่อยมีให้เห็นแล้ว
ข้อดี

สีสันสดใสกว่าจอ IPS LCD
ประหยัดพลังงานกว่า
บางกว่า สามารถสแกนนิ้วใต้จอได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สู้แสงกลางแจ้งได้ดีกว่าจอ IPS LCD
ข้อเสีย

สามารถเกิดอาการ Burn-in ได้ง่ายกว่าจอ IPS LCD
สีสันบนจอ Super AMOLED อาจดูอิ่ม และสดเกินจริง
ต้นทุนการผลิตและอะไหล่แพงกว่าจอ IPS LCD

ไม่ต่างครับ
การทัชขึ้นอยู่กับ hz ที่มันตอบสนองหน้าจอ
จอ ips รุ่น top ใหม่ๆก็ลื่นเท่ากัน

ไม่ว่าจะ ips หรือ amoled ล้วนต้องการกระจกมาปกป้องหน้าจอครับ

ส่วนเรื่องทัชสกรีนต้องเข้าไปดูตรงค่า Touch Sampling Rate ของแต่ละรุ่นครับว่าให้มาทำไหร่

Touch Sampling Rate ก็คือความเร็วในการตอบสนองต่อการกดของหน้าจอ ยิ่งมีค่ามากก็ยิ่งตอบสนองได้เร็ว ในการใช้งานทั่วไปอย่างการเล่นโซเชียล, ถ่ายรูป หรือดูหนังฟังเพลง Touch Sampling Rate อาจไม่สำคัญเท่าไหร่ แต่สำหรับเกมเมอร์ที่เล่นเกมอย่างจริงจัง การควบคุมที่เร็วกว่าเพียงเสี้ยววินาทีอาจตัดสินแพ้-ชนะในเกมได้ Touch Sampling Rate จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งสมาร์ทโฟนเกมมิ่งก็มักจะมีค่า Touch Sampling Rate สูงกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปอยู่แล้วเพื่อตอบโจทย์ในส่วนนี้ครับ

ขอบคุณมากๆๆครับ