เมื่อวาน มีดราม่า โรงแรมไม่รับ คู่รักที่ยังไม่แต่งงาน

ล่าสุด ลบโพสแล้ว ลบโพสไม่พอ ปิดคอมเม้น ทุกโพสไม่ให้แสดงความคิดเห็นอีก
และที่สำคัญคือไม่แจงเรื่อง ใบอนุญาตประกอบการโรงแรม ซึ่ง ไม่น่าจะของ่ายนะสำหรับพื้นที่นั้นทั้งเป็นเขา
แถมมีสร้างสิ่งก่อสร้างยื่นไป ในจุดต่าง แถมมีเรื่องของสิ่งแวดล้อมอีก เวลาจะออกใบอนุญาตเค้าจะเข้ามเรื่องพวกนี้
ก็ไม่มาตอบให้ หายสงสัย


ส่วนหลายคนที่มีความเห็นว่า โรงแรมมีสิทธิ์ทำได้
ในมุมผมคือทำไม่ได้นะ
ด้วยเหตุผลประมาณนี้
เอาเรื่องของการโฆษณา ชวนเชื่อก่อน ทั้งในแพลตฟอร์ม การจอง ทั้งเว็บ และเฟสบุ๊ค ไม่ได้ระบุกฏข้อห้ามนี้
ซึ่งถ้าเราไปแล้วโดนห้าม เราฟ้อง สคบ ได้เรื่องไม่ตรงตามโฆษณา

อย่างที่2 หรือต่อให้ เค้าเขียนกฏนี้ชัดลงไปใน ประกาศ แต่เอาเข้า จริง มันไม่สามารถบังคับได้ ไม่ใช่ว่าคุณจะตั้งกฏอะไรก็ได้ในพื้นที่ของคุณ กฏนั้นต้องไม่ไปจำกัดสิทธิ์ทีเสรีภาพ ของผู้เข้าพักด้วยครับ

ผมยกตัวอย่างพื้นฐานเบสิก กฏโรงแรมเช่น ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้า ห้ามสูบบูหรี่ ในบางจุด หรือห้ามส่งเสียงดัง
อันนี้ มันห้ามได้ เพราะเดิมที่ก็เป็นกฏหมายอยู่แล้ว และมันไปรบกวนผู้อื่น

แต่จะมาตั้งกฏที่ละเมิด สิทธิ์คนอื่นไม่ได้ ยกตัวอย่างกรณีนี้ ห้ามแฟนกันมาพัก นี้คือละเมิดสิทธิ์เค้านะครับ
หรือตัวอย่างแบบสุดโต่งเลย ผมทำ อาพาร์ทเม้น ผมระบุในสัญญาเช่าห้ามผู้เข้าพักมี sex กัน แล้วพอถึงเวลา เค้ามีsex ใน หอผม ผม ไล่เค้าออกเพราะเค้าผิดสัญญา แบบนี้ผมทำไม่ได้นะครับ เพราะสัญญา มันผิดตั้งแต่แรกที่ไปละเมิดสิทธิเค้า ผมไปไล่เค้าไม่ได้

ผมยกตัวอย่าง สมมุติผมกับแฟนจองโรงแรมนี้ไป แล้วทางโรงแรมห้ามว่าไม่ให้พัก
จนเราต้องไปหาที่อื่นแทน และเสียเงินจองไป คุณว่าฟ้องร้องกันในศาล ใครชนะครับ ระหว่าง โรงแรมที่อ้างว่า มีกฏข้อนี้ติดโรงแรม หรือลูกค้า ลูกค้ายังไงก็ชนะ แถมโรงแรมต้องรับผิดชอบอ่วมด้วย เพราะบางครั้งการที่เรา จองโรงแรมไว้แล้วไม่ได้พัก มันเป็นค่าเสียโอกาส เราต้องไปหาที่อื่นซึ่งอาจแพงกว่า หรือไม่ตรง ตามที่ใจอยากได้ โรงแรมนี้แหละต้องชดใช้ค่าเสียหายนี้


จริงๆ ในต่างประเทศ มีกฏหมายข้อนี้ เช่น การ์ต้า ซาอุ อินโด มีกฏนี้มานานแล้วไม่ใช่พึ่งประกาศ
แต่ไม่เคยมีการใช้กฏหมายนี้กับนักท่องเที่ยว เพราะมันมีเรื่องของความร่วมมือระหว่างกัน ขององค์การค้าโลกอยู่
ในเรื่องสิทธิ์ของชาวต่างชาติ ในหลายประเทศจะยืดหยุ่นตรงนี้ไว้



สุดท้ายคือมันทำภาพลักษณ์การท่องเทียวเสียด้วย ยกตัวอย่างกรณี อินโด ที่เค้าประกาศกฏนี้ สร้างความเสียหาย
กับการท่องเที่ยวเค้าเพราะคนต่างประเทศจะไม่มาพักเพราะกลัวกฏนี้ ผู้ใหญ่ในประเทศเค้าต้องรีบออกมาแจงสร้างความเชื่อมั่น ว่า มาพักได้ไม่ผิดกฏหมาย แล้วถ้า จังหวัดในภาคใต้เราที่เคร่งๆ ตั้งกฏนี้กันหมด อาจทำนักท่องเทียวเข้าใจว่าพื้นที่นั้น ไม่ควรไปเที่ยวเพราะหาที่พักยาก แบบนี้ทำที่พักอื่นที่ไม่มีกฏนี้ เสียหายไปด้วยเลย




จากที่อ่านหนังสือสอบ แบบพื้นๆ จะไปสอบสิ้นเดือนนี้ สุดท้ายกลายเป็นต้องไปอ่านกฏเพิ่มเข้มๆ เลยผม
อยากโดนแบนโว้ยยยยยย

หวังว่ารอบนี้คงสมหวังครับ

ไม่โดนแบนก็ไม่ไปไหน นั่งเฝ้าบอร์ดตอบนี้แหละ อ่าน 10 นาที เว๊บมาเล๋นบอร์ด 10 นาที

รอบที่แล้วขาดเรื้อนเดียว จะบินอยู่แล้วแท้ๆ

อ่านไปกี่บทละนี่ มันยังวิชาละ15บทใช่มั้ย
เหลืออีก 11-12วันละ แทบเป็นไปไม่ได้เลย
ที่จะอ่านวันละบท ซึ่งออกบทละแค่8ข้ออีก
จะเน้นเป็นบางบทก็ไม่ได้

เฮ้ยเดี๋ยวนะนั่นเพจจริงหรอ ผมเห็นหลายเพจแชร์มานึกว่าเป็นเพจปั่นแบบโรงแรมบ้านฉางไม่รับจอดรถเม้งนั่น

วิชาพื้นฐานการท่องเที่ยวและอุตสหรรมการท่องเทียว ผมเหลืออีก ครึ่งนึง
กับอีกวิชา เรื่องกฏหมายธุรกิจ ยังไม่อ่านซักบท

กับเวลาที่เหลือ จริงๆ สำหรับผม คิดว่าพอนะ

เคยมีวิชาที่ อ่านวันเดียวก่อนสอบแล้วผ่านก็มี

แต่รอบนี้ เห็นว่าเป็นปีสุดท้ายแล้ว อยากให้จบในปีนี้ เลยตั้งใจมากกว่าทุกครั้ง

ผมเป็นมุสลิมนะ แต่ 3 จังหวัดภาคใต้ เป็นแบบนี้จริงๆ เด็กผู้หญิงต้องเดินห่างจากผู้ชาย แยกชายหญิงออกจากกัน

ถ้าเจออยู่ด้วยกันในที่ลับ จะจับแต่งทันที เด็กแถวนั้นแม่ง 16-17 จับแต่งกันแล้ว เรียนศาสนากันเยอะ สายวาฮาบีจากซาอุเลย มันเลยเคร่ง

เด็กวัยรุ่นภาคใต้ถึงอยากย้ายมาเรียนกรุงเทพไง ชีวิตอิสระ ไม่ต้องเคร่งมาก

แต่ก่อน ก่อนสายวาฮาบีเข้ามาอิสลามจะไม่ได้เคร่งขนาดนี้ ผมอยู่อยุธยา วัดมัสยิดติดกัน อิหม่ามเจ้าอาวาสเป็นเพื่อนกัน พุทธอิสลามเฮฮากันปกติ เดี๋ยวเอาตามซาอุ อะไรก็ไม่ได้ ห้ามโน่นห้ามนี่

จริงๆ ผมว่าเขาก็คงกะเอาฮา หรือเอายอดวิว ที่นี้กลายเป็นกระแสตีกลับ
คือคนทำธุรกิจโรงแรมคงรู้ดีอยู่แล้วล่ะ คนที่เข้ามาเข้าพักในสถานะแฟนที่ยังไม่ได้แต่งงาน หรือแค่ผู้ชายผู้หญิงมาด้วยกัน เยอะ
จะรับแต่กลุ่มลูกค้าครอบครัว มาเที่ยวคนเดียว เจ๊งกันพอดี

ที่อินโดประกาศกฏหมาย เพราะประมาณนี้แหละครับ ความเคร่งศาสนาในพื้นที่เค้าแรง เค้าเลย บังคับใช้กฏไว้ ในกรณีที่มีปัญหากัน เช่นเห็นลูกตัวเองไปสนิทกับคนอื่น ทำให้ใช้กฏหมายข้อนี้ในการฟ้องร้องได้ เพื่อเค้าจะได้แต่งงานกันอย่างถูกต้อง จะได้ลดปัญหากัน แต่เค้าก็ ไม่ต้องการให้ไปกระทบการท่องเทียว

บ้านเราขนาดไม่ใช่้กฏหมาย แต่ไปบังคับคนอื่น มั่วๆ บ้าแร้ววววว

รร.อยู่ที่ยะลา ไม่น่าใช่เอาฮาครับ

เมื่อก่อนทางตะวันออกกลาง อิสลามก้อไม่ได้เคร่งมากมาเคร่งกันช่วงอิหร่านปฏิวัติกลางเปนรัฐอิสลาม ชาติอื่นเลยเคร่งตามเพราะกลัวโดนปฏิวัติบ้าง สรุปง่ายทางนั้นเค้าเคร่งเพราะมีสาเหตุมาแต่เราจะไปเคร่งตามเค้าเพื่อ

ใช่ครับ มันมีบริบทมุสลิมแบบไทยอยู่ แต่ก่อนหญิงอิสลามไทยไม่ค่อยคลุมฮิยาบ แต่พวกซาอุมาสร้างโรงเรียนให้ สร้างมัสยิดให้ เอาเงินมาให้ ก็ต้องตามหลักของมัน

อยากรู้ว่าขาใหญ่ยานแม่อย่างซาอุ กาตาร์ ยูเออี เค้าจัดการยังไง เพราะก็ส่งเสริมการท่องเที่ยวการลงทุนน่าดู

สู้ๆครับท่านเห็นท่านไปแย้งในมู้ก่อนแล้วผมส่ายหัวเลยว่าบางคนก็เถียงจัง พรบ กฎหมาย มันก็มีอยู่นะพวกเรื่องโรงแรม ไม่งั้นจะมีใบอนุญาต รร กันเหรอ? ละที่จะบอกคือก่อนจะมาถึงขั้นตอนการออก พรบ รัฐบาลฝั่งไทยต้องทำตามแผนแม่บท หรือตัว model กฎหมายของต่างชาติก่อนถึงจะออก พรบ ของเรามาได้ ไม่งั้นประเทศอื่นเขาก็ไม่ยอมรับเรา การที่ รร นี้ประกาศแบบนี้มันเท่ากับทำผิดด้วยซ้ำ แต่แปลกที่บางคนบอกไม่ชอบก็ไม่ต้องไปพัก ใช่เรื่องมั้ยอะ แบบนี้ผมเชียร์ให้โดนถอดใบอนุญาต รร ไปเลยจะดีมาก จะได้เป็นเคสตัวอย่าง ว่าไม่ใช่ว่าเป็น private company แล้วจะทำไรก็ได้ ตราบใด่ที่ต้องขอใบอนุญาตจากทางรัฐก็ยังต้อง comply ตามกฎหมายอยู่

ซาอุนี้อย่างกรณีโรนัลโด้นี้เห็นได้ชัดเลยครับ
คือตัวกฏหมายเค้ายังมีอยู่ แต่ เค้า ละไว้กับชาวต่างชาติ คือไม่ค่อยไปยุ่ง มีปัญหาถึงค่อยเอากฏหมายนี้มาใช้ครับ