กองสลากพลัส น่าจะเกมส์จริงๆแล้วคราวนี้
ข่าวเฮียส.เมื่อครู่สำนักงานสลากฯและสรรพากรเอาเรื่องภาษีของคนถูกรางวัลที่1มาเล่นงานแล้ว หมายความว่าถ้าใครได้รางวัลใหญ่จำนวนมากๆจากกองสลากพลัสแล้วได้เงินแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยโดยไม่ต้องมีการหักภาษี จะต้องถูกนำเงินตรงนั้นไปคำนวนภาษีรายได้ประจำปีด้วย
และเรตที่เขาจะคิดจะเป็นคนละอัตรากับเรต0.5%ที่กองสลากจะหักเป็นค่าอากรเวลาเราเอาไปขึ้นเองด้วย นอกจากนี้ยังจะเล่นไปถึงเรื่องใบอนุญาต ลิขสิทธิ์โลโก้ ฯลฯ อีกเป็นพะเรอเกวียน เรียกว่าซัดทุกเม็ด เก็บทุกดอก เล่นทุกทางจริงๆ ท่าทางคงกะจะซัดให้ล้มจริงๆแล้วคราวนี้
จริงอยู่ว่าเรื่องของกองสลากพลัสนั้นมันอาจจะมีอะไรที่เป็นสีตุ่นๆอยู่ แต่คิดแล้วก็ขำหน่วยงานบางหน่วยก็ในเมื่อตัวเองคุมตั้งแต่ต้นน้ำทั้งการผลิต ตั้งราคา คุมต้นทุน การจัดจำหน่ายขั้นต้น การออกรางวัล เรียกว่าคุมทุกๆอย่างแล้ว แต่ไม่สามารถทำแพล็ตฟอร์มออนไลน์ในการจำหน่ายสินค้ามาสู้เอกชนได้
ทั้งที่จริงๆก็แค่เพิ่มจำนวนสินค้าของท่านในแพล็ตฟอร์มตัวเอง มีการนำเลขมามัดรวมจัดชุดขายบ้างเช่น สองใบ สามใบ หรือจัดชุดเลขท้ายแบบที่แอปออนไลน์เอกชนเขาชอบทำ เพราะคนที่ซื้อหวยมันก็อยากรวยกันทั้งนั้นดังนั้นคนที่อยากรวยก็ต้องมีหวังลมๆแล้งๆว่าจะต้องถูกรางวัลใหญ่ ซึ่งพวกนี้คงไม่ซื้อแค่ใบเดียวแน่และพอถูกรางวัลก็รีบโอนไวเข้าบัญชีธนาคารที่ผูกกับแอปเลย
ทำได้แค่นี้แพล็ตฟอร์มออนไลน์ของท่านก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าแล้ว เพราะคงไม่มีใครหน้าไหนอยากจะไปซื้อหวยที่โดนโก่งราคาไปเป็นร้อยในเมื่อมันมีใบละ80ให้ซื้อได้แบบคลีนๆ หรือไม่งั้นก็ทำแบบเมืองนอกไปเลยคือแทนที่จะจ้องจับเขาก็สู้ไปดึงเอาเขามาร่วมงานมาวางระบบไปเลย แบบที่หน่วยงานต่างๆของอเมริกาชอบทำ
ความซวยของ “นอท กองสลากพลัส”
https://www.facebook.com/ChuvitKamolvisit/
.
นาย “ล” ลูกชายจ่า “ม” นายบ่อนใหญ่ย่านปิ่นเกล้า
.
ทำเว็บพนันออนไลน์ร่วมกับนาย “อ” ชื่อเล่น “เฟย” หลานชายจ่า “ม” อีกเหมือนกัน
.
เท่ากับ “ล” กับ “อ” ทำงานเป็นธุรกิจครอบครัว
.
ในภาพเป็นกลุ่มลูกน้องของ “ล” ที่รับคำสั่งให้ไปหวดทำร้ายบัญชีม้าแบบไม่ยั้ง เพราะดันไปอมเงิน
.
ใครคิดจะเปิดบัญชีม้าดูไว้ให้ดี ไม่เจ็บตัว ก็เสี่ยงติดคุก ได้เงินหลักร้อย พอเห็นเงินเข้ามากก็โลภขึ้นสมอง
.
คดีทำร้ายบัญชีม้าไปถึงมือ DSI สืบสาวราวเรื่อง โยงเส้นเงินไปมา ดันมีเส้นเงินเป็นแคชเชียร์เช็คจ่ายไปให้ “นอท กองสลากพลัส” 2 ฉบับ รวม 53 ล้านบาท
.
DSI เลยตั้งแท่นคดีเลขที่ 288/65 เมื่อวันก่อนเพิ่งเรียกตัวนอทให้ไปชี้แจงที่มาของเงิน
.
เป็นความซวยยกที่ 1
.
แต่เรื่องยังไม่จบ กลับลุกลามเหมือนไฟไหม้ป่า
.
DSI สืบเส้นทางการเงินต่อ ไปเจอเส้นเงินจากทุนไทยเทาอีก 39 เส้น รวม 1,090 ล้าน แถมบางเส้นมาจากเจ้าของเว็บพนันรายใหญ่ ที่หนีไปเสวยสุขอยู่อังกฤษ ซื้อโรงแรมแถวเคนซิงตัน กลางกรุงลอนดอน
.
จนต้องตั้งเป็นคดีใหม่อีกคดี เลขที่ 6/66
.
ความซวยยกที่ 2
.
เท่านั้นยังไม่พอ ตำรวจเกิดขยันขึ้นมากะทันหัน เมื่อเช้าสนธิกำลังไปบุกออฟฟิศกองสลากพลัส ข้อหา ขายลอตเตอรี่เกินราคา เอาเปรียบผู้บริโภคเข้าไปอีก
.
ซวยซ้ำซวยซ้อนยกที่ 3
.
ต้องเข้าสุภาษิตชูวิทย์ “อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้”
.
หากอยู่เมืองไทยแล้ว เย็นไม่พอ รอไม่ได้ ล้วนมีเรื่องเดือดร้อนไม่หยุดหย่อนตามมาเป็นพรวน
.
ความสุขต้องออกไปค้นหา แต่ความซวยมันมาเยือนโดยไม่รู้ตัว
.
เรื่องแบบนี้ ผมผ่านมาหมดแล้ว