ส่วนตัวผมดู NBA ตั้งแต่ช่วงปลาย 90 ถึงยุคต้น 2000 แล้วก็ห่างไปราวๆ 10 ปี ได้กลับมาติดตามใหม่ช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา คือจำนวนเกมฤดูกาลปกติมันก็ 82 เกมเท่าเดิมแหละ แต่มันมีสิ่งที่เรียกว่า load management เพิ่มมา คือผู้เล่นไม่ลงเพราะจะให้พักเฉยๆนี่แหละ แฟนบาสเก่าๆน่าจะชินกับการที่ผู้เล่นเล่นเต็ม 82 เกม สมัยพวกจอร์แดน โคบี้ แชค ไม่เจ็บไม่ไข้ยังไงก็ลงเล่น แต่สมัยนี้ ลงๆไปเดี๋ยวก็พัก ยิ่งเกมแบบที่ 2 วันติดกัน เกมที่สองนี่คือสตาร์นั่งกันหมด แบบนี้มันไม่ส่งผลเสียกับแฟนๆที่ซื้อตั๋วมาดูในสนามเหรอเพราะซื้อราคาเต็มแต่มาดูตัวสำรองเล่น ถ้าแบบนี้มันจะดีกว่ามั๊ยถ้าลดจำนวนเกมลง อาจเหลือซัก 70 เกม แต่มีเวลาให้พักฟื้น ให้บรรดาสตาร์ได้ฟื้นฟูร่างกายและลงแข่งได้ทุกแมทช์

คนอื่นคิดว่าไง ควรมีแมทช์เท่าเดิมแล้ว Load Management ต่อไป หรือลดเกมลง ให้จัดชุดใหญ่ลงได้ทุกเกมดี

ผมก็คิดนะ 82 เกมเยอะไป ลดเหลือแถวๆ 62-65 ก็พอ ตัวหลักจะได้พักเยอะๆ

พอเกมน้อยแต่ละเกมมันใส่กันได้เต็มมากขึ้น ผมว่ามันจะสนุกขึ้นอีก

แต่ผมก็เข้าใจนะ คือสนามมันจุคนได้ไม่มาก ต้องเพิ่มเกมจะได้เพิ่มเงิน เอามาจ่ายค่าแรง

ปรับให้เล่นยืนโซนได้ดิ่ ทุกวันนี้ผมไม่อิน NBA เลยอ่ะ ผมว่าเกมมันเปิดให้ทำแต้มกันง่ายไปอ่ะ

เรื่องลดจำนวนเกมยากครับ มีผลต่อรายได้มวลรวมทั้งหมดเลย

ลดลงอะดีกับเกมอยู่แล้ว เพราะคนไปสนใจ PO เยอะเกินไป
แล้วด้วยการที่ NBA พัฒนาลีคให้เป็นเกมบาสสกอร์สูง
ฤดูกาลปกติ จะให้วิ่งกันหัวทิ่มขนาดนี้ มันเล่นเต็มที่ 82เกมเท่าเดิมไม่ไหวหรอก
ก็ที่ต้องมา load management กัน ใส่สุดลงทุกนัดร่างกายพังหมด


เงินดีลลิขสิทธิ์ถ่ายทอดก็ประเด็นใหญ่เลย โฆษณาที่มันมาตามจำนวนเกม ถ้าจะลดลงก็ต้องแน่ใจจริงๆว่าจะหาเงินได้เท่าเดิม

ข้อดีคือมันมีให้ดูแทบทุกวันอ่ะ

เหมือนเป็น Culture ของอเมริกาไปแล้ว

82 เกม ไม่มีตกชั้น ทำผลงานไม่ดีมีโอกาสได้ดราฟดีขึ้น มันจะมีแรงจูงใจอะไรให้เล่นเกมท้ายๆ หลังจาก 60 เกมก็รู้ผลกันหมดแล้วมั้ง

เขาก็หาทางออกโดยการเพิ่ม salary cap ให้แล้ว

ก็ win-win ทั้งเจ้าของ ทั้งผู้เล่น ทั้งคอมมิสชันเนอร์

สมัย HEAT สร้าง Big 3 LBJ Wade Bosh รับแค่ คนละ 17-18 ล้านต่อปีเอง cap ก็จะเต็มแล้ว

ปัจจุบัน salary cap เยอะขึ้น นักกีฬาก็ได้ค่าจ้างเยอะขึ้น ลีค NBA ก็ไม่ต้องลดจำนวนเกม

คิดเหมือนกันว่าเยอะไปจนไม่ได้ดูแล้วเนี่ย

แต่ลีคมันเปนระบบเพลยออฟอะ ต่อให้ลด คนก้ไม่สนใจเพิ่มหรอก

ส่วนถามว่าพักแล้วเปนไรมั้ย อันนี้ไม่ติดเลย กีฬาอื่นมันก้มีพักตัวกันปะ

จริง ปีนี้ผมตั้งใจจะดูเดนเวอร์ทุกนัด เพราะทำงานบ่าย ว่างดู

แต่เอาจริงๆยังดูไม่ไหวเลย มันถี่ไป เคยมีแข่ง ตี3 วันต่อมาแข่ง 10 โมง เวลาแข่งมันมั่วไปหมด ไม่ใช่ถี่อย่างเดียว

แต่เข้าใจลีกแหละครับ แล้วเขาก็เพิ่มเงินให้จนเวอร์ นักกีฬาเลยไม่บ่นกันมาก

ส่วนเรื่องพักตัวนี่ เฉยๆ บอลไม่ได้เตะทุกวันยังพักผู้เล่นเลย

เรื่องแต้มก็ตามสไตล์ยุคปัจจุบัน แต่เกมส์คู่ที่ทำแต้มกันต่ำก็มีทุกวันนี่ครับ แค่น้อย

การ Load Management + วิทยาศาสตร์การกีฬาในปัจจุบัน ในข้อดีมันก็ทำให้เราได้ดูนักกีฬาที่เราชอบนานขึ้นแหละครับ

สมัยนี้ด้วยการเซฟร่างกายอย่างมีความรู้ ทำให้พวกอายุ 30+ ฝีมือยังคงสภาพได้ใกล้เคียงกับตอนพีคหลายๆคน รวมถึงไม่ให้พวกดาวรุ่งร่างกายพังก่อนถึงเวลาอันควรด้วย

เรื่องแฟนที่ซื้อตั๋วมาดูในสนาม ถ้าเป็นแฟน Local อาจจะไม่ส่งผล เพราะเขาเชียร์ที่ทีมไม่ต่างกับที่เราเชียร์ทีมฟุตบอล แต่ถ้าเป็นแฟนไทยที่เน้นเชียร์ที่ตัวสตาร์ + นานๆจะได้มีโอกาสไปดูที อันนี้เป็นข้อเสียแน่นอน คือต้องลุ้นให้นักกีฬาที่ชอบไม่พักในวันนั้น อย่างยุคนี้ผมมีนักบาสที่คลั่งมากๆไม่กี่คน ถ้าซื้อตั๋วไปละพลาดก็คงเซ็งเหมือนกัน

ด้วยสไตล์การเล่นของสมัยนี้ที่วิ่งกันเป็นม้าทั้งเกมรุกเกมรับ ผมคิดว่านักกีฬาก็ควรได้พักมากกว่าเมื่อก่อน แต่จะลดเกมลงก็คงยากเพราะในทางธุรกิจ พวกค่าตัวนักกีฬา ค่าลิขสิทธิ์ ค่าตั๋วสนาม และรายได้อื่นๆมันลงตัวมากจริงๆ

ก็เลยคิดว่าการ Load Management อาจจะเป็นวัฒนธรรมในตอนนี้ไปแล้ว ขออย่า Load จนน่าเกลียดพอ

พวก back to back แล้วพักทุกนัด (โดยที่ไม่มี condition ว่า30+ แล้ว หรือเพิ่งหายเจ็บ หรือเกมที่แล้วลงไป 40 นาที+) ผมว่าไม่ควรทำอย่างยิ่ง


อ่ออีกอันนึง(คหสต.) คิดว่าถึงลดเกม มันก็จะ Load กันอยู่ดีถ้ามันอยากโหลด 555555

ผู้เล่นระดับ Top ของแต่ละทีม จะได้ลงไม่ครบ 82 เกมแน่ ๆ เพราะต้องคอยพักตัวบ้าง (เจ็บบ้าง)
อย่าง LBJ เองยังเคยแข่งเต็มฤดูกาล (82 เกม) แค่ครั้งเดียวเอง คือปี 2017-18 ที่อยู่ CAVS ปีสุดท้าย

ก็เลยไม่ค่อยแปลกที่นักกีฬารุ่นก่อน ๆ ชอบออกมาแซะนักกีฬารุ่นใหม่ เรื่อง Load Management
เพราะอย่าง Jordan ยังมีฤดูกาลที่เล่นเต็มถึง 9 ฤดูกาลเลย (รวมถึงฤดูกาลท้ายสุดตอนอายุ 39)

แต่ส่วนตัวผมว่าเรื่องจำนวนเกมคงลดยากด้วย เนื่องจาก รายได้นักกีฬาที่เยอะ ก็มาจากรายได้ลีค
ซึ่งรายได้ลีคก็ได้มาจากสปอนเซอร์จำนวนมากที่ได้ประโยชน์จากการแข่งขันที่เยอะขนาดนี้เนี่ยแหละ
เรื่องการ Load Management ก็ตามชื่อเลย Management มันก็คือการจัดการเพื่อผลที่ดีที่สุดของทีม
คนที่ซวยที่สุดก็น่าจะเป็นพวกที่บินไปหวังดูผู้เล่นที่ชื่นชอบ แล้วไปเจอเกมที่พักพอดี หรือไม่ไปกับทีม (หนักสุด)
ส่วนพวกท้องถิ่น หรือพวกที่ดูผลงานทีมเป็นหลัก ส่วนใหญ่ก็ยอมรับได้กับการพักแต่ได้ผลงานที่พอใจ

ยังไงก็ลดไม่ได้ครับ

ทั้ง82เกมและควอเตอร์ละ12นาที

ทั้งหมดนี้สร้างมาเพื่อ เงิน ทั้งนั้น

ตัวผู้เล่นเองก็รู้ว่าเงินที่ตัวเองได้มาจากส่วนแบ่งตรงนี้
ส่วนใหญ่ไม่มีปัญหากับจำนวนเกมส์หรอก
มีปัญหาเรื่องส่วนแบ่งกันซะมากกว่า

รายได้ทั้งหมดของลีกมาจากโฆษณา/ลิขสิทธิ์/สปอน และอื่นๆอีกเพียบ

ทางลีกมีแต่จะเพิ่มแมชขึ้นเรื่อยๆด้วยซ้ำ อย่างเพลอิน พอกระแสดีก็ทำต่อ

ลีกได้เงินเพิ่มก็มีเงินมาแบ่งให้ผู้เล่นเพิ่ม วินๆ

รอดูแค่ตอนplay off พอครับ regular season ไม่หนุกเกมปล่อยเกิน

ตัวปีท้าย ๆ รีดฟอร์มหาสัญญาใหม่ ตัวรุ๊กกี้ก็ต้องรีดฟอร์มเหมือนกันครับ ยิ่งมาจากรอบสองสัญญาไม่ได้การันตีทั้งหมด
หลายคนมันต้องเต็มที่เพื่ออยู่รอดใน nba อยู่แล้ว

ผู้เล่นไม่ยอมลดเกมหรอกครับ ถ้าลดเกม จำนวนเงินก้ต้องลด salary cap คำนวนจากรายได้รวมทั้งลีคนะครับ เกมลด ค่าตั๋วลด ค่าถ่ายทอดลด